Suannon Board

You are not logged in.

#1 2008-05-11 20:32:12

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

[Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

**คำเตือน :: โปรดอย่านำเนื้อหาของนวนิยายเรื่องนี้เผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะอาจถือได้ว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ทางหนึ่งนะคะ**
(ประกาศ ณ 13/11/51)

หยาดน้ำฟ้า... Present~

รุ่นพี่หนุ่มสุดเรียบร้อย... กับรุ่นน้องสาวสุดดื้อ(เงียบ) ต้องพลันมามีวงโคจรเจอกันได้!!!
พวกเขาจะทำยังไง เมื่อพรหมลิขิตขีดเขียนให้พวกเขาเจอกัน แต่กลับให้อุปสรรคที่ชื่อว่า "เวลา" มาเสียนี่
แล้วเมื่อไหร่พวกเขาจะได้สมหวัง... อ่านเลยสิคะ ^__^


Pink~
...ฉันถอนหายใจในห้วงความคิด ไม่เอาอ่ะ ยังไงพี่บลูก็ไม่น่าจะมีวงโคจรมาเป็นคนที่ใช่ของฉันหรอกนะ ฉันยังไม่อยากมีแฟน และพี่บลูก็คงจะเป็นคนสุดท้ายในโลกนี้ที่ฉันอยากจะคบ
โดยเฉพาะการที่แม่มาทำท่าสนับสนุนแบบนี้ด้วยน่ะสิ...

..."ตอนมอบตัวพวกพี่แอบเม้มไว้หลายๆใบครับ ฮ่าๆๆ แต่ความจริงจะขอจากกน.ฝ่ายธุรการมาก็ได้ มีตารางทุกห้องทุกชั้นเลย" เขายิ้มอย่างอารมณ์ดี ทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆขึ้นมาเสียอย่างนั้น รู้สึกไม่อยากให้รอยยิ้มนั้นหายไปเลย... อยากจะให้พี่บลูยิ้มให้ฉันอย่างนี้เสมอ...

...พี่เขาดึงผมหน้าม้าของฉันไปเหน็บกิ๊บตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ฉันนั่งนิ่งไม่ขัดขืนอะไรอีก อาจเป็นเพราะความตกใจ เนื่องจากฉันเป็นคนเดียวที่นั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหิน เพื่อนๆยังมาไม่ถึงโรงเรียนกัน โต้งที่มาถึงหลังฉันนิดเดียวก็ไปกินข้าวเสียแล้ว แล้วสายตาของครูและนักเรียนที่เดินผ่านมาก็มองฉันอย่างประหลาดใจมาก...



Blue...
...และที่น่าตกใจกว่า ก็คงจะเป็นที่พิ้งค์สวมชุดแซกสีชมพูหวาน แถมปล่อยผมมาเคลียบ่าอย่างน่ารักแปลกตากว่าปกติอีกด้วย สมชื่อของเธอเลยจริงๆ เราสองคนต่างมองกันอย่างประหลาดใจ ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกนะ...

..."พี่ก็ไม่รู้นะว่าน้องคิดยังไงกับพี่ จะนับถือ จะหมั่นไส้ยังไงก็เถอะ แต่พี่ก็เป็นรุ่นพี่ที่รักน้องๆทุกคนอยู่แล้ว แล้วพี่ก็ไม่สบายใจด้วย ที่ให้ไมตรีกับน้องแต่กลับได้รับความเฉยชาน่ะ มีอะไรก็คุยกันได้นะ" แล้วผมก็รีบเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสามเพื่อไปเรียนพระพุทธศาสนาทันที...

...เขาว่ากันว่ารักแรก... เป็นสิ่งที่ไม่มีวันลืม ผมเองก็เคยเชื่ออย่างนั้นนะ
แต่ไม่รู้สิ ว่าทำไมความหวั่นไหวครั้งนี้ ...ดูจะรุนแรงกว่ารักแรกหลายเท่านัก...

....
...
..
.
ว่ากันว่า... รักแท้ ไม่จำกัดช่วงอายุ
แม้ในสิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ ก็กลับต้องเป็นไปได้

ลองอ่านดูสิคะ ^^ แล้วคุณจะรู้ว่า
ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์มีจริง!!


++++++++++++++

สารบัญ

บทนำ - เลื่อนลงไปได้เลย~ ^o^
ตอนที่ 1 - Open School
ตอนที่ 2 - Surprise!
ตอนที่ 3 - The Lover
ตอนที่ 4 - Do you hate me?
ตอนที่ 5 - Good Relationship
ตอนที่ 6 - At The Home <-- ขึ้นหน้า 2
ตอนที่ 7 - Queen's Love
ตอนที่ 8 - Heart Order!!
ตอนที่ 9 - My Bracelet
ตอนที่ 10 - Comedy Science Show
ตอนที่ 11 - Angry So Much...
ตอนที่ 12 - So Sorry
Chapter Special 1 - Love Of Suannon!!!
ตอนที่ 13 - Let's go to watch movie
ตอนที่ 14 - Confuse Analyst <-- ขึ้นหน้า 3 (ช่วงหลัง)
ตอนที่ 15 - Ball Room Dancing <part 1>
ตอนที่ 16 - Ball Room Dancing <part 2>
ตอนที่ 17 - My First kiss
ตอนที่ 18 - Story of Ex-Girlfriend
ตอนที่ 19 - Return
Chapter Special 2 - Happy Birthday N'Pink <-- ลงก่อนเพราะเป็นช่วงวันเกิดนางเอก
ตอนที่ 20 - Debate
ตอนที่ 21 - Excuse me! I want help!
ตอนที่ 22 - I love you
ตอนที่ 23 - New Student Committee Chairman
ตอนที่ 24 - Vote Score <---ขึ้นหน้า 4
Chapter Special 3 - Love Story
ตอนที่ 25 - Dinner With Love
ตอนที่ 26 - Promise
ตอนที่ 27 - Party Dinner
ตอนที่ 28 - Fatal Destroy
ตอนที่ 29 - Knocking on Heaven's Door <--- หน้า 5
ตอนที่ 30 - The World After Death
ตอนที่ 31 - Infinity Tears
ตอนที่ 32 - Not so far away
ตอนที่ 33 - Mystery Box
ตอนที่ 34 - Say Goodbye Forever
ตอนที่ 35 - Bye Bye…
ตอนที่ 36 - Journal from Heaven
ตอนที่ 37 - Pink's Journal <-- ขึ้นหน้า 6 ช่วงหลัง
ตอนที่ 38 - Let's Begin
ตอนที่ 39 - Welcome to Suannon
ตอนที่ 40 - Cruel Truth
ตอนที่ 41 - Mystery Diary
ตอนที่ 42 - Missing Crazy
ตอนที่ 43 - Favorite Novel
ตอนที่ 44 - In My Memory
ตอนที่ 45 - He's Right
ตอนที่ 46 - At the Beginning
บทส่งท้าย <-- หน้า 7

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จบแล้วค่า ^o^ ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่า

ในเรื่องนี้มีจุดที่ต้องแก้ไขอีกมาก คนเขียนจะนำฉบับปรับปรุงมาลงใหม่อีกครั้ง

ก็ตอนแรกว่าจะเขียนเป็นนิยายรักธรรมดา ไปๆมาๆดันอยากเขียนอิงประวัติศาสตร์ซะงั้น = =" เหอๆๆ

รอติดตามอ่านได้ไม่เกินปลายปีค่ะ เพราะไม่อยากตามรีไรท์ซ้ำ เขียนให้จบก่อนแล้วค่อยจัดการลงทีเดียว 555

labels=0

Last edited by MiyaCatZ (2009-11-02 21:53:53)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#2 2008-05-11 20:36:21

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

- Chapter Begin -



ฉันนั่งอยู่บนรถเมล์สาย 33 ระหว่างทางไปโรงเรียนในสภาวะหน้าร้อนกลางเดือนเมษายน ใครๆก็น่าจะรู้นะว่าเป็นเวลาปิดเทอม แต่คงไม่ใช่กับบรรดากน. และสต๊าฟที่ต้องมาทำงานในช่วงปิดเทอมนี้


ฉันเองก็เห็นใจอยู่หรอกว่าท่านๆทั้งหลายต้องมาทำงานเตรียมการปฐมนิเทศน้องม.1 ที่เข้ามาใหม่น่ะ แต่แหม...ฉันไม่ได้เป็นกน.แต่ก็ต้องมาช่วยงานเขาอยู่ดี เพราะควีนเพื่อนรักของฉันผู้เป็น 1 ในกลุ่มสต๊าฟปฐมนิเทศ (อนุ กน.) คนเดียวของกลุ่มเราขอร้องแกมบังคับให้ฉันมาด้วยน่ะสิ


"พิ้งค์จ๋า... เธอมาอยู่เป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ แบบไม่มีเพื่อนแล้วมันไม่มีสมาธิเลย คนอื่นก็มีเพื่อนกันทั้งนั้น ยัยแอ๋มกับนายโต้งก็ไม่ว่างอีก เธอมาหน่อยนะนะ" เสียงใสๆที่กรอกมาทางลำโพงโทรศัพท์มือถือรุ่นN72 ของฉันทำให้รู้สึกใจอ่อนลงในบันดล เอาน่า... เพื่อนช่วยเพื่อน ต้องช่วยเหลือกันไม่เว้นยามวันมามากอยู่แล้ว


และก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ฉันต้องมานั่งอยู่บนรถเมล์เพื่อหาทางไปโรงเรียนในวันหยุดยาวแบบนี้ ฉันไปเพราะสงสารเพื่อนหรอกนะ
ทันใดนั้นรถเมล์ก็จอดที่ป้ายโรงเรียน ฉันจึงรีบลุกขึ้นทันทีก่อนจะเดินลงไปอย่างรีบเร่ง ด้วยความที่ดินแดนแห่งนี้ไม่มีระบบขนส่งมวลชนที่ดีพอ ผู้โดยสารอย่างเราๆจึงต้องหาทางรอดชีวิตกันตามยถากรรม


เมื่อเท้าทั้งสองข้างย่างลงเหยียบยังอิฐตัวหนอนสีแดงซีดบนฟุธบาทหน้าโรงเรียนแล้วฉันก็รู้สึกโล่งอกเหลือประมาณ ...ไชโย ฉันรอดไปได้อีกครั้งแล้วในชีวิตนี้...


ก่อนจะเดินเข้าโรงเรียน ซึ่งอยู่ในซอยที่ลึกมาก...เดินไปราวสามนาทีได้สำหรับคนเดินเร็วอย่างฉัน และเพิ่งสังเกตว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งลงมาพร้อมฉันเหมือนกัน เขาสวมเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์สีซีด และรองเท้าคอนเวิร์สคู่เน่าๆ ซึ่งแต่เดิมมันคงเป็นสีขาว แต่ตอนนี้กลับขมุกขมัวด้วยฝุ่น แถมสภาพโทรมสุดประมาณ ช่างไม่เข้ากับใบหน้าหล่อเหลาของเขาเลย ใบหน้าคม ทรงผมทรงนักเรียนที่ยาวขึ้นแต่ยังจัดว่าดูดี และผิวสีแทน


ช่างไม่รู้จักแต่งตัวเอาเสียเลย...สำหรับฉันต้องเสื้อยืดตัวเก่งกับกางเกงยีนส์ขาเดฟที่เพิ่งถอยมาจากจตุจักรเท่านั้น และฉันก็ไม่เก็บเสื้อผ้าให้โทรมแบบตาคนนี้ด้วย แต่คิดมากไปก็ไม่ดี ฉันจึงเดินเข้าโรงเรียนโดยไม่มองผู้ชายคนนี้อีก


เมื่อถึงหลังสแตน ก็ต้องพบกับควีนเพื่อนรักที่ยืนรออยู่ "เป็นยังไงบ้างยัยพิ้งค์ แกช่วยชีวิตฉันไว้เลยนะ" ก่อนจะกอดฉันที่ยืนบื้ออยู่เนื่องจากความตกใจ ควีนเป็นเด็กสาวที่สวยติดอันดับของห้องเลยนะ ผมตรงยาวสวยมาก ไม่เหมือนฉันที่ผมหยักศกแถมหนา ฟูเป็นสิงโตอีก


และควีนก็สวมเสื้อผ้าเฉกเช่นกับบรรดาสาวๆทั้งหลายในบริเวณนี้นั่นแหละนั่นคือเสื้อยืดกางเกงยีนส์ ที่ดูดีราวกับนางแบบวัยรุ่นเลยทีเดียว ว่าแต่มันเป็นนางแบบหรือสต๊าฟเนี่ย


"แหมควีน แค่นี้เองหรอกเหรอ?ที่เรียกฉันมาน่ะ" ฉันถามอย่างเซ็งๆเมื่องมองไปรอบๆ บรรดากน.ทั้งหลาย (ทั้งอนุและตัวจริง) ก็ต่างยืนบ้าง คุยกันบ้าง มีหลายคนที่ฉันรู้จักนะ เพียงแต่ไม่สนิทกันก็เท่านั้นเอง แต่ฉันก็พอเข้าใจควีนนะที่ไม่รู้จะคุยอะไรกับใคร ดังนั้นฉันจึงไม่บ่นอะไรมาก


"ก็ใช่น่ะสิ เดี๋ยวเราต้องประชุมด้วย แกเข้ามากับฉันนะ" ควีนหันมาขอร้อง ทำเอาฉันต้องรีบปฎิเสธโดยพลัน "จะบ้าเหรอ? ฉันไม่ใช่คนที่เกี่ยวข้องนะแก"


"เข้าได้ครับ อย่าห่วงเลย" มีเสียงแทรกเข้ามา ฉันนึกแปลกใจเพราะนี่มันเป็นเสียงผู้ชายนี่นา แล้ว...เขาเป็นใครกันนะ


เมื่อหันไปก็ต้องพบ...พบ...อีตาคนซกมกระดับชาติคนนั้นนี่นา!!!


เขายิ้มมาทางเราสองคนอย่างเอ็นดู แต่ฉันว่าเขาคงยิ้มให้ยัยควีนนั่นแหละ เพื่อนฉันน่ารักจะตาย หนุ่มๆคนไหนก็ต่างชอบกันทั้งนั้น
ยัยควีนหันไปยิ้มกลับอย่างน่าเตะมาก นั่นคือยิ้มหวานเยิ้มมม...จนน่าหมั่นไส้สุดๆ ก็ตาซกมกระดับชาติน่ะไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรมากนี่นา


"ขอบคุณค่ะพี่บลู ควีนรักเพื่อนอย่างยัยพิ้งค์มากนะคะ ถึงต้องชวนมาด้วยน่ะค่ะ"


เขาหันมามองฉันอย่างประหลาดใจ พอๆกับที่ฉันมองเขา ...เขาชื่อบลูเหรอ??...


"พิ้งค์ นี่พี่บลู ห้อง 6/5 ปีนี้แหละ เป็นกน.ด้วย พรรคที่พวกเราเคยเลือกนั่นแหละ ส่วนพี่คะ นี่พิ้งค์เพื่อนควีนเองค่ะ" เพื่อนรักฉันหันไปแนะนำซึ่งกันและกัน แต่สมองฉันดูจะไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว


พิ้งค์ แอนด์ บลู ... ชมพูฟ้า สีประจำโรงเรียนนี่นา!!!


"เฮ้ย! นี่น้องชื่อพิ้งค์เหรอ?"


"พี่ก็ชื่อบลูเหรอคะนั่น!!" ฉันและเขาต่างอุทานอย่างตกใจ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอคนที่มีชื่อสีตรงกับสีสถาบันร่วมกันขนาดนี้เลยนะ... แค่ชื่อฉันก็ถูกคนอื่นล้อเยอะแล้ว


ควีนมองเราสองคนราวกับจะนึกอะไรบางอย่างออก "เออใช่... ชื่อพวกเธอสองคนมันแมทช์กันนี่นา" ก่อนจะรีบเข้ามาไกล่เกลี่ย
"เอาน่า...ยังไงพี่บลูก็เป็นคนแนะนำเรื่องการทำงานให้ฉันนะพิ้งค์"


ฉันพยักหน้าอย่างเข้าใจ เอาเถอะ อีตาซกมกระดับชาติยังไงก็เป็นถึงกน. แถมยังมีพระคุณกับยัยควีนด้วย ฉันจึงไม่อยากจะว่าอะไรอีกแล้ว และการมามีอคติกันอย่างนิยายรักหวานแหววก็ดูจะไม่ใช่หนทางที่ดีด้วย มันก็แค่เรื่องเพ้อฝันของนางเอกเปิ่นๆเอ๋อๆกับชายโฉดเท่านั้นแหละ


พี่บลู เจ้าของตำแหน่งมิสเตอร์ซกมกระดับชาติหันมาทางฉัน "เอาเถอะ เดี๋ยวอีกสิบนาทีจะประชุมแล้ว น้องจะเข้าไปด้วยก็ได้นะครับ น้องควีนจะได้มีเพื่อน"


ฉันพยักหน้าตกลง "ขอบคุณค่ะพี่ ตอนแรกหนูก็กลัวเขาจะว่าเอาน่ะค่ะ ไม่ใช่กน.แล้วยังจะมาร่วมประชุมอีก" ซึ่งทำให้พี่บลูหัวเราะอย่างขบขัน


"ไม่หรอกครับ กน. ไม่โหดขนาดนั้นหรอกครับ เราใจดีต่อทุกคนอยู่แล้วล่ะ"


และในไม่ช้าฉัน ควีน และคนอื่นๆก็นั่งเป็นปลากระป๋องอยู่ในห้องกรรมการนักเรียน ฉันนั่งฟังคนประชุมไปอย่างเบื่อหน่าย มีควีนชวนคุยเป็นระยะๆ ก็นับว่าไม่น่าเบื่อนะถ้ามีเพื่อนน่ะ เข้าใจจนได้ว่าทำไมควีนต้องขอร้องให้ฉันมาเป็นเพื่อน


"ทางสวนนนท์บอร์ดขอให้เราลงโฆษณาเว็บลงหนังสือปฐมนิเทศด้วยแหละ" พี่บลูเสนอขึ้น ประธานของเราคือพี่ต้น เพื่อนของพี่บลูนั่นเอง แล้วตอนนี้ห้อง 5 ครองโรงเรียนแล้ว โฮ่ๆๆ ก็ฉันกำลังจะขึ้นม.5/5 ในปีนี้นี่นา ต้องสนับสนุนคนห้องเดียวกันอยู่แล้ว แม้พี่เขาจะอยู่สีม่วงแล้วฉันต้องไปอยู่สีเขียวแทนก็เถอะ (ฮือออ...เศร้า)


"ดีเลยค่ะ หนูเล่นบอร์ดโรงเรียนอยู่พอดี ประชาสัมพันธ์ให้น้องๆรุ่น 32 เข้ามาเล่นกันเป็นเพื่อนเยอะๆเลยค่ะ" ควีนยกมือขึ้นสนับสนุนอย่างเต็มที่ คนอื่นต่างมองมาอย่างขบขันแกมเอ็นดู คนน่ารักยังไงก็มีอภิสิทธิ์เสมอแหละนะ


แล้วก็มีมือยกสนับสนุนอีกหลายคน ทำให้พี่ต้นต้องยกมือห้ามไว้แต่เพียงเท่านี้ "ขอบคุณครับที่สนับสนุน แต่ส่วนมากไม่เห็นเข้าบอร์ดกันไม่ใช่เหรอ?"


"ก็พวกเรารู้แต่ขี้เกียจอ่านกระทู้นี่คะ ฮ่าๆๆ" พี่บลูกุมขมับไปเลยกับคำพูดของเด็กสาวม.5 คนหนึ่ง สงสัยถ้าไม่ติดว่านี่คือรุ่นน้องร่วมสถาบัน พี่ท่านคงจะเอารองเท้าคอนเวิร์ส(เน่า) มาโปะหน้าคนพูดแล้ว


"ครับๆ งั้นเราไปพูดเรื่องอื่นกันบ้างเถอะ เช่นว่าปฐมนิเทศจะมีเพลงอะไร กิจกรรมไหนบ้างน่ะครับ?" พี่ต้นพยายามลากกลับประเด็นอีกครั้ง คราวนี้มีคนแสดงความคิดเห็นกันใหญ่ ส่วนฉันและควีนกลับนั่งคุยกันเองอย่างสนุกสนาน


และเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว บ่ายสี่โมงแล้วก็ถึงเวลากลับบ้าน ควีนจึงหันมาชวนฉันไปเที่ยวเดอะมอลล์ต่อทันที "ไปเที่ยวกันๆ"
ฉันทำหน้าเบื่อหน่าย "จะบ้าเหรอแก นี่จะเย็นแล้วนะ อีกอย่างฉันบอกแม่แล้วว่าจะกลับไม่เกินห้าโมงด้วย ไม่งั้นก็โดนด่าเช็ด"


"บู่... เสียดายจัง" ควีนทำหน้าบูด แต่ในใจเธอก็คงคิดแบบเดียวกับฉันแหละ


ไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ พี่บลูก็เดินเข้ามา "เป็นไงบ้างครับ ประชุมกันสองคนท่าทางสนุกนะ" คำพูดของพี่เขาทำให้ฉันหน้าร้อนผ่าวขึ้นทันที นี่เขารู้เหรอว่าฉันกับควีนแอบคุยกันน่ะ


"สนุกค่ะ" ควีนตอบอย่างสนุก ไม่เหมือนฉันที่รู้สึกละอายยังไงไม่รู้ รู้สึกแบบเดียวกับที่ถูกอาจารย์ดุเวลาคุยในห้องเรียนน่ะ ฉันไม่ได้ถึงขั้นเป็นลูกอีช่างจ้อแบบเพื่อนกลุ่มอื่นนะ แค่รู้สึกอายแทนก็เท่านั้น พี่บลูหันมายิ้มให้กับพวกเราอีกครั้ง "รีบกลับบ้านเลยนะครับ เป็นผู้หญิงกลับบ้านเย็นย่ำค่ำมืดมันดูไม่ดี เสียงตายด้วย เดี๋ยวพ่อแม่เป็นห่วงนะ"


ฉันพยักหน้า "ค่ะ หนูก็ว่าจะกลับแล้วค่ะ ไม่เหมือนบางคนที่อยากจะเถลไถล" ประโยคหลังฉันต้องการจะแขวะยัยควีน ที่อยากจะเที่ยวดีนัก มันต้องสั่งสอนกันบ้าง!!


+++++++++++++++++++++++++++++++++
นี่คือบทนำค่ะ 555+
เริ่มตอนแรกก็เปิดเทอมพอดี

Last edited by MiyaCatZ (2008-05-24 15:09:15)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#3 2008-05-11 21:01:57

satoru
ผู้ดูแลบอร์ด
From: มศก.66 & ส.ก.น.27
Registered: 2005-03-15
Posts: 7,081

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

555+ สนุกดี แต่คนละแนวกับกงซุนบ๊ำยิ่งนัก

Offline

#4 2008-05-12 13:00:23

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

ลงตอนต่อไปแล้วค่า~


- Chapter 1 : Open School -


ในที่สุดก็เปิดเทอมสักที ฉันดีใจที่จะต้องพบกับเพื่อนๆในกลุ่ม ตำราเรียนทั้งหลายและอีกสารพัดจะกล่าวเลย แล้วพวกเราสี่สหาย พิ้งค์ ควีน แอ๋ม และโต้งก็กลับมารวมกันอีกจนได้


"กรี๊ดดด...คิดถึงแกชะมัดเลย" แอ๋มเข้ามากอดฉัน เธอเป็นจำพวกร่าเริงสุดขีด และชื่นชอบการแสดงความรักต่อเพื่อนอย่างมาก ซึ่งต้องพึงระวังไว้อย่างยิ่งเลยว่าอย่าให้มาแสดงกับชายหนุ่มหน้าไหนในที่สาธารณะเชียว เพราะจะได้ถูกประณามก่อนน่ะสิ


ส่วนนายโต้ง เพื่อนรักอีกคน รายนี้เราไปกอดเขาไม่ได้เพราะเป็นผู้ชาย แต่พวกเราก็ต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วยการเข้าไปแย่งบัตรประกันภาชนะหนึ่งในคอลเล็กชั่นสะสมเป็นการรับขวัญวันเปิดเทอม


ก็นายโต้งน่ะสิ! ชอบสะสมบัตรประกันภาชนะ อีกไม่พอยังมีเก็บไว้สิบสองใบแล้วน่ะสิ ขณะที่ฉันมีเพียงใบเดียว แอ๋มและควีนมีสองใบ จึงแอบหมั่นไส้อยู่กลายๆเพราะนายนั่นไม่ยอมแบ่งพวกเราสักที ยืมก็ไม่ได้ด้วย งกชะมัด


"หยุดนะไอ้พิ้งค์" นายโต้งเรียกฉันที่กำลังวิ่งหนีอยู่ภายในโรงอาหาร ก่อนจะวิ่งออกมายังลานเอนกประสงค์ทางด้านบันไดที่ติดกับห้องทานอาหารของอาจารย์ (ห้องสุโขสโมสร) เพื่อหนีภัยเพื่อนรักที่จะแย่งบัตรคืน ฉันอุตส่าห์รับมาอีกต่อจากแอ๋มนะ แกอย่ามาทำให้งานของฉันต้องเสียเปล่าสิ


โต้งวิ่งตามฉันมาอย่างติดๆ เพื่อหาทางแย่งบัตรสีชมพูฟ้าที่ฉันถือไว้อย่างมีชัย คิดเหรอว่าจะแซงยัยพิ้งค์ นักวิ่งเหรียญทองเมื่อกีฬาสีปีก่อนได้น่ะ โฮ่ๆๆ แล้วระหว่างวิ่งฉันก็เหลือบมองโต้งที่ทำท่าทางชี้โบ๊ชี้เบ๊อย่างแปลกๆ พร้อมกับจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ฉันไม่รู้แล้วอ่ะ วิ่งต่อไป...ทาเคชิ


พลั่ก!!


"กรี๊ดดดด!!" ฉันชนกับบางอย่างเข้าให้จนต้องล้มลงไปอย่างแรง ด้วยความที่หลับตาปี๋จึงไม่ทันดูว่าสิ่งนั้นเป็นอะไร ว่าแต่...มันนุ่มได้ใจเลยอ่ะ ฉันที่ล้มคว่ำหน้าแล้วมีสิ่งนี้รองกันกระแทกด้วย จึงไม่รู้สึกเจ็บมากนัก


"อูย..." เสียงโอดครวญดังขึ้นมาจากเบาะกิตติมศักดิ์นั่น ฉันจึงลืมตาขึ้น ก่อนจะรีบผละออกไปอย่างรวดเร็ว ก็นั่นน่ะ...เบาะกิตติมศักดิ์ของฉันน่ะ...พี่บลูนั่นเอง!!!


"ว้าย...พี่บลู" ฉันอุทานอย่างตกใจ ใครจะไปรู้ล่ะว่าบังเอิญขนาดไหน เขาพยายามยันกายลุกขึ้นอย่างยากลำบาก ซึ่งทำให้ฉันต้องขอโทษอย่างรู้สึกผิด


"ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่น้องเองเถอะ คงไม่ได้หนีอาจารย์นพวรรณมาใช่ไหม?" เขาถามพร้อมกับจ้องมองทรงผมของฉันไปด้วย ซึ่งทำให้ฉันต้องเสยผมที่ตกลงมาไว้ข้างหูอย่างตกใจ ก็แหม...ไม่อย่างนั้นหน้าของฉันก็กลมบ๊อกพอดีน่ะสิถ้าขืนเอาผมเก็บหมด ไม่ได้ๆ เราต้องสวยเข้าไว้ เพราะฉันไม่ได้ทำอะไรนอกจากสไลด์ผมนิดหน่อย และความหยิกของเส้นผมมันก็เป็นมาตั้งแต่ฉันปฏิสนธิอยู่ในท้องแม่แล้วด้วย อย่ามากล่าวหาเชียวว่าฉันดัดผม ไม่อย่างนั้นล่ะเคืองตายเลย


"เปล่าค่ะ แค่...แหะๆ" ฉันส่ายหน้าก่อนจะยื่นบัตรประกันภาชนะในมืออย่างอายๆ มีเสียงโวยวายจากนายโต้งเข้ามาจนได้


"นี่พี่กน.ใช่ไหมครับ! จัดการเพื่อนผมคนนี้ที มันแย่งบัตรประกันภาชนะของผมไป"


ฉันหันไปเถียงอย่างลืมตัว "จะบ้าเหรอแก! ไม่ใช่ฉันคนเดียวนี่นา ยัยแอ๋มกับควีนด้วยต่างหาก อย่าเอาบาปมาโยนสิยะแก"


พี่บลูหัวเราะอย่างขบขัน ทำให้ฉันต้องมามองเขาอีกจนได้ ผมรองทรงที่ตัดสั้นลงมันทำให้ดูแปลกตา แต่ก็นับว่าดูดีอยู่เสมอ ยิ่งพี่เขาสวมเสื้อนักเรียนสีขาวสะอาดที่ไม่มีร่องรอยว่าเป็นถึงมิสเตอร์ซกมกแห่งชาติก็ยิ่งทำให้เขาดูหล่อและน่าสนใจขึ้นมาในทันที


ไม่ทำจะตั้งสติก็ถูกยึดบัตรประกันภาชนะคืนเสียอย่างนั้น "ขอบคุณนะครับพี่ที่ช่วยบัตรประกันของผม" โต้งก้มคำนับขอบคุณพี่บลูที่ยิ้มอย่างขบขัน ฉันได้ทีก็เลยต้องแฉความจริงสักหน่อย


"พี่คะ อย่าไปหลงเชื่อนะคะ นายนี่มีบัตรประกันถึง 12 ใบถ้วน แถมไม่มีน้ำใจแบ่งปันเพื่อนเลยแม้แต่น้อย ขนาดหนูลืมบัตรมันยังไม่ให้ยืมเลย คิดดูสิคะว่ามันใจดำขนาดไหน"


"โอ้ย...พอแล้วครับ เราไม่รับแจ้งเรื่องการแย่งบัตรประกันครับ" พี่บลูยกมือห้ามทัพเราสองคน ซึ่งก็น่าอยู่หรอกเพราะปัญหาเรื่องบัตรประกันภาชนะมันก็แค่เรื่องจิ๊บๆ


(มีต่อ)

Last edited by MiyaCatZ (2008-05-24 15:13:37)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#5 2008-05-12 13:03:31

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

และเมื่อเขายกนาฬิกาขึ้นก็ต้องทำสีหน้าตกใจก่อนจะเดินออกไปโดยเห็นฉันกับนายโต้งเป็นอากาศธาตุ


"อะไรเนี่ย" ฉันมองอย่างงุนงง โต้งส่ายหน้าอย่างปลงในทุกสิ่ง "ช่างเค้าเถอะ"


เสียงเพลงดังขึ้นจนได้ หลังจากหมดเสียงออดที่ดังกิ๊งก่องแก๊งก่องอะไรนั่น ทำให้เราต้องไปเข้าแถวยังแถวของม.5 โดยไม่ลืมกลับไปเก็บกระเป๋ามาเสียก่อน


ขืนชักช้า กระเป๋าอาจจะถูกป้ามาเก็บไปแทนจานก็ได้นะ แค่นึกก็เสียววาบแล้ว!!!


และในคาบโฮมรูมก็เรื่อยๆตามประสา อาจารย์ที่ปรึกษาแนะนำตัวพร้อมกับพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับม.5 ให้พวกเราฟัง ชีวิตม.5 ต้องเครียด ต้องอ่านหนังสือขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย... ฉันคิดพลางถอนหายใจเบาๆ ควีนตบบ่าฉันเบาๆอย่างให้กำลังใจ


"เอาน่า... มันไม่ได้เลวร้ายที่ที่แกคิดหรอกน่า พี่บลูบอกฉันมา" คำพูดนั้นทำให้หน้าของฉันเริ่มร้อนราวกับเอาน้ำใส่บีกเกอร์แล้ววางบนตะแกรงที่จุดตะเกียงแอลกอฮอล์ยังไงยังงั้น ทำไมควีนต้องพูดถึงแต่พี่บลูนะ ไม่เข้าใจเลย


"ว่าแต่แกเถอะควีน จะพูดถึงชายอื่นทำไมล่ะนั่น ในเมื่อแกก็สารภาพมาตอนปลายเทอมนี่เองว่าแอบชอบรุ่นพี่คนนึง" แอ๋มแทรกเข้ามากลางวง แต่ควีนกลับยิ้มอย่างมีแผนการ "เฮอะ...รู้แล้ว ฉันไม่ได้คิดกับพี่บลูแบบนั้นย่ะ แล้วพี่เขาก็คงไม่มองฉันหรอก แต่กับคนแถวนี้น่ะไม่แน่"


ไอ้โต้งหัวเราะเบาๆทันที ตอนนี้เป็นเวลาทองของการคุยเนื่องจากอาจารย์ที่ปรึกษาออกไปคุยกับอาจารย์คนอื่น "อ๋อ...พี่กน.ที่ยัยพิ้งค์ไปชนโครมเข้าเมื่อเช้าล่ะสิ พี่เค้าก็ดูดีนะ ไม่น่าจะยังโสดหรอก"


"เฮ้ย...พี่เขาโสดย่ะแก แล้วตอนนี้ก็อาจจะคิดหาคนมาอยู่ในหัวใจอยู่ก็ได้ ไม่ใกล้ไม่ไกลนี่แหละ" ควีนว่า ฉันเองได้แต่นั่งฟังอย่างงุนงง ไอ้ที่ไม่ใกล้ไม่ไกลน่ะมันคืออะไรกันแน่?


แต่ดูท่าเพื่อนๆของฉันทุกคนจะรู้ความหมายนั้น จึงหัวเราะคิดคักกันอย่างสนุก


"หัวเราะอะไรกันน่ะ" ฉันถามอย่างสงสัย ควีนโบกมือห้ามอย่างแปลกใจ


"เปล่าหรอก ไม่มีอะไร ว่าแต่เธอไม่รู้จริงอ่ะ"


ฉันพยักหน้า "ก็ไม่รู้น่ะสิ"


"เหอๆ ไม่รู้น่ะดีแล้ว" แอ๋มว่าก่อนจะรีบปิดปากทันทีเพราะอาจารย์เดินเข้ามาแล้ว และรายการหลังจากนั้นก็ได้แก่การคัดเลือกหัวหน้าห้อง รองหัวหน้า หรือ..."เพื่อนช่วยเพื่อน" นั่นแหละ


"ครูขอตำแหน่งเพื่อนช่วยเพื่อนสี่คนจ้ะ ใครเป็นเมื่อตอนม.4 จ๊ะ?" อาจารย์หันมาถามทำให้ฉันต้องยกมือขึ้นทันที ก็ฉันเป็น 1 ในกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนนี่นา แม้จะไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ยกเว้นกระเป๋าเคียงใบใหม่ที่มีช่องเก็บขวดน้ำ พร้อมสกรีนลายบอกตำแหน่งเสร็จสรรพนั่นแหละ


นอกจากฉันก็มีแอ๋ม ควีน แล้วก็เพื่อนในห้องอีกคน โดยในปีนี้จะถืออยู่ในตำแหน่งรองหัวหน้าห้อง แน่นอนว่าหัวหน้าห้องของเราก็คือ...นายโต้งนั่นเอง


"ตกลงจะเลือกใหม่หรือเอาคนเดิมจ๊ะ?" เสียงถามอย่างหวังดีของอาจารย์ทำให้ฉันรู้สึกขบขัน มันต้องแน่นอนอยู่แล้วว่าจะเลือกคนใหม่ให้เสียเวลาทำไม ในเมื่อมีคนเก่าให้ดำรงตำแหน่งต่อไปเป็นระยะเวลาถึงสามปีน่ะ


"คนคนเดิมค่า~/คร้าบบบ" เสียงเพื่อนๆนักเรียนต่างประสานเป็นเสียงเดียวกัน มันจะดีกว่านี้มากถ้าใช้เสียงนี้ให้เป็นประโยชน์เวลาตอบคำถามอาจารย์น่ะนะ


"เอาล่ะ งั้นสรุปก็เป็นคนเดิมนะจ๊ะ มีอะไรจะเสนอแนะอีกไหม?" คราวนี้เงียบกันไปเลย ฮ่าๆๆ นักเรียนอย่างเราช่างเป็นประโยชน์เสียจริ๊งงงง... เวลาไม่มีอะไรต้องใช้เสียงก็คุยๆๆ พอจะตอบคำถามก็ดันเงียบ เฮ้อ...มนุษย์


"เหอๆ เปิดเทอมนี้คงสนุกน่าดูเลยแหละ" ยัยควีนว่า ฉันเองก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย


"นั่นสิ เรียนกันให้ตายไปข้างนึงเลยนะแก เห็นเขาว่าปีนี้เรียนหนักด้วย"


"ใช่ พี่บลูก็บอกมาแบบนั้นเหมือนกัน" และควีนก็โดนมะเหงกจากฉันจนได้ ในฐานะที่วกกลับไปพาดพิงพี่บลูอีกรอบ อะไรๆก็พี่บลู เฮ้อ... เพื่อนฉัน!!!

+++++++++++++++++++++++
จะเริ่มเขียนสารบัญแล้วค่ะ ^^ หลังจากจบตอนแรก แหะๆ

Last edited by MiyaCatZ (2008-05-24 15:14:05)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#6 2008-05-12 13:17:18

oomzaa
สมาชิก
Registered: 2007-06-23
Posts: 175
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

น่าติดตามดีนะครับ^^


•S.k.N่▼ 27♣ aom

Offline

#7 2008-05-12 15:41:52

LagooNz
สมาชิก
Registered: 2006-08-08
Posts: 3,631

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

บัตรอาหาร12ใบ............มันความใฝ่ฝันของใครกันน้า?


/me:เดินออกไปอย่างเงียบๆ

Offline

#8 2008-05-12 19:30:17

satoru
ผู้ดูแลบอร์ด
From: มศก.66 & ส.ก.น.27
Registered: 2005-03-15
Posts: 7,081

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

บัตรอาหาร12ใบ เอามั่งๆ = [ ] =


ถ้าเป็นนิยายชื่อรักแห่งสวนนนท์จะสนุกกว่านี้ 555

Offline

#9 2008-05-12 20:09:46

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

^
^
เผอิญคนเขียนไม่ใช่สาย Y เจ้าค่ะ = =

lol:lol::lol:


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#10 2008-05-13 12:34:47

Yai Mook
สมาชิก
Registered: 2006-05-11
Posts: 265

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

น่ารักดี อิอิ

บัตรอาหารเย๊อะเยอะ 55+

Offline

#11 2008-05-13 15:58:52

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

ลงตอนใหม่แล้วค่ะ ^^


- Chapter 2 : Surprise! -


ผมล่ะตกใจเสียจริงๆ เปิดเทอมมาก็ต้องเจอกับน้องพิ้งค์อีกรอบ หลังจากที่เคยเจอกันไปหลายครั้งแล้วเมื่อปิดเทอม


มันก็น่าตกใจอยู่หรอก ถ้าคุณเดินอยู่ดีๆแล้วมีเด็กผู้หญิงผู้มีศักดิ์เป็นรุ่นน้องวิ่งแบบไม่ดูตาม้าตาเรือมาชนเราน่ะ และแน่นอนว่าผมงี้ล้มลงไปเลย โดยมีพิ้งค์ทับอยู่อีกที ข้างหลังของเธอมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ด้วย ทำท่าชี้โบ๊ชี้เบ๊พิลึก แต่ก็กระจ่างเมื่อในมือของเธอมีบัตรประกันภาชนะ ก่อนจะขำเพราะร่วมกันเป็นขบวนการ มีกน.รวมอยู่ด้วยอีกนะ! น้องควีนไง


และวันนี้ก็เป็นวันอาทิตย์ ใครเป็นคนบัญญัติให้เปิดเทอมวันศุกร์กันนะ เดี๋ยวก็ต้องหยุดอีกจนได้ มะรืนนี้ก็เริ่มต้นเปิดเทอมของจริงได้สักที ผมคิดอยากจะนอนอยู่บ้านส่งท้ายสักหน่อย แต่แม่กลับชวนผมออกไปข้างนอกเสียอย่างนั้น


"บลู! เดี๋ยวไปแต่งตัวเข้า แม่นัดไปกินข้าวกับเพื่อน เขาพาลูกมาด้วย ลูกก็ต้องไปกับแม่นะจ๊ะ" อา...ผมครางในใจ ดูท่าจะได้อดนอนกลางวันฝันหวานไปเสียแล้ว แต่เอาเถอะ อาหารนอกบ้านถ้าอร่อยก็นับว่าคุ้ม


ไม่ถึงสิบนาทีผมก็ออกมาพร้อมกับอาบน้ำเปลี่ยนชุดมาใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้าตามชื่อและกางเกงยีนส์ดูเรียบร้อย วันนี้ผมซักรีดเสื้อผ้าเก็บไว้แล้ว จึงไม่เหมือนกันกับวันที่เจอน้องพิ้งค์ เพราะวันนั้นผมแต่งตัวได้เน่าที่สุดแล้วล่ะ เนื่องจากลืมซักผ้า จึงต้องหยิบเอาชุดเก่าๆ รองเท้าเน่าๆมาสวมซะ


แม่ที่นั่งรออยู่ที่โซฟายิ้มอย่างพอใจ "เรียบร้อยถูกใจแม่จริงๆ เดี๋ยวเราไปกันเถอะ เขานัดไว้ที่ร้าน...น่ะ" แม่พูดถึงร้านอาหารที่อยู่ในอิมแพค ผมจึงไม่ว่าอะไร แล้วเราก็ออกไปกัน


วันนี้ไม่มีจัดนิทรรศการจึงไม่ค่อยมีคนนัก สะดวกต่อการจอดรถเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นอะไรที่ผมชอบมากเพราะรถจะไม่ติด แม้จะรู้สึกว่าตัวเองจะเลวไปสักหน่อยที่เฝ้าภาวนาไม่อยากให้มีนิทรรศการบ่อยครั้ง


เมื่อมาถึงร้าน แม่ก็เดินเข้าไปราวกับรู้ตำแหน่งเป็นอย่างดี แล้วผมก็เจอเพื่อนแม่ซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม อีกด้านหนึ่งมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งนั่งหันหลังอยู่ แต่ก็ต้องละสายตาชั่วคราวเพื่อสวัสดี


"นี่น้ามีนา เพื่อนของแม่นะจ๊ะ"


"สวัสดีครับ" ผมไหว้คุณน้า แม้อายุจะพอๆกับแม่ผม แต่ท่านก็ดูสวยมาก คลับคล้ายคลับคาว่าเหมือนจะเคยเห็นใบหน้าแบบนี้จากไหนมาก่อน


"สวัสดีจ้ะลูก เห็นนภาบอกว่าเป็นกน.เหรอจ๊ะ เพื่อนของลูกน้าก็เป็นเหมือนกันนะ" ประโยคนั้นทำให้เด็กผู้หญิงคนที่หันหลังมามองผมจนได้ แล้วผมก็ตกใจ รู้แล้วว่าอาการคุ้นๆหน้าของน้ามีนามาจากไหน


ก็เธอคนนี้น่ะ เป็นพิ้งค์นี่นา!!!


และที่น่าตกใจกว่า ก็คงจะเป็นที่พิ้งค์สวมชุดแซกสีชมพูหวาน แถมปล่อยผมมาเคลียบ่าอย่างน่ารักแปลกตากว่าปกติอีกด้วย สมชื่อของเธอเลยจริงๆ เราสองคนต่างมองกันอย่างประหลาดใจ ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกนะ...


"พี่บลู...?"


"พิ้งค์...?" เราสองคนยังอึ้งไม่เลิก แม่ของเราสองคนต่างมองอย่างงงๆ


"นี่ลูกรู้จักกันเหรอ?" แม่ของผมถามทันที ผมพยักหน้า


"รู้จักกันได้ยังไงจ๊ะ" น้ามีนาหันไปถามพิ้งค์ทันที เธอตอบเสียงเรียบ "ก็เจอตอนที่หนูไปหาควีนที่โรงเรียนน่ะค่ะ ตอนนั้นควีนให้หนูไปหาพอดี ก็เลยรู้จักกันแค่นี้แหละค่ะ"


"อ๋อ มิน่าล่ะ ยังไงอยู่โรงเรียนเดียวกันก็เจอกันได้แบบนี้แหละมีนา" แม่ของผมหันไปคุยกับเพื่อนต่อ ผมลืมแนะนำไปครับ แม่ของผมเป็นนักพยากรณ์ชื่อดัง แต่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังเท่ากับหมอที่ชอบฟันธงฉับๆหรอกนะ เพราะเป็นความสามารถส่วนตัวของท่านเท่านั้น แล้วก็ไม่รับงานมากด้วย ซึ่งทำให้ดังแค่ในบรรดาคนที่รู้จักกันเท่านั้นเอง


และในแต่ละปี แม่ก็จะพยากรณ์ดวงของแต่ละคนในบ้านด้วย เมื่อต้นปีแม่เคยบอกว่าผมจะเจอกับคนที่ใช่ และเป็นเนื้อคู่กันด้วยตอนขึ้นม.6 ส่วนคนอื่น (เช่นพี่ชายและน้องสาวคนเล็ก) ก็ไม่มีอะไรเท่าไหร่


ซึ่งทำให้ผมรู้สึกงุนงง เฮ้ย! ใครกันที่จะมาเป็นคนที่ใช่ของผม ก็ผมยังไม่คิดมีแฟนนี่นา และด้วยความที่ม.6 ต้องเรียนและอ่านหนังสือสอบ ประกอบกับเป็นกน. ด้วยก็เลยไม่มีเวลาอีกหรอก ดังนั้นผมจึงยังไม่มองใครอยู่แล้ว


(มีต่อ)

Last edited by MiyaCatZ (2008-05-14 15:53:58)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#12 2008-05-13 16:00:36

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

สักพักอาหารก็เสิร์ฟถึงโต๊ะ ผมลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าสั่งไปตอนไหน พิ้งค์เองก็มองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเบื่อๆ ครั้งแรกที่มาถึงเธอกับแม่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน ดังนั้นผมจึงต้องเข้าไปนั่งข้างเธอ ขณะที่แม่ๆต่างคุยกันอย่างออกรส


"เบื่อไหม?" ผมเข้าไปถาม อย่างน้อยก็มีอะไรทำบ้าง เพราะอาหารของผมยังไม่มาถึงเลย


"ก็นิดหน่อยค่ะ เดี๋ยววันอังคารก็เปิดเทอมจริงๆแล้วสิ"


"ใช่ เรียนกันจริงๆแล้ว" ผมพึมพำ ก่อนจะหันไปหยิบช้อนส้อมเพื่อตักอาหารกินต่อไป เพราะอาหารที่สั่งมาถึงพอดี ของผมมาเป็นคนสุดท้ายเลย


หลังจากกินเสร็จ ด้วยความเบื่อจึงขอตัวออกไปเดินเล่นข้างนอกร้าน ซึ่งแม่และน้ามีนาก็ไม่ได้ว่าอะไร กลับเห็นด้วยเสียอีกเพราะแม่บอกว่าจะดูดวงให้กับพิ้งค์ด้วย


และผมก็เดินออกไป มีคนเดินอยู่ไม่มากนัก ด้วยความที่ไม่มีอะไรทำก็คว้าโทรศัพท์เสียบหูฟังด้วยเสียเลย


...ก่อนท้องฟ้าจะสดใส ก่อนความอบอุ่นของไอแดด ก่อนดอกไม้จะผลิบาน ก่อนความฝันอันแสนหวาน...


...ในใจไม่เคยมีผู้ใด จนความรักเธอเข้ามา ทำให้ดวงตาฉันเห็นความสดใส ข้างกายไม่เคยมีผู้ใด จนความรักเธอเมตตา เป็นพลังให้ฉันสู้ต่อไป บนโลกที่โหดร้าย...เหลือเกิน...


ผมอมยิ้ม ชอบเพลงนี้เป็นการส่วนตัว เพราะจังหวะดนตรีที่เรื่อยๆ แม้ว่าเนื้อเพลงจะไม่เกี่ยวกับตัวผมก็ตามเถอะนะ เนื่องจากดูท่าความรักจะยังไม่เข้ามาสักที


แต่ทำไม...ใบหน้าหวานๆของใครสักคน ผมหยักศกฟูนิดๆ ตาโตสดใสที่จ้องมองทุกสิ่งราวกับสงสัยไปหมดนั่นต้องเข้ามาในหัวสมองของผมด้วย


และเมื่อนึกถึงเธอในชุดเดรสสีชมพูนั่น ก็ยิ่งรู้สึกใจเต้นแรงขึ้นอีกเท่าตัว จึงต้องสะบัดหัวเพื่อไล่ภาพนั้นออกไป เฮ้ย! เป็นอะไรกันแน่เนี่ยไอ้บลูเอ๊ย ไหนบอกจะยังไม่มองใครยังไงล่ะ


ทันใดนั้นเอง เพลงก็หยุดเล่นลง ก่อนจะมีเสียงริงโทนแทรกเข้ามา เมื่อดูจากชื่อที่เซฟเก็บไว้ก็พบว่าเป็นไอ้ต้นนั่นเอง


"เฮ้ยต้น มีอะไรเหรอ?"


(โทษว่ะแกที่ขัดจังหวะการนอนกลางวัน ฮ่าๆ คือได้ข่าวว่าไปกินข้าวกับน้องพิ้งค์เหรอวะ)


ผมหน้าแดง เฮ้ย! มันรู้ได้ยังไงกัน "รู้ได้ยังไงวะ ใครบอกแก"


(ข้ามีสายสืบส่วนตัวเว้ย ท่าจะจริงล่ะสิ กิ้วๆ)


"นั่นเป็นเพราะแม่ข้าไปพบเพื่อนต่างหาก"


(อ๋อ และเด็กนั่นก็เป็นลูกเพื่อนแม่ใช่ป่าว โลกกลมดีนี่นา)


"เออ" ผมกรอกเสียงลงไปอย่างหงุดหงิด เกลียดเสียจริงคนรู้ทันเนี่ย อย่าให้รู้เชียวนะว่าใครบอกไอ้ต้นเชียว ตายแน่ๆ


(เออใช่ ที่ข้าโทรมาไม่ใช่เรื่องน้องพิ้งค์สุดสวยหรอก แต่เป็นเรื่องงานน่ะ น่าจะรู้อยู่ว่าต้องแสดงละครวิทย์ ก็เลยจะบอกว่ายังไม่ลงตัวเรื่องบท แต่แกต้องเป็นพระเอกด้วย)


ผมฟังแล้วก็ต้องยิ่งสะดุ้ง เฮ้ย! ผมไม่ถนัดเรื่องการแสดงเลยนะ ขนาดพูดรายงานหน้าห้องก็แทบจะเข่าอ่อนแล้ว นี่จะให้มาแสดงละครอีกเหรอ? ใครเป็นคนคิดกันเนี่ย


(เขาล็อคตัวมาแล้ว ดังนั้นแกห้ามหนี ห้ามเบี้ยวเลยนะเว้ย ข้ารู้ว่าแกไม่ชอบแสดงออก แต่มันต้องกล้าๆกันหน่อยสิ)


"เออ ก็ได้" ผมกัดฟันตอบตกลง นี่ผมน่าจับมาเป็นพระเอกมากขนาดนั้นเลยเหรอนั่น หวังไว้แต่ว่าบทจะดีๆหน่อยนะ ไม่ใช่ให้เป็นก้อนหินหรือราชันคนบ้าอะไรเทือกๆนั้น


จากนั้นไอ้ต้นก็วางสายไปทันที เสียมารยาทชะมัดเลย แต่ก็นับว่าดีเพราะเมื่อผมเดินมาถึงหน้าร้านอาหาร บรรดาสาวๆก็ออกมาด้วยพอดีเลย


"อ้าวบลู แม่ว่าจะโทรตามพอดีเลย เดี๋ยวเราจะกลับบ้านกันแล้วจ้ะ" แม่หันมาขยิบตาให้ผมราวกับมีอะไรบางอย่างปิดอยู่ ยิ่งน่าสงสัยเข้าไปใหญ่เลย...



++++++++++++++++++
จะเีขียนโดยสลับบทกันบรรยายค่ะ ระหว่างพิ้งค์กับบลู 555+

ดังนั้นอย่าเพิ่งสับสนน้อ >.< ขอบคุณค่ะที่ตามอ่าน ^o^~


Edit~ ลืมไปว่าวันจันทร์หยุดวิสาขบูชา = [] = เลยต้องแก้นิยายก่อนล่ะค่ะ 55+ (ตักบาตรวันที่ 22 ใช่มั้ย?)

เย็นๆค่ำๆจะมาลงตอนใหม่ให้นะคะ >.<

Last edited by MiyaCatZ (2008-05-24 15:17:01)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#13 2008-05-14 20:24:35

Yai Mook
สมาชิก
Registered: 2006-05-11
Posts: 265

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

ค่ำแล้วน้า มาลงจิๆๆๆ

Offline

#14 2008-05-14 20:48:10

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

จ๊ากกก =__= ลืมสนิทเลยค่ะ ว่าต้องลงนิยาย 555+

ขออภัยอย่างแรงสูง > < เดี๋ยวเอามาลงละ



++++++++++++++++++++++++++++++

- Chapter 3 : The Lover -


ฉันรู้สึกแปลกอย่างไรบอกไม่ถูก หลังจากที่มองไปยังพี่บลูที่เดินกลับมา พี่เขาดูหล่อดีในชุดลำลองแบบสบายๆ เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้าแล้วก็กางเกงยีนส์ รู้สึกผิดขึ้นมาทันทีที่ตัดสินว่าพี่เขาเป็นจอมซกมกระดับชาติเมื่อเดือนก่อน


เมื่อเช้านี้แม่เข้ามาปลุกฉันที่กำลังนอนสบายๆอยู่เลย แม่จะต้องไปหาเพื่อนรักสมัยม.ปลายที่ไม่ได้เจอกันมานาน ก่อนจะชวนด้วยสิ่งตอบแทนที่เย้ายวนใจมากนั่นคือการดูดวงฟรีๆ เพราะเพื่อนของแม่เป็นถึงนักพยากรณ์ที่ทำนายแม่นมาก ซึ่งใครล่ะจะไม่สนใจ ก็ฉันอยากรู้นี่นาว่าชีวิตม.5 จะเป็นไปในทางที่ดีหรือแย่ลงน่ะสิ


และก็ต้องตกใจ ว่าป้านภา เพื่อนของแม่พาลูกชายมาด้วย และเขาก็เป็นพี่บลูนั่นเอง โลกกลมมากมายเลย คนที่ฉันรำคาญเพราะยัยควีนเอาแต่อ้างอิง พูดถึง และเอามาแซวฉันอยู่นั่นแหละ เมื่อวานก็ทั้งวันแล้ว พูดถึงแต่ "พี่บลูๆๆ" เป็นรอบที่สิบได้แล้วมั้ง


เอาล่ะ...เข้าประเด็นสำคัญกันได้สักที หลังจากพี่บลูกินข้าวเสร็จก็ลุกเดินออกไปเลย คงเป็นธรรมชาติของผู้ชายที่จะลุกหนีเมื่อเจอสิ่งที่ไร้สาระอย่างที่พวกผู้หญิงชอบ นั่นคือการคุย คุย และคุยเจื้อยแจ้วนั่นเอง


หลังจากที่พี่บลูออกไป ป้านภาก็เริ่มต้นการดูดวงเสียที "ป้าใช้วิธีการดูด้วยไพ่ยิปซี ดังนั้นต้องเคลียร์สถานที่กันก่อนล่ะ" พูดจบก็จัดจานไปกองรวมกันที่ปลายโต๊ะ ก่อนจะหยิบผ้ากำมะหยี่สีเลือดหมูมาปูก่อนจะวางไพ่ลงไป


"ปกติป้าไม่พกมาหรอก แต่เห็นมีนาจะให้ดูดวงให้ลูกสาว เลยต้องหยิบมาสักหน่อย เดี๋ยวหยิบไพ่สิบใบด้วยมือซ้ายนะจ๊ะหลังสับไพ่พร้อมอธิษฐานน่ะ" หลังจากสับไพ่พลางอธิษฐานแล้ววางฉันจึงหยิบขึ้นมา


ป้านภาจัดไพ่มาเรียงก่อนจะเปิด "ชีวิตช่วงนี้จัดว่าดี เปิดเทอมปีนี้มีแต่สิ่งดีๆเข้ามาหลายอย่าง ตั้งแต่เรื่องการเรียน เพื่อนๆ แต่การเงินอาจจะไม่ดีเท่าไหร่ ซึ่งหนูไม่ค่อยใช้เงินฟุ่มเฟือยด้วยจึงไม่เดือดร้อนนัก" คำทำนายทำเอาฉันสะดุ้ง รู้ได้ยังไงกันหนอว่าฉันเป็นคนประหยัด


ก่อนจะสับไพ่ครั้งที่สอง...เอ จะเอาเรื่องอะไรดีหนอ เรื่องเพื่อนๆดีกว่า


"เรื่องเพื่อนๆ ไม่มีปัญหา จะรักใคร่กลมเกลียวกันดี แต่เอ๊ะ...ไพ่เลิฟเวอร์ แสดงว่าต้องมีเพื่อนคนใดคนหนึ่งนำความรักมาให้หนูอย่างแน่นอน เป็นเพื่อนที่สนิทกันเสียด้วย และคนที่จะเข้ามาก็รู้จักกันได้เพราะเพื่อนคนนี้นั่นแหละ" เมื่อได้ฟังก็รู้สึกแปลกนะ วูบหนึ่งฉันนึกถึงพี่บลูขึ้นมาทันที ฉันรู้จักกับพี่ได้เพราะควีนที่สนิทกับฉันที่สุดในกลุ่ม แล้วก็ชอบแซวเรื่องเขาด้วย


ครั้งที่สาม ฉันจึงลองเสี่ยงเรื่องความรักดู... จะมีใครเข้ามาในชีวิตฉันบ้างไหมนะ


แล้วก็ต้องตกใจ "ผู้ชายคนนี้อยู่ใกล้ตัวหนูมาก ดวงสมพงศ์กัน และหนูก็เจอเขาแล้วด้วย แต่จะยังไม่ลงเอยกันไปสักระยะ และป้าแนะนำว่า…" มาถึงประโยคนี้ป้านภาเริ่มมีสีหน้าเครียด "...เผื่อใจไว้กับการสูญเสียด้วย"


คำทำนายทำให้ฉันงง "สูญเสียเหรอคะ?"


ป้านภาพยักหน้า "ป้ารู้สึกสังหรณ์อะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร จนมาตอนนี้แหละถึงได้รู้แล้ว จำไว้ให้ดีว่าจะรักใครให้เผื่อใจไว้"


"ค่ะ" ฉันรับคำ ผู้ชายคนไหนนะที่จะให้ฉันต้องเผื่อใจน่ะ คงเป็นแบบคู่กันแต่ต้องแคล้วเพราะเลิก เนื่องจากมือที่สามแหงเลย เฮ้อ...ไม่ไหวๆ


แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรจะถามอีกต่อไป เพราะด้านการเรียนต่อมหาวิทยาลัยก็ออกมาเป็นว่าเรียนอะไรก็ได้ โดยป้านภาบอกว่าไม่สามารถบอกอนาคตหลังจากเข้ามหาวิทยาลัยได้เลย แต่การเรียนคณะต่างๆขึ้นอยู่กับฉันเท่านั้น


อีกสองปีเท่านั้นเอง ฉันก็ต้องเข้ามหาวิทยาลัยไปแล้ว... เร็วดีจัง


และต่อมา ก็ต้องพบกับสิ่งที่น่ากรี๊ดที่สุดในรอบศตวรรษ หลังจากที่แม่บอกฉันขณะนั่งรถไปยังคาร์ฟูร์เพื่อจ่ายกับข้าว "แม่ว่าบลูเค้าก็น่ารักดีนะลูก ถ้าเป็นแฟนลูกแม่ก็คงจะดีน่าดู เรียนก็เก่ง นิสัยเรียบร้อย เป็นกรรมการนักเรียนด้วย"


"แต่หนูไม่ได้ชอบพี่เขาสักหน่อยนี่นา" ฉันเถียง ดูท่าแม่จะล็อกพี่บลูไว้เป็นสเป็กว่าที่ลูกเขยไปเสียแล้ว


"คงเป็นเพราะลูกเพิ่งรู้จักพี่เขาแหละ ลองดูๆกันก่อนก็ไม่เสียหายนะ"


ฉันถอนหายใจในห้วงความคิด ไม่เอาอ่ะ ยังไงพี่บลูก็ไม่น่าจะมีวงโคจรมาเป็นคนที่ใช่ของฉันหรอกนะ ฉันยังไม่อยากมีแฟน และพี่บลูก็คงจะเป็นคนสุดท้ายในโลกนี้ที่ฉันอยากจะคบ


โดยเฉพาะการที่แม่มาทำท่าสนับสนุนแบบนี้ด้วยน่ะสิ


(มีต่อ)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#15 2008-05-14 20:49:34

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

"โหยย...ออกจะดี มีแม่ให้ท้าย...เอ๊ยย!! สนับสนุนแบบนี้น่ะ" ยัยควีนว่าระหว่างที่เรานั่งกันยังที่โปรดยามเช้าของเราที่ม้านั่งพร้อมโต๊ะหินอ่อนหน้าตึกสี่ หน้าห้องบริการพอดิบพอดี โดยฉันเล่าเรื่องที่เจอกับพี่บลูพร้อมกับเรื่องที่แม่ทำท่าเชียร์ฉันกับพี่บลูในเช้าวันอังคาร


แต่ก็ไม่ได้เล่าเรื่องคำทำนายให้ฟังหรอกนะ


"นั่นสิ แม่เปิดไปเขียวให้แบบนี้ก็ลองดูเถอะ" ยัยแอ๋มเห็นด้วยกับควีนเสียอย่างนั้น


"ไม่เอาอ่ะ ฉันอยากจะเรียน และจะหาแฟนทั้งทีก็อยากจะได้ดีกว่านี้ ตอนโตกว่านี้ด้วย" ฉันบ่ายเบี่ยง ก่อนจะถูกเพื่อนๆผลักหัวเบาๆ


"หนอยแน่ะ ขึ้นคานแล้วอย่ามาร้องไห้เสียดายเวลาแล้วกัน" ยัยควีนว่า แต่ฉันก็ไม่ยอมแพ้หรอกน่า


"ฉันรู้ย่ะว่าเวลาไหนควรหรือไม่ควรหาแฟน แล้วฉันก็ไม่มีทางจะขึ้นคานด้วย"


"ขอให้มันจริงเถอะ" แอ๋มพูดปิดท้าย


และในวันนี้ก็น่าหงุดหงิดใจอีกแล้ว เพราะฉันเจอพี่บลูบ่อยเหลือเกินน่ะสิ จะเข้ามาเรียนฟิสิกส์ซึ่งต้องผ่านห้อง 2209 ก็ต้องเจอพี่บลูเดินสวนออกมาจนได้ แถมเขายังมองมาทางฉันอีก


พักกลางวันคาบห้า ก็เจอพี่บลูในโรงอาหารอีก ด้วยความที่จำนวนนักเรียนมีมากเกินไปจนทำให้โรงอาหารแทบระเบิด หรือจะทำให้นักเรียนขาดอากาศหายใจตาย ฉันจึงหาที่นั่งไม่ได้สักที เพื่อนๆก็รู้สึกเซ็งเหมือนฉันนั่นแหละ


"จะรับนักเรียนมาเยอะเพื่ออะไรกันเนี่ย นักเรียนจะตายหมู่เพราะขาดออกซิเจนเนี่ย" แอ๋มบ่น มีพวกเราอีกสามคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย และไม่ทันจะมองไปไหน ยัยควีนก็ทำตาโตทันที ก่อนจะชี้ไปยังโต๊ะข้างหน้า "เฮ้ย! เจอแล้ว ที่นั่งๆ"


โต๊ะที่ควีนชี้ไปไม่ใช่โต๊ะว่าง แต่กับเพื่อนๆที่รู้จักก็สามารถเข้าไปนั่งด้วยได้ ซึ่งคนที่ควีนรู้จักก็เห็นจะเป็นพี่ๆกน.ม.6/5 นั่นแหละ มีคนนั่งอยู่เพียงคนเดียวคือพี่ต้น และเขากำลังจะลุกขึ้นเพื่อเอาชามก๋วยเตี๋ยวไปเก็บพอดี


"อ้าวควีน...มีอะไรเหรอ?"


"หนูขอนั่งด้วยได้ไหมคะพี่? พวกเราไม่เจอโต๊ะว่างเลย" สายตาของควีนกับพี่ต้นที่มองกันและกันมันดูแปลกๆนะ แต่เขาก็ใจดี ผายมือให้พวกเรานั่งทันที


"เชิญเลยครับน้อง พี่ก็ว่าจะเข้าห้องพอดี เหลือแค่ไอ้บลูที่ยังซื้อกับข้าวไม่เสร็จ เดี๋ยวก็คงมาแหละ ฝากบอกมันด้วยว่าพี่จะขึ้นห้องแล้ว ไม่ไหว...โรงอาหารอึดอัดชะมัด" เมื่อเขาพูดเสร็จก็รีบแจ้นไปทันที ฉันมองโต๊ะอย่างไม่วางใจ นี่จะต้องเจอเขาอีกแล้วเหรอเนี่ย พาลหมั่นไส้ขึ้นมาทันที อะไรๆก็บลู เฮ้อ...


พวกเราสี่คนจึงวางกระเป๋าไว้ก่อนจะแยกย้ายกันไปซื้ออาหาร วันนี้กินข้าวราดแกงดีกว่า และเมื่อกลับมาก็ต้องพบกับคนที่อยากเจอเป็นคนสุดท้ายในชีวิตอีกจนได้


"อ้าวน้อง ต้นไปไหนแล้วน่ะ"


ยัยควีนที่มาพร้อมฉันรีบตอบแทนทันที "กลับขึ้นห้องไปแล้วค่ะ เห็นบอกว่าอากาศในโรงอาหารไม่เพียงพอแก่การหายใจ" พี่บลูจึงก้มไปกินข้าวตามเดิม และน่าบังเอิญว่ามันเป็นกับข้าวแบบเดียวกับของฉันเป๊ะๆ ร้านเดียวกันอีกด้วย!!!


ไม่นานนักโต้งก็กลับมา พร้อมกับทักอย่างเป็นสิริมงคล "เฮ้ย! กินเหมือนกันเลยว่ะคู่นี้ บุพเพสันนิบาตแหงเลย"


"สันนิวาสย่ะ ตาบ้า" แอ๋มหันไปแก้คำให้ถูกทันทีพร้อมกับด่าไปด้วย ยัยควีนที่ซดก๋วยเตี๋ยวแคะ อาหารยอดนิยมของนักเรียนชาวสวนนนท์ไม่พูดอะไร เนื่องจากกำลังกิน


"ก็แค่บังเอิญน่ะ" ฉันตัดบทพร้อมกับใช้ช้อนกับส้อมหั่นไข่ดาวในจานให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย อยากรู้จริงๆว่าทำไมสวรรค์ต้องบันดาลให้เป็นแบบนี้กันนะ!!


+++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่ชัวร์ว่าเปิดเทอมแล้วจะมีไฟมาเขียนต่อไหม =__= แต่จะพยายามลงให้จบนะคะ เปิดเทอมแล้วคงไม่ได้ลงทุกวันแหงๆ >.<

อยู่บ้านอีกวันเองเอง เอิ้กกกก

Last edited by MiyaCatZ (2008-05-24 15:18:14)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#16 2008-05-15 11:55:21

wunMapraw
สมาชิก
Registered: 2005-03-14
Posts: 8,005

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

ช่างเป็นสถานการณ์ใน รร จริงๆ 55

Offline

#17 2008-05-15 14:21:35

My father's name Nongsak
สมาชิก
From: samesky
Registered: 2006-01-04
Posts: 993

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

ยาวจัง  ไว้ว่างๆมาอ่านต่อ  หุหุ

Last edited by My father's name Nongsak (2008-05-15 14:23:24)


ไม่ว่าผู้ใดล้วนมีคู่อริ  มิอาจพิชิตไร้ผู้ต่อต้าน !

Offline

#18 2008-05-15 15:14:04

satoru
ผู้ดูแลบอร์ด
From: มศก.66 & ส.ก.น.27
Registered: 2005-03-15
Posts: 7,081

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

ว้าว โรงเรียนเราจริงๆ 555

หนุ่มสาวนี่ดีจังนะ เห้อ... lol

ป.ล.อ่านแล้วอยากแต่งฟิคชื่อว่า รักแห่งสวนนนท์ 555+

Offline

#19 2008-05-15 16:17:40

Junno
สมาชิก
From: skn.27 - - GE20 E65 KU69 *
Registered: 2005-03-12
Posts: 5,119
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

อ่านแล้ว น่ารักดีๆๆ    wink

ว่าแต่ว่า
ได้อ้างอิงอะไรจริงๆบ้างอะป่าวว ?
555       lol


sikd1.gif bbchan3.gif
»»» พีจุนโนะ 우영               :: I AM HOTTEST VIP. !
. ♥i want you  . .   Why do you HESITATE ? *

Offline

#20 2008-05-15 18:09:02

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

ตอบคำถามมม~

wunMapraw :: ก็เป็นส่วนนึงแหละ ^^

My father's name Nongsak :: อ่านได้ตลอดจ้าน้อง ^o^ อย่าลืมอัพซงกุนบ๊ำด้วย อยากอ่านต่อ 55+

satoru :: แต่งเลยๆ สนับสนุน ^^

Junno :: ก็มีบ้างแหละ แต่จะเป็นข้อมูลเก่า ซึ่งอาจจะขัดกับเนื้อเรื่องที่เป็นปี 51 อยู่พอควร = = เหอๆ ถ้าผ่านช่วงเวลาไปได้ก็อาจจะมารีไรท์(แก้)ทีหลังก็ได้

+++++++++++++++++++++

เดี๋ยวค่อยมาลงต่อ ^o^ ไปกินข้าวก่อนน้า~


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#21 2008-05-15 19:30:22

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

มาแล้วค่ะ ^^

บทละครวิทย์ มิได้เอามาจากบทของห้องตัวเองแต่อย่างใด (คิดกันหรือยังก็ไม่รู้!!) แต่อาจจะเอาไปเสนอก็ได้นะ 55+ แต่อาจจะไม่ได้เข้ารอบอย่างในนิยายก็ได้ -*-

+++++++++++++++++++++++++

EDit!!! รีไรท์ใหม่ตั้งแต่ตอนที่ 4 ค่ะ !!!

+++++++++++++++++++++++++

- Chapter 4 : Do you hate me? -



วันพฤหัสเป็นวันที่สาหัสอยู่เหมือนกัน เนื่องจากเป็นสัปดาห์วิสาขบูชา


เพราะนอกจากจะมีการทำบุญตักบาตรและอัญเชิญพระ 99 รูปมาแล้ว บรรดากน.อย่างพวกผมก็ต้องทำงานเพิ่มอีกหนึ่งอย่างน่ะสิครับ... นั่นคือการดูความเรียบร้อยของงาน การเข้าแถวและอะไรอีกมากมาย ถ้าจบไปหางานไม่ได้จะไปเปิดบริษัทเป็นออร์แกไนเซอร์จัดงานแล้วนะเนี่ย


"ยู้ฮู~ พี่บลู พี่ต้นขา เหนื่อยมั้ยคะ?" เสียงร่าเริงของควีนทักผมกับต้นที่เข้ามาดูความเรียบร้อยของแถวม.5 พวกเธอนั่งอยู่หน้าแถวเลย ข้างตัวนอกจากกระเป๋าเป้ จาค็อบ กระเป๋าเคียงก็ยังมีถุงใส่ข้าวสารอาหารแห้งมาอีกหลายชุด และคนที่นั่งหน้าสุดเห็นจะเป็นพิ้งค์นั่นเอง


"ไม่เหนื่อยหรอกจ้ะน้อง" ต้นหันไปตอบเสียงหวาน รายนี้ปิ๊งน้องควีนตั้งแต่เห็นหน้าครั้งแรกเลย ในตอนที่เจอกันในวันประชุมสต๊าฟครั้งแรก และก็หาทางตีสนิทตั้งแต่นั้นมา แน่นอนว่าได้ผลมากด้วย เพราะสองคนนี้ก็สนิทกันจริงๆนั่นแหละ


แต่พิ้งค์ไม่ยอมมองหน้าผมเลย กลับมองไปทางอื่นแทน ถ้าไม่มีอะไรจริงๆเธอก็ไม่ค่อยยอมทักผมอยู่แล้ว ขนาดเจอกันเมื่ออาทิตย์ก่อนก็ต้องเป็นผมที่ชวนคุยด้วยซ้ำ


"เป็นไงบ้างครับ" ผมหันไปถาม พิ้งค์หันมาทางผมอย่างเสียไม่ได้


"ก็สบายดี ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ" แล้วเธอก็หันไปมองทางอื่นต่อ


ผมจึงถอดใจก่อนจะเดินไปทางอาจารย์ท่านหนึ่งที่เรียกผม แน่นอนว่าเรามีงานเยอะครับ ต้องวิ่งวุ่นได้ตลอดงานอยู่แล้ว จึงปล่อยให้ต้นอยู่กับน้องๆนั่นแหละ


"นทีกร ทางฝั่งม.1 เรียบร้อยดีหรือยัง" อาจารย์ถามผม อ้อ! ผมชื่อนทีกรนะ ซึ่งทำให้มีแต่คนถามว่าทำไมไม่ไปอยู่สีน้ำเงินให้รู้แล้วรู้รอด ก็คนมันเลือกไม่ได้นี่นา เขาให้ผมมาอยู่ห้อง 5 ซึ่งเป็นสีม่วง ก็ต้องอยู่สิครับ เหอๆ


"เรียบร้อยแล้วครับ"


แล้วเวลาก็ผ่านไปราวกับโกหก ผมกลับไปยังแถวห้องตัวเองที่ฝากบรรดาข้าวสารอาหารแห้งเพื่อตักบาตรไว้กับเพื่อนในห้อง ซึ่งเธอนั่งอยู่แถวหน้าสุดนั่นแหละ


"ขอบใจนะที่ช่วยรับฝาก" เธอยิ้ม


"ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันรู้ว่างานกน.มันวุ่นวาย และก็ดีด้วยที่นายมีใจคิดที่จะทำบุญน่ะ" ก่อนจะยื่นถุงมาให้ผม แน่นอนว่าคนในห้องตักบาตรกันไปหมดแล้ว เหลือแต่พวกผมที่ไม่ได้เข้าแถวนี่แหละ มีเด็กม.ต้นกลุ่มหนึ่งมาตักบาตรถึงแถวม.6 อีกด้วย อย่างน้อยผมก็มีเพื่อนนะ


และคาบที่สองเราก็ขึ้นไปเรียนเคมีกันอย่างวุ่นวาย เพราะใบประกาศกลุ่มและโต๊ะเพิ่งถูกนำมาแปะไว้นี่เอง ทำให้มีแต่คนยืนออกันที่ประตูราวกับมีประกาศสงครามโลกครั้งที่สาม (ไม่เหมือนก็ใกล้เคียงแหละนะ) แน่นอนว่าผมอยู่กลุ่มสี่ โต๊ะที่สี่ด้วย


และต้นก็อยู่กลุ่มที่ 17 ทำให้เป็นที่น่าดีใจมาก เพราะเราได้นั่งโต๊ะเดียวกัน ฮูเร่!!


"เฮ้ยบลู ทำไมแกรีบไปก่อนวะ ไม่ทักน้องพิ้งค์เค้าเลยเหรอ?"


คำพูดนี้ชักทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดเล็กๆ ผมไม่ได้หยิ่งนะ แต่น้องเขาหยิ่งใส่ผมก่อนเองนี่ "จะบ้าเหรอ ข้าก็ทักน้องเค้าแล้ว แต่รายนั้นก็ไม่ตอบเลย ทำไมดูไม่เป็นมิตรยังไงไม่รู้"


ต้นหัวเราะหึหึ "ก็จริง แต่น้องควีนบอกมาว่าผู้หญิงจะรำคาญผู้ชายมาก ถ้า หนึ่ง...ฝ่ายชายชอบมาตื๊อจนเข้าขั้นรังควาญ สอง...พ่อแม่ผู้ปกครองทำท่าสนับสนุนจนออกนอกหน้า สาม...ไม่ใช่คนในอุดมคติของหล่อนแล้วยังจะกล้ามาจีบอีก และสี่..."


"ยังไงต่อ?"


"ผู้หญิงอยู่ในช่วงวันแดงเดือดเว้ย ฮ่าๆๆ" ข้อสุดท้ายนี่ทำเอาผมหมั่นไส้จนต้องชกบ่าต้นไปหนึ่งที จะว่าไปก็ดูมีเหตุผลทุกข้อเลยนะ แต่ผมไม่ได้จะไปจีบน้องพิ้งค์นี่นา...


ที่น่าสงสัยก็เป็นแค่เรื่องผู้ปกครองสนับสนุนกับวันนั้นของเดือนนั่นแหละ ไอ้เราก็ไม่รู้ด้วยว่าสาวๆมีวันนั้นกันวันไหนบ้าง แต่อาจจะใช่ก็ได้มั้ง ถ้าเธอเข้าสวัสดิการเพื่อไปซื้อของส่วนตัวของเธอน่ะนะ


แต่ผมก็ไม่รู้แล้วล่ะ ผู้ชายไม่มีวันนั้นของเดือน คงไม่เข้าใจสักเท่าไหร่ล่ะนะ


(มีต่อ~)

Last edited by MiyaCatZ (2008-05-23 23:38:03)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#22 2008-05-15 19:32:27

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

"ช่วงนี้ห้องสดใสขึ้นว่ะ ชมพูฟ้าเต็มห้องเลย พิ้งค์แอนด์บลู ฮ่าๆๆ"


เสียงของต้นดังลอดมาถึงโสตประสาทของผมจนได้ แม้ว่าเขาจะพูดพึมพำกับตนเองเบาๆก็ตาม แต่บลูมันเป็นชื่อของผมนะ แล้วก็ชื่อยัยเด็กรุ่นน้องตัวการนี่อีกด้วย โอ๊ยยยย...


ทำไมน้องพิ้งค์ถึงไม่เป็นมิตรกับผมนะ... คงไม่ได้เกลียดผมจริงๆหรอกใช่ไหม?...


หลังจากเรียนเคมีเสร็จ เมื่อออกมาก็ต้องพบกับเด็กๆชาว 5/5 ที่เรียนฟิสิกส์จบพอดีเหมือนกัน ผมจึงเข้าไปหาพิ้งค์ เธอยืนมองผมอยู่ด้วยพอดี


"น้องพิ้งค์ เรียนยากมั้ยครับ?"


"ก็... ไม่อะค่ะ ยังไม่ได้เริ่มเรียนกันจริงๆเลยค่ะ แหะๆ" เธอตอบ แต่ดูจะตอบตามมารยาทเสียมากกว่า


"ครับ ว่าแต่คุยกับพี่ดีๆก็ได้ ไม่กัดหรอก ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้ไปยืนอยู่หน้าโรงเรียนทุกเช้าเพื่อทักทายน้องๆเพื่อนๆอย่างแน่นอน"


"อ้าว พี่ไปยืนรับน้องๆทุกเช้าเหรอคะ?"


"ครับ" ผมชักสงสัย นี่พิ้งค์คงไม่ได้มาโรงเรียนในช่วงเจ็ดโมงขึ้นไปแน่ๆ เพราะไม่อย่างนั้นก็จะเจอผมอย่างแน่นอน แต่อย่างว่าแหละ ผมมาโรงเรียนก็ไปขลุกอยู่ในห้องกน.เป็นกิจวัตรไปแล้วล่ะ เพราะต้นที่มาก่อนจะเปิดห้องมานั่งทำงาน ทำการบ้าน ไม่ก็เอางานของผมไปลอกในบางที


"คือพิ้งค์มาโรงเรียนในช่วงหกโมงน่ะค่ะ นั่งอยู่หน้าตึกสี่ด้วย พี่คงไม่ได้ผ่านแน่เลย"


"คงงั้นแหละครับ พี่ชอบไปนั่งอยู่ในห้องกน. ไปเจอได้เสมอนะ"


"ค่ะ" พิ้งค์ว่าก่อนจะทำท่าหันหลังกลับ ผมจึงบอกอะไรบางอย่างเพื่อเป็นการส่งท้าย และมันก็เป็นความในใจอย่างหนึ่งเช่นกัน


"พี่ก็ไม่รู้นะว่าน้องคิดยังไงกับพี่ จะนับถือ จะหมั่นไส้ยังไงก็เถอะ แต่พี่ก็เป็นรุ่นพี่ที่รักน้องๆทุกคนอยู่แล้ว แล้วพี่ก็ไม่สบายใจด้วย ที่ให้ไมตรีกับน้องแต่กลับได้รับความเฉยชาน่ะ มีอะไรก็คุยกันได้นะ" แล้วผมก็รีบเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสามเพื่อไปเรียนพระพุทธศาสนาทันที


นอกจากจะหนีความเขินที่รุมเร้าในจิตใจ ยังมีอีกหนึ่งเรื่องครับ... เพื่อนๆทุกคนขึ้นห้องกันไปหมดแล้วนั่นเอง ถ้าไม่รีบก็ซวยเลยสิ


แต่ผมก็รู้สึกสบายใจขึ้นนะ หลังจากบอกพิ้งค์ไปแบบนั้นน่ะ...


"ข้าเห็นนะเว้ยไอ้บลู แอบไปคุยกับน้องพิ้งค์ ไหนว่าไม่สนใจน้องเค้ายังไงล่ะ กิ้วๆ" ต้นแซวผมทันทีหลังจากที่เรานั่งลงกันได้แล้ว ผมสนิทกับต้นที่สุดแล้ว เพราะเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย สมัยเรียนประถมโน่นแน่ะ แถมอยู่ห้องเดียวกันมาจนถึงปัจจุบัน ประหลาดดีเนอะ


แต่ก็ยังมีเพื่อนร่วมกลุ่มอยู่บ้าง ถึงห้องของเราจะมีกลุ่มก๊กหลายเจ้าก็ตาม แต่กลุ่มเล็กๆก็ยังรวมกันได้แหละ ไม่ได้แบ่งแยกกันมากขนาดนั้น


"ก็แค่อยากรู้ว่าทำไมถึงทำท่าไม่เป็นมิตร" ผมตอบเสียงเรียบ ก่อนจะขอยืมเอสี่ที่สรุปเรื่องระบบประสาทของเพื่อนข้างๆ มาอ่านเล่นอย่างเพลินใจ


"ก็นั่นแหละ แล้วถ้าแกไม่สนใจ แล้วทำไมจะต้องไปแคร์น้องเขามากขนาดนั้นด้วยฮะไอ้บลู" ต้นยังถามไม่เลิก


"แล้วยังไงล่ะ ข้าไม่ได้แคร์สักหน่อย"


"แล้วไอ้ที่แกต้องหันไปมองเข้าไปในห้องทุกครั้งที่ผ่านห้องที่น้องๆ 5/5 เรียน ทำท่าเซ็งตอนที่น้องพิ้งค์ไม่เป็นมิตร แล้วก็ลอบมองอยู่แบบนี้น่ะไม่เรียกว่าไม่แคร์เหรอ?"


ประโยคนั้นทำเอาผมพูดอะไรไม่ออกเลย นี่ต้นมันรู้ด้วยเหรอว่าผมมีพฤติกรรมแบบนี้น่ะ


"ความรู้สึกแบบนี้มันไม่ใช่แค่คำว่าเฉยๆ ไม่ใส่ใจแล้ว แต่แกกำลังสนใจในตัวน้องพิ้งค์เป็นอย่างมาก ไม่แน่นะว่าแกอาจจะได้พบคำตอบของหัวใจในอีกไม่นานแล้วล่ะ"


"คำตอบอะไรเหรอ?" เพื่อนข้างๆผมหันมาถาม แต่ก็ไม่ได้ตอบเนื่องจากอาจารย์ถามหาบรรดากน.ในห้องพอดี "ใครเป็นกน.บ้างจ๊ะ?"


ผม ต้น และเพื่อนอีกคนหนึ่งที่เป็นเลขานุการยกมือขึ้นทันที ต้นจึงเป็นคนแรกที่บอกชื่อก่อน เพราะเป็นประธานและเลขที่มาก่อนใครเพื่อนเลย "กฤษณะ เลขที่ 8 ครับ"


"นทีกร เลขที่ 11 ครับ"


"วุฒิพงศ์ เลขที่ 20 ครับ" หลังจากเช็คชื่อเสร็จแล้ว ต้นหันมาทางผม สีหน้าเคร่งเครียด


"ยังไงก็ตาม คาบหน้าเตรียมหาคู่เต้นลีลาศให้ได้ก่อนเถอะนะ" เออใช่... ลีลาศ ทำไมต้องเรียนด้วยนะ มันใช่กีฬาด้วยเหรอนั่น!?



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พรุ่งนี้เปิดเทอมแล้ว มีความสุขกับระดับชั้นใหม่ให้มากๆนะคะ ^o^

ปีหน้าข้าพเจ้าก็ไม่มีปิดเทอมขึ้นชั้นมัธยมละ T __ T แอบเศร้า ยังอยู่ในรั้วสวนนนท์ไม่คุ้มเลย โฮกกก~ (อยู่แค่สามปีเอง)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แก้ๆๆ >.< เหอๆ

Last edited by MiyaCatZ (2008-05-23 23:38:56)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#23 2008-05-17 17:09:48

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

อ้ากก~ ยังไม่มีเวลาปั่นนิยายเลยอ่ะ แหะๆ
เดี๋ยวคืนนี้อาจจะไปเขียนตอน 7 ให้สมบูรณ์แล้วค่ะ T ^ T

EDIT! (แก้ใหม่แล้วค่าาา T ^ T)



- Chapter 5 : Good Relationship -


"...พี่ก็ไม่รู้นะว่าน้องคิดยังไงกับพี่ จะนับถือ จะหมั่นไส้ยังไงก็เถอะ แต่พี่ก็เป็นรุ่นพี่ที่รักน้องๆทุกคนอยู่แล้ว แล้วพี่ก็ไม่สบายใจด้วย ที่ให้ไมตรีกับน้องแต่กลับได้รับความเฉยชาน่ะ มีอะไรก็คุยกันได้นะ..."


ฉันพยายามขจัดคำพูดนี้ออกไปจากห้วงความคิด แต่ไม่ว่ายังไงมันก็ไม่ยอมออกไปสักที ราวกับเสียงนี้ถูกบันทึกไว้แล้วเอามาเปิดในสมองฉันยังไงยังงั้น อีกไม่พอยังจะเปิดระบบวนลูปซ้ำไปซ้ำมาอีก ยิ่งทำให้ฉันมึนเข้าไปใหญ่


และก็ผ่านมาตั้งคาบกว่าแล้ว ตอนนี้เราเรียนเคมีอยู่ที่ห้อง 2204 ก็ยังไม่รู้สึกสงบลงได้สักที ฉันว่าฉันก็ไม่ได้ทำท่าหยิ่งใส่พี่บลูนะ เพราะถึงจะรำคาญที่แม่ทำท่าสนับสนุนสักเท่าไรก็ไม่เกี่ยวกัน ฉันเองก็ไม่ค่อยได้เสวนากับพี่เขาเท่าไหร่แล้ว เพราะไม่รู้จะพูดอะไรน่ะสิ แล้วอีกอย่างนึงคือทำตัวไม่ถูกด้วย เราไม่ได้สนิทกันมากขนาดนั้นนี่!!


แต่ควีนกลับบ่นกระปอดประแปดเกี่ยวกับพฤติกรรมฉันเสียอย่างนั้น "นี่พิ้งค์ เท่าที่ฉันคบกับเธอมาตั้งแต่ม.4 ตอนที่เธอเข้ามาใหม่ๆนะ เธอก็ดูไม่ค่อยเปิดใจเท่าไหร่เลยนะ กว่าฉันจะซี้กับเธอได้ก็เพิ่งรู้สัจธรรมที่ว่าเธอไม่ค่อยพูดนี่แหละ แต่กับพี่บลูน่ะ... เธอควรจะบอกเขาว่าเธอไม่ได้รังเกียจนะ"


"แล้วไงล่ะ ฉันก็เป็นแบบนี้นี่นา มันพูดอะไรไม่ถูกนี่นา วางตัวก็ไม่รู้จะทำยังไงด้วย เราไม่ได้สนิทกันนี่นา" ฉันเถียง


"ก็ไม่แล้วไงหรอก แต่เธอควรจะรู้บทเรียนเกี่ยวกับการวางตัวต่อคนอื่นที่ไม่ได้รู้จักตัวตนเธอจริงๆก็เท่านั้น... เฮ้ย! กระดาษอะไรเนี่ย" ควีนยื่นมือเข้าใต้โต๊ะ ก่อนจะคว้ากระดาษที่ขยำเป็นก้อนออกมา เมื่อคลี่ออกมา มีลายมือหนึ่งเขียนเอาไว้ด้วยหมึกสีน้ำเงิน สำนวนแลดูคุ้นอย่างน่าประหลาด


"...Is it love? Why I care her so much..."


"อืมมม... ใครกันเนี่ย เขียนแล้วเก็บไว้ให้อนุชนคนเรียนคาบต่อได้ดูเนี่ย" ฉันพึมพำ ข้อความมันสื่ออะไรบางอย่างนะ สงสัยคนเขียนคงสับสนหัวใจตัวเองอย่างแน่นอน เหมือนกับพวกตัวเอกนิยายรักหวานแหววเลยเนอะ ไม่รู้ใจตัวเองสักที คนอ่านอย่างเราก็ได้แต่เซ็งแทนว่าทำไมมันซื่อบื้อถึงขนาดนี้น่ะ


"นั่นสินะ" ควีนเห็นด้วย ก่อนจะขยำมันกลับไปวางในใต้โต๊ะดังเดิม แต่แวบหนึ่งในความคิดทำให้ฉันหยิบมันออกมาอีกครั้ง แล้วจึงจัดการเติมข้อความหนึ่งลงไปด้วยปากกาหมึกเจลสีชมพูหวานใสแท่งโปรด


"...กลับไปคิดให้ดีก่อนนะ อย่ามาซื่อบื้อเลย เดี๋ยวมารู้ตัวสายไปก็น้ำตาตกใน แล้วก็จะมาเขียนระบายอีก แบร่ๆ tongue..."


"เฮ้ย! นี่เธอเขียนลงไปเลยเหรอ?" ควีนถามอย่างประหลาดใจขณะที่ฉันขยำกระดาษก่อนจะวางดังจุดเดิม


"ใช่... คนเขียนจะได้หายซื่อบื้อยังไงล่ะ" ฉันหันมายิ้มให้ควีนอย่างกวนๆ คนอย่างฉันน่ะทำได้ทุกอย่างแหละถ้าใจมันอยากน่ะนะ ถึงจะมีหลายคนหาว่าเป็นยัยตัวแสบก็ตาม แต่ฉันก็ไม่สนใจหรอก


"จ้า... แม่คุณ เด็ดจริงๆ สงสัยต้องมีคนเขียนต่อๆกันอีกแน่เลยนะ"


หลังจากเลิกเรียนและหมดคาบชุมนุม ฉันกับควีนจึงเดินกลับบ้าน แต่ก่อนที่จะออกประตูโรงเรียน ควีนก็เลี้ยวไปทางหลังสแตนเสียก่อน


"จะไปไหนน่ะ" ควีนหันมายิ้มอย่างร่าเริง "ไปหาพี่ต้น จะไปเอาเสื้อสักหน่อย ฝากพี่เค้าเก็บเผื่อไว้เป็นชาติแล้วยังไม่ไปเอาสักที"


เราสองคนเดินเข้าไป ซึ่งหลังสแตนจะทำเป็นห้องต่างๆ นั่งคือห้องคณะสีและห้องกรรมการนักเรียนนั่นเอง ตรงข้ามก็เป็นที่จอดรถซึ่งมีรถจอดอยู่พอสมควร แต่ไม่มากเท่าช่วงกลางวันแน่ๆ เพราะตอนนี้ก็บ่ายสี่โมงแล้ว


ประตูและหน้าต่างถูกเปิดไว้ มีบรรดากน.หลายคนนั่งคุย นอนเล่น ไม่ก็อ่านการ์ตูนอย่างสนุกสนาน ฉันเคยเข้ามาแล้วเมื่อปิดเทอม แต่ก็รู้สึกอยากมองรอบๆอยู่นั่นเอง ด้านขวาเป็นโต๊ะและคอมพิวเตอร์ มีแอร์ติดอยู่ด้วยแน่ะ ด้านซ้ายก็เป็นที่วางของและเคยเป็นที่นั่งของฉันกับควีนในตอนนั้นด้วย มีรูปกน.ทุกคนติดอยู่พร้อมชื่อบนผนังด้วยนะ


(มีต่อ)

Last edited by MiyaCatZ (2008-05-24 15:25:05)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#24 2008-05-17 17:12:16

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

ด้วยอะไรไม่ทราบที่มาดลใจ ทำให้ฉันมองไปทางตำแหน่งรูปของพี่บลู ...นทีกร อัครมณีชัย รองประธานนักเรียน... ในรูปพี่บลูยิ้มให้กล้องอย่างน่าเอ็นดูมาก พี่เขาก็ถ่ายรูปขึ้นอยู่เหมือนกัน ไม่ต่างกับตัวจริงมากนัก


"มาได้ไงเหรอครับน้องพิ้งค์?" คำพูดที่ดังขึ้นทำให้ฉันสะดุ้ง เสียงของพี่บลูนั่นเอง เมื่อหันไปก็ต้องเห็นพี่เขายิ้มแบบในรูปเป๊ะๆเลย ทำเอาใบหน้าฉันเริ่มร้อนผ่าว


"ควีนแวะมาเอาเสื้อค่ะ เพราะเราออกไปพร้อมกันทุกวันอยู่แล้ว"


"ครับ ขอบคุณนะที่อุดหนุนพวกพี่น่ะ" ฉันหันไปมองยัยควีนที่กำลังชำระเงินกับพี่กน.หญิงคนหนึ่ง "ต้องขอบคุณคนนั้นมากกว่าค่ะ พิ้งค์ไม่ได้ซื้อหรอก"


พี่บลูหัวเราะ "นั่นสิครับ แต่พี่ก็แปลกใจนะที่พิ้งค์มาที่นี่น่ะ"


"แปลกใจทำไมเหรอคะ?" ฉันถามอย่างสงสัย ทำให้คนตรงหน้าทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ทันที


"ก็เห็นเราทำท่าไม่ชอบพี่ก็เลยไม่คิดว่าจะมายังไงครับ" คำพูดนั้นทำให้กลับไปนึกถึงเรื่องที่ควีนว่าฉันจนได้ รวมถึงคำที่พี่บลูพูดเมื่อคาบสามด้วย โอ๊ยยย... ไม่นะ ฉันไม่ได้ไม่ชอบพี่บลูสักหน่อย ไม่ได้รังเกียจขนาดนั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าฉันชอบเขาอย่างนั้นแล้วกัน


"พิ้งค์ไม่ได้ไม่ชอบพี่นะคะ!!" ฉันอุทานกลับไปบ้าง นี่เขาคิดว่าฉันรังเกียจเขาหรอกเหรอ?


"อ้าว! น้องพิ้งค์ ไม่ได้รังเกียจเพื่อนพี่ งั้นก็แสดงว่า... เหอๆ" พี่ต้นหันมาทางฉันพอดี ก็คงไม่ใช่แค่พี่ๆสองคนหรอก แต่เป็นพี่ๆทั้งห้องราวๆ 5-6 คนนั่นแหละที่หันมาทางเราสองคน คราวนี้ฉันชักอายขึ้นมาเสียแล้วสิ


"ไม่ใช่ชอบแบบนั้นค่ะ แต่... พิ้งค์ก็ไม่ได้รังเกียจพี่บลูอยู่ดี" ฉันพยายามพูดเพื่อให้มันตรงกับสถานการณ์จริงๆ แต่ก็พูดไม่ออกอยู่ดี คำศัพท์ ไวยากรณ์ในหัวตีกันวุ่นไปหมดแล้ว


ยัยควีนที่รับเสื้อมาสี่ตัวพร้อมชำระเงินเรียบร้อยหันมาทางฉันทันที "อย่างน้อยพิ้งค์ก็ดีใจที่รู้จักกับพี่บลูแล้วกันค่ะ ก็เคลียร์กันได้แล้ว หนูขอตัวกลับบ้านก่อนแล้วกันนะ" ก่อนจะขยิบตามาทางฉัน ทำให้เราต้องออกไปจากตรงนี้โดยเร็ว


แต่ก็ไม่เร็วพอที่พี่บลูจะตามเราไม่ทันหรอก "เดี๋ยวพิ้งค์"


"มีอะไรคะ?" ฉันหันกลับไปทางพี่บลู ในสายตาฉัน เขาก็เป็นรุ่นพี่ที่สนิทกับฉันในระยะแรกเริ่มเท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น จริงๆนะ


เขามีทีท่าเคร่งเครียดเล็กน้อย "เอ่อ... เมื่อคาบสาม พี่ไม่มีเจตนาจะทำให้ไม่สบายใจหรอกนะ ที่รีบไปเพราะจะไปเรียนแล้วต่างหาก"


ยัยควีนหัวเราะก๊ากทันที "วิชาพระพุทธใช่มั้ยคะ หนูรู้นะ พี่ต้นเอาตารางสอน 6/5 มาให้น่ะค่ะ" ทำเอาพี่บลูหน้าแดงเลย "ครับ ใช่ๆ"
ฉันเองก็ยิ้ม ถึงในใจจะยังจำคำพูดนั้นได้ขึ้นใจก็ตาม "นี่พี่เขาไปเอามาได้ไงคะ?"


"ตอนมอบตัวพวกพี่แอบเม้มไว้หลายๆใบครับ ฮ่าๆๆ แต่ความจริงจะขอจากกน.ฝ่ายธุรการมาก็ได้ มีตารางทุกห้องทุกชั้นเลย" เขายิ้มอย่างอารมณ์ดี ทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆขึ้นมาเสียอย่างนั้น รู้สึกไม่อยากให้รอยยิ้มนั้นหายไปเลย... อยากจะให้พี่บลูยิ้มให้ฉันอย่างนี้เสมอ


"ดีจังเนอะ" ควีนว่า ก่อนจะอุทานอย่างตกใจเมื่อมองนาฬิกา "ว้ายยย... สี่โมงกว่าจะห้าโมงแล้ว รีบกลับบ้านกันเถอะ"


"เออใช่" ฉันว่า นี่มันก็เริ่มเย็นลงแล้วนะ ถึงเวลากลับบ้านเสียที และบ้านของฉันและควีนอยู่คนละทิศกันเลยด้วย บ้านควีนอยู่แถวงามวงศ์วาน แต่บ้านฉันอยู่ในเมืองทอง ซึ่งข้ามถนนมาก็เดินเข้าไปไม่ไกลเท่าไหร่


พี่บลูมองนาฬิกาของตนเองเพื่อดูเวลาให้แน่ชัด "เออใช่ พี่เองก็ต้องกลับบ้านเหมือนกัน เดี๋ยวรอพี่ไปเอากระเป๋าแป๊บนึงนะ เดี๋ยวพาต้นมาด้วย จะได้ออกไปพร้อมกันเลย"


"ดีเลยค่ะ" ควีนมีทีท่ากระดี๊กระด๊าขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินชื่อพี่ต้น ดูท่าคนๆนั้นที่เธอชอบแต่ไม่ยอมบอกพวกเราสักทีคงต้องเป็นพี่เขาแน่ๆ มิน่าล่ะว่า... ทำไมควีนถึงเลือกเบอร์ 5 ซึ่งเป็นพรรคของพี่ต้นและพี่บลูเมื่อต้นปี


ตอนนั้นควีนให้ฉัน แอ๋มและโต้งเลือกเบอร์นี้อีกด้วย และฉันก็ต้องเลือกทั้งที่ไม่รู้นโยบายเท่าไหร่เพราะวันที่หาเสียงนั้นฉันไม่ได้มาโรงเรียนนั่นเอง!!! จึงไม่รู้มาจนถึงตอนปิดเทอมนี่แหละ


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แก้เนื้อหาใหม่หมดเลยอะค่ะ =__= อย่าลืมอ่านกันใหม่นะคะ แหะๆ หยาดน้ำฟ้าขอโทษค่า >.<

24/05/2551

Last edited by MiyaCatZ (2008-05-24 15:06:00)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#25 2008-05-17 18:12:29

satoru
ผู้ดูแลบอร์ด
From: มศก.66 & ส.ก.น.27
Registered: 2005-03-15
Posts: 7,081

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

เง้อ 555

พูดถึงละครวิทย์แล้วเครียดวุ้ย ...

Offline

Board footer

Powered by FluxBB