Suannon Board

You are not logged in.

#51 2008-07-08 18:06:26

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

"...ไพ่มันบอกพี่ว่า ให้ทำตามสิ่งที่ถนัดและเป็นตัวเรามากที่สุด ทำเอาพี่งงเต้กเลยนะ แบบ... อะไรวะ! ตัวเองชอบอะไรก็ยังไม่รู้เลย แล้วจะให้มาเลือกในสิ่งที่ถนัดอีก ประสาทจะกิน" ทุกคนต่างหัวเราะออกมาอย่างสุดกลั้น ผมเองก็ยังอดยิ้มไม่ได้เลย ทั้งที่ตัวเองก็เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่นะในตอนนั้น


ส่วนผมไม่มีปัญหาหรอก แม่บอกว่าให้ผมเลือกชีวิตของตัวเองตามใจชอบ แต่ท่านก็เตือนว่าขอให้ผมทำทุกวันที่มีให้คุ้มค่าที่สุด อย่าปล่อยมันไปเพราะคำว่าเดี๋ยวก่อน เนื่องด้วยตามดวงแล้วผมอาจจะชวดสิ่งที่ต้องการและทำให้อีกฝ่ายเสียใจได้ด้วย


ผมก็เคยถามแม่อยู่หลายรอบนะว่ามันหมายความว่าอย่างไร แต่แม่กลับไม่พูดอะไรเลย


และผมก็เลือกเส้นทางได้แล้วยังไงล่ะ เรียนสถาปัตย์ไง


เอาล่ะ เรามาฟังต้นเล่าเรื่องต่อดีกว่า "...แล้วจากนั้นไม่นาน ตอนนั้นมันเป็นม.5 เทอมแรกไง พี่ก็สอบสอวน.ฟิสิกส์กับเลข ปรากฏว่าพี่ก็ได้ค้นพบตัวเองว่าชอบสองวิชานี้ที่สุด ก็เลยคิดอยากจะเรียนวิศวะไงครับ ไม่เหมือนกับนายบลู ที่ออกแนวศิลป์ไปสักหน่อย มันบอกว่าเคยคิดจะเข้าศิลป์-ภาษานะ เลือกวิทย์ไว้อันดับสองรองจากจีน แต่ดันได้เข้าวิทย์ซะนี่"

ในที่สุดมันก็ไม่วายเผาผมอีกจนได้ เฮ้ออ... ตอนนั้นผมก็เลือกเพราะความคึกคะนอง(ปนอยากทดสอบระบบเลือกแผนของโรงเรียนด้วย)หรอกนะ ปรากฏว่าโรงเรียนเลือกแผนวิทย์ให้มาเสียอย่างนั้น สงสัยเกรดผมตอนม.ต้นมันได้ 3.92 ล่ะมั้ง อาจารย์เลยจับยัดเสียอย่างนั้น


แต่ผมก็ไม่รู้สึกอะไรหรอกนะ จะเรียนอะไรก็เรื่องของผมนี่นา


น้องพิ้งค์หัวเราะคิก "แสดงว่าแม้แต่โรงเรียนยังไม่อยากให้พี่บลูไปสายศิลป์"


"ใช่แล้วครับน้อง ฮ่าๆๆ" ต้นพยักหน้า พร้อมกับชูนิ้วชี้และนิ้วโป้งแบบพิธีกรชื่อดัง


หลังจากนั้นพวกเราก็ไปหาอาหารกินกัน ด้วยที่เห็นว่านี่ก็บ่ายโมงเข้าไปแล้ว จึงไปกินในฟู้ดคอร์ทชั้นล่างลงไปอีกหนึ่งชั้นด้วยความประหยัดนั่นเอง


"น่าแปลกเนอะน้อง ที่เห็นลูกนักธุรกิจอันดับต้นๆของประเทศมานั่งกินข้าวในฟู้ดคอร์ทน่ะ ฮ่าๆๆ" ต้นหันมาแขวะผมเล่นอย่างสนุกปากอีกรอบ แต่ผมก็ไม่ถือสาอะไรหรอกนะ มันแค่พูดกวนไปวันเท่านั้นเอง


ความจริงน้องๆหลายคนก็รู้แล้วล่ะว่าผมเป็นใคร ฐานะแบบไหน แต่ผมก็ไม่คิดจะปิดบังอยู่แล้วล่ะ ส่วนตัวชอบอยู่ติดดินแบบนี้มากกว่า


"หายากเนอะ คนรวยๆคนอื่นก็ไม่ติดดินแบบนี้แน่ ไปพารากอนกันหมดแล้วมั้งคะ" น้องพิ้งค์ว่า ทำให้ผมต้องหลุดหัวเราะมาจนได้ "ไม่เอาๆ พารากอนของแพง แล้วใช่ว่าคนมีฐานะจะต้องซื้อแต่ของแพงไปหมดสักหน่อย แม่พี่ยังชอบไปซื้อเสื้อผ้ามือสองแถววังหลังอยู่เลย ห้องพี่กำลังจะมีการตั้งสมาคมคนชอบไปช็อปปิ้งอยู่แล้ว เห็นว่าแม่ๆหลายคนชอบไปกันนัก"


และพวกเราก็นั่งลงกินข้าวกันต่อ จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ของผมนี่เอง และแม่ก็โทรเข้ามาด้วยเพราะผมตั้งเสียงเฉพาะไว้ในแต่ละคน


ผมกดรับ "สวัสดีครับแม่ มีอะไรเหรอฮะ?"


(นี่บลู แม่เพิ่งได้บัตรเชิญงานเลี้ยงเต้นรำของกลุ่มเพื่อนเก่ามาน่ะ เขาบอกให้พาลูกๆไปด้วย นี่แม่เพิ่งบอกเจ้าบีม แบ๋ม และเจ้าเบลล์เนี่ย เหลือแต่ลูกคนเดียวนี่แหละ)


"อ่า... แล้วมีอะไรเหรอครับ?" ผมถามด้วยความสงสัย


(คือมีนาเพื่อนแม่เขาจะไปด้วย แล้วแม่ก็เลยจะมาบอกแค่นี้แหละ มีนายังไม่ได้บอกหนูพิ้งค์ แต่เธอคงจะต้องพาลูกสาวคนนี้มาด้วยแน่ๆ แค่นี้แหละจ้ะ อย่ากลับบ้านมืดล่ะลูก แม่ต้องไปดูชุดเสียแล้วว่าจะใส่อะไรไปดี งานจัดวันศุกร์ที่ 10 ตุลาน่ะ แต่แม่ก็อยากเตรียมตัวแต่เนิ่นๆอยู่ดี)


และแม่ก็วางสายไป ผมได้แต่ยิ้มอย่างขบขัน ท่านชอบเป็นแบบนี้แหละ ด้วยความที่ยังสาวอยู่ แต่ก็ไม่สาวมากแล้วล่ะ เพราะแม่ผมเป็นรุ่นพี่คนนึงของสวนนนท์เหมือนกัน รุ่นที่ 1 น่ะครับ ประหลาดใจพอไหม?


พิ้งค์ที่กลับมาพร้อมข้าวหน้าหมูเกาหลีกับควีนที่ถือชามก๋วยเตี๋ยวเดินกลับมา พร้อมกับมองหน้าผมอย่างประหลาดใจ "อ้าวพี่บลู ทำไมยิ้มอยู่คนเดียวแบบนี้ล่ะคะ?"


"แม่โทรมาอะครับ มีเรื่องให้ยิ้มมาฝากด้วย แต่ไม่มีอะไรหรอก" ผมบอกปัดไป แต่ในใจแอบตื่นเต้นเล็กน้อย ที่ผมจะได้เจอพิ้งค์อีกครั้งในช่วงปิดเทอม ทั้งที่ก็คุยโทรศัพท์กันแทบจะทุกคืนแล้วน่ะ


แต่พิ้งค์คงสวยน่าดู ถ้าสวมชุดราตรีน่ะนะ...


++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนนี้ปั่นตอนที่ 20 อย่างสนุกสนาน 555+

วางพล็อตไว้สมบูรณ์แล้ว เหลือแค่เขียนๆ และเขียนนั่นเอง ^__^

คิดว่าอีกสัก 12 ตอนคงจะจบได้ - -" (แต่ถ้าแบ่งครึ่งมันก็ไม่มาก เพราะตอนใหญ่แบ่งครึ่งบรรยายระหว่างพิ้งค์กับบลู)



ปล.ผลสอบย่อยฟิสิกส์ออกมาละ = o = คนเขียนตกอย่างสุจริต เย้ๆๆๆ ^o^" ได้คะแนนต่ำต้อยอย่างสุจริตล้านเปอร์เซ็นต์ กร๊ากกๆๆ น้อยสุดในห้องอีกนะ -*- (ชูนิ้วซิ ชีสสสส... บอกใบ้แล้วนะเฟร้ยยย T w T)

แต่ถ้าในห้องไม่มีการลอกกัน ก็คงมีเพื่อนร่วมชะตากรรม(บ๊วย)อีกหลายคนล่ะนะ - -"

(ถ้าเป็นในเรื่อง... นู๋ต้นคงจะได้ 8 และบลูได้แค่ 5 เท่านั้น หุหุ เต็มสิบเฉพาะปรนัยนะ - -* อัตนัยคิดว่าตายกันเป็นแถบ)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#52 2008-07-11 17:42:11

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

มาลงอีกรอบ (จะมีคนอ่านไหนหมอ? ใกล้สอบมิดเทอมละ เหอๆๆ)

มิดเทอมนี้คงงดเขียนไปก่อนนะคะ = = ส่วนตัวตอนนี้ถึงตอนที่ 23 แล้ว ไม่น่าจะมีเหตุการณ์ลงจนหมดก่อนจะได้มาเขียนนะ

รอกำหนดการละครวิทย์มาให้แน่นอนก่อน แล้วจะได้แก้ตอนก่อนๆด้วย ดังนั้นอาจจะมีบอกว่าให้ไปอ่านตอนเดิมอีกรอบ แต่มันไม่ส่งผลถึงเรื่องเท่าไหร่ เพราะที่ลงตอนนี้มันหมดเทอมหนึ่งไปแล้วนั่นเอง 555+

วันจันทร์ลงตอนที่ 13 เตรียมอ่านกันให้ดีๆนะคะ ^o^" หึหึ

(โดยเฉพาะม.6 ยิ่งต้องอ่านช่วงแรกๆใหญ่เลย!!)


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


- Chapter 15 : Ball Room Dancing <part 1> -


ฉันนั่งนิ่งอยู่ที่หน้ากระจก ตกตะลึงในความสวยของตัวเองอย่างที่สุด...


ในกระจกนั่นสะท้อนภาพเด็กสาวคนหนึ่งที่สวมชุดเกาะอกผ้าซาตินสีชมพูหวาน กระโปรงบานพลิ้วยาวประมาณเลยเข่ามาหน่อย เท่ากับกระโปรงนักเรียนเลย มีสายรัดที่ไหล่ขวา และมีดอกกุหลาบผ้าสีแดงเข้าติดอยู่ เป็นที่ยึดแถบผ้าชีฟองสีหวานที่คลุมไหล่สองข้างด้วยเลยทีเดียว


ผมที่ปกติจะออกฟูๆ ก็ดูมีน้ำหนักมากขึ้น ยาวเคลียไหล่สวยงาม เมื่อได้รับการดัดจากที่ม้วนผมไฟฟ้าแล้วก็ทำให้เป็นลอนสวยงามยิ่งขึ้น


พี่แพม พี่สาวของฉันที่เรียนบัญชีปีสองยิ้มอย่างมีความสุข (เพราะได้แต่งหน้าน้องบังเกิดเกล้านั่นเอง) "แหมพิ้งค์ สวยเหมือนกันนะเนี่ย แต่งหน้าขึ้นเลยทีเดียว"


พี่สาวฉันก็จะได้ไปงานที่แม่จะพาไปด้วยเหมือนกัน ความจริงก็คือได้ไปกันทั้งบ้านนั่นแหละ เพราะเป็นงานที่เพื่อนๆสมัยเรียนของแม่จัดขึ้น พี่แพมสวมชุดสีขาวมีขนนกติดอยู่ด้วย ดูน่ารักใช่เล่น ผมที่ยาวตรงถึงหลังทำให้ดูสวยสง่าด้วย ฉันคิดว่าอาจมีคนมองพี่สาวฉันตรึมแน่ๆ


และพี่ของฉันก็เก่งด้านการเต้นลีลาศอีก ดังนั้นตั้งแต่พี่ฉันกลับบ้านมา ก็ต้องฝึกเต้นจนตอนนี้คิดว่าขึ้นม.6 ไปคงสบายกับวิชาพละแน่ๆ เพราะเรียนมาหมดแล้วนั่นเอง ตั้งแต่จังหวะบีกินส์ ชะชะช่า และอีกมากมายสารพัด


"หัดไว้ ทักษะลีลาศก็สำคัญนะพิ้งค์ เวลาออกงานนี่ถ้าเต้นไม่เป็นก็ขายหน้าแย่" พี่แพมบอกไว้อย่างนี้


หลังจากจับเจ้าเพียว น้องชายคนเล็กซึ่งอยู่ป.6 แต่งตัวแล้วก็ขึ้นรถไปกัน สถานที่ๆจัดนั้นอยู่ในฮอลล์ใหญ่ของโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ทำไมเพื่อนๆของแม่ฉันแต่ละคนช่างรวยกันเหลือเกินเนี่ย ป้านภาแม่ของพี่บลูก็คนนึงแล้ว หวังว่ารุ่นฉันคงจะรวยๆกันแบบป้าๆน้าๆรุ่น 1 ของสวนนนท์บ้างนะ สงสัยจัดเพราะปีนี้ไม่มีงานราตรีนั่นเอง เลยต้องมาจัดกันเองนี่แหละ


หลังจากรถลงทางด่วนมาย่านสีลม ก็ต้องเจอกับปัญหารถติด อันเป็นธรรมดาของเมืองหลวงแบบนี้ ฉันสังเกตเห็นแม่คุยโทรศัพท์กับเพื่อนบ่นเรื่องสภาพการจราจรอยู่เลย ฝ่ายพ่อก็ไม่พูดอะไร นอกจากชวนฉันและพี่แพมคุยเป็นระยะๆ


ไม่นานก็ถึงโรงแรม หลังจากขึ้นไปจอดรถและเข้ามากันได้ถึงหน้าห้องประชุมที่ใช้จัดงาน ก็ต้องรีบหลับตาลงทันทีเพราะแสงแฟลชที่แวบเข้ามาจนตาพร่าไปหมด


"ตายแล้ว นักข่าวมากันด้วยเหรอเนี่ย?" พี่แพมมองภาพเหตุการณ์อย่างไม่นึกจะเชื่อ ฉันเองก็เช่นกัน แต่แม่กลับยิ้มราวกับว่าชินชาเสียแล้ว


"จะไม่ให้มาได้ยังไงกันล่ะ ในเมื่อแขกสำคัญของงานเลี้ยงรุ่นภาคปัจจุบันทันด่วนแบบนี้เป็นครอบครัว 'อัครมณีชัย' ที่ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจมาหลายชั่วคนแล้วน่ะ" ทำให้ฉันร้องอ๋อในใจทันที ครอบครัวของป้านภานั่นเอง


แล้วมากันเป็นครอบครัวอย่างนั้นเหรอ? งั้นแสดงว่า...


"มีนา! มาพอดีเลยนะ ยัยเพ็ญกำลังถามหาอยู่พอดีเลยเชียว" ป้านภาเดินเข้ามาพร้อมผู้ชายสวมสูทคนหนึ่ง ดูจากอายุก็น่าจะราวๆวัยมหาวิทยาลัย แต่หน้าตาคล้ายพี่บลู แล้วก็ยังมีพี่สาวอีกคนที่หน้าเหมือนกับพี่คนนี้ราวกับพิมพ์เดียวกันอีก!! เธอสวมชุดคอจีนแขนกุดสีเหลืองมะนาวทำจากผ้าชีฟอง ผมยาวสลวยคล้ายกับพี่แพมเลย


"นี่ลูกๆคนโตของฉันเองแหละ บีมกับแบ๋มไง ฝาแฝดชุดแรกเลย" ป้านภายังพูดไม่เลิก แม่ของฉันได้แต่เออออ แถมยังแนะนำพี่แพมให้ป้านภาอีกต่อ ฉันจึงได้แต่มองไปรอบๆ มีคนมากหน้าหลายตาเต็มไปหมดเลย


ก่อนจะตกใจเมื่อมีมือมาจับที่บ่าของฉัน "หวัดดีพิ้งค์ ได้เจอกันอีกแล้วนะ" ฉันหันไปทันที


(มีต่อ)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#53 2008-07-11 17:46:49

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

"พี่บลู!!" เขายิ้มให้ฉัน ซึ่งทำเอาฉันอดยิ้มไม่ได้ เพราะดูท่าจะเป็นคนเดียวในงานที่แต่งตัวเสียแนวขนาดนี้ เพราะพี่เขาสวมแจ็กเก็ตสูทสีดำ กับกางเกงยีนส์สีดำเข้ากัน ข้างในเป็นเสื้อเชิ้ตสีฟ้าตามชื่อ ส่วนรองเท้าก็เป็นรองเท้าผ้าใบ อดสังเกตไม่ได้ว่าเขาดูหล่อกว่าที่เคยเห็นอีก


"สวยดีนะ สมชื่อเลย" ฉันทำท่าเขิน ก่อนจะย้อนกลับบ้าง "พี่ก็เหมือนกันแหละ ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้ามาจะบอกเหรอคะว่าชื่อบลู"
เขาหัวเราะ "ไม่รู้สิ พี่ชอบสีฟ้า เหมือนชื่อเลย เมื่อกี๊ก็เพิ่งรับศึกถ่ายรูปมาเนี่ย นักข่าวมาจากไหนก็ไม่รู้ ดีนะไม่ใช่ดาราไม่งั้นก็โดนถามว่าแอบกิ๊กสาวรุ่นน้องอยู่แหงเลย"


และไม่ทันที่ฉันจะแหย่กลับตามประสาที่สนิทกัน แม่กับป้านภา และพี่ๆของเราสองคนก็ตามมาพอดี "เจอกันแล้วสิจ๊ะ พิ้งค์กับบลู" แม่ฉันทัก


"สวัสดีครับ/ค่ะ" เราสองคนหันไปไหว้แม่และพี่ของอีกฝ่าย สังเกตได้ว่าพี่แพมยิ้มอย่างถูกใจเลยทีเดียว แต่กับพี่ๆของพี่บลูอันนี้ฉันไม่ทราบได้ว่าคิดอย่างไรกัน


แต่ตอนที่เข้าไปในห้องโถง พี่แพมก็แอบมากระซิบว่า "เฮ้ยพิ้งค์ คนนี้พี่ให้ผ่านเลยนะ" ทำเอาฉันหัวเราะแหะๆ ในใจคิดว่าก็ดีเหมือนกันที่ทั้งพี่สาวและแม่พิจารณาให้พี่บลูผ่านได้น่ะ


โปรดฟังอีกครั้งหนึ่งนะคะว่า... ก็ดีเหมือนกัน


คอนเซ็ปต์ของงานคือกินเลี้ยงและเต้นรำ เนื่องจากปกติแล้วงานราตรีฯจะไม่มีที่ให้มาเต้นลีลาศได้ (พี่บลูบอกฉันมา) และต่างก็ไม่สะดวกที่จะมากันเพราะรุ่นพี่ป้าน้าอาส่วนใหญ่ก็อยู่ต่างประเทศไม่ก็ต่างจังหวัด หรือในกรุงเทพฯ แถมต้องมาเจอรุ่นลูกรุ่นหลานอีกจึงไม่สะดวกอย่างที่ว่านั่นแหละ รุ่นบุกเบิกก็แบบนี้


ดังนั้นก่อนจะไปเต้นรำกัน ปากท้องย่อมมาก่อนเสมอ พี่บลูเห็นโอกาสที่พ่อแม่ และพี่น้องของตนแยกไปกันหมดจึงเข้ามาชวนฉันไปตักอาหาร แน่นอนว่าไม่ใช่งานค็อกเทล (เพราะกลัวเมื่อยกัน) จึงมีโต๊ะให้ ซึ่งน่าขำมากเพราะมันจัดเรียงเหมือนกับในโรงอาหารเลย เห็นว่าลูกของคนจัดที่เป็นรุ่น 26 แนะนำมาเรื่องการจัดโต๊ะแบบนี้


"เหมือนโรงอาหารเลยนะพิ้งค์ ถ้าเป็นโต๊ะไม้ เก้าอีกยาว และมีไอ้ต้น น้องควีน น้องโต้งและน้องแอ๋มมานั่งน่ะ" พี่บลูว่า ทำให้ฉันพยักหน้าอย่างเห็นด้วย


"นั่นสิคะ แต่นี่เป็นงานรวมรุ่นต้นๆ ก็เลยยังไม่ค่อยได้บรรยากาศเท่าไหร่ สมัยนั้นเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้" พี่บลูหัวเราะทันที "ตึกเรียนยังมีแค่ชั้นสองชั้นนี่แหละครับ ยังไม่สร้างตึกสอง โรงยิม สระว่ายน้ำ สแตนและก็ตึกใหม่เลย" ฉันหลุดหัวเราะออกมา ตอนที่ฉันเข้าม.4 มาได้ก็เห็นสแตนสร้างใกล้เสร็จแล้วนะ ตึกใหม่ด้วย


"แต่คนคงไม่เยอะเท่าตอนนี้หรอกมั้งคะ?" พี่บลูพยักหน้า และเราก็เริ่มเข้าประเด็นที่ว่าถ้าเป็นอีกสัก 30 ปีข้างหน้า โรงเรียนเราจะเป็นอย่างไรบ้างแล้วตอนนี้


"มีตึกสูงสิบชั้น มีลิฟท์ให้นักเรียนและอาจารย์ใช้ด้วย" ฉันเสนอ


"อืมม... พี่คิดว่าระบบกน. อาจจะกระจายอำนาจให้ม.อื่นๆบ้างแบบโรงเรียนอื่น และมีอำนาจมากกว่านี้เพราะเท่าที่พี่อยู่ก็ไม่เห็นจะมีงานทำเพื่อโรงเรียนบ้างเลย เสนอโน่นนี่ก็งั้นๆแหละ"


"โรงอาหารสิบโรง เผื่อจำนวนนักเรียนทะลุสูงถึงหนึ่งหมื่นคน!! และติดแอร์ทุกห้องเรียนด้วยเอ้า" ฉันพยายามเลี่ยงประเด็นอำนาจในโรงเรียน ก่อนจะหันมาพูดถึงเรื่องอื่นแทน


"งั้นพี่ขอโหวตโดมแบบใหม่ โปร่งใส แสงทะลุมาได้บ้างแต่ไม่มีความร้อนแฝงมา กันรังสียูวีเอและยูวีบีได้ด้วยแล้วกัน จะได้ไม่อึดอัดกัน แต่ถ้ามีนักเรียนสักหมื่นคน สร้างให้ตายก็อึดอัดอยู่ดีแหละนะ" ฉันหัวเราะกับคำวิจารณ์ของพี่บลู เป็นความจริงอย่างแน่นอนเลย ยิ่งสร้างแล้วรับเด็กเยอะขึ้นๆ สร้างโรงอาหารห้าสิบโรง ห้องเรียนหมื่นห้อง ตึกเรียนสูงเท่าใบหยกสอง มันก็ต้องอึดอัดเหมือนตอนนี้อยู่ดีแหละนะ


แต่ถ้าถึงขนาดนั้น... ประเทศไทยก็คงไม่มีปัญหาโรงเรียนไม่พอแล้วล่ะ เหอๆ


พี่บลูที่กินข้าวเสร็จแล้วหันมาคุยกับฉันต่อ "น้องพิ้งค์มีพิ้นฐานลีลาศแล้วหรือยังครับ? เดี๋ยวต้องเต้นด้วยนะ พี่เองแค่เรียนมาเทอมนึงยังเหนื่อยเลย"


ฉันยิ้มอย่างมั่นใจ "พี่สาวพิ้งค์สอนมาดีแล้วค่ะ แบบว่าขึ้นม.6 มาไม่ต้องเหนื่อยเรียนเลย"


"ดีมากครับ" พี่บลูชม ทำให้ฉันอดยิ้มอีกครั้งไม่ได้ ความจริงถ้ามางานไหนๆกับแม่ แม่จะไม่ยอมให้ฉันอยู่นอกสายตานะ แต่ทำไมวันนี้ปล่อยตามใจชอบก็ไม่รู้


เออใช่... แม่ฉันแอบวางแผนจับพี่บลูเป็นว่าที่ลูกเขยอยู่นี่นา อีกอย่างพี่แพมก็เห็นดีเห็นงามด้วยอีก ไม่ปล่อยก็แปลกแล้ว แต่คราวนี้ฉันไม่ว่าอะไรแล้วล่ะนะ... รู้สึกดีที่อยู่กับพี่เขาทุกที


"พี่บลูจ๋า~" มีเสียงใสๆดังขึ้น ก่อนจะมีร่างบางที่สวมชุดแซกสีม่วงหวานวิ่งเข้ามา


น้องเบลล์!! น้องคนที่ฉันรู้จักตอนสมัยอยู่โรงเรียนเก่านี้นา!!


"อ้าว... มีอะไรเหรอเบลล์?" พี่บลูหันไปถาม เขาเป็นพี่ของเบลล์อย่างนั้นเหรอ?


น้องเบลล์ยิ้มก่อนจะตอบ "แม่เรียกพี่ให้พาพี่สาวคนนี้ไปเปิดฟลอร์ค่ะ"


+++++++++++++++++++++++++

ลงทุกๆ 3 วันเป็นทางเลือกที่ดีเนอะ (?) = w =

อาทิตย์หน้าช่วงเข้าพรรษา สอบมิดเทอมเสร็จก็จะไปเชียงใหม่ กลับมาเสาร์ที่ 19

(วันที่ 20 นัดหมอฟันไว้พอดี ดูว่าฟันคุดอันนี้มีอันตรายมั้ยย T w T เพราะมันงอกมาต่อจากฟันกรามในสุดเลยง่ะ อะไรจาพอเหมาะพอเจาะขนาดเน้~)

ขอบคุณมิตรรักแฟนนิยายทุกท่านที่ตามอ่านค่ะ ^__^ ยอดคนดูจา 700 แระน้าา


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#54 2008-07-14 15:37:10

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

555+

ในที่สุดก็ตามมาอ่านนิยายสักทีนะ (เห็นได้เลยกับอาการโวยวาย เดี๋ยวเอาเราเป็นไซคีเลยมั้ยย =[]=  อยากเป็นนางเอกของนายบลูพอดีเลย กร๊ากกก >o<~)

น่าจะรู้มั้งว่านี่มันละครวิทย์ จาเอานางงามมาเล่นเรอะท่าน - -* (หาจากไหน?? ไม่มีงบจ้าง แค่เอากลุ่มตัวเองมาก็ประหยัดไปได้โขแล้ว 555+)

ลงตอนใหม่ดีกว่า ครบกำหนดแย้วว >w< อีกรอบคือวันพฤหัสนะคะ ตอนเดียวละก็ขึ้นเปิดเทอมสองเลย (ตอนนั้นคงอยู่เชียงใหม่ แต่จะเอานิยายไปพิมพ์แน่ๆ เผื่อขี้เกียจไปไหน แหะๆๆ)


+++++++++++++++++++++++++++++++++


- Chapter 16 : Ball Room Dancing <part 2> -


ผมรู้สึกมีความสุขนะ หลังจากที่เจอน้องพิ้งค์ แถมนั่งกินข้าวด้วยกันอีกน่ะ


และพี่บีมกับพี่แบ๋ม พี่สาวพี่ชายที่เป็นฝาแฝดกันก็บอกกับผมพร้อมกับยิ้มอย่างพอใจด้วย


"น้องคนนี้น่ารักจังเลยบลู นิสัยดี กิริยาน่ารักด้วย" พี่แบ๋มยิ้มหวานอย่างมีเลศนัย


ส่วนพี่บีมสิ... "ถ้าไม่ติดว่าเป็นเด็กของแก พี่จะจองไว้เลยนะเนี่ย... แต่พี่สาวเค้าที่สวมชุดขาวๆนั่นก็น่ารักดีนะ เห็นเก่งเต้นลีลาศด้วย จะเก่งเหมือนพี่หรือเปล่าเถอะ" พี่บีมเองก็ชอบเรื่องเต้นลีลาศ เป็นคนติวให้ผมเองเสียด้วยซ้ำ เพราะผมเป็นคนเดียวในบ้านที่ไม่ค่อยออกงานสังคม ด้วยความที่ไม่ชอบนั่นเอง


ก็แหม... ใครจะไปทนฟังป้าแก่ๆ เม้าท์เรื่องที่ว่าใครมีสร้อยเพชรราคาแพงกว่ากันไหวล่ะ


ก่อนจะมีงานเข้าอย่างปัจจุบันทันด่วนเมื่อน้องสาวผม ยัยเบลล์วิ่งเข้ามา "พี่บลูจ๋า~"


"อ้าว... มีอะไรเหรอเบลล์?" ผมหันไปถาม หวังว่าจะไม่มีการฆาตกรรมในโรงแรมแห่งนี้เป็นพอ อย่ามีระเบิดพลีชีพด้วยจะดีมาก เพราะผมกำลังกลัวๆอยู่เนื่องจากรัฐมนตรีบางท่านก็มาทานข้าวกันเองในภัตตาคารชั้นบนสุด


แต่ไม่ใช่อย่างที่ผมคิด ยัยเบลล์ยิ้มก่อนจะตอบ "แม่เรียกพี่ให้พาพี่สาวคนนี้ไปเปิดฟลอร์ค่ะ" เธอคงหมายถึงพิ้งค์... แต่ให้ตายเถอะ!! เปิดฟลอร์เนี่ยนะ!!!


"เอ่อ..." พิ้งค์เริ่มพูด สีหน้าลังเล "นี่น้องเบลล์ที่ชอบนิยายเรื่องปาฏิหาริย์รักเคียงรั้วตอนกีฬาสีอัมพรปี 49 หรือเปล่า?"


เบลล์หันไปทางพิ้งค์อย่างประหลาดใจทันที "ฮะ!! นี่พี่พิ้งค์ คนที่สอบเข้าสวนนนท์ได้เมื่อปีก่อนใช่มั้ยคะ? ตายแล้ว... หนูลืมเลยอะค่ะพี่ ขอโทษทีนะคะ แหะๆ" นี่คือรายการระลึกความหลังใช่ไหมครับท่านผู้ชม... สองสาวหันมาคุยกันเองแล้ว


"ใช่แหละเบลล์ แต่งานเปิดฟลอร์นี่เราต้องรีบไปไม่ใช่เหรอ?" ผมเริ่มเร่ง มีงานเข้ามาผมก็ต้องรับผิดชอบนะ ไม่ว่าจะเป็นการบ้าน งานกรรมการนักเรียน ก็ต้องทำให้สำเร็จเสร็จสิ้น หรือถ้าทำสาวที่ไหนท้องก็ต้องรับผิดชอบอีกนั่นแหละ (คงไม่ใช่สาวไหนหรอกนอกจากพิ้งค์... เฮ้ย!!)


"เออใช่... งั้นรีบมาเลยดีกว่าค่ะ" เบลล์อุทานก่อนจะเดินนำเราสองคนไปทันที ผมจึงต้องจับมือพิ้งค์จูงไปด้วย เพราะคนที่เยอะแบบนี้อาจจะทำให้การเปิดฟลอร์ช้าได้แน่ถ้าหลงทาง ทำงานเขาเสียอีก ไม่เอาๆ


และเมื่อมาถึง ดนตรีก็เริ่มกระหึ่มขึ้น จังหวะบีกินส์นั่นเอง ยังง่ายอยู่


แต่ทำไม... มันต้องต้องเป็นเพลงที่ผมใช้เรียนเมื่อเทอมหนึ่งด้วยวะ


"โศกา... โศกา... โศกาเสียจนน้ำตาไม่ไหล โศกาเสียจนน้ำตาตกใน ใครเล่าใครเขาจะเห็นใจโศกี..." ผมใช้มือซ้ายกุมมือขวาของพิ้งค์ไว้ ก่อนจะใช้มือขวาแตะที่เอวของเธอ เอวคอดแบบนี้แอบทำให้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะเท่าไหร่เลย ก่อนจะเริ่มก้าวเท้าตามจังหวะ น้องพิ้งค์เธอก็รับได้ดีเลยทีเดียว ทั้งหมุนและเต้นไขว้ (พี่แบ๋มแนะนำว่าให้เต้นแบบที่สอบนั่นแหละ พี่ผมอยู่รุ่นที่ 24 ครับ)


และเมื่อมีคนจับคู่เข้ามาเต้นในฟลอร์หลังเสียงปรบมือ ผมก็เลิกเกร็งสักที ก่อนจะหันมาคุยกับน้องพิ้งค์ "แทบแย่เนอะพิ้งค์"
เธอพยักหน้า "ใช่ค่ะ แบบคนจ้องมากันหลายสิบตาแบบนี้ มันเขินนะคะ"


แล้วเราก็ยังเต้นกันเองต่อไป ผมก็ถือโอกาสเล่าเสียเลยว่าลีลาศม.6 ต้องเรียนอะไรบ้าง ก่อนจะแฉว่าเพลงที่เปิดฟลอร์ มันก็เป็นเพลงที่ผมใช้เรียนจังหวะบีกินส์เมื่อตอนเรียนแรกๆนั่นแหละ พิ้งค์หัวเราะเสียยกใหญ่


"ฮ่าๆ แปลกนะคะ ทำไมต้องเอามาแต่เพลงสุนทราภรณ์มาเต้นลีลาศด้วยก็ไม่รู้"


ผมยักไหล่ "ไม่รู้สิ มันคงจับจังหวะง่ายดีมั้ง?"


แต่เต้นได้ไม่นานผมก็ชักเบื่อ พิ้งค์เองก็เช่นกัน เธอเป็นคนที่เดาอารมณ์จากสีหน้าง่ายมากๆ ดังนั้นผมจึงชวนเธอออกมาเดินเล่นจะดีกว่า


"จะไปไหนล่ะคะ ในโรงแรมแบบนี้มันไม่มีที่เที่ยวเล่นนะ"


"เปิดห้องแล้วนอนกันมั้งครับ" พูดพลางยักคิ้วใส่อย่างกวนๆ แน่นอนว่าผมล้อเล่น แต่น้องพิ้งค์ไม่คิดอย่างนั้นน่ะสิ เอามือมาตีที่ไหล่ผมอย่างแรงเลย "พี่บลูนี่ก็... บ้าๆ บ้าที่สุดเลย"


ผมหัวเราะ "เอาน่า พี่ล้อเล่น แต่ถ้าอยากทำจริงนี่ไม่ว่ากันนะ" เธอหน้าแดงทันที


ว่าแต่ทำไมผู้หญิงต้องชอบโวยวายว่าบ้าๆๆ แบบนี้ทุกทีนะ นึกว่าจะมีแค่ในนิยายที่แต่งโดยนักเขียนรุ่นเก่าเสียอีก


ผมเดินไปมาหน้าลิฟท์ ตรงนี้เป็นโถงยาว ไม่มีใครผ่านไปมาหรอก แต่แน่นอนว่ามีกล้องวงจรปิดอยู่แถวนี้เพื่อความปลอดภัย ผมเคยมาโรงแรมนี้บ่อยๆนะ จากการที่แม่พาไปออกงาน หรือมีธุระแถวนี้ก็ตาม และผมก็ชอบไปยังที่ประจำที่หนึ่งด้วย... ระเบียงชมวิวไง


(มีต่อ)

Last edited by MiyaCatZ (2008-07-14 15:44:59)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#55 2008-07-14 15:42:32

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

เมื่อนึกออกก็จัดการกดปุ่มลิฟท์ที่เป็นปุ่มขึ้นทันที น้องพิ้งค์มองอย่างสงสัย "พี่บลูคิดออกแล้วเหรอคะว่าจะไปไหน?"


ผมหันไปยิ้ม "ใช่ ที่ประจำของพี่เลยแหละ มากันเร็ว" และเราก็เดินเข้าลิฟท์หลังจากประตูเปิดขึ้น จังหวะเหมาะพอดีเลยนะ เจ้าลิฟท์น้อย...


หลังจากถึงชั้นที่ต้องการแล้วก็เดินไปยังทางที่คุ้นชิน และเมื่อผลักประตูกระจกออกไป ก็สัมผัสได้ถึงลมเย็นที่พัดเข้าปะทะใบหน้า เวลาอยู่บนที่สูงๆลมจะเย็นสบาย และวิวข้างนอกก็สวยด้วย แสงไฟในเมืองถือเป็นภาพที่สวยที่สุดของผมอย่างหนึ่งเลยทีเดียว


รอบข้างจัดเป็นสวนดอกไม้เล็กๆ ปูหินอย่างสวยงามไว้บริการลูกค้าที่อยากดูวิวทิวทัศน์ มีม้านั่งให้ด้วยแหละ แต่ผมก็เดินไปยังขอบระเบียงปูนจนได้ มีน้องพิ้งค์เดินตามมาอีกที


"น้องพิ้งค์รู้มั้ยครับ..." ผมหันไปพูดกับเธอ "...พี่เคยมาโรงแรมนี้บ่อยๆ แต่ด้วยความที่เบื่อง่าย เห็นแต่ไฮโซไฮซ้อมาอวดความแพงของเพชรอย่างเดียวแล้วอดส่ายหน้าไม่ได้ ก็เลยต้องออกมาเดินเล่น พ่อพี่เลยพามายังจุดชมวิวที่นี่แหละ ซึ่งพี่ก็ชอบมากเลย บรรยากาศของแสงไฟในกรุงเทพฯยามค่ำคืนแบบนี้น่ะ โรแมนติกใช่ย่อยนะ"


"นั่นสิคะ พิ้งค์ก็ชอบ บรรยากาศแสงไฟแบบนี้ ชอบมากเลย รองลงมาก็เป็นพระอาทิตย์ตกนี่แหละค่ะ" เธอหันไปมองทิวทัศน์อย่างสนใจใคร่รู้ ลมที่พัดมาก็เย็นสบาย แสงไฟสีนวลก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่า... บรรยากาศมันโรแมนติกกว่าที่เคยจริงๆ


"บ้านพี่อยู่ตรงโน้นเอง" ผมหันไปชี้ทางหนึ่ง ทำให้คนข้างตัวมองตามอย่างงงๆ


"บ้านพี่อยู่เมืองทอง ซอย 12 ไม่ใช่เหรอคะ?"


ผมหัวเราะ "พี่มีบ้านหลักอยู่แถวสาธรน่ะ ตรงที่ชี้ไปนั่นแหละ จะไปค้างช่วงวันหยุด ความจริงปิดเทอมก็ควรจะไปอยู่นะ แต่งานรับน้องม.1 มันทำให้พี่กลับไม่ได้ ต้องอยู่บ้านเมืองทองยันเปิดเทอมเลย"


"อ๋ออ..." พิ้งค์ร้องอ๋อ ก่อนจะหน้าแดงๆบ่งบอกว่าอายที่ไม่รู้


ผมจึงหันไปปลอบ "เอาน่า... การไม่รู้มันก็ไม่ผิดนะ เพราะพี่ก็ไม่เคยบอกนี่นา"


"นั่นสิคะ แต่พี่บลูนี่ดีจัง เป็นถึงลูกเจ้าสัว มีเงิน อยู่อย่างสบายด้วย"


"แต่มันก็ไม่ได้สะดวกเสมอไปหรอกนะ การมีเงินเนี่ย เพราะพี่ก็ยังต้องไปฟังซ้อๆทั้งหลายมาอวดโน่นนี่เล่นอยู่ดี มันสนุกตรงไหนก็ไม่รู้ ใครจะแต่งงานกับพี่อย่าบ้าวัตถุเชียว เพราะพี่ชอบคนที่เห็นค่าจิตใจสำคัญกว่าเรือนเงิน"


พิ้งค์หันมามองผม "พิ้งค์ไม่ได้สนใจเรื่องวัตถุอยู่แล้วนะ... เข้าข่ายสเป็กพี่บลูมั้ยคะ?"


ผมยิ้มหวานกลับไป "เข้าสิ พิ้งค์ยังเป็นเด็กมีจิตใจดี ทำตัวน่ารัก ถึงจะดื้อไปบ้างก็เถอะนะ"


และเราก็มองหน้ากัน แสงไฟสีเหลืองอ่อนทำให้หน้าของพิ้งค์ดูนวลสวย ยิ่งเธอแต่งหน้าบางๆ ก็ทำให้น่ารักขึ้นเป็นกอง ลมที่พัดก็ทำให้ผมลอนๆนั้นพลิ้วไหว ตาโตจ้องผมไม่กะพริบเลย


"พิ้งค์ไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ... แต่ตอนนี้ก็จะพยายามไม่ดื้อแล้วนะ" เธอพูดตอบผม แต่น้ำเสียงดูจะเคลิ้มๆราวกับสติสัมปชัญญะหายไปหมด


"ดีแล้ว..." ผมหันมาตอบ น้ำเสียงผมก็เป็นแบบเธอนั่นแหละ ในหัวสมองผมไม่รับรู้อะไรอีก นอกจากสายตาที่มองไปยังพิ้งค์ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ การหายใจเริ่มติดขัด ใบหน้าร้อนผ่าว


ก่อนจะค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปใกล้พิ้งค์ ขาเริ่มขยับให้เข้าใกล้เธอ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ขัดขืนแต่อย่างไร กลับมองผมด้วยสายตาเคลิ้มๆเสียด้วยซ้ำ


"พี่บลู..." พิ้งค์พึมพำ ตอนนี้หน้าของผมเริ่มโน้มเข้าหาใบหน้าใสๆนั้นแล้ว และใกล้เข้าไปเรื่อยๆ ก่อนจะได้ลิ้มรสริมฝีปากอ่อนนุ่มที่มีลิปกลอสกลิ่นเชอร์รี่ทาไว้ หอมหวาน...หวานจริงๆเลย


อา... จูบแรกของผม เชื่อแล้วล่ะว่ามันหอมหวานน่าประทับใจจริงๆ


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


อย่าหาว่านางเอกคนนี้ใจง่ายนะ = [ ] =!! (มีผู้ชราข้างบนสับไปแล้วรอบนึง T w T เหอๆๆ พุธก่อนโน้นน่ะนะ)

ก็แค่... อารมณ์พาไปเท่านั้น 555+ บรรยากาศสลัวๆ โรแมนติกกะลังดี กับคนที่แอบชอบสองต่อสองนี่มันก็นะ (- 3 -)

อารมณ์พาไปนี่มันจริงนะ ถึงคนเขียนจะไม่เคยเจอเองก็ตาม





ปล.รู้สึกอีตาบลูมันแอบหื่นได้ใจ -*- เอิ้กกกกก~ เล่นกันแรงไปหน่อยตามประสาที่สนิทกันแล้วน่ะนะ แต่แน่นอนว่า he รักนวลสงวนตัวนะคะ!!

อ่อ... ละก็คงจะไม่มีฉากแบบนี้ไปอีกนานนนน(หลายตอน) =w= เสนอบ่อยๆไม่ดีเน้อ





ปล2.รอให้โพสต์กับครบสามคนครบคณะก่อน(วิน ฟ้า ชาย่า) ถึงจะพิจารณาลบรูปได้นะฟ้า 555+ (ออกแนวอยากได้คอมเม้นเพิ่ม ไม่ใช่ละๆ)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#56 2008-07-14 20:53:24

LagooNz
สมาชิก
Registered: 2006-08-08
Posts: 3,631

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

เรตแบบใหม่   น+18

เรตติ้งเก่า   ร/18   ไม่ก็   ฉ

55+:lol::lol::lol:

Offline

#57 2008-07-15 22:00:40

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

(โหมดคอมเมนท์ แหะๆ)


ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกพัด = =

เอา น+13 ก็พอ เด็กสมัยนี้เจอฉากล่อแหลมเย้อะเยอะ หนังสือนิยายรักหวานแหววหลายเรื่องนี่ตัวดีเลย!!

(เผลอๆนิยายพี่กลายเป็นว่าจืดไปด้วยซ้ำ ฉากเลิฟซีนไม่ได้ใจอีกเอ้า -*- เหอๆ แต่พี่ยึดหลักของนักเขียนชั้นครูมาด้วยไง ผสมกับยุคใหม่ที่ต้องมีความแปลกแหวกแนว 555+ และเอาใจตลาดเล็กน้อย)

นิยายบางเรื่องเห็นมีฉากจูบเยอะนะ เรื่องทะลึ่งตึงตังก็เพียบ แต่เด็กม.ต้นมันยังอ่านกันอ่ะ คิดดู <--- อันนี้เพื่อนให้นิยายชุดนี้เป็นของขวัญวันเกิดย้อนหลังแบบบังเอิญ แหะๆ นักเขียนดังกันทั้งนั้นด้วยนะ แต่ไม่ไหวจริงๆ

ไม่อยากวิจารณ์มาก แฟนนิยายสนพ.นี้แรงจริงๆ = = ไม่อยากยุ่ง ไม่ขอพูดถึงด้วย


(นี่มันคอมเมนท์หรือวิจารณ์นิยายรักสมัยนี้ฟระ แหะๆ)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#58 2008-07-16 20:44:59

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

วันนี้ขอลงนิยายก่อนกำหนด ด้วยเหตุผลที่ว่าพรุ่งนี้คงถึงเชียงใหม่สักเย็นๆค่ำๆ =w=

และถ้าเกิด Accident คอมเจ๊ง เน็ตล่ม หรือเอาแต่เล่นเกม รวมทั้งไม่มีเวลา จะได้ไม่ต้องเครียดนั่นเอง 555+

เมื่อคืนพิมพ์ถึงตอนที่ 25 เดี๋ยวไปกินข้าวคุยโทรศัพท์แล้วคงจะมาพิมพ์ต่ออีกนิดหน่อยนะคะ ^^


+++++++++++++++++++++++++++++++


- Chapter 17 : My First kiss –


ตีสองแล้ว...


แต่ฉันก็ยังนอนไม่หลับอยู่ดี ทั้งที่ก็พยายามข่มตาหลับอย่างสุดความสามารถแล้วนะ


ฉันจำได้ว่าออกมาจากงานตอนห้าทุ่มกว่า ถึงบ้านเที่ยงคืนครึ่งพอดี เพราะเวลาก็ล่วงเลยเข้ายามดึกแบบนี้ก็ทำให้รถราแทบจะไม่มีเลยทีเดียว


ซึ่งฉันยังจำภาพนั้นได้ติดตา ตอนที่ออกมาจากงาน เพราะพี่บลูยังไม่กลับตอนนี้ เขาจึงทำได้แค่โบกมือลาและทำตาละห้อย น่ารักน่าดู สำหรับคนที่จูบฉันน่ะนะ


จูบแรก... ก็นับว่าไม่เลวนะ และหลังจากนั้นก็เริ่มเข้าสู่เหตุการณ์สำคัญ...


"พี่บลู!!" ฉันอุทานอย่างตกใจ หลังจากที่เขาถอนริมฝีปากออกมาแล้ว แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่น่าอายมากเมื่อเห็นโฉมหน้าของคนที่จูบเราแบบนี้ พี่บลูใบหน้าแดงระเรื่อมองเห็นได้ชัดแม้จะอยู่ท่ามกลางแสงไฟสลัวของจุดชมวิว


"อ่า... พี่ขอโทษนะ" เขาขอโทษด้วยสีหน้าเขินๆ ฉันก็เช่นกัน เราต่างพูดไม่ออกเลย


เหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้... เราทำไปได้ยังไงกันนะ


นั่นก็ทำให้ต่างคนต่างไม่พูดจากันไปชั่วขณะ ก่อนพี่บลูจะพูดขึ้น "พี่ขอโทษอีกรอบนะ ยังไงเหตุการณ์ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว..."


"ยังไงคะ?" ฉันสงสัย พี่เขาคิดยังไงกันนะ พูดเสียเป็นพิธีการเชียว


"เรามาคบกันเถอะ เป็นแฟนกันนะพิ้งค์"


ฉันยิ้ม พี่บลูมีสีหน้าที่ดีใจมาก ฉันเองก็เช่นกัน ในที่สุดเราก็เป็นแฟนกันแล้วสินะ...


และนั่นก็ทำให้ฉันนอนไม่หลับจนถึงตอนนี้ นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วก็ทำให้ใจเต้น หวั่นไหว ไม่อยากจะนอนหลับเลย กลัวว่าตื่นมาแล้วเดี๋ยวจะลืมไปเสียก่อน


ก่อนจะตกใจเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ ฉันรีบรับไว้ทันที


(สวัสดีพิ้งค์ หลับหรือยังเอ่ย)


ฉันรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว พี่บลูโทรมานั่นเอง "อ่า... หวัดดีค่ะพี่ มีอะไรเหรอคะ?"


(ก็... คิดถึงอ่ะ เลยอยากโทร พี่เพิ่งถึงบ้านเนี่ย อาบน้ำเสร็จพอดี)


อ๋ายยย... ฉันเขินน้า อย่ามาหวานแถวนี้สิพี่บลู "พิ้งค์นอนไม่หลับอะค่ะพี่ ทำไงดีเนี่ย"


(งั้นคุยกับพี่แล้วกันนะ ก็พิ้งค์เป็นแฟนพี่นี่นา... หึหึ)


"ได้ค่ะ" ฉันไม่ปฎิเสธ ก่อนจะคุยกันอีกไม่นาน เพราะฉันเริ่มรู้สึกง่วงขึ้นมาจริงๆเสียอย่างนั้น และเมื่อหัวถึงหมอนไม่นาน ฉันก็หลับสนิทไปเลย


วันปิดเทอมของฉันไม่มีอะไรมาก นอกจากตระเวนไปเรียนกวดวิชาเพื่อเสริมความรู้ให้กับตนเอง ทั้งควีน แอ๋ม และโต้งก็ลงคอร์สเดียวและใกล้เคียงกับฉันด้วย เราจึงมีเวลาเจอกันแม้จะเป็นช่วงปิดเทอม


และในวันนี้ ก็ผ่านจากวันนั้นมาสองอาทิตย์ ใกล้เปิดเทอมแล้ว พวกเราจึงมีเรื่องคุยมากมาย ทำให้นึกถึงวันที่ฉันประกาศกับเพื่อนๆว่าคบกับพี่บลูขึ้นมาทันที


"วันนี้มาช้าจังพิ้งค์ เมื่อคืนกลับดึกเหรอ?" ควีนถามอย่างสงสัย ขณะที่นั่งรออาหารที่สั่งในพันธุ์ทิพย์งามวงศ์วาน เพราะเราสี่คนเรียนเลขกันช่วงบ่ายพร้อมกันนั่นเอง


ฉันพยักหน้า "กลับถึงบ้านเที่ยงคืนน่ะ แต่หลับตีสาม"


"ทำอะไรถึงตีสามเนี่ย" โต้งหันมาถาม "...หรือว่าแกมัวคุยกับพี่บลูอยู่หา?"


ฉันหน้าแดง "ก็... ใช่แหละ เราเพิ่งคบกันนี่เอง พี่บลูเค้าขอฉันตอนไปงานเลี้ยงเมื่อคืนน่ะ"


"หา!! จริงอ่ะ" เพื่อนๆทุกคนต่างอุทานอย่างแปลกใจ ก่อนจะรีบหุบปากกันทันทีเมื่อสายตาของคนทั้งร้านมองมาที่พวกเราเป็นตาเดียว
และฉันก็ต้องเล่าเรื่องความเป็นมาของเหตุการณ์นี้อีก แน่นอนว่าฉันไม่เล่าถึงฉากจูบหรอก เพราะเป็นอะไรที่ไม่น่าอวดอย่างแรง


ซึ่งทำให้ควีนต้องบ่น "เทอมสองเมื่อไหร่ กน.ชุดนี้จะมีชื่อแน่ๆก่อนที่จะหมดวาระ เพราะนอกจากจะมีรองประธานเป็นลูกเจ้าสัวชื่อดังแล้ว ยังเป็นคู่รักคู่สถาบันอีก พิ้งค์แอนด์บลู ศรีงามอร่ามหรูชมพูฟ้า..." ทำให้พวกเราหัวเราะอย่างยกใหญ่ ก็เป็นความจริงนะเนี่ย
ทั้งที่ไม่คิดมาก่อนหรอกว่าจะรักคนชื่อบลูได้สักวัน...


ตอนนี้พวกเราอยู่ที่เดอะมอลล์ แน่นอนว่ากำลังยืนอยู่ที่ร้าน write&read เพื่อรอพี่ต้นและพี่บลูที่จะตามมาสมทบนั่นเอง ทำเอาฉันกับควีนยืนรออย่างไม่เป็นสุขสักเท่าไหร่ ส่วนโต้งและแอ๋มก็กำลังเลือกปากกาสีที่หมดไปกับการจดบันทึกในหนังสือ คนที่ริเริ่มวัฒนธรรมการจดบันทึกเพิ่มเตืมคือควีน ตามด้วยโต้ง และเขาก็หันไปเผยแพร่ให้แอ๋มอีกทีหนึ่ง ส่วนฉันเองก็จดบ้างไม่จดบ้างตามประสาแหละนะ


(มีต่อ)

Last edited by MiyaCatZ (2008-07-16 20:55:49)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#59 2008-07-16 20:52:21

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

"แท่งนี้ดีมั้ยอ่ะโต้ง" เขาส่ายหน้าเมื่อควีนยื่นปากกาสีชมพูหวานจ๋อยมาให้ดู


"ไม่ดี หมึกไม่ค่อยมีคุณภาพ แถมซ้ำกับชาวบ้านได้ง่ายอีก ซื้อที่สวัสดิการยังได้อ่ะ" ควีนอมยิ้ม เธอคงกำลังคิดว่ามีเพื่อนอย่างโต้งนี่ดีมากเลยทีเดียว เพราะเราจะไม่ต้องหัวเสียกับการใช้ปากกาน้ำเงินไปสักระยะแล้วหมึกจะค่อยๆจางลงจนไม่ออกอีกเลย ทั้งที่ก็ใช้มาไม่นานนะ


และคนที่โต้งชอบซื้อปากกาให้บ่อยๆก็คือแอ๋ม เพราะเขาเคยบอกว่าแอ๋มซุ่มซ่ามและชอบทำปากกาหายบ่อยมากโดยเฉพาะตอนม.ต้น แต่การซื้อปากกาให้บ่อยอย่างออกนอกหน้าแบบนี้มันต้องมีอะไรบางอย่างแล้วล่ะนะ... เหอๆๆ


"สวัสดีน้อง เลือกปากกากันสนุกเลยนะ" เสียงคุ้นหูดังขึ้นจากทางด้านหลังของฉัน เมื่อหันไปก็ต้องพบกับพี่บลูกับพี่ต้น ที่สวมเสื้อยืดกางเกนยีนส์และรองเท้าผ้าใบเหมือนกันเป๊ะ เพียงแต่แตกต่างตรงสีเสื้อเท่านั้น พี่ต้นสวมเสื้อสีเขียวอ่อน ส่วนพี่บลูสวมเสื้อสีฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์


"แล้วพี่ไม่มีเสื้อสีอื่นเลยเหรอคะ?" ฉันหันไปถาม ด้วยความสงสัยปนสัพยอก แต่เขากลับยิ้มอย่างเอ็นดู "ก็บอกแล้วไงว่าพี่ชื่อบลู ถึงจะมีเสื้อสีอื่นก็ยังชอบสีฟ้าอยู่ดี"


พี่ต้นหัวเราะก๊าก "ต้องทำใจนะน้อง ไอ้เนี่ยมันใส่เสื้อสีฟ้าจนทุกคนเห็นเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ขนาดกางเกงในยังมีสีฟ้าอยู่หลายตัว" ทำให้พี่บลูต้องหันมาแยกเขี้ยวใส่เพื่อนรักทันที


"หยุดนะเว้ย นี่มันในห้าง ยังเอาเรื่องนี้มาพูดอีก อย่าๆ" เขายกมือ ก่อนจะหันมาทักฉัน "แล้วพิ้งค์ล่ะ? รอพี่นานมั้ย"


ฉันส่ายหน้า "ไม่นานหรอกค่ะ อย่ากังวลเลย มีพวกโต้งอยู่เวลาผ่านไปเร็วเสมอ"


"ใช่ค่ะ!!" ควีนและแอ๋มพูดสำทับ ทำเอาผู้ถูกกล่าวหาค้านด้วยอาการหมั่นไส้ "เออ เห็นเราเป็นตัวฆ่าเวลา เชอะ!! งอนๆ" ทำเอาพวกเราหัวเราะอย่างขบขันทันที


ส่วนฉันหันมามองพี่บลู เขาสะดุ้งเมื่อถูกฉันจับไต๋ได้ว่าแอบมองฉันอยู่ตั้งนานแล้ว ทำให้ต้องยิ้มออกมาจนได้ "แอบมองพิ้งค์เหรอ?"


"อืม... ใช่ ก็พิ้งค์น่ารักนี่" พี่บลูก้มหน้าเพื่อหลบสายตา เขามีทีท่าที่เขินจนน่าเอ็นดู ทั้งที่เราก็คุยโทรศัพท์กันจะทุกคืนแล้วนะ ไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง เพราะไปหากันไม่ได้นั่นเอง


คงแปลกใจใช่ไหมคะ? ที่ว่าทำไมบ้านเราอยู่ซอยข้างๆกันแต่ไปหาไม่ได้ เพราะพี่บลูกลับไปอยู่บ้านใหญ่แล้วน่ะสิ เพราะนี่เป็นช่วงปิดเทอมพอดี


และก็ยังอดดีใจไม่ได้ ที่เขาบอกว่าพี่ๆของเขาชื่นชอบฉันกันทุกคน รวมถึงน้องเบลล์ด้วย นึกดีใจที่ไม่มีอุปสรรคมาขัดขวางความรักของเราได้เลย ฉันช่างโชคดีเสียจริง


"เออควีน เดี๋ยวก็เปิดเทอมแล้วสิ" แอ๋มหันไปถามควีน เธอทำสีหน้าแปลกๆทันที


"โอย... จริงด้วยสิ อีกไม่กี่วันเท่านั้นเอง ต้องกลับไปทำกีฬาสีอีกแล้ว จ่ายค่าโน่นนี่สารพัด น่าเบื่อชะมัด พาเหรดปีที่แล้วก็นะ... ถูกจับโยนไปโยนมาเรื่องตำแหน่งและเครื่องแต่งกายเสมอเลย" เธอบ่นอุบอิบ ซึ่งฉันก็เห็นด้วยทันที ปีที่แล้วฉันและเพื่อนๆต้องรับหน้าที่เดินขบวน แน่นอนว่าสนุกมาก ฉันได้แต่งตัวเป็นนางฟ้าด้วยนะ คล้ายกับพี่ที่เล่นเป็นไซคีคนนั้นเลย เพราะฉันจำหน้าพี่สาวคนนี้ได้ตั้งแต่วันงานกีฬาสี


แน่นอนว่าปีกของฉันสวยกว่า ฮ่าๆๆ แต่ว่านะ... ส้นสูงมันทำให้เมื่อยขาชะมัดยาด ยืนกันตั้งนานกว่าจะได้ออกเดิน นึกหมั่นไส้ประธานของงานเสียจริง ตัวเองได้ยืนอยู่ในที่ร่มแต่ก็ดันชักช้า


อา... นึกถึงกีฬ่าสี ตอนนั้นฉันอยู่ 4/5 ยืนติดกับห้องพี่บลูเลยนี่นา คนละสีแต่ท้ายขบวนเหมือนกันเลย จำได้ว่าพี่บลูก็เดินพาเหรดด้วยเหมือนกันนะ? ตามคำบอกเล่า


ตอนนั้น... เราคงเคยเจอกันมาก่อนแล้วอย่างนั้นสิ ทำไมฉันไม่คิดมาก่อนเลยนะ โธ่เอ๋ย


"เปิดเทอมแล้วเราคงจะได้เจอกันบ่อยขึ้นนะ" เสียงของพี่บลูทำให้ฉันกลับมายังโลกแห่งความจริงได้อีกครั้ง เขามองฉันตาละห้อย ก็จริงแหละที่เราไม่ได้เจอกันนาน


"นั่นสิคะ..." ฉันยิ้ม เดี๋ยวเราก็จะได้เจอกันอีกทุกๆวันแล้วสินะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หยาดน้ำฟ้าไม่เก่งเรื่องเขียนฉากพวกนี้ -"- ขอสารภาพตามตรง และด้วยที่ชอบเอานิยายไปเปรียบเทียบกับนิยายดีๆทั้งหลายซึ่งไม่มีฉากพวกนี้เท่าไหร่ (แต่พอมาเป็นละครสิ...)

ก็เลยแอบอึดอัดใจนิดนึงเรื่องฉากจูบ ว่ามันก็ไม่เหมาะสมจริงอะนะ!!

(แต่มาเทียบกับแนวรักหวานแหวว ก็พอเบาใจอยู่แหละ)

พรุ่งนี้ขึ้นเหนือแล้ว (ไปปีนึงหลายครั้งอยู่นา อิอิ ตั้งแต่ยังไม่เกิดเลย) ไว้ถ้ามีไอเดียซื้อของดีๆมาได้ อาจจะทำเกมชิงรางวัลก็ได้นะ ^__^
คำถาม(ข้อสอบ...) จะเกี่ยวกับเนื้อหาของเรื่องเลยล่ะ 55+

ให้ส่งมาทางอีเมล์ แนบชื่อที่ใช้ในบอร์ด(ถ้าเล่น) แล้วจะเอามาพิจารณารางวัลกันดีกว่า

นี่เป็นไอเดียนะ อยากจะให้มีมั้ย? ^__^ ไปเชียงใหม่จะได้หาเรื่องช็อป 55+ (ไม่ใช่ละ)
รางวัลคงไม่มีใครเอาเป็นอาหารเนอะ =w= เดี๋ยวหมดเสียก่อน เหอๆ

ถ้าอยากให้มีเกมก็ขอเสียงในหน้านี้หน่อยก็ดีนะ ^^ อยากเล่นกันมั้ยย? จะได้เตรียมการได้เลย


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#60 2008-07-20 11:17:42

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

ลงตอนใหม่ และก็ไม่มีใครต้องการจะเล่นเกมเลย =w=

ดีเหมือนกัน เพราะคนเขียนไม่รู้จะหาอะไรมาเป็นรางวัล 555+ เชียงใหม่มีแต่อาหาร และคนเขียนก็ขี้เกียจไปเดินช็อปกับแม่ด้วย (ไม่ได้ชอบการเดินซื้อของ ยกเว้นบางเวลา หรือเข้าร้านหนังสือ เหอๆ ของชอบเลย)

ในตอนนี้เราจะมีนางร้าย(ชั่วคราว)เข้ามาสร้างสีสันในเรื่อง อิอิ ติดตามกันได้เน้อ

รู้สึกว่าอีตาบลูมันจะเสน่ห์แรงไปแล้วนะ!!!

ปล.แอบหวาดเสียวเล็กน้อย เพราะเอาเหตุการณ์ปีก่อนมาอ้างอิง... ก็จังหวะมันพอเหมาะพอเจาะเลยนี่นา >.<


++++++++++++++++++++++++++++++


- Chapter 18 : Story of Ex-Girlfriend -


ในที่สุดก็เปิดเทอมสักที... ผมรอมานานแล้ว


ถึงหลายคนไม่อยากจะให้เปิดก็ตามเถอะ แต่ตอนปิดเทอม ผมไม่ได้เจอน้องพิ้งค์บ่อยๆเหมือนอย่างคนอื่นนี่นา


และเช้าวันเปิดเทอม ผมก็รีบไปจองม้าหินหน้าตึกสี่ก่อนใครทันที ไม่นานนักพิ้งค์ก็มา ก่อนจะยิ้มให้ผมอย่างดีใจ "พี่บลู! อรุณสวัสดิ์ค่ะ"


"เช่นกัน" ผมยิ้มกลับ ไม่ได้เจอกันหลายวันเลย นับตั้งแต่ปิดเทอมไม่กี่วันผ่านมา แม้เราจะชอบโทรศัพท์คุยกันทุกคืนก็ตาม แต่ก็ไม่มีผลต่อความขยันอ่านหนังสือแต่อย่างใด สอบความถนัดสถาปัตย์ที่ผ่านไปนั้นก็นับว่าไม่ยากนัก


เพราะความลำบากใจอย่างหนึ่งในวันงานเลี้ยงนั้นมากกว่าเรื่องสอบเสียอีก นั่นคือเรื่องที่ผมดันทะลึ่งไปจูบน้องพิ้งค์เข้าให้นั่นแหละ รู้ครับว่ามันไม่ดี ไม่เหมาะสม ก็เลยต้องขอโทษน้องเขาเสียยาวว่าที่เกิดขึ้นเป็นเพียงอารมณ์พาไปเท่านั้น...


แต่ส่วนหนึ่งก็เกิดจากความรักด้วยนั่นแหละนะ... ซึ่งผมก็บอกไปเช่นนั้น


และเราก็ยังรักกันดี น่าแปลกที่โชคชะตาทำให้เราพบกันจนได้


พิ้งค์เข้ามาวางกระเป๋า "ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยอ่ะ วันนี้รีบมาโรงเรียนเพราะแม่ไปทำงานแต่เช้า เดี๋ยวไปก่อนนะคะ" ผมยิ้ม "ได้สิ เดี๋ยวพี่เฝ้าของให้แล้วกัน พี่กินมาแล้วล่ะ"


แล้วเธอก็ออกไปยังโรงอาหาร ผมมองไปยังเธอที่เดินก้าวฉับๆอย่างมั่นใจในทุกย่างก้าว จนลับสายตาแล้วจึงหยิบหนังสือเรียนออกมาอ่านแก้เบื่อ โต๊ะข้างๆมีเด็กสาวม.6 กลุ่มเจ้าประจำมานั่งเหมือนเคย แน่นอนว่าสมาชิกหลายคนคือเพื่อนร่วมห้อง และเป็นกลุ่มที่แสดงละครวิทย์กับผมด้วย แน่นอนว่าอาจมีถูกแซวได้เหมือนกันถ้าพวกเขามาถึง


ขณะที่ผมนั่งอ่านฟิสิกส์อย่างเพลิดเพลิน(ตรงไหน?) ก็มีมือมาจับที่บ่าสองข้างของผมจากทางด้านหลัง "หวัดดีจ้าบลู"


ผมหันไปมองต้นตอของเสียงด้วยความงง ไม่ใช่เพื่อนข้างโต๊ะเจ้าประจำอันประกอบด้วยฟ้า วิน หนุงหนิง และชาย่าแน่ๆ แต่เป็นเด็กสาวคนหนึ่งที่คุ้นเคย... คุ้นเคยจริงๆ


ใบหน้าขาวเหลืองแต่สวยลึกบาดใจ ผมตรงสลวยรวบไว้ หน้าม้ายาวปัดข้างเหน็บกิ๊บเผยหน้าผากใส ตาคมสีนิลมองผมอย่างเป็นมิตร แตกต่างจากเมื่อก่อนยิ่งนัก...


"พิณ... ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ" ผมทักทาย เธอทำได้แค่ยิ้มหวาน


"นั่นสินะ ฉันอยู่ห้อง 3 ส่วนเธออยู่ตั้งห้อง 5 ไม่มีวงโคจรมาพบกันเท่าไหร่หรอก" พิณว่า เธอชอบพูดออกแนวเสียดสีแบบนี้เป็นประจำจนผมเริ่มชินเสียแล้ว ตั้งแต่รู้จักกันครั้งแรกด้วยแหละ


พิณเป็นเพื่อนของแอน แฟนเก่าคนแรกของผม ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันแต่อยู่คนละห้อง ขณะที่ผมอยู่ห้องเดียวกับแอนนั่นแหละ และก็ไม่รู้มาก่อนจนกระทั่งหลังจากเริ่มจีบพิณ ซึ่งผมตกหลุมรักเธอมาตั้งแต่ค่ายคุณธรรมม.4 นั่นแหละ


ตอนนั้นผมเพิ่งขึ้นม.4 และอกหักมาครึ่งปีพอดี ซึ่งก็ทำใจได้แล้ว ส่วนพิณเองก็เฉยชากับผม ก่อนจะไปมีแฟนเป็นรุ่นพี่ห่างกันหนึ่งปี
ผมแอบชอบพิณมานานมากเลยนะ จนกระทั่งขึ้นม.5 ที่มีเหตุการณ์ทำให้ผมต้องเลิกชอบเธอไปตลอด เพราะนิสัยที่เหลือรับของเธอ
พิณมีแฟนเป็นรุ่นพี่ ซึ่งเราขึ้นม.5 ส่วนเขาขึ้นชั้นม.6 แน่นอนว่าผมที่มีสถานภาพเป็นเพียงเพื่อนของเธอ ก็ทำได้แค่ทักทาย ถามไถ่กันบ้างแหละ ฝ่ายพิณก็ดูจะสนิทกับผมมากขึ้นแล้ว บางครั้งถึงกับโทรศัพท์หาผมเลยทีเดียว คล้ายๆกับจะมีใจให้นั่นแหละ ทำให้ผมดี๊ด๊าไปเลย


แต่วันที่พวกกลุ่มกู้ชาติม.5 ตีกันกับพี่ๆม.6 นั้น ก็คือวันที่ผมรู้ความจริง


(มีต่อ)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#61 2008-07-20 11:21:14

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

ตอนที่มีการตีกันนั้น ห้องผมเรียนฟิสิกส์อยู่ ทุกคนต่างรีบวิ่งออกไปดูเหตุการณ์จนต้องเลิกเรียนกันโดยปริยาย แน่นอนว่าผมกับต้นเดินลงมาเพื่อจะมาดูเหตุการณ์ (เป็นสิ่งที่อันตรายมากนะ แต่ผมก็ทำ เหอๆ) โดยตอนที่อยู่แถวๆหน้าสวนเสริมปัญญา ก็มีกู้ชาตินายหนึ่งวิ่งผ่านผมกับต้นมาพอดี โดยมีแฟนของพิณวิ่งตามมา


แต่เมื่อเขาเห็นผม ก็กลับยิ้มแสยะ พร้อมกับเข้ามาชกเข้าที่ใบหน้าของผมอย่างแรงจนเสียหลักล้มไปกับพื้น


"นี่แน่ะ! ไอ้พวกกู้ชาติ เอ็งอย่าริมารุมเพื่อนร่วมรุ่นข้าอีกนะ"


ต้นรีบเข้ามาห้ามพี่คนนี้ทันที "พี่ครับ! เพื่อนผมมันไม่ใช่กู้ชาตินะครับ เราอยู่สายวิทย์ ห้อง 5/5 ต่างหาก" แต่เขากลับชี้มาทางผม


"ไม่รู้นี่หว่า ไม่มีปักบอกตำแหน่งห้องกับช่วงชั้น" เขาพูดก่อนจะเดินออกไป พิณรีบวิ่งมาทางเขาทันที "พี่นัท อย่าตามทำร้ายพวกนั้นอีกเลย เขาประกาศรวมม.6 ที่สแตนใหม่แล้วรีบไปสิ" ต้นมองไปยังพี่นัทอย่างเคืองๆ ผมรู้ชื่อพี่เขาได้ก็วันนั้นแหละ


"ข้าว่ายัยพิณต้องแอบไส่ไฟแน่ว่าแกไปจีบเค้าทั้งที่มีแฟน" ต้นว่า


"ไม่จริงหรอกน่า..." ผมพยายามเถียง แต่เมื่อมาคิดดีๆอีกที ก็รู้ว่าที่ต้นพูดมันก็มีส่วนถูกเช่นกัน เพราะดูๆไป พี่เขาเข้ามาต่อยผมแบบออกแนวจงใจแบบนี้มันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆ


และนั่นก็ทำให้ผมต้องตัดใจจากพิณไปได้ในที่สุด


"อ่าฮะ... สบายดีล่ะสิ แล้วยังคบกับพี่นัทดีอยู่มั้ย?" ผมหันไปถาม หนึ่งปีที่ผ่านมาเราก็ไม่ได้คุยกันมานานแล้ว ทักทายบ้างคงไม่เสียหายอะไร


"เลิกแล้ว" คำตอบเธอทำเอาผมงุนงง เกิดอะไรขึ้นกันนะ?


"ทำไมเหรอ" ผมหันไปถาม แต่พิณกลับยิ้มอย่างเศร้าๆ "พี่นัทมีนิสัยรุนแรง ฉันไม่ค่อยชอบเขาเท่าไหร่หรอก รู้หรือเปล่าว่าตอนต้นปีฉันเลือกพรรคนายด้วยนะ ให้เพื่อนๆช่วย ยัยแอนก็ยังช่วยเลือกเลย"


ถ้าเป็นปีที่แล้วผมคงดี๊ด๊าไปเลย แต่เผอิญในใจผมไม่มีพิณอยู่แล้วน่ะสิ มีแต่น้องพิ้งค์อยู่เต็มสี่ห้องดวงใจ ทำให้รู้ได้ทันทีว่าพิณต้องมีอะไรบางอย่าง


"ขอบใจนะ... แต่เรามีแฟนแล้วน่ะ" ผมตอบกลับไป พิณหน้าเสียเล็กน้อย "แต่ฉันไม่ได้จะมาขอคบกับนายนะ แค่จะขอเป็นเพื่อนที่ดีเท่านั้นเอง ก็ปีที่แล้วนายถูกพี่นัทต่อยเอานี่นา ทำให้ความเป็นเพื่อนของเราจบลงไปเลย ขอโทษด้วยนะบลู"


เอาวะ... เป็นแค่เพื่อนใช่ไหม "ไม่เป็นไร เราไม่ติดใจอะไรแล้ว เป็นเพื่อนเหมือนเดิมก็ได้"


เธอยิ้มหวาน "ขอบใจจ้ะ งั้นเดี๋ยวเจอกันตอนเรียนนะบลู บ๋ายบาย" ก่อนจะรีบเดินออกไปอย่างร่าเริง นี่ผมคงระแวงไปเองอย่างนั้นสินะ
ไม่นานนักต้นและน้องโต้งก็เข้ามาพร้อมกัน "หวัดดีบลู รีบมาเชียวนะ"


แน่นอนว่าคนพูดเป็นต้น ผมจึงทำได้แค่ยิ้มอายๆ "เออ แล้วน้องควีนของแกล่ะ ไม่เห็นทุกข์ร้อนเลยนะที่ยังมาไม่ครบแก๊งน่ะ"


เขาทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ "ก็ข้ารู้ว่าสองสาวที่เหลือไปกินข้าว แล้วข้าก็ไม่ได้อยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามันแบบคนแถวๆนี้ด้วย" แน่นอนว่าต้นมันกัดผมเสียเหวอะหวะ น้องโต้งได้แต่ยิ้มอย่างขำขัน มีเพื่อนคนหนึ่งบอกผมมาว่า ในซอยบ้านเธอมีไก่มาปลุกถึงรั้วบ้าน และแม่ของเธอตั้งชื่อไก่ตัวนั้นว่าโต้งด้วย ทำให้ผมอดขำไม่ได้ทุกครั้งที่นึกถึง


แต่ก็อดสังหรณ์ใจไม่ได้ว่ามันอาจจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับชีวิตของผม ซึ่งอาจจะเปลี่ยนไปได้อย่างไม่คาดฝันเลยทีเดียว


โต้งเข้ามานั่งข้างผม วางเป้ลงกับโต๊ะก่อนจะยิ้ม "พี่บลูครับ พี่เป็นแฟนกับยัยพิ้งค์แล้ว อย่าทำให้เธอเสียใจเชียวนะ เพราะพิ้งค์นอกจากจะสูญเสียเพื่อนมาตอนม.3 แล้ว ยังเคยถูกจีบก่อนจะถูกทิ้งไปแล้วด้วยเมื่อปีก่อน เพราะมีถ่านไฟเก่าเข้ามาแย่งไป ผมหวังว่ามันจะไม่เป็นแบบนั้นนะ"


ผมรู้สึกขนลุก นี่นายโต้งกำลังบอกผมอยู่กลายๆอย่างนั้นสินะ... ให้ตายเถอะ ผมไม่ได้คิดจะคบกับพิณหรอก เราเป็นแค่เพื่อนกันต่างหาก


"รู้ได้ด้วยเหรอน้อง? ว่าบลูมันเคยมีแฟนน่ะ" ต้นหันมาถามอย่างสงสัย รายนี้สงสัยอะไรก็ถามทุกคำ ตั้งแต่การเรียนยันเรื่องส่วนตัวนี่แหละ เรื่องเรียนก็ดีอยู่หรอกนะ แต่เรื่องส่วนตัวสิ...


โต้งยิ้ม "รู้สิครับพี่ ผมเคยเห็นพวกพี่มาตั้งแต่ม.1 แล้วล่ะ มีหรือจะไม่รู้ว่าพี่บลูเคยมีแฟน แล้วก็โดนเธอบอกเลิกตอนกลางปี 48 ใต้ตึกสาม ท่ามกลางสายตานักเรียนหลายคนที่รวมผมด้วยน่ะ" ผมทำหน้าแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออกทันที... นายคนนี้รอบรู้เหลือเกินนะ
ก่อนจะทำสีหน้าจริงจัง "แต่พี่ก็ขอบอกไว้ละกันว่า... พี่รักพิ้งค์คนเดียว ณ ตอนนี้"

+++++++++++++++++++++++++++++

โต้งมันจะรู้เยอะไปแล้วนะ = o =""

แล้วจะเป็นยังไง ติดตามต่อได้วันที่... 23 นะคะ ^__^" เหอๆๆ

ลงทุกสามวันแบบนี้มันเลยไปตรงกับวันเกิดคนที่สนิทกันหลายคนเลย -*- รวมถึงวันเกิดตัวเองด้วย 555+

อยู่เชียงใหม่เน็ตเจ๊ง เลยเล่นแต่เกม ไม่สามารถพิมพ์นิยายเพิ่มได้เลย =w= แหะๆ

มีเวลาอ่านกระทู้ในบอร์ดได้แค่นิดหน่อย ดีใจกับยอดคนดู 800 ค่ะ ^o^


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#62 2008-07-20 15:16:25

dadawizard
สมาชิก
From: Thailand
Registered: 2006-12-27
Posts: 583

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

อัพแล้ว ยะฮู้ว

(ขอยืมนิยายพี่เป็นต้นแบบเน้อ เขียนฉาก โรแมนซ์ ไม่เก่ง)

(แต่รับรองเรทน้อยกว่าพี่ อิอิ)


จะอยู่ไหนหนใดให้รู้ค่า                          พระคุณที่ได้รับมาอย่าลืมได้
ถิ่นกุหลาบนนท์งามล้วนชวนยวนใจ           หรือพระเกี้ยวอันยิ่งใหญ่บนอกเรา
สุวิชา โนภวังโหติมั่น                           ความรู้นั้นจงเชิดชูอย่าขลาดเขลา
กตัญญูกตเวทิตาเอา                           เป็นหลักเสายึดมั่นในแนวทาง

Offline

#63 2008-07-20 18:54:33

LagooNz
สมาชิก
Registered: 2006-08-08
Posts: 3,631

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

^^^
นี่ เจีย หรือว่าพี่เจี๊ยบ ?

Offline

#64 2008-07-21 04:38:02

dadawizard
สมาชิก
From: Thailand
Registered: 2006-12-27
Posts: 583

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

ก็เจียสิค๊ะ

พี่เข้ามาก็อ่านอย่างเดียวแหละ

แล้วพี่ก็ไม่บ้าแต่งนิยายด้วย

- -"

ถนัดแต่อ่านอย่างเดียว ^ ^

edit by jear:

โห เจ๊อ่ะ ของตัวเองมีก็ไม่เข้า ใช้ของน้องตอบเฉยเลย  TT-TT

Last edited by dadawizard (2008-07-21 05:07:14)


จะอยู่ไหนหนใดให้รู้ค่า                          พระคุณที่ได้รับมาอย่าลืมได้
ถิ่นกุหลาบนนท์งามล้วนชวนยวนใจ           หรือพระเกี้ยวอันยิ่งใหญ่บนอกเรา
สุวิชา โนภวังโหติมั่น                           ความรู้นั้นจงเชิดชูอย่าขลาดเขลา
กตัญญูกตเวทิตาเอา                           เป็นหลักเสายึดมั่นในแนวทาง

Offline

#65 2008-07-23 17:08:08

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

555+ แยกออกแฮะว่าใครตอบ

วันนี้มาอัพนิยายตามสัญญานะคะ ^__^

ตอนนี้เริ่มออกแนวเครียด แหะๆ รักกี่เศร้าเนี่ย = =


++++++++++++++++++++++++++++


- Chapter 19 : Return -


ฉันขึ้นเรียนอย่างดีใจ ในที่สุดก็ได้เจอพี่บลูทุกวันแล้วสินะ


แม้จะถูกหลายคนแซว เช่นยัยควีน "หวานกันจริงนะคู่เนี้ยย" และแน่นอนว่าฉันก็หน้าแดง ก่อนจะต้องคอยตอบคำถามจากเพื่อนๆที่รู้จักมักคุ้นอีกหลายคนว่าทำอิท่าไหนถึงมาคบกับพี่บลูได้น่ะ


"ก็รู้จักกันตอนที่ไปหาควีนตอนปิดเทอมนั่นแหละ สนิทกันไปมาก็... นั่นแหละ" ฉันตอบอ้อมแอ้ม ซึ่งทำให้เพื่อนสาวหลายคนต่างกรี๊ดกร๊าด แน่นอนว่าพี่บลูเป็นที่รู้จักกันอยู่พอสมควร เนื่องจากฐานะที่เป็นถึงลูกเจ้าสัวและนามสกุลที่คุ้นหูนั่นเอง


"ดีจังเลยอ่ะพิ้งค์"


"นั่นสิ ฉันก็อยากโชคดีเหมือนอย่างเธอมั่งจัง" แน่นอนว่าคำเหล่านี้ไม่พ้นหูเพื่อนรักของฉันทั้งสาม แอ๋มจึงหันมาตัดบท "อยากมีบ้างก็ทำบุญ ทำดีกันสิยะพวกหล่อน ชาติหน้าจะได้เป็นคุณหนูไฮโซ มีแฟนเป็นเศรษฐีพันล้านน่ะ"


ทำให้บรรดาเพื่อนสาวร่วมห้องหัวเราะอย่างสนุก ก่อนที่ควีนจะหันมาถามบ้าง


"แอ๋ม... นอกจากเป็นเศรษฐีแล้ว ยังรูปหล่อ นิสัยดี โรแม้งด้วยหรือเปล่าอ่ะ อยากได้แบบโหดหื่นทุกลมหายใจอ่ะแก กรี๊ดดดด" ทำเอาพวกเรามองควีนเป็นตาเดียวกันเลย


รูปหล่อ นิสัยดีนี่ยังพอว่านะ... แต่จะเอาโรแม้ง หื่นโหดทุกลมหายใจนี่ก็ไม่ไหวนะเพื่อน


ถ้าพี่บลูออกแนวนี้บ้างก็คงจะดีไม่ใช่น้อยนะ คริๆๆ... เฮ่ยย!! ไม่ใช่แล้ว ไม่ใช่ๆ


แล้วหลังจากโห่ปนแซวยัยควีน (ข้อหาแอบนอกใจประธานอย่างพี่ต้น ที่ดูแล้วไม่น่าจะโรแม้งได้) จนหนำใจแล้วก็หันมาคุยกันต่อ อาจารย์ยังไม่ขึ้นมาเลย ทำให้พวกเรามีเวลาสนุกกันมากเลยทีเดียว


ก่อนจะได้ยินเสียงเรียก "พิ้งค์ๆ มีคนมาหาแน่ะ" ฉันจึงหันไป เพื่อนที่เรียกฉันจึงชี้ออกไปทางข้างนอกประตู มีเสียงถามจากโต้งและแอ๋ม "พี่บลูหรือเปล่า?"


แต่ควีนทำหน้าเครียด "ไม่น่าใช่ ไม่งั้นก็ต้องมาพร้อมพี่ต้นแล้วสิ"


เมื่อฉันเดินออกมา ก็ต้องพบกับเด็กสาวคนหนึ่ง ซึ่งเหมือนจะเป็นรุ่นพี่ฉันหนึ่งปี หน้าขาวใส ผมหน้าม้าปัดข้างเหน็บกิ๊บขึ้น และผมยาวสลวยรวบไว้แบบนี้ทำให้ดูสวยน่ารักมากมาย


เธอทำสีหน้าบางอย่างก่อนจะพูด "นี่น้องพิ้งค์ใช่มั้ย?"


"ใช่ค่ะ มีอะไรเหรอคะ?"


"พี่รู้ว่าเธอเป็นแฟนของบลู เพื่อนของพี่..." ประโยคนี้เธอเน้นเสียงคำว่าเพื่อนไว้อย่างน่าแปลกใจ "...แต่เขาเคยเป็นแฟนของเพื่อนสนิทของพี่มาก่อนนะ แล้วก็เคยชอบพี่มาแล้วด้วย"


"แล้วไงคะ? ไม่เกี่ยวกันสักหน่อย ในเมื่อพี่บลูเป็นแฟนของหนู" ฉันเริ่มฉุน คำพูดแบบนี้ กิริยาแบบนี้ มันทำให้นึกถึงอดีตที่ผ่านมาไม่นานเลย ตอนที่ฉันยังไม่ปิ๊งพี่เขาก็ไม่เห็นมา แต่พอมีฉันเป็นแฟนสิรีบมาเลยทีเดียว พวกหวงก้างเอ๊ย...


พี่สาวยิ้มแสยะ "พี่ไม่คิดว่าบลูจะชอบน้องจริงๆหรอกนะ รีบตัดใจเถอะ ก่อนที่จะช้ำใจไปกว่านี้" และเธอก็หันหลังเดินออกไปทันที โดยที่ไม่ฟังเสียงเรียกของฉันที่ตามหลังมา จนหลายคนมองมาที่ฉันอย่างสงสัย


"หมายความว่ายังไงคะพี่? พูดมาเคลียร์ๆเลยดีกว่าน่า"


ฉันจึงเดินกลับมายังห้องเรียนอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะเล่าเรื่องให้เพื่อนๆฟัง


"อีกแล้วยัยพิ้งค์เอ๊ยยย... คบกับใครก็ดูเหมือนจะเสริมเสน่ห์ให้เค้าเสียจนแฟนเก่าต้องเอากลับไปกก เอ๊ย! กลับไปรีเทิร์นน่ะ" โต้งบ่นอย่างเห็นใจ แม้จะเป็นคำพูดที่ดูทะแม่งๆไปหน่อยก็ตาม แต่เขาก็พูดด้วยใจจริง และจริงใจมากด้วย ตามประสาที่คบกันมาปีกว่าแล้ว


"แต่ฉันไม่ยอมหรอก แฟนของเพื่อนรักของแฟนฉันจะต้องไม่ใช่ยัยรุ่นพี่ปากตะไกรโรงพยาบาลแบบนี้แน่ๆ" ยัยควีนว่า มีแอ๋มสนับสนุนตามเคย "ใช่ๆ พี่บลูออกจะนิสัยดี มาคบกับพวกที่เห็นพี่เค้าเป็นตัวสำรองแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ"


"ตัวสำรอง?" ฉันทวนคำนั้น ทำไมดูเหมือนเพื่อนๆของฉันต่างรู้เรื่องพวกนี้นะ ก็คงไม่น่าแปลกใจหรอก เพราะเพื่อนๆฉันทุกคนเรียนม.ต้นที่นี่มาแล้ว ขณะที่ฉัน(สอบ)เข้ามาตอนม.4


(มีต่อ)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#66 2008-07-23 17:15:02

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

โต้งถอนหายใจ "เอาล่ะ เราไม่อยากให้แกต้องระแวงนะพิ้งค์ แต่พวกเราก็พอรู้ประวัติพี่บลูของแกมาบ้างเหมือนกันแหละ เพราะสวนกันบ่อย เจอกันบ่อยตั้งแต่เราอยู่ม.1 แต่มารู้จักกันก็ปีนี้แหละนะ" แล้วก็ถึงคิวแอ๋มที่มาเล่าต่อ


"ใช่พิ้งค์... พี่บลูเคยมีแฟนมาแล้วหนึ่งคน ตอนม.2 นั่นแหละ ก่อนจะมาเลิกกันตอนม.3 โดยที่ฝ่ายหญิงบอกเลิกอย่างไร้น้ำใจมาก แล้วฉันกับโต้งก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย เพราะเป็นหน้าตึกสาม แน่นอนว่าพี่บลูจ๋อยไปเลย" ฉันพยักหน้า น่าสงสารพี่บลูเหมือนกันนะที่ต้องถูกบอกเลิกแบบนี้


โต้งก็ไม่หยุดเล่าแต่เพียงเท่านี้ "แล้วปีถัดมา เหมือนจะเคยได้ยินสาวกลุ่มนึงเม้าท์กันนะว่าพี่บลูแกไปชอบสาวคนนึงเข้า แต่สาวเจ้าปฎิเสธ แล้วก็เอามาแฉกับเพื่อนซะอย่างนั้น ก็เป็นกลุ่มที่เราได้ฟังนี่แหละ" โอ้โห... อะไรจะขนาดนั้น


"ก็เท่านี้แหละที่พวกเราพอรู้" แอ๋มสรุปปิดท้าย ทำให้ฉันรู้สึกแวบหนึ่งว่าทำไมฉันไม่ย้ายบ้านมาอยู่เมืองทองเร็วกว่านี้นะ ดันย้ายมาตอนหลังจากสวนนนท์สอบไปแล้วจนได้ และบ้านของฉันก็ไม่มีปัญญาใช้เส้นด้วย ถึงแม่จะเป็นศิษย์เก่าก็ตาม


ถึงมี แม่ก็คงไม่ยอมอยู่ดีหรอกนะ... เหอๆ


สรุปคือบางครั้ง ฉันก็อดคิดไม่ได้ทุกทีว่าทำไมไม่มาเข้าม.1 เสียตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องเสียโอกาสและประสบการณ์ดีๆที่เพื่อนหลายคนพบกัน รวมถึงสารพัดค่ายที่น่าสนุกกว่าโรงเรียนเก่าด้วย… ตอนเข้าม.4 มาใหม่ๆเลยเป็นสาเหตุที่หาเพื่อนไม่ง่ายสักเท่าไหร่
แต่ฉันก็โชคดีที่มีโต้ง แอ๋ม และควีนเข้ามาในชีวิต และสนิทกันจนถึงทุกวันนี้


"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับตัวสำรองล่ะ?" ฉันกลับมาถามอีกจนได้ ควีนเองได้แต่ทำท่าเซ็งๆ


"ฉันคิดว่าพี่คนที่เรียกแกไปคุย ต้องกลับมาคิดได้ว่าไม่น่าทิ้งพี่บลูไป เลยขอโอกาสกลับมารีเทิร์นไง เหมือนอย่างพี่บอลแฟนเก่าแกคนแรกน่ะ"


ฉันสะอึก พี่บอลคือคนที่เข้ามาจีบฉันตอนขึ้นม.4 ใหม่ๆ และด้วยความที่ฉันอยู่โรงเรียนหญิงล้วนมาสามปีเต็ม ประกอบกับไม่ค่อยเจอผู้ชายจึงทำให้เผลอคิดว่าพี่เขารักฉันจริง เราจึงคบกัน ก่อนที่ฉันจะได้รับรู้รสชาติของแห้วเพราะแฟนเก่าพี่บอลเข้ามาแย่งพี่บอลไปจากฉันจนได้ แน่นอนว่ามันน่าเจ็บใจสุดๆ


แต่พี่บลูไม่น่าจะใช่คนกลับกลอก หรือคบใครแก้เหงา หรือประชดคนอื่นด้วยนี่นา


แล้วมันจะเป็นยังไงต่อนะ... คิดไปคิดมาก็พลันนึกถึงประโยคหนึ่งของป้านภาขึ้นได้ทันที…"ผู้ชายคนนี้อยู่ใกล้ตัวหนูมาก ดวงสมพงศ์กัน และหนูก็เจอเขาแล้วด้วย แต่จะยังไม่ลงเอยกันไปสักระยะ และป้าแนะนำว่า…"


"...เผื่อใจไว้กับการสูญเสียด้วย"…


เผื่อใจไว้กับการสูญเสียงั้นเหรอ...


อย่างเช่นเวลาที่พี่สาวคนนั้นจะต้องมารับพี่บลูกลับไปแล้วใช่ไหม?


ฉันเดาไม่ผิดเลย มือที่สามไม่ก็... ถ่านไฟเก่าแน่นอน


"พิ้งค์... แกเป็นอะไรไปน่ะ?" โต้งถาม ขณะที่ฉันยิ้ม อา... ทำไมภาพที่ฉันมองมันกลับพร่ามัวแบบนั้นไปได้นะ และมันรู้สึกร้อนๆที่ขอบตา


"ฉัน... ไม่เป็นอะไรหรอก" ทั้งที่พยายามพูด แต่น้ำเสียงก็ดูเหมือนจะแหบพร่า


"พิ้งค์..." ควีนเรียนกชื่อฉัน เสียงเข้มแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกยิ่งแย่ลงเข้าไปใหญ่ "...นี่เธอกำลังร้องไห้นะ เป็นอะไรไปน่ะ"


ฉันส่ายหน้า "เราไม่ได้... ฮึก! ร้องไห้สัก... หน่อย" พยายามปฎิเสธทั้งใจและการกระทำ แต่ก็ต้องยอมแพ้จนได้ ฉันร้องไห้โฮออกมา แอ๋มจึงรีบเข้ามากอดฉันทันที


"พิ้งค์ๆ อย่าร้องไห้เลยนะ พี่บลูไม่มีทางทิ้งเธอได้หรอก"


ฉันยิ้มอย่างฝืนใจ "แต่โชคชะตา... คงไม่ให้ฉันต้องลงเอยกับเขาอย่างแน่นอน คำทำนายนั้นบอกมาแล้ว ป้านภาก็เตือนฉันแล้วด้วย... เผื่อใจกับการสูญเสียน่ะ"


"สูญเสีย..." ควีนพึมพำด้วยน้ำเสียงที่กำลังบ่งบอกว่าอยู่ในภาวะเคร่งเครียด แต่ฉันก็ไม่ทันได้มองเห็นใครหรอก เนื่องจากทำได้แค่ซบบ่าแอ๋มและร้องไห้ออกมาเท่านั้น


+++++++++++++++++++++++++++

ได้โปรดอย่าถาม... ว่าทำไมต้องใช้คำว่าซบบ่าร้องไห้ อิคนเขียนเป็นฝ่ายซบบ่าเพื่อนร้องไห้บ่อยแล้ว 555+

ที่ร้องวันนี้เป็นเพราะซ่อมเคมี 5 รอบถ้วน + วันนั้นของเดือนหรอก =w=" แต่ก็ไม่มาก นิดหน่อยเอง มีเพื่อนแล้วทำให้รู้สึกดีขึ้นเยอะนะ

ส่วนตัวอาจเขียนฉากรักหลายเส้า(เศร้า)ไม่เก่ง เพราะคนของหยาดน้ำฟ้าไม่ใช่แบบว่าจะมีใครมาแย่งไปได้เลย แหะๆ

(แต่เค้าก็น่ารักน้า~ เป็นนักอ่านวีไอพีเลยทีเดียว เนื่องจากคนเขียนช่วยให้อ่านมันทุกเรื่อง + เป็นหลานนักเขียนหรอก)

เดี๋ยวลงเฉลยให้ในกระทู้เกมอีกที 555+


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#67 2008-07-23 18:15:29

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

ขออนุญาตมาลงตอนพิเศษนะคะ ^__^

พรุ่งนี้ 24 กรกฎาคมถือเป็นวันสำคัญมากเพราะเป็นวันเกิดของนางเอกเราค่ะ 555+ นอกเหนือจากค่ายคุณธรรมแบบเช้าไปเย็นกลับของม.6 และการผ่าฟันคุดของคนเขียน T^T

และมีตอนพิเศษที่เขียนถึงพอดี เลยเอามาลงสักหน่อย อิอิ ^^

อย่าแปลกใจถ้ามันเป็นตอนพิเศษ 3 เพราะเขียนหลังจากเรื่องของควีนที่จะลงหลังตอนที่ 23 (อีกนานค่ะ 4 ตอนกับอีก 12 วัน)


+++++++++++++++++++++++++++++++


- Chapter Special 3 : Happy Birthday N'Pink -


หลังจากสอบมิดเทอม(กลางภาค)เสร็จ ผมก็นั่งและนอนอยู่บ้านด้วยความเบื่อ จนกระทั่งนายต้นโทรฯเข้ามานั่นแหละนะ นึกว่ามีน้องควีนเป็นแฟนแล้วจะเลิกโทรเข้ามาแล้วซะอีก


"เฮ้ย! ว่าไงต้น วันนี้รวยค่ามือถือเรอะ" ผมทัก


(เออ รวยว่ะช่วงนี้ ฮ่าๆ ไม่ใช่แล้วโว้ย!! ข้าไม่เห็นแฟนดีกว่าจนลืมเพื่อนอย่างแกหรอกไอ้บลู ข้ามันคนดีเว้ย กร๊ากกกก)


ผมแอบแอบลิ้นใส่โทรศัพท์ด้วยความหมั่นไส้ แต่ก็อดชื่นชมในคุณธรรมของมันไม่ได้อยู่ดี "เออ เชื่อแล้ว ว่าแต่มีอะไรเหรอครับพระกฤษณะ?" อันนี้ผมแซวเพราะมันมีช้อยส์พระกฤษณะในชีทสังคมนะ (ข้อที่ว่าใครเป็นคนคิดมหาศักราช) เสียดายที่ตอนสอบมิดเทอมอาจารย์ไม่เอามาออก ไม่งั้นจะหัวเราะลั่นห้องสอบเลยเอ้า


(ก็น้องควีนฝากมาบอกว่า วันที่ 24 นี้เป็นวันเกิดพิ้งค์ เธอกะจะทำเซอร์ไพรส์แต่ต้องหาแนวร่วมเยอะๆ โดยเฉพาะแกที่ห้ามเบี้ยวและลาป่วย ลากิจ ลาตายเป็นอันขาด ถึงแกจะรู้ว่ามีค่ายพระพุทธที่โรงเรียนก็ตามเถอะ แต่เราสรุปกันแล้วว่าจะเริ่มงานนี้ตอนเย็นหลังจบค่าย ไปบุกบ้านพิ้งค์แบบไม่ให้ตั้งตัวไงเพื่อน!!)


ผมร้องอ๋อในใจทันที นี่น้องพิ้งค์จะอายุ 16 แล้วนี่นา ส่วนผมก็ย่างเข้า 17 มาตั้งสองเดือนแล้ว ก็เกิดวันที่ 21 พฤษภาคมนี่นา น้องเขาก็คงไม่รู้หรอกว่าผมเกิดวันนั้น ก็ยังมึนตึงกันอยู่เลยนี่น้า~


แต่อย่างน้อยวันที่ผมได้ไปส่งน้องเขาที่บ้านหลังจากวันเกิดวันเดียว... ก็เป็นเหมือนของขวัญที่ดีที่สุดแล้วล่ะ มีความสุขชะมัดเล้ย!!!
และหลังจากคุยจนได้รายละเอียดเรื่องงานเซอร์ไพรส์ ที่ว่าผม ต้นและน้องควีน รวมถึงน้องแอ๋มและนายโต้งจะต้องทำเป็นลืมๆไปว่าวันนั้นคือวันเกิดพิ้งค์ ก่อนจะมีการแห่ไปมอบของขวัญและขนมเค้กกันในตอนเย็น โชคดีที่บ้านผมอยู่ซอยข้างๆพอดี เอาของขวัญไปไว้ที่บ้านผมก่อนก็ได้ แล้วค่อยยกขบวนเดินไปบ้านพิ้งค์


ในที่สุด... วันเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผมซื้อของขวัญมาแล้วล่ะนะ เป็นหมอนอิงใบเล็กๆลายดอกไม้สีชมพู เหอๆ เพราะไม่รู้จะซื้ออะไร อีกอย่างนึงคือเธออาจจะกอดหมอนใบนี้ทุกๆคืนด้วยก็ได้ ดังนั้นก่อนจะถึงวันเกิดเธอ ผมก็ได้นอนกอดหมอนนี่จนหนำใจแล้ว เธอจะได้กอดผมทางอ้อม กร๊ากกกก ฉลาดซะไม่มีนะเนี่ยเรา


ถึงน้องพิ้งค์จะไม่ได้หันมามองผมก็ตาม แต่ผมก็ไม่ได้หวังอะไรมากเหมือนอดีตที่ผ่านมาหรอก... แค่แอบรักแบบนี้ก็สุขใจเกินพอแล้ว
ก่อนจะกลับบ้านมาอย่างร่าเริง หลังจากผ่านชะตากรรมค่ายคุณธรรมประเภทเช้าไปเย็นกลับมาแล้ว ความจริงต้องไปบำเพ็ญประโยชน์พรุ่งนี้ แต่ห้องของผมไปกันตั้งแต่ต้นเดือนนู่น จึงไม่มีปัญหา หยุดนอนอยู่บ้านตีพุงกันสบายใจเฉิบ วะฮะฮ่า


ธรรมะก็ดีกับจิตใจนะ ทำให้ผมเลิกฟุ้งซ่านโน่นนี่ไปได้เยอะ แต่ไม่ใช่กับน้องพิ้งค์ที่ชอบเข้ามาเดินในหัวใจของผมอย่างแน่นอน (รู้สึกตัวเองน้ำเน่าผิดปกตินะ แหะๆ) น่าหงุดหงิดเล็กน้อยตรงพวกคนที่บ่นงุบงิบเรื่องไม่อยากมานี่แหละ นั่งสมาธิออกจะดีต่อจิตใจ ทำให้เรามีสมาธิ แถมยังส่งผลบุญไปให้ทุกคนที่รักได้ด้วย แน่นอนว่าผมส่งให้น้องพิ้งค์ไปเยอะแล้วนะครับ


ก็วันนี้เป็นวันเกิดของเธอนี่นา ต้องทำบุญให้เยอะๆ แต่ผมก็ยังไม่มีโอกาสทำบุญร่วมกับเธอสักที เผื่อจะได้เจอกันอีกทุกชาติไป
ผมกับต้นกลับมายังบ้านที่เมืองทองซอย 12 แน่นอนว่าน้องควีน แอ๋ม และโต้งยืนรออยู่ที่หน้าบ้านของผมแล้ว ทั้งสามเตรียมของขวัญไว้ในมือ ในถุงสีสันสดใส ผมคิดว่าน้องพิ้งค์คงจะดีใจแน่ๆถ้าได้รับน่ะนะ


"เดี๋ยวพี่ไปเอาของขวัญก่อนนะ เข้ามากินน้ำในบ้านพี่ก่อนสิ"


แต่ควีนส่ายหน้า "พวกเราเข้าไปแล้วค่ะ นั่งเล่นกันสนุกเลย แม่พี่ใจดีจัง"


"นั่นสิคะ" แอ๋มว่า สีหน้าของทุกคนดูปลาบปลื้มมากที่ได้เข้าบ้านของผม เหอๆ สงสัยนอกจากเสิร์ฟน้ำแจกขนม แม่ของผมต้องดูดวงให้เจ้าสามหน่อนี้ด้วยแหงๆเลยสิท่า


และแน่นอนว่าความคิดผมถูกต้อง เพราะแม่เข้ามาทักผมพอดี "เป็นไงจะบลู วางแผนเซอร์ไพรส์หนูพิ้งค์ล่ะสิ เพื่อนๆเค้ามารอกันสักพักแล้วนะ แม่ก็เลยชวนมาดูดวงกันก่อน" ผมหัวเราะแหะๆ แม่ของผมก็เป็นแบบนี้แหละนะ แล้วผมก็ขึ้นไปบนห้องนอนเพื่อเอาของขวัญที่วางไว้บนเตียงใส่ถุงผ้าสีขาวลายดอกกุหลาบกลีบสีชมพูในกระถางสีฟ้า มีโบสีชมพูผูกอยู่อีกที เป็นถุงผ้าที่ผมออกแบบเพื่อจะขายวันสวนนนท์ปริทรรศน์นี่แหละ แต่ลองทำมาก่อนสามใบ ผมเพ้นท์เองกับมือเชียวนะ


และลงมาจากชั้นสอง นายต้นเอาเสื้อที่เม้มมาจากที่ขายเมื่อต้นเทอมมาหนึ่งตัว เป็นของขวัญในวันนี้ ดังนั้นจึงไม่ต้องมากผมไว้ที่นี่หรอก มันยิ้มทันทีเมื่อเห็นถุงผ้าซึ่งมีหมอนอยู่ข้างใน


"เฮ้ย... ของขวัญแฮนด์เมดเหรอนั่น นี่มันถุงผ้าฝีมือแกนี่นา"


ผมยิ้ม "ใช่ ข้างในมีหมอนอิงใบเล็กๆ แล้วก็การ์ดทำเองอีกใบ เรารีบไปกันเถอะ" แล้วพวกเราก็ออกไปกัน เดินไปไม่นานก็ถึงบ้านพิ้งค์ แน่นอนว่าควีนรู้เส้นทาง ส่วนโต้งและแอ๋มต่างทำสีหน้าประหลาดใจ นี่คงยังไม่เคยมาบ้านพิ้งค์กันล่ะสิท่า


แล้วเมื่อถึงหน้าบ้าน ควีนก็หันมายิ้มให้ผม "ควีนให้เกียรติพี่บลูเป็นฝ่ายกดออดค่ะ" ฝ่ายคนอื่นก็หันมาทางผมด้วยสายตาที่เห็นดีงามกับควีน 100% ดังนั้นจึงไม่กล้าขัด


เมื่อกดออดแล้ว สักพักก็มีคนเปิดประตูเล็กของรั้วที่ใช้เดินเข้าออก เป็นพิ้งค์นั่นเอง เธอยังสวมชุดนักเรียนอยู่เลย เพราะม.3 และม.6 ไปค่าย แต่ม.อื่นๆไม่ได้หยุดด้วยน่ะสิ


"อ้าว... โต้ง แอ๋ม ควีน พี่ต้น... พี่บลู?" เธอเรียกชื่อทุกคนที่ยืนอยู่หน้าบ้านอย่างอึ้งๆ ไม่ลืมชื่อผมก็นับเป็นความกรุณาอย่างยิ่งยวดแล้ว แน่นอนว่าพวกเราต่างยิ้มอย่างยินดีเช่นกัน


"สุขสันต์วันเกิดครับพิ้งค์" ผมเป็นคนแรกที่หันไปทัก ทำให้เธอหันมายิ้มกับผม "อ้าว! พี่บลูรู้วันเกิดพิ้งค์ด้วยเหรอเนี่ย? ดีใจจัง วันนี้ไม่เห็นมีใครมาทักเลยสักคนเดียว" พอสิ้นเสียงเธอก็ทำท่างอนเพื่อนๆที่ยืนยิ้มอย่างรู้สึกผิด แต่มันก็เป็นแค่แผนการเท่านั้นแหละ ต้นเลยหัวเราะเสียยกใหญ่


(มีต่อ)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#68 2008-07-23 18:17:33

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

"ฮ่าๆๆ... น้องพิ้งค์เอ้ย อย่าไปโกรธควีนและเพื่อนๆเลย ก็ทุกคนวางแผนจะจัดงานวันเกิดให้เราก็เท่านั้นเองนี่นา เลยอุบไม่ยอมแสดงความยินดีกันแทบตาย แล้วพวกพี่ก็มาช่วยงานด้วยแหละ โดยเฉพาะไอ้บลูที่ต้องมาให้ได้ ห้ามลาหยุด ลาป่วย และลาตายกันเลยทีเดียว"


พิ้งค์หัวเราะจนตัวสั่น มือที่ปิดปากก็ไม่สามารถปิดกิริยาของเธอได้มิดชิด หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของต้นโดยเฉพาะคำว่า "ห้ามลาหยุด ลาป่วย และลาตายกันเลยทีเดียว" นี่แหละ จนผมต้องหันไปส่งสายตาอาฆาตใส่ต้นเสียยกใหญ่ ก่อนจะยกพลเข้าบ้านของพิ้งค์ไป


"นี่พิ้งค์ ฉันรู้ว่าแกชอบลิปกลอส เลยซื้อลิปกลิ่นเชอร์รี่มาให้" ควีนหยิบกล่องเล็กๆแบนๆสีชมพูหวานให้พิ้งค์ ถือเป็นของขวัญชิ้นแรกในวันนี้เชียวนะ แน่นอนว่าเธอยิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะทำท่าค้อนเมื่อได้ยินประโยคหลัง "แล้วกลิ่นก็หอมด้วยนะ ช่วยเรื่องจูบได้เยอะเลย โดยเฉพาะกับคนแถวนี้" ควีนไม่พูดเปล่า ยังหันมาทางผมอีก ทำเอาผมต้องตีหน้ายักษ์ใส่ อย่าคิดว่าเป็นแฟนประธานนักเรียนแล้วจะมาเล่นกันได้ง่ายๆนะ โดยเฉพาะกับรองประธานอย่างผม


ส่วนแอ๋มและโต้งให้ปากกาสีหนึ่งชุด "เพื่อแกขึ้นม.6 จะได้มีปากกาสีจด เหอๆ" อันนี้ผมเคยแนะนำน้องๆไปหนหนึ่งแล้วถึงเรื่องนี้ เพราะขึ้นม.6 มาทุกคนล้วนพกปากกาสีไว้กับกระเป๋าเครื่องเขียนกันทั้งนั้น ไม่ทราบได้ว่าเป็นเพราะอะไร


แล้วก็ถึงตาของต้นกับผม ของต้นเป็นเสื้อที่ทำขายเมื่อต้นเทอม พิ้งค์ที่ไม่ได้ซื้อเสื้อก็ยิ้มหน้าบานสิครับ ไม่ต้องซื้อแล้วยังได้ฟรีๆหนึ่งตัว แหะๆ ถ้าผมเป็นพิ้งค์คงคิดแบบนี้นะ


และก็ถึงเวลาของผมสักที พิ้งค์รับถุงไว้อย่างประหลาดใจ "พิ้งค์ว่าไม่เคยเห็นถุงนี้มีขายเลยนะคะ?" ผมยิ้มอย่างภูมิใจ "ก็ไม่มีน่ะสิ พี่ออกแบบถุงไว้เผื่องานสวนนนท์ปริทรรศน์ต้นปีหน้า แล้วก็ลองเพ้นท์เองดูก่อน ข้างในก็ยังมีของอีกนะ ลองเอามาดูสิ" พิ้งค์หยิบการ์ดที่ผมวาดเป็นรูปเธอเวอร์ชั่นการ์ตูนและระบายสีเอง ก่อนจะเปิดอ่าน


"ถึงน้องพิ้งค์ ขอให้มีความสุขในอายุ 16 ปีนะครับ เรียนให้ได้เกรดดีๆด้วยล่ะไม่งั้นเจอดีแน่... ไม่ใช่แล้ว ไม่ใช่นิยายรักหวานแหววสักหน่อย ก็ขอให้เป็นเด็กดีของพ่อแม่ และเพื่อนที่ดีของเพื่อนๆแล้วกัน รวมถึงรักใครก็ขอให้สมหวังด้วยล้านเปอร์เซ็นต์นะ จบ!" แน่นอนว่าผมเอาหมอนบนโซฟาปิดหน้าด้วยความอาย ก็คนมันไม่รู้จะเขียนอะไรนี่นา ทั้งนายต้นและคนอื่นเลยได้แต่หัวเราะหึหึกันใหญ่


และเธอก็หยิบหมอนออกมา ก่อนจะทำท่าดีใจ "ขอบคุณค่ะพี่บลู คู่กับหมอนลายใบไม้ของพิ้งค์ได้เลยนะเนี่ย ขอบคุณนะคะ!!" ผมจึงค่อยยิ้มได้อย่างโล่งใจ ต้นหันมาทำสายตาบางอย่างกับผม ก่อนจะพูดเป็นนัยๆ "ดีใจล่ะสิแก ขอให้สมหวังตามการ์ดนะ"


แล้วเราทุกคนก็ร่วมกันอวยพรวันเกิด และคุยกันอย่างสนุกสนาน (นายต้นกับควีนได้โอกาสสวีทกันอวดผมก็งานนี้แหละนะ) จนกระทั่งเมื่อหันไปสังเกตที่นอกหน้าต่างอีกทีท้องฟ้าก็มืดสนิทลงเสียแล้ว


"อ้าว! อยู่เพลินจนทุ่มกว่าแล้วเหรอเนี่ย?" ผมอุทาน ผมกับต้นอยู่ถึงกี่โมงก็ไม่เป็นไรหรอก ห่วงแต่รุ่นน้องทั้งสามเท่านั้นที่ไม่น่าจะกลับดึกได้


แต่พิ้งค์กลับยิ้ม "ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่บลู แม่พิ้งค์เพิ่งโทรไปที่บ้านควีน โต้ง และแอ๋มว่าจะอยู่ต่ออีกสักพักแล้วจะพาไปส่งน่ะค่ะ" ทำให้ผมรู้สึกโล่งอก "อ่าครับ" และผมก็หันไปมองพิ้งค์ เธอก็หันมาทางผมเช่นกัน เรามองกันสักพักจึงหันไปทางอื่นอย่างเขินๆ


แต่ก่อนที่จะหันไปนั้น ก็ก็หันไปทักเธออีกครั้ง "สุขสันต์วันเกิดนะพิ้งค์ เป็นไงบ้างวันนี้ แปลกใจเลยสิที่พวกควีนปิดอาการได้น่ะ" เธอยิ้มก่อนจะขอบคุณ "ขอบคุณค่ะพี่บลู ในทุกๆเรื่องเลย รวมถึงเรื่องที่พี่แอบมาบอกเรื่องแผนการด้วย"


ผมทำได้แค่หัวเราะหึหึ คนอื่นๆเข้าไปอยู่ในครัวเพื่อช่วยกันทำอาหารแทนน้ามีนา เพราะพ่อของพิ้งค์ใกล้จะกลับมาถึงบ้านแล้ว ดังนั้นทุกคนจะไม่ได้ยินสิ่งที่เราคุยกันอยู่ในขณะนี้อย่างแน่นอน "ไม่เป็นไรหรอกน่า เห็นควีนกำลังบ่นวันก่อนน่ะว่ากลัวเราน้อยใจ พี่เลยชิงบอกซะก่อนจะได้ไม่เสียความรู้สึก"


"นั่นสินะ ถ้าพี่ไม่บอกก่อนพิ้งค์คงงอนเพื่อนๆไปจริงๆเลย เพราะไม่มีใครมาแฮปปี้เบิร์ทเดย์สักคน แม้กระทั่งคนในห้อง ทุกคนทำท่าเหมือนกันไม่มีใครเกิดวันนี้ด้วยซ้ำ" เธอยิ้มอย่างนึกสนุก นี่แหละนะแผนการของเราสองคน ที่ไม่ควรจะเอาไปบอกอีกสี่คนที่ร่วมขบวนการอย่างเด็ดขาด


นั่นคือผมบอกพิ้งค์เมื่อวันจันทร์ว่าพวกควีนและนายต้นจะวางแผนเซอร์ไพรส์ ด้วยการทำท่าลืมกันว่าวันพฤหัสนี้เป็นวันเกิดพิ้งค์ ก่อนจะมามอบของขวัญและฉลองถึงบ้านเลย


และแผนซ้อนแผนที่ไม่ทำลายจิตใจพิ้งค์ซึ่งผมพอรู้นิสัยเธออยู่แล้วก็สำเร็จ... ก็เห็นต้นมันเคยเปรยๆมานะว่าพิ้งค์เคยมีอดีตที่น่าสงสารกับเพื่อนเก่าและผู้ชายคนแรกไปแล้ว


แต่ผมก็อยากเป็นผู้ชายอีกคนที่ไม่คิดจะทำลายน้ำใจเธอนะ... ยิ่งเป็นคนสุดท้ายก็นับว่าดี ถึงจะยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมก็ตามเถอะ
ผมหันไปยิ้มกับพิ้งค์ "เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วพี่ก็จะกลับบ้านเลย บอกน้ามีนาไม่ต้องไปส่งพวกต้นแล้ว เดี๋ยวพี่เรียกคนขับรถมาช่วยไปส่งแทนดีกว่า น่าจะถึงเวลากลับมาแล้วนะ"


"ค่ะ" และเธอก็เดินออกไป แต่ผมก็ยังยิ้มได้อย่างมีความสุข ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือ วันพรุ่งนี้ก็จะได้นอนอยู่บ้าน ตีพุงสบายใจเฉิบแล้ว ก็งานบำเพ็ญประโยชน์น่ะไปตั้งแต่วันที่ 2 แล้วนี่นา


และก็ดีใจที่ได้แสดงความยินดีกับพิ้งค์ ที่ได้ถุงผ้าฝีมือผมไปครอง รวมถึงหมอนด้วย!!


++++++++++++++++++++++++++++++

ใจจริงอยากลงพรุ่งนี้มากกว่า แต่ต้องไปผ่าฟันคุด กลับบ้านมาอาจไม่ได้เล่นคอม - - (ต้องกินข้าวเย็นก่อนผ่าด้วยแหละ)

ลงเลยน่าจะดีกว่านะ 55+


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#69 2008-07-26 16:05:28

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

ลงตอนที่ 20 แล้วว ^o^ เย้ๆ

ช่วงนี้คนเขียนติดเกม =w=" แหะๆ แต่เดี๋ยวไม่นานก็ซาๆลงไปเองแหละ อย่าห่วงเลย

ภาระนิยายทำให้เลิกเกมเร็ว หุหุ (ดูอย่าง Harvest Moon... เล่นได้ไม่เท่าไหร่เจอ Darkness Summer เข้าเลยหายติดเกม 55+)


++++++++++++++++++++++++++++


- Chapter 20 : Debate -


ผมออกมาจากห้องเรียน การเรียนวันแรกๆในเทอมที่สองนี่ ทำไมถึงเข้มข้นแบบนี้นะ ต้องมาเรียนกันตั้งแต่วันแรกเลยทีเดียว เฮ้อ...
ก่อนจะรู้สึกได้ว่ามีมือหนึ่งเข้ามาจับแขนผม "บลูจ๋า... ไปกินข้าวกัน"


พิณนั่นเอง เธอทำหน้ายิ้มแป้น ช่างสดใสดีเหลือเกิน "อ้าวพิณ พักเที่ยงกะเดียวกันเหรอเนี่ย?" เธอพยักหน้า


ฝ่ายต้นที่เดินออกมามองมาทางผมอย่างไม่ค่อยพอใจ ก่อนจะเข้ามาหาเราสองคน "นี่เธอ จะเข้ามาหาเพื่อนเราทำอะไรมิทราบ แค่ให้พี่นัทมาชกเพื่อนเรายังไม่พออีกเหรอ?"


พิณทำสีหน้าหวาดกลัว "ขอโทษนะต้น แต่เราไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ พี่นัทเป็นคนขี้หึงแบบนี้อยู่แล้วน่ะ เราไม่ได้ตั้งใจเลยจริงๆนะ"


ต้นยังคงทำท่าไม่พอใจ ก่อนจะหันมาทางผมอย่างอารมณ์เสีย "นี่บลู เกิดอะไรขึ้นกับแกเนี่ย อย่าบอกนะว่าแกจะยอมกลับไปหายัยนางมารนี่น่ะ"


ผมจึงต้องอธิบาย เพราะตอนที่พิณมาหาเมื่อเช้าต้นก็ยังไม่มานั่งที่โต๊ะม้าหินเลยนี่นา "พิณเขากลับมาขอโทษน่ะ และเราก็เป็นแค่เพื่อนเฉยๆ ไม่มีอะไรแล้วน่า ใช่มั้ยพิณ?"


เธอพยักหน้า "ใช่จ้ะ เรากลับมาเป็นเพื่อนกันแล้ว ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น"


แต่ต้นก็ยังมีทีท่าคลางแคลงใจอยู่ดี "นี่พวกเธอจะไปกินข้าวกันอย่างนั้นสิ เราไปด้วยแล้วกัน ความจริงเราต้องกินข้าวกับบลูทุกวันอยู่แล้ว มีสมาชิกเพิ่มสักคนก็คงไม่เป็นไรหรอก" และพวกเราก็เดินออกไปกัน พิณดูมีทีท่าบางอย่างแต่ก็ไม่แสดงออกมา ผมเองก็เดินไปกับต้นนั่นแหละ ผ่านโรงอาหารที่อุดมไปด้วยคนเพื่อหาที่นั่งดีๆ


ก่อนจะไปเจอน้องๆที่น่ารักทั้งสี่... อ้าว! สามสิ เพราะไม่มีน้องพิ้งค์นั่งอยู่ กระเป๋าจาค็อบก็ไม่อยู่ด้วย "พี่บลู พี่ต้น! มานั่งกันสิคะ" น้องแอ๋มทักพวกเรา


นายต้นหันไปยิ้มให้กับควีน ซึ่งโบกมือมาอย่างอารมณ์ดี "ควีนจ๋า... เป็นไงบ้างเอ่ย"


เธอทำสีหน้าไม่ค่อยสบายใจ "พิ้งค์ไม่สบายอะค่ะ นอนอยู่ห้องพยาบาล สงสัยนอนดึกไปหน่อย" ผมจึงชักกังวลขึ้นมาทันที ตอนเช้าก็ดูเธอสบายดีนะ ทำไมไม่สบายไปแล้วล่ะ?


ก่อนจะถูกสะกิด "นี่บลู ไม่ไปกินข้าวเหรอ? มายืนคุยอยู่ทำไมล่ะ" พิณหันมาถามผม


"ก็ปกติเราจะมากินกับน้องๆกลุ่มนี้น่ะ เสียดายแฟนเราป่วย ไม่งั้นจะแนะนำแล้ว" ผมตอบอย่างเหนื่อยใจ เธอทำตาโตทันที "นี่นายมีแฟนจริงๆด้วยสินะ!! ฉันกะว่าจะให้นายไปนั่งกับแอนด้วยสักหน่อย เซ็งเลย" พิณทำหน้าบูด ทำให้ผมต้องหันมาเอาใจ


"เอาน่า เดี๋ยวไปนั่งด้วยแล้วกัน" ก่อนจะเดินออกไปโดยลืมคนคุ้นเคยที่อยู่ใกล้ๆเสียสนิท ราวกับถูกป้ายยายังไงยังงั้น


เมื่อถึงโต๊ะใกล้ๆกัน ก็ต้องเจอคนที่คุ้นเคย... จากผมสั้นเป็นผมยาว ความสูงก็เพิ่มขึ้น หน้าตาก็ดูสดใส สวยกว่าเมื่อก่อนเยอะ แอนนั่นเอง แฟนเก่าและรักแรกของผม


"หวัดดีจ้าบลู" เธอยิ้มหวาน แน่นอนว่าผมเฉยๆแล้ว และชินแล้วด้วยกับฐานะเพื่อนที่มี


"เนี่ย ไม่ได้มาคุยกันตั้งนานเลย ชักคิดถึงแล้วสิ" พิณหันไปคุยกับแอน เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจ "ฮั่นแน่... มาคิดถึงอะไรกันยะ อย่ารีบสิ"
นั่นทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ "อะไรกันน่ะ? พวกเธอมีเรื่องอะไรกันแน่"


"เปล่าหรอกบลู ฉันก็แค่... เสียดายที่มาช้าไป" พิณก้มหน้า สีหน้าของเธอดูเศร้า แต่แน่นอนว่าความรู้สึกห่วงใยมันไม่มีเสียแล้ว เพราะผมไม่ได้รักเธอ


และถ้าจะบอก ก็น่าจะมาบอกกันตั้งแต่สองปีก่อนสิ มาบอกเอาป่านนี้ก็สายเกินไปแล้ว


"เอ่อบลู... เธอมีแฟนแล้วจริงเหรอ?" แอนหันมาถามผม สีหน้าของเธอบางบอกท่าทีบางอย่างที่ผมไม่รู้


ผมพยักหน้า "ใช่ คบกับรุ่นน้องม.5 น่ะ ทำไมล่ะ?"


แต่แอนทำท่าไม่พอใจ "ไหนนายบอกว่าจะรักพิณตลอดไปยังไงล่ะ! ตอนม.5 เทอมแรกน่ะ นายเคยประกาศแบบนี้นี่นา แล้วทำไมถึงไม่รอเพื่อนเราบ้าง"


ผมถอนหายใจ ก็ตอนนั้นเป็นตอนก่อนที่ผมจะถูกพี่นัทอัดเข้าที่ใบหน้าเต็มๆนี่นา "การแอบรักข้างเดียวมันไม่มั่นคงนี่นา แถมเราจะทนรอได้เหรอในเมื่อโดนพี่นัทอัดมาแบบนี้ ใครจะโง่พอล่ะ แล้วสรุปคือพวกเธอคิดยังไงกันแน่ เรารู้สึกแปลกตั้งแต่พิณเข้ามาตีสนิทแล้วนะ"


(มีต่อ)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#70 2008-07-26 16:09:47

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

ผมถามด้วยน้ำเสียงเอาจริง... สองสาวเพื่อนรักนี้ทำให้ผมรู้สึกกับรสชาติของแห้วและการเป็นตัวสำรองมามากพอแล้ว แอนไม่เคยจริงใจกับผมด้วยซ้ำตั้งแต่คบกันมา ส่วนพิณก็ผีเข้าผีออก ตั้งแต่เย็นชายันร่าเริงสลับกันไปมา... ที่ผ่านมาคงเป็นเพราะความรักบังตาผมเลยดูไม่ออก


แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว...


แอนหันมาทางผม "พิณชอบนายนะ เพียงแต่พี่นัทเขา... ทวงสัญญาหนี้ใจเท่านั้นเอง" ประโยคนั้นทำเอาผมเบ้ปาก "เหอะ... นี่มันชีวิตจริงนะแอน ไม่ใช่นิยายรักหวานแหวว ถึงเป็นนางเอกก็ไม่เห็นมีสักรายมาเห็นพระรองเป็นตัวสำรองแบบนี้"


ทั้งสองสาวต่างอึ้ง ท่ามกลางคำพูดเทศนาจากผม "แล้วจะคบใครน่ะ คิดดูให้ดีๆซิว่ารักเขาจริงหรือเห็นเขาเป็นตัวสำรอง ที่จะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบน่ะ แล้วเราก็ไม่ได้รักพวกเธอด้วย เป็นเพื่อนน่ะพอได้ แต่จะให้กลับมารักอีกนี่รอชาติหน้าบ่ายแก่ๆ หลังจากโลกนี้มีแต่สันติภาพ มีแต่คนดี เปี่ยมศีลธรรมก่อนแล้วกัน"


แล้วผมก็ลุกขึ้นทันที ก่อนจะได้ยินเสียงของพิณไล่ตามหลังมา


"นายบลู! ฉันไม่ยอมแพ้หรอก นายจะไปแบบนี้ดื้อๆไม่ได้นะ"


แน่นอนว่าเมื่อกลับมาถึงโต๊ะ ก็ต้องเล่าเรื่องให้กับต้น และรุ่นน้องที่น่ารักทั้งสามฟัง ซึ่งมีแต่เสียงวิจารณ์เป็นเสียงเดียวกันว่า
"พี่บลูตาถั่วมากเลยนะตอนนั้นน่ะ สงสัยการเมืองเครียดไปมั้งเนี่ย"


แน่นอนว่าปี 48-49 การเมืองก็เครียดไม่แพ้กันกับช่วงปีนี้ แต่มันเกี่ยวกับความตาถั่วของผมตรงไหนล่ะนั่น? ก่อนจะฟังน้องควีนเล่าต่อ


"นี่พี่บลู... หนูว่าพี่สองคนนั่นไม่ได้มาด้วยดีแน่ เพราะพิ้งค์เจอพี่คนนึงมาหาเรื่องเมื่อเช้าแน่ะ ก็เลยร้องไห้ก่อนจะป่วย นอนห้องพยาบาลนี่แหละ" ใครมาหาเรื่องกันนะ? เอ... พิณไม่น่าใช่คนที่จะมาหาเรื่องคนอื่นได้นี่นา ถึงนิสัยของเธอจะเป็นที่ไม่ค่อยน่ายอมรับสักเท่าไหร่ก็ตาม


ปกติเห็นเงียบๆ ไม่ค่อยพูดจานะ แอนก็เช่นกัน


"แต่คนที่พี่ชอบไม่มีใครหาเรื่องคนอื่นได้นะ" ผมวิเคราะห์ แต่ต้นส่ายหน้า


"อย่าเลยไอ้บลู แกน่ะมันอ่อนเรื่องมารยาผู้หญิง ผู้หญิงน่ะทำอะไรได้มากกว่าที่คิดนะเว้ย โดยเฉพาะกับเรื่องศักดิ์ศรี ซึ่งก็ไม่ต่างกับผู้ชายหรอกเรื่องอย่างนี้น่ะ ระวังโตไปจะได้โดนสาวมอมเหล้าแล้วแบล็กเมล์ เพราะคิดว่าเธอคนนั้นไม่น่าจะทำได้นั่นแหละ"


"นั่นสิคะ แต่ถ้าพิ้งค์มอมเหล้าพี่นี่พวกเราจะไม่ว่าเลยนะคะ สนับสนุนเลยด้วย ใช่มั้ยพวกเรา" ควีนว่าแถมยังหาแนวร่วมอีก นั่นคือโต้งและน้องแอ๋ม ที่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย


เฮ่ย... นี่คิดจะวางแผนมอมเหล้าผมกันใช่ไหมเนี่ย เจ้าเด็กพวกนี้


ด้วยความที่คิดถึงพิ้งค์ ผมจึงรีบไปยังห้องพยาบาลทันที ก่อนจะผิดหวังเพราะเธอไม่อยู่ที่นั่นเสียแล้ว...


"เด็กผู้หญิงคนนั้นเหรอ? เพิ่งออกไปนี่เอง เห็นไข้ลดลงแล้วน่ะ" เพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่งที่เข้ามาทำงานในห้องพยาบาลบอกกับผม ทำให้ผมต้องเดินออกไปพร้อมกับคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาทันที


ก่อนจะรู้สึกหงุดหงิดใจเมื่อไม่มีคนรับโทรศัพท์ นี่มันโทรศัพท์ของพิ้งค์นะ แล้วผมก็รู้ว่าเธอเปิดไว้ตลอดด้วยน่ะ
แล้วก็ต้องตกใจหลังจากสายติด... เพราะเสียงนั้นไม่ใช่เสียงของพิ้งค์


(สวัสดีค่ะ มีอะไรเหรอคะ?)


"เธอเป็นใครน่ะ? มารับโทรศัพท์แฟนผมได้ยังไง?" ผมถามด้วยความสงสัย เสียงนั้นคุ้นมาก... มากจนน่ากลัว เพราะมันเหมือนเสียงของพิณ


(อ้าว... นั่นบลูเหรอ นายโทรมาทำไมเนี่ย? ขัดจังหวะหมด)


ผมโมโหขึ้นมาทันที เสียงในโทรศัพท์ดูเงียบสงบพิกล เหมือนจะเป็นสวนเสริมไม่ก็หลังห้องสมุด ก่อนจะเดินไปคาดคั้นไป "แล้วเธอทำอะไรพิ้งค์ เค้าไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?"


(เหอะ... ฉันอิจฉายัยนี่ชะมัด เรื่องอะไรจะต้องบอกด้วยล่ะ)


ก่อนพิณจะตัดสายไป นี่มันอะไรกันวะ!!!


+++++++++++++++++++++++++++++


เกมออนไลน์มาเล่นแบบ offline นี่ก็สบายใจอย่างนึง (รู้หมดเลย! ว่าอิคนเขียนมันเล่น RO Offline 555+)

เพราะไม่ต้องเจอเกรียน พวกไม่ดีนั่นเอง

แต่แอบเหงาฟร่ะ เงียบสงัด เหอๆ (จะไม่เหงาถ้ามันมี NPC ให้ตังค์สักสิบล้านอยู่รอบๆเมือง = ="" เซ็ท server ได้ตรงไหนฟระ อยากรู้~)

ตอนนี้ขอตัวทำเลขก่อนนะคะ >.< หุหุ ละค่อยไปเล่นเกมต่อ จะขึ้น Class 2 ให้ได้ด้วยตัวเองเลยเอ้า

(ด้วยตัวเองตรงไหนฟะ ทำให้ตัวเองเลเวล 99 ทางลัดละค่อยไปตีเก็บ lv.Job 555+ ง่ายดี)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#71 2008-07-29 17:12:36

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

คำเตือน ตอนนี้อาจจะมีคำพูดที่รุนแรงและไม่เหมาะสมอยู่บ้าง = o =""

ดังนั้นอย่าถือสาคนเขียนนะ 555+


+++++++++++++++++++++++++++


- Chapter 21 : Excuse me! I want help! -


ฉันหลับไปนานพอสมควรในห้องพยาบาล รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยจากอาการปวดหัว ลึกๆก็อดเศร้าไม่ได้ว่าฉันกับพี่บลูคงมาถึงแค่ขั้นนี้เท่านั้นแหละ... ก่อนจะต้องแยกทางทั้งที่เราก็เป็นคู่กัน


นี่ชาติที่แล้วฉันทำกรรมอะไรไว้นะ


เมื่อลุกขึ้นมองนาฬิกาก็เห็นว่าเป็นช่วงพักเที่ยงเสียแล้ว... เพื่อนๆคงไปกินข้าวกันหมด มีเพียงฉันที่นอนอยู่แบบนี้ เพราะอาการร้องไห้นั่นแหละที่ทำให้ฉันต้องมานอนที่นี่


เนื่องจากฉันรู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันทีหลังจากร้องไห้ ทั้งปวดหัวและคลื่นไส้ ก่อนจะต้องรีบไปอาเจียนจนเพื่อนๆแตกตื่น ควีนยังมองด้วยความสงสัย ก่อนจะถามด้วยคำถามอันน่าโมโห


"นี่อย่าบอกนะว่าปิดเทอมที่ผ่านมา เธอกับพี่บลู..." ฉันหน้าแดงทันที


"จะบ้าเหรอ!! ฉันยังเวอร์จิ้นอยู่นะยะยัยควีน!! และไม่คิดเสียในช่วงวัยนี้ด้วย" ก็ฉันรู้นี่นาว่าเวลาที่ร้องไห้มากๆจะต้องลงเอยด้วยการไปเอาอาหารเก่าออกจากปากทุกทีสิน่า ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพของหลอดอาหารสักเท่าไหร่เลย


และเพื่อนๆก็ร่วมใจกันพาฉันไปส่งที่ห้องพยาบาล ซึ่งก็ดีเหมือนกันเพราะฉันปวดหัว และเครียดมากด้วย ถ้านอนหลับสักงีบก็คงจะทำให้ดีขึ้นไม่มากก็น้อยแหละ


เมื่ออาการดีขึ้นแล้ว ฉันก็คงจะไม่รบกวนห้องพยาบาลแล้วล่ะ จึงออกมาเพื่อจะไปซื้อแซนด์วิชสักชิ้นเพื่อกลับขึ้นไปกินบนห้อง อาการมึนๆแบบนี้ฉันคงรับมือกับนักเรียนนับพันในโรงอาหารไม่ไหวอย่างแน่นอน


ก่อนจะชนเข้ากับเด็กสาวคนหนึ่ง "โอ๊ย!"


เธอหันมามองฉันอย่างหงุดหงิด... นี่พี่สาวคนที่เป็นเพื่อนพี่บลูนี่นา!! "นี่เธอ! ยัยนี่นี่นาแอน ที่จะเอาบลูของฉันไป" หล่อนหันไปทางเพื่อนรักที่สวยพอกัน ซึ่งมองมาทางฉันอย่างพิจารณา


"นี่เหรอ? ตานี่หันไปชอบเด็กผมหยิกได้ยังไงกันนะ ตัวก็อวบ แก้มก็ยังกับซาลาเปา" แต่ละประโยคที่คนชื่อแอนพูดมันช่างกวนโมโหยิ่งนัก! ฉันดูอวบเพราะหุ่นฉันมันบันดาลนะยะ!! เพราะสัดส่วน 36-26-37 ซึ่งมาสวมชุดนักเรียนแบบหลวมๆจะดูพรางหุ่นไปเลย แถมผมของฉันมันหยักศกนะคะ หยักศก!! ส่วนแก้มของฉันก็ปกติไม่กลมป่องแบบตอนเด็กๆแล้วด้วย


และคนหุ่นอวบๆ ก็น่ารักน่ากอดกว่าไม้เสียบลูกชิ้นเดินได้เป็นกอง หุหุ


"แล้วไงล่ะคะ? หนูมันอวบอั๋นน่าฟัดแบบนี้มันน่าหนักหัวตรงไหนเหรอคะ?" ฉันหันไปถามด้วยคำพูดแบบที่นานๆจะยกมาใช้ เพราะฉันเข็ดกับการที่แฟน(เก่า)เราถูกถ่านไฟเก่าคาบไปรับประทานแล้วน่ะสิ งานนี้ขอลืมคำว่ารุ่นพี่รุ่นน้องชั่วคราวแล้วกันนะ


พี่สาวที่ชื่อแอนมองอย่างไม่พอใจ "เพื่อนพี่เขาชอบบลู แล้วบลูก็เคยชอบพิณมาก่อน แล้วน้องมาแย่งไปแบบนี้มันดีแล้วเหรอคะ? นี่พี่พูดในฐานะที่เคยเป็นแฟนเขานะ และเราต้องสนับสนุนเพื่อนอยู่แล้วนี่"


ฉันชักสนุกกับการโต้เถียงขึ้นมาเสียแล้วสิ "แล้วไงคะ? พี่บลูก็เลิกชอบพี่ทั้งสองไปแล้วนี่นา แล้วใครกันนะที่หักอกพี่บลูไปอย่างไม่มีชิ้นดีตอนปี 48 ส่วนอีกคนก็เห็นเค้าเป็นตัวสำรอง อย่ามาหวงก้างเลยค่ะ" แน่นอนว่าฉันกัดไม่ปล่อยเลยทีเดียว ขอทีเถอะ!! ถึงจะต้องยกพี่บลูให้สองคนนั่นทีหลัง แต่ก็ต้องดีกว่าตรงที่เราได้ต่อสู้และแพ้ตามเกมส์ ไม่ใช่ว่าไม่ทำอะไรเสียเลย


พี่พิณ คนที่มาหาเรื่องเมื่อเช้ามองฉันอย่างไม่พอใจ "น้องคะ เราคงต้องเคลียร์กันจริงๆแล้วล่ะนะ ไปที่สวนเสริมกันเถอะ"


พี่แอนพยักหน้า "ไปกันน้อง เราคงต้องคุยกันยาว" เอาวะ... ไปก็ไป


แต่ก็ต้องผิดคาดเพราะเมื่อเรามาถึงหลังหอประชุม ซึ่งลับตาคนอย่างน่าแปลกใจ ฉันก็ถูกผลักล้มลงไปกองกับพื้นทันที "โอ๊ย! เจ็บนะคะ"


พี่พิณแสยะยิ้ม "พี่ไม่มีทางยอมให้คนอย่างน้องต้องมาคบกับคนที่พี่ต้องการหรอก"


"นั่นสิ ยัยพัชราภา เด็กใหม่สอบเข้าม.4 เมื่อปีที่แล้วซะด้วย คิดเหรอว่าอยู่มาปีเดียวจะปลูกฝังความเป็นลูกสวนนนท์ได้เข้มข้นเท่าคนที่อยู่มาตั้งแต่ม.ต้นอย่างพวกเราน่ะหา? อย่ามาแส่เลยยัยพวกแปลกแยก"


ฉันกัดฟันด้วยความโกรธ ดูเหตุผลของพวกเธอสิ... นี่หรือคนที่เป็นรุ่นพี่


"แล้วพวกพี่ล่ะคะ มาทำอ้างว่ามีความเป็นลูกสวนนนท์ แต่มันเกี่ยวด้วยเหรอคะว่าคนที่จะเหมาะสมกับพี่บลูต้องเป็นคนที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่ม.ต้น ในเมื่อความรักไม่ควรมีข้อจำกัด"


พี่พิณเงื้อมือขึ้น "แต่คนเข้าใหม่อย่างเธอมันก็ไม่เหมาะอยู่ดี เพราะโรงเรียนเราไม่เคยเปิดรับนักเรียนเข้าม.ปลายมาก่อน ถึงเข้ามาก็ไม่ได้เป็นคนของที่นี่ได้อย่างเต็มตัวหรอก ดังนั้นเธอก็ไม่สมควรจะอยู่กับใครทั้งนั้น"


(มีต่อ)

Last edited by MiyaCatZ (2008-07-29 21:24:56)


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#72 2008-07-29 17:19:39

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

ฉันเชิดหน้าเถียง "แล้วไงล่ะคะ แล้วยังไง!!" ก่อนจะสะดุ้งเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเสียงเพลงนี้ฉันตั้งไว้สำหรับสายของพี่บลูเท่านั้น นี่เขาตามหาฉันอยู่อย่างแน่นอน


แต่เมื่อหยิบโทรศัพท์ก็ต้องถูกพี่พิณแย่งไปเสียก่อน ถึงไม่มีเสียงตอบรับแต่พี่บลูก็ยังโทรฯเข้ามาต่อไป จนกระทั่งพี่พิณจำใจต้องรับสาย โดยมีพี่แอนปิดปากฉันไว้อย่างแน่นหนา


"สวัสดีค่ะ มีอะไรเหรอคะ?" มีเสียงจากในโทรศัพท์แว่วมา ทำให้พี่พิณมีสีหน้าหวาดหวั่น


ก่อนจะกรอกเสียงตอบ "อ้าว... นั่นบลูเหรอ นายโทรมาทำไมเนี่ย? ขัดจังหวะหมด" และมีเสียงโวยวายดังออกมาจนฉันยังได้ยินด้วยเลย แต่พี่พิณกลับทำสีหน้าบึ้งตึงก่อนจะพูดตอบอย่างเยือกเย็น "เหอะ... ฉันอิจฉายัยนี่ชะมัด เรื่องอะไรจะต้องบอกด้วยล่ะ" และกดวางสายไป เธอมองมาทางฉันอย่างเย็นชา และรำพันออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้า


"ดีจังนะ ที่บลูรักเธอมากขนาดนี้..." ฉันมองพี่พิณอย่างปลงๆ ตอนเขารักก็เห็นเขาไม่มีค่า มารู้ตัวเองเมื่อสายก็แบบนี้แหละนะ


"ถ้าพี่ยอมรับความรักตอนที่พี่บลูยังรักพี่ก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอกค่ะ" ฉันกล่าว รู้สึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้งเสียแล้วสิ... ฉันผิดตรงไหนนะ ใจหนึ่งก็อยากเข้ามาเรียนตั้งแต่ม.ต้น และไม่อยากรู้สึกแปลกแยกเหมือนตอนเข้ามาได้ใหม่ๆ เพราะฉันมาจากจังหวัดเชียงใหม่ตอนจบประถม จึงไม่มีเพื่อนจากโรงเรียนเก่ามาอยู่ที่นี่ด้วย เลยต้องทำความรู้จักกับทุกคนนับตั้งแต่ศูนย์หมด


"เห็นใจพวกพี่ทีนะ ยังไงพี่ก็อยากให้บลูคบกับคนที่พี่คุ้นเคย..." พี่แอนว่า ก่อนจะมีเสียงแทรกขึ้น "นี่แอน เธอเป็นแม่ของยัยพิณเหรอ? ถึงจะให้แฟนเก่าตัวเองคบกับคนที่เธอซี้ด้วยน่ะ"


ฉันหันไปทางต้นเสียง พี่ต้นนั่นเอง! มีพี่บลูตามมาด้วยสีหน้ากังวล และเพื่อนๆของฉัน ควีน แอ๋ม และโต้งด้วย!!


พี่แอนมีสีหน้าตกใจ "อ้าวต้น... มาได้ยังไงน่ะ?"


พี่ต้นเดินเข้ามาด้วยสีหน้าโกรธแค้นมาก "นี่พวกเธอ! เราฟังมาจากควีนแฟนเราแล้วนะว่าตอนคาบแรก พิณขึ้นมาหาเรื่องพิ้งค์จนต้องร้องไห้ แล้วนี่ยังจะพาพิ้งค์มาบีบบังคับขู่เข็ญให้เอาบลูมามอบให้พวกแกงาบไป*รับประทาน*อีกเหรอ!! สมองแกทำมาจากอะไรวะ สลัดเค้าไปแล้วจะลากกลับมาง่ายๆ คนนะเว้ยไม่ใช่ตุ๊กตา เดี๊ยะพ่อโบก*ตื๊ดดด...*เลยนิ"


พี่บลูรีบเข้าไปเป็นกรรมการห้ามมวย "พอแล้วไอ้ต้น! แกก็ว่ามากเกินไปแล้วนะ" แต่ควีนที่เดือดพอกับประธานสุดที่รักของเธอก็ออกมาห้ามพี่บลูด้วยเช่นกัน


"พี่บลู!! พวกนั้นทำกับแฟนพี่แบบนี้จะเกรงใจอะไรอีกคะ? แล้วพี่ไม่คิดเลยเหรอว่าพี่ทำให้พิ้งค์ต้องร้องไห้น้ำตาเสียไปกี่ปี๊บแล้ว ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดีก็จริง... แต่มาเกรงใจผิดคนแบบนี้มันไม่ใช่ผู้ดีแล้วนะคะ ถึงมันจะน่าอึดอัดเพราะคนนึงก็แฟนเก่าพี่ อีกคนก็อดีตคนที่ชอบ แล้วคนสุดท้ายจะเป็นแฟนปัจจุบันก็ตามน่ะ"


"แต่ปัจจุบันสำคัญกว่านะครับ พี่สัญญาแล้วนี่นาว่าจะไม่ทำพิ้งค์เสียใจ" โต้งหันมาพูด มีแอ๋มสนับสนุนอีกแรง "ใช่ค่ะพี่ อย่าลืมสิคะว่าพี่บอล แฟนเก่าพิ้งค์ก็เคยโดนถ่านไฟเก่างาบไปรับประทานเหมือนกันนะ มันช้ำใจจะตายถ้าต้องเจอเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมน่ะ"


ฉันยืนอึ้ง เพื่อนๆของฉันสุดยอดมากเลย!!! แต่คนที่พวกเธอเทศน์น่ะ... แฟนฉันนะ


พี่บลูถึงกับนิ่งไป เขาเองก็คงอึ้งแบบฉันแหละนะ ก่อนจะหันมาทางสองสาวอดีตคนที่รัก "แอน พิณ... เราไม่คิดเลยนะว่าพวกเธอจะทำแบบนี้ นี่คนที่เรารักนะ แล้วกะอีแค่ไม่มีแฟนแล้วตัวสำรองอย่างเราชิ่งไปมีแฟนบ้างมันถึงกับทุรนทุรายเลยเหรอ?"
ทั้งสองสาวหน้าเจื่อนลงทันที "เราขอโทษ..."


"ขอโทษแล้วมันหายเหรอพี่?" โต้งหันมาตอก แน่นอนว่าพี่ต้นกระแอมต่อทันที


"พอๆ หยุดเถียงกันสักทีเถอะ เรามาคุยกันจริงๆเถอะ ว่าทำไมพวกเธอสองคนถึงมารู้ตัวเองเมื่อสายได้น่ะ" พี่บลูเขยิบมาทางฉันทันที มีสีหน้ารู้สึกผิดเล็กน้อย


"ขอโทษนะพิ้งค์..." ฉันหันไปมองหน้าเขา ก่อนจะหันไปทางพี่ต้นอย่างไม่สนใจคนข้างตัว


++++++++++++++++++++++++++++++++

คำที่มี * คร่อมไว้และขีดเส้นใต้คือคนเขียนขอเซ็นเซอร์ไว้นะคะ 555+ (นายต้นอารมณ์เดือดจัด อยากเติมอะไรคิดเอาตามใจชอบ)

ตอนนี้เขียนถึงตอนที่ 30 จบแล้วเมื่อคืน ^^" นับตั้งแต่หลังจากลงตอนที่ 22 เป็นต้นไป จะเปลี่ยนการลงนิยายเหลือ 2 วันต่อตอนค่ะ!!

และถ้าเขียนจบแล้วจะเลื่อนมาลงทุกวันด้วยเลย ทั้งนี้เพื่อที่จะได้รีบไปอ่านหนังสือเตรียมสอบแอดมิชชั่นได้สักที = o ="" จะได้ไม่มัวเครซี่กับนิยายจนไม่เป็นอันทำอะไร แหะๆ ทั้งที่ก่อนเปิดเทอมก็กะจะไม่เขียนนิยายแล้วนะ

แต่นี่อยากทำอะไรเพื่อบอร์ดที่อยู่มาสามปีเท่านั้นเอง เพราะเข้ามหาลัยก็ไม่รู้ว่าจะได้เข้ามาเล่นอีกมั้ย ดูจากรุ่นพี่ก็หายหัวไปหมด แต่รุ่น 27 ที่สิงสถิตอยู่อย่างเหนียวแน่นก็คงไม่แน่มั้ง 55+

วันที่ 31 เจอกันอีกครั้งค่ะ ^__^ ยอดคนดูเยอะมากกกก... ช่วงสามวันนี้ ขอบคุณนะคะ 55+

จะครบพันแล้วเนี่ย อิอิ ขนาดตั้งกระทู้มายังไม่ถึงสามเดือนเลย ^^


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#73 2008-07-29 20:54:56

dadawizard
สมาชิก
From: Thailand
Registered: 2006-12-27
Posts: 583

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

Excuse ผิดจ้า

55+

Execuse คำใกล้เคียงคือ Execute ที่แปลว่าสังหาร


จะอยู่ไหนหนใดให้รู้ค่า                          พระคุณที่ได้รับมาอย่าลืมได้
ถิ่นกุหลาบนนท์งามล้วนชวนยวนใจ           หรือพระเกี้ยวอันยิ่งใหญ่บนอกเรา
สุวิชา โนภวังโหติมั่น                           ความรู้นั้นจงเชิดชูอย่าขลาดเขลา
กตัญญูกตเวทิตาเอา                           เป็นหลักเสายึดมั่นในแนวทาง

Offline

#74 2008-07-29 21:22:42

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: [Novel] Pink&Blue ปาฎิหารย์รักรั้วสวนนนท์

อ๊ายย = o = ศัพท์ผิด แหะๆ (ไปแก้ก่อน)

ขอบคุณนะคะ ^^ ที่ช่วยกันสอดส่องดูแลคำผิด แหะๆ


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

Board footer

Powered by FluxBB