You are not logged in.
Offline
ตัวเอก ชื่อ เต แล้ว อีก คนก้อ เชนะ หรอ
มานม่ายค่อยเข้ากันนะพี่ว่า = ='
คือว่าชื่อ เตยัง ค่ะ (แต่เรียกสั้นๆว่าเตเฉยๆ) และก้ออีกตัวชื่อ เชนะ ค่ะ เป็นเพื่อนกัน
(มานเปนเรื่องญี่ปุ่น+เกาหลี+ไทย - -a)
ลงก้อลงค่ะ ^^" ... ชื่อเรื่อง ก้อช่วยคิดหน่อยนะคะ แต่นู๋ต้องส่งวันพฤหัสฯเนี่ยแล้วอ่า (คิดม่ะออกม่ะเปนไรคะ) ...
วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันจะได้เข้ามาเรียนที่ฮันยัง ฉันนัดเจอกับริโกะที่ห้องสมุดเพื่อจะขึ้นไปจองที่นั่งพร้อมกัน ^^
"อ้าวริโกะ มาแล้วหรอ รอเรานานมั๊ย" ฉันทักทายริโกะ
"ไม่นานหรอก เออ.. นี่ เราได้เพื่อนเพิ่มอีกคนแล้วนะเชจัง นี้เทบเปเพิ่งเข้าใหม่เหมือนพวกเราเนี่ยแหละ"
ริโกะแนะนำเทบเปให้ฉันรู้จัก
"หรอ เราเชนะยินดีที่ได้รู้จักค่ะ" ฉันแนะนำตัวเองมั่ง
"อืม เช่นกันครับ งั้นเราขึ้นไปจองที่นั่งกันเถอะ" เทบเปเสนอ .. ฉันกับริโกะพยักหน้ารับ
"เชนะ นั่งกันตรงนี้มั๊ย" ริโกะถาม
"ก็ดีเหมือนกันใกล้อาจารย์ดี" ฉันเห็นด้วย
"งั้นผมนั่งข้างหลังริโกะนะ" เทบเปขอนั่ง
"อืม" ริโกะอนุญาต - -
"เออ.. เชนะ เพื่อนผมคนหนึ่งอ่ะมันยังไม่มาเลย ชื่อเตยังนะให้มันนั่งข้างหลังเชนะได้รึป่าว" เทบเปพูด
"อืม" ฉันตอบตกลง ....... หลังจากนั้นอีกครึ่งชั่วโมง
"จะเข้าแถวแล้วเพื่อนนายยังไม่มาอีกหรอเทบเป เด๋วก็ลงไปเข้าแถวไม่ทันหรอก" ฉันบ่น - -
"งั้นเราลงไปก่อนดีม่ะ สงสัยไอ้เตมันคงมาสายน่ะ" เทบเปบอกฉัน
หลังจากเลิกแถวแล้ว ทุกคนก็พากันเดินขึ้นห้องอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ...
"นี่นาย ไม่เห็นรึไงว่าที่ตรงนี้มีคนจองแล้วน่ะ"
"ก็นี่มันกระเป๋าเพื่อนผมอ่ะ มันบอกว่าจะจองที่ให้"
"แต่นายก็จะมาถือวิสาสะนั่งตรงนี้ไม่ได้นะ เราก็จองให้เพื่อนแล้วเหมือนกันหนิ"
"นี่เธอ ... -*-" หลังจากที่เราทะเลาะกันได้ไม่นาน เทบเปกับริโกะก็เดินเข้ามาห้าม
"เชนะ ทำอะไรน่ะ นี้เตยังเพื่อนเทบเปไง" ริโกะพยายามปราม
"ไอ้เต ทำอะไรว่ะ นี้เชนะเพื่อนข้าเองเว้ย" เทบเปอธิบาย
และเราก็มานั่งปรับความเข้าใจกัน ทุกอย่างกลับสู่ความสงบ ผลสรุปคือ ...
"ริโกะ แต่ยังไงฉันก็ยังไม่ชอบขี้หน้าหมอนั่นอยู่ดีอ่ะ" ฉันบ่น (รอบ 2 - -)
"เอาน่า แต่ยังไงก็ควรขอโทษกันหน่อยนะเต" เทบเปออกความเห็น
แล้วเราสองคนก็ต้องหันหน้ามาพร้อมกันและก็ ...
"ขอโทษ" ฉันกับเตยังขอโทษพร้อมกันอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ และก็หันกลับไปหน้าบึ้งเหมือนเดิม
"อาจารย์มาแล้ว" นักเรียนคนหนึ่งพูดขึ้น
"สวัสดีจ่ะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ครูคือที่ปรึกษาของพวกเธอนะ ครูชื่อ อาชิโมโต้ นานะ มีอะไรก็ปรึกษาครูได้เสมอเลยนะจะ" อาจารย์อาชิโมโต้
แนะนำตัวเอง
วิชาแรกเป็นวิชาคณิตศาสตร์ ฉันนั่งฟังอาจารย์อย่างตั้งใจ แต่พอหันไปหยิบสมุดทีไรเป็นต้องเสียอารมณ์ ไม่เข้าใจเลยทำไมฉันถึงรู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับหมอนั่นเลยนะ - -"
หนึ่งเดือนผ่านไป ฉันได้รู้จักเพื่อนในห้องมากมายทั้งเอมิ เวรา ฮองมิน เซรัน เทบเป และนายเตยัง พออาจารย์ให้จับกลุ่มทำงานทีไร ฉันได้อยู่กลุ่มเดียวกับหมอนั่นทุกครั้งเลย แย่จังก็ริโกะอ่าจิลากเราเข้ามา แล้วดันจับฉลากได้ทำงานคู่กับหมอนั่นอีก กำจริง แต่ก็ดีอย่างนะเพราะหมอนั่นเรียนเก่งมากๆ เลย เก่งกว่าเราอีกนะเนี่ย โดยเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์เรียกว่า เทพได้เลยล่ะ
แต่ที่ไม่ชอบขี้หน้าหมอนั่นก็คือ คำพูดของเขาที่พูดไม่คิด (เรียกว่าปากหมานั่นเอง-*-) โดยเฉพาะกับฉันหาเรื่องทะเลาะกันได้ทุกวัน จนชินกับคำพูดของหมอนั่นแล้ว (เรียกว่าปลงนั่นเอง- -) แต่หมอนั่นก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก ประมาณว่าผีเข้าผีออก (นี้คือไม่เลวร้าย = = )
... โปรดติดตามชมตอนต่อไปค่ะ ...
.. เอาเค้าโคร่งและชื่อตัวละครมาจากนิยายบ้างเรื่องรวมกัน ประกอบกับคิดเองด้วยค่ะ ^^
ป.ล. ยังไงก้อช่วยคอมเม้นหน่อยนะคะ นักเขียนมือใหม่ค่ะ .. คำไหนเขียนผิดช่วยท้วงทันที เพราะนู๋ต้องส่งชุมนุมหมอภาษา - -"
Last edited by battle_cv (2006-08-14 23:17:02)
'...เป็นเหมือนชีวิต
แต่...เป็นหมือนลมหายใจ...
คนเราจะอยู่ได้ยังไง ถ้าไม่มี ลมหายใจ '
Offline
ยาวประมาณกี่หน้าคับน้อง จะได้กะถูก (จะอ่านต้องมีกะด้วยหรอฟะ -*-)
BBoy Kelvin Soul of Sins Crew
Offline
satoru wrote:เราแต่งฟิคนะ แต่...เนื้อหาไม่ค่อยเหมาะกับเด็กและเยาวชนเท่าไหร่...:lol:
ขออ่านหน่อยสิคับ
ฟิคyuriติดเรท...นะ:lol:
Offline
ต่อจากตอนที่แล้ว .. (มี 3 ตอนค่ะ นู๋ไม่อยากโพสต์หมดเพราะมันยาวเกินไป)
วิชาแรกเป็นวิชาคณิตศาสตร์ ฉันนั่งฟังอาจารย์อย่างตั้งใจ แต่พอหันไปหยิบสมุดทีไรเป็นต้องเสียอารมณ์ ไม่เข้าใจเลยทำไมฉันถึงรู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับหมอนั่นเลยนะ - -"
หนึ่งเดือนผ่านไป ฉันได้รู้จักเพื่อนในห้องมากมายทั้งเอมิ เวรา ฮองมิน เซรัน เทบเป และนาย
เตยัง พออาจารย์ให้จับกลุ่มทำงานทีไร ฉันได้อยู่กลุ่มเดียวกับหมอนั่นทุกครั้งเลย แย่จังก็ริโกะอ่าจิลากเราเข้ามา แล้วดันจับฉลากได้ทำงานคู่กับหมอนั่นอีก กำจริง แต่ก็ดีอย่างนะเพราะหมอนั่นเรียนเก่งมากๆ เลย เก่งกว่าเราอีกนะเนี่ย โดยเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์เรียกว่าเทพได้เลยล่ะ
แต่ที่ไม่ชอบขี้หน้าหมอนั่นก็คือ คำพูดของเขาที่พูดไม่คิด (เรียกว่าปากหมานั่นเอง-*-) โดยเฉพาะกับฉันหาเรื่องทะเลาะกันได้ทุกวัน จนชินกับคำพูดของหมอนั่นแล้ว (เรียกว่าปลงนั่นเอง- -) แต่หมอนั่นก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก ประมาณว่าผีเข้าผีออก (นี้คือไม่เลวร้าย = = )
"เชนะ" (เสียงใครเรียกเราอ่า เทบเปหรอ?)
"หึ?..." (ฉันหันมาอย่างตกใจเมื่อรู้ว่าใครเรียก)
"ตะ..เตยัง มีอะไรหรอ?" (ฉันพูดด้วยเสียงตะกุกตะกัก และอึ้งนิดๆ เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่หมอนั่นพูดดีด้วย เพราะปกติจะเรียกฉันว่า นี่เธอ
หรือไม่ก็ ยัยเช- - )
"งานกลุ่มของเราอ่า เธอจะทำเรื่องอะไร" เตยังพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ
"เราขอทำเรื่องของชินจุกุ ฮันยัง ก็แล้วกัน" ฉันตอบเขาไปตามข้อเสนอ
"อืม งั้นผมทำเรื่องกฎระเบียบของโรงเรียนนะ" จากนั้นเราสองคนก็พยักหน้าตกลงกัน
แล้วเราก็หันหลังเดินแยกไปคนละทาง แต่แล้วฉันก็นึกบางสิ่งขึ้นมาได้
"เตคุง/เชจัง มีอะไรให้ช่วยก็บอกได้นะ" หา! ฉันกับหมอนั่นพูดพร้อมกัน เพียงแต่ผิดกันที่ชื่อเท่านั้นเอง-*-
ฉันหันกลับไปพร้อมกับความคิดอย่างหนึ่งในหัวสมอง ทำไมฉันถึงต้องพูดดีกับหมอนั่นด้วยหรือว่าฉันกับนายจะต้องญาติดีกันจริงๆ คงจะรู้สึกแปลกๆ นะที่อยู่ๆ ก็ไม่ต้องมาพูดทะเลาะกันอีกเหมือนกับว่าไม่ได้ทำกิจวัตรประจำวันอย่างนั้นแหละ - -
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันมาโรงเรียนแต่เช้าเหมือนทุกๆ วัน ฉันเห็นริโกะกำลังคุยกะเตยังอยู่ในห้อง ฉันก็เลยได้นั่งอ่านหนังสืออย่างสบายใจ (เพราะจะได้ไม่ต้องนั่งทะเลาะกับหมอนั่น-*-)
"เชนะๆ >< เห็นอาจารย์บอกว่าจะมีการแข่งขันตอบปัญหาวิทยาศาสตร์น่ะ เธอสนใจรึป่าว" ริโกะชวนฉัน
"หรอจ๊ะ งั้นขอเราคิดดูก่อนนะ^^" (ถ้าเป็นสมัยตอนอยู่ฮอนชูนะ ฉันเก่งที่สุดเลยล่ะ เวลามีการแข่งขันอะไรก็ได้รางวัลกลับมาทุกครั้งเลย เกียรติบัตรเนี่ยแทบล้นบ้าน แต่พอย้ายมาอยู่ที่ฮันยัง ฉันกลายเป็นแค่นักเรียนธรรมดาๆ ที่ไร้ความสามารถถ้าเทียบกับคนอื่น เพราะที่นี่มีคนที่เก่งกว่าฉันเกือบครึ่งห้องเลย พอมีการแข่งขันอะไร ฉันถึงไม่ค่อยมั่นใจในความรู้ของตัวเองสักเท่าไร)
"อืม แต่เชจัง เมื่อกี้ที่เราไปคุยกะเตคุงมาอ่า เขาชวน เอ้ย! ท้าเธอมานะ ยังไงก็ลองไปแข่งหน่อยเถอะ เธอน่ะ เก่งที่สุดในฮอนชูเลยไม่ใช่หรอ (เฮ้อ...เกือบไปแล้ว ถ้าไม่บอกว่าท้ามาเชนะต้องไม่ยอมไปแข่งแน่ๆ - -)"
ริโกะบอกฉันเรื่องที่หมอนั่นท้ามา
"แต่ฉันไม่ใช่คนเก่งของฮันยังซะหน่อย .. แต่ถ้าหมอนั่นท้ามา ฉันก็จะลองดู" ฉันรับคำท้าของเตยัง
ณ สถานที่สมัคร ... "คนต่อไป บอกชื่อและนามสกุลด้วยค่ะ^^"
"เรซัง เซรัน ค่ะ"
"เซอากิ เชนะ ค่ะ"
"ทาเมซึ เตยัง ครับ"
(นายเตนี่นา หมอนั้นพูดครับเป็นด้วยแหะ - - เพิ่งรู้นะเนี่ย)
"เชนะ มาติวข้อสอบกันมั๊ย" เซรันชวนฉัน
"เอาสิ" ฉันตอบตกลง พร้อมกับหยิบหนังสือวิทย์ขึ้นมาเล่มหนึ่ง
"ฉันติวด้วยคนนะ" เตยังขอติวด้วย
"ได้เลย/ตามใจ" ประโยคแรกของเซรัน ส่วนประโยคหลังของฉันเอง
จากนั้นฉัน เซรัน และเตยัง ก็มานั่งติวกันที่ห้องสมุด ทำให้ฉันนึกถึงริโกะกับเทบเป ตอนนี้สองคนนั่นก็คงอ่านหนังสืออยู่ในห้องสมุดเหมือนกับเราแน่ๆ เลย เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่เจอเท่านั้นเอง เพราะสองคนนั้นชอบกิน เอ้ย!ไม่ใช่ อ่านหนังสือ- - เป็นชีวิตจิตใจเลยล่ะ เวลาหากันไม่เจอ ก็จะเจอเขาสองคนสิงห์อยู่ที่นี่แหละ ส่วนฉันก็อ่านบ้างนะพวกนิยายวรรณกรรมน่ะ แต่ก็อ่านไม่เท่าสองคนนั่นหรอก
"นี่เธอ เหม่ออะไรอยู่น่ะ เห็นอ่านหน้านี้มาเป็นชั่วโมงแล้วนะ" เตยังคนเดิมกลับมาแล้ว - -"
"ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน นายจะยุ่งอะไรด้วยล่ะ" คำพูดวันนี้เริ่มไม่เหมือนเมื่อวานแหะ
แล้วการทะเลาะกันระหว่างฉันกับเตยังก็เริ่มขึ้น (รอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้) .. เซรันซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ทนไม่ได้กำลังจะห้ามแต่ก็ไม่ทัน เพราะว่า ...
"เซอากิ ทาเมซึ นี้มันห้องสมุดนะ เธอสองคนจะมาเสียงดังกันตรงนี้ไม่ได้"
อาจารย์ซาโต้ บรรณารักษ์ของห้องสมุดตักเตือน
"ขอโทษค่ะ/ขอโทษครับ" ฉันกับเตยังรีบยกมือขอโทษอาจารย์ ก่อนที่เราจะถูกไล่ออกจากห้องสมุด- -
เหตุการณ์ในวันนี้ ทำให้เราสองคนได้รับบทเรียนว่า ต่อไปนี้เราจะไม่มาทะเลาะกันที่ห้องสมุดอีก (อ้าว เป็นงั้นไป นึกว่าจะไม่ทะเลาะกันแล้วซะอีก- -) แต่ทุกครั้งที่เราสองคนทะเลาะกัน ฉันต้องกลับไปเจ็บคอทุกที ทำให้ฉันต้องไม่มีเสียงไปวันหนึ่งเต็มๆ เลย (แล้วจะทะเลาะกันไปเพื่อ?...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน-*-)
... โปรดติดตามชมตอนต่อไป ...
ป.ล. ตอน 2 จะอาจยาวหน่อยนะคะ แต่อีกตอนก้อจบแล้ว
Last edited by battle_cv (2006-08-15 19:07:11)
'...เป็นเหมือนชีวิต
แต่...เป็นหมือนลมหายใจ...
คนเราจะอยู่ได้ยังไง ถ้าไม่มี ลมหายใจ '
Offline
เตยัง -*-
เอ่อรอให้ลงจบแล้วเดี๋ยวเม้นทีเดียวเลย
ป.ล. แค่นี้ไม่ยาวหรอกคับ
SKN#28 NO.18428 17/05/2004 - 22/02/2010
Offline
เห้ย กระทู้ไอ้เตหรอวะเนี่ย *0*
เพิ่งจะรู้เหมือนกัน ..
ดีแระๆ กระทู้รวมฟิค ..
สู้ๆครับ ผมติดตามอ่าน ![]()
________________
อ่าว มีทั้ง เทปเป มีทั้ง นานะ *0*
อย่านึกว่าพี่ไม่รู้จักนะจ้ะ 55555555+
Last edited by Ld_sHiNji (2006-08-15 20:22:03)
มันทนไม่ได้ครับ .. น่ารักเกินไป 555+
จิงๆนะครับ .. *0*
Offline
เอ่อ .. เทบเปกะริโกะเนี่ยนู๋เอามาจากเรื่อง รักนี้เพื่อเธอ ค่ะ ส่วนนานะเนี่ยคิดขึ้นเองจริงๆ นะคะ
ไหนๆ ก้อไหนๆ แล้วเนอะ ต่อให้มันจบไปเลยก้อดี (กลัวโพสต์ทีเดียวยาวไป แล้วคนขี้เกียจอ่านอ่าค่ะ ^^"a) ...
วันนี้ฉันมาโรงเรียนแต่เช้าเหมือนปกติ เพียงแต่ว่าวันนี้มันเช้ามากๆเลย ฉันเดินเข้าไปในโรงเรียนอย่างสลึมสลือ -0- อยู่ๆ ก็มีคนมาทักฉันข้างหลัง (เท่านั้นแหละ หายง่วงเลย)
"เชนะ .." เตยังจับไหล่ฉัน ทำให้ฉันสะดุ้งเฮือก
"อ่อ .. นายเตนี่เอง - -" (ตกใจหมดเลย)
"ไม่ใช่ฉันแล้วจะใครล่ะ" เตยังตอบกลับฉัน
"บังเอิญจริงๆ เลยนะ ที่เจอนายเนี่ย" (ลิขิตสวรรค์ กลั่นแกล้ง ><)
"นั่นสิเนอะ ช่วงนี้เราเจอกันตรงนี้บ่อยจัง โลกกลมชะมัด" ... (ฉันก็ว่างั้น - -*)
แล้วฉันกับเตยังก็เดินขึ้นไปเปิดห้องด้วยกัน ยังดีที่วันนี้หมอนั่นไม่ชวนฉันทะเลาะ (เพราะเห็นว่าพรุ่งนี้ต้องแข่งแล้วนั่นเอง) เราสองคนนั่งติวกันอย่างตั้งใจ ไม่มีบทสนทนาหรือข้อความใด ที่จะมาขัดขวางการอ่านหนังสือของเราสองคนได้ อยากหยุดเวลาวินาทีนี้ไว้จัง รู้สึกว่าอ่านหนังสือแล้วเข้าหัวที่สุด
ถึงวันแข่งแล้ว ฉันตื่นเต้นมากเลย วันนี้ไม่มีกะจิตกะใจจะไปทะเลาะกับใครเลยล่ะ อีก 1 ชั่วโมงฉันก็จะต้องไปแข่งแล้ว ตอนนี้ก็นั่งอ่านหนังสือไปพลางๆ ก่อน
"เชจัง .. โชคดีนะ" ริโกะอวยพรให้ฉัน
"ไอ้เต อย่าทำให้ข้าผิดหวังนะเว้ย ^^" เทบเปให้กำลังใจเตยัง
"อืม" ฉันกับเตยังรับปากริโกะกับเทบเป เราจะทำให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้
ฉันอยู่ทีมเดียวกับเซรันและเตยัง คำถามแรกเริ่มขึ้นแล้ว ฉันช่วยกันคิดกับเซรันและต้องสงบศึกชั่วคราวกับหมอนั่น ... หลังจากแข่งเสร็จ ฉันกับเพื่อนก็มานั่งลุ้นกันอย่างใจจดใจจ่อ ผลปรากฎว่า ...
โรงเรียนฮันยังของเราได้ที่ 2 ส่วนที่ 3 คือโรงเรียนฮอนชู และที่ 1 ก็คือโรงเรียนเทตัน (เฮ้อ...แต่แค่นี้ก็ดีใจจะแย่แล้ว ไม่ได้ที่ 1 ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย^^) และพวกเราก็ขึ้นไปรับรางวัลกันอย่างสมเกียรติ
อย่างไรก็ตาม ถึงฉันกับเตยังจะไม่ค่อยถูกกัน แต่เราก็ยังรู้จักกาลเทศะ (รู้ว่าตอนไหนควรทะเลาะ ไม่ควรทะเลาะ - -) และตอนนี้เราสองคนก็ดีกันแล้ว ทะเลาะกันน้อยลงด้วย (และก็ยังเป็นอริกันเหมือนเดิม) แต่เพราะความสามัคคีและช่วยเหลือกันเนี่ยแหละ ที่ทำให้ฉันกับเพื่อนประสบความสำเร็จ - เซอากิ เชนะ -
.. จบแล้วจ้า ..
ป.ล. หากเกิดข้อผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วยนะคะ /นักเขียนมือใหม่
(พูดยังกะเขียนคำนำแน่ะ - -) ... รู้สึกว่าเรา Edit บ่อยจัง - -"
Last edited by battle_cv (2006-08-15 20:53:46)
'...เป็นเหมือนชีวิต
แต่...เป็นหมือนลมหายใจ...
คนเราจะอยู่ได้ยังไง ถ้าไม่มี ลมหายใจ '
Offline
อ่อ .. ก้อ ok ดีครับ เรียบๆง่ายๆ
จบราบรื่นดีครับ .. แต่สั้นไปหน่อย
พี่อยากอ่านไปเรื่อยๆ ยาวๆ อ่ะ ชอบอ่านเพลินดีครับ ![]()
มันทนไม่ได้ครับ .. น่ารักเกินไป 555+
จิงๆนะครับ .. *0*
Offline
และแล้วมันก็ไม่ร้าง จะกรุณามากหากไม่ใช่ชื่อของพระผมนะขอรับ:lol::P:lol::P:lol:

Offline
มาเม้นกันเต้อ
ก่อนอื่น มันเป็นเรื่องสั้นชิมิ
ชื่อตัวละครอะ มันควรจะเป็นแนวทางเดียวกันหมด เช่นไทยก็ไทยหมด เกาหลีก็เกาหลีหมด หรือเอาที่มันเกี่ยวข้องกับเรื่องหน่อย
ซึ่งน้องก็ทำโอเคแล้ว แหละ
บทสนทนามากไปนิด เอ่อตอนเริ่มแรกสั้นไปทั้ยคับ มันยังไม่ค่อยรู้เรื่องเลยว่าใครเป็นใคร ชอบตอนบรรยายมากเลยอ่ะ ตรงที่มันเป็นการบรรยายความคิดของตัวละครตัวหนึ่ง เหมือนอ่านไดอารี่อ่ะ ชอบฟิคแนวนี้มาก (แต่งแบบนี้เกือบจะเป็น)
ตอนจบก็โอเค แต่ยังกับโดนตัดจบจบดื้อๆเลย
SKN#28 NO.18428 17/05/2004 - 22/02/2010
Offline
มาเม้นกันเต้อ
ก่อนอื่น มันเป็นเรื่องสั้นชิมิ
ชื่อตัวละครอะ มันควรจะเป็นแนวทางเดียวกันหมด เช่นไทยก็ไทยหมด เกาหลีก็เกาหลีหมด หรือเอาที่มันเกี่ยวข้องกับเรื่องหน่อย
ซึ่งน้องก็ทำโอเคแล้ว แหละบทสนทนามากไปนิด เอ่อตอนเริ่มแรกสั้นไปทั้ยคับ มันยังไม่ค่อยรู้เรื่องเลยว่าใครเป็นใคร ชอบตอนบรรยายมากเลยอ่ะ ตรงที่มันเป็นการบรรยายความคิดของตัวละครตัวหนึ่ง เหมือนอ่านไดอารี่อ่ะ ชอบฟิคแนวนี้มาก (แต่งแบบนี้เกือบจะเป็น)
ตอนจบก็โอเค แต่ยังกับโดนตัดจบจบดื้อๆเลย
เออๆ ลืมไปเลย ..
ชอบตอนน้องแต่งบรรยายความคิดตัวละครเหมือนกัน .. ราบรื่นดีจัง ..
แล้วก้อๆ จบดื้อๆไปหน่อยอ่ะคับ
มันทนไม่ได้ครับ .. น่ารักเกินไป 555+
จิงๆนะครับ .. *0*
Offline
ส่วนกระผมก็รู้สึกดีนะครับ อยากจะอ่านต่อบ้าง หรือจะเรื่องใหม่ๆก็ได้นะครับ แต่ไม่ชอบตรงตัวละครบางคนที่มีแต่ชื่อโดยไม่มีบทอะรเลยแม้แต่น้อย
ถ้าเป็นไปได้อยากจะขออ่านนิยายแบบยาวเหยียด แนวไหนก็ได้ครับ แล้วแต่เลย

Offline
ส่วนกระผมก็รู้สึกดีนะครับ อยากจะอ่านต่อบ้าง หรือจะเรื่องใหม่ๆก็ได้นะครับ แต่ไม่ชอบตรงตัวละครบางคนที่มีแต่ชื่อโดยไม่มีบทอะรเลยแม้แต่น้อย
ถ้าเป็นไปได้อยากจะขออ่านนิยายแบบยาวเหยียด แนวไหนก็ได้ครับ แล้วแต่เลย
เออใช่ๆๆ .. คุณครูที่ปรึกษาอ่ะ นานะ อะไรนั่นอ่ะ ไม่มีบทเลย
มันทนไม่ได้ครับ .. น่ารักเกินไป 555+
จิงๆนะครับ .. *0*
Offline
แต่ไม่ชอบตรงตัวละครบางคนที่มีแต่ชื่อโดยไม่มีบทอะรเลยแม้แต่น้อย
ใช่เลย คือมันไม่จำเป็นต้องใส่ชื่อก็ได้ถ้าไม่มีบท
SKN#28 NO.18428 17/05/2004 - 22/02/2010
Offline
คือผมถูกใช่ไหมขอรับ
:D:D:D:D

Offline
คือผมถูกใช่ไหมขอรับ
:D:D:D:D
ชาตินี้เมิงเพิ่งจะพูดถูกครั้งแรก (รึเปล่า ?) 555555555+
:lol::lol::lol::lol::lol::lol::lol::lol:
มันทนไม่ได้ครับ .. น่ารักเกินไป 555+
จิงๆนะครับ .. *0*
Offline
มากไปมากไป

Offline
อยากอ่านฟิคอื่นๆบ้างอะ![]()
:D:lol:

Offline
อยากอ่านฟิคอื่นๆบ้างอะ
:D:lol:
นั่นดิ .. งั้นเมิงโพสดิ
:lol::lol:
มันทนไม่ได้ครับ .. น่ารักเกินไป 555+
จิงๆนะครับ .. *0*
Offline
สบายมากแต่งแปป:D:lol::rolleyes:

Offline
อืม น้อง batter-cv ครับพี่ขอเม้นหน่อยนะ มันค่อนข้างจะทรมานคนอ่านจิงๆๆนะ น่าจะเว้นวรรคให้ใหย๋หน่อยนะครับ เรื่องยังไม่ได้เห็นก้อปวดตาแล้วอะนะ
อยากอ่านฟิคอื่นๆบ้างอะ
จาอ่านขอผมอะปล่าวครับ มันเป็นแนวแฟนตาซีแบบว่าต้องปั่นกันอีกนานกว่าจะจบ เขียนไปแค่3บทเอง กัวไม่มีใครจาสนใจ หรือกัวเราเองจะเขียนไม่จบ
นิทรา ใต้เงารัตติกาล จันทราส่องแสง เหนือเมฆา
เดือนตะวันค่ำคล้อยร้อยตาม วันเวลา
แม้นรักนี้ไม่อาจคงนาน แต่หัวใจรักที่มีให้เธอจะมีตราบจนดวงจันทร์ไร้แสงเดือน
Offline
อืม น้อง batter-cv ครับพี่ขอเม้นหน่อยนะ มันค่อนข้างจะทรมานคนอ่านจิงๆๆนะ น่าจะเว้นวรรคให้ใหย๋หน่อยนะครับ เรื่องยังไม่ได้เห็นก้อปวดตาแล้วอะนะ
อยากอ่านฟิคอื่นๆบ้างอะ
จาอ่านขอผมอะปล่าวครับ มันเป็นแนวแฟนตาซีแบบว่าต้องปั่นกันอีกนานกว่าจะจบ เขียนไปแค่3บทเอง กัวไม่มีใครจาสนใจ หรือกัวเราเองจะเขียนไม่จบ
ลงมาเถอะครับ .. มีผู้คนรออ่านเยอะแยะ ![]()
จะได้ชวนกัน ปรับโน่น เสริมนี่ เป็นข้อติชมด้วยครับผม ![]()
มันทนไม่ได้ครับ .. น่ารักเกินไป 555+
จิงๆนะครับ .. *0*
Offline
ขอแปะเป็นลิงค์นะครับ
http://my.dek-d.com/Writer/story/view.php?id=148966
เป็นแนวแฟนตาซีขอเน้นยำนะครับ
เมนมาได้เลยครับพร้อมรับฟังทุกความคิดเห็นครับ
นิทรา ใต้เงารัตติกาล จันทราส่องแสง เหนือเมฆา
เดือนตะวันค่ำคล้อยร้อยตาม วันเวลา
แม้นรักนี้ไม่อาจคงนาน แต่หัวใจรักที่มีให้เธอจะมีตราบจนดวงจันทร์ไร้แสงเดือน
Offline
ถึง batter-cv...
อยู่ ม.1หรือ2ใช่ไหม งั้นขอเรียกว่าน้องนะครับ
บอกก่อนว่าอ่านแบบคร่าวๆ เพราะไม่ชอบอ่านงานเขียนแนวนี้เท่าไหร่ จะคอมเม้นท์เป็นส่วนๆนะ
- เรื่องนี้ไม่น่าจบแค่สามตอนนะครับ เพราะแนวเรื่องเหมาะจะเป็นเรื่องสั้นขนาดยาวมากกว่า (สักราวๆ10-15ตอนขึ้นไปในมาตรฐานส่วนตัว)ถ้ามีแค่สามตอนน่าจะเขียนเป็นเรื่องสั้นไม่แยกตอนเลยจะเหมาะกว่า
- ขาดบทบรรยายและภูมิหลังไปนิด ขาดรายละเอียดต่างๆ โดยเฉพาะตัวละคร ไม่มีการบรรยายรูปร่างหน้าตากับภูมิหลังให้ได้รู้เลย อย่างตรงนี้
วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันจะได้เข้ามาเรียนที่ฮันยัง ฉันนัดเจอกับริโกะที่ห้องสมุดเพื่อจะขึ้นไปจองที่นั่งพร้อมกัน ^^
"อ้าวริโกะ มาแล้วหรอ รอเรานานมั๊ย" ฉันทักทายริโกะ
"ไม่นานหรอก เออ.. นี่ เราได้เพื่อนเพิ่มอีกคนแล้วนะเชจัง นี้เทบเปเพิ่งเข้าใหม่เหมือนพวกเราเนี่ยแหละ"
ริโกะแนะนำเทบเปให้ฉันรู้จัก
น่าจะบอกที่มาที่ไปของริโกะสักหน่อย ว่าเป็นเพื่อนสนิทหรืออะไรทำนองนั้นรวมถึงหน้าตาท่าทางของตัวละครตัวนี้ด้วย คนอ่านไม่ได้รู้จักตัวละครมาก่อน ถ้าไม่บรรยายลักษณะให้รู้ก็จะจิตนาการภาพของตัวละครไม่ได้
(และโรงเรียน... ดูเหมือนจะอยู่ในประเทศญี่ปุ่น แต่ทำไมมีนักเรียนชื่อเหมือนคนเกาหลีด้วยล่ะ = = แปลกดีแหะ)
ควรจะมีบทบรรยายกับเพิ่มรายละเอียดให้ชัดเจนกว่านี้สักหน่อยนะครับ
- บทสนทนาเมื่อเทียบกับบทบรรยายถือว่ามีเยอะเกินไป แถมหลายประโยคยังดูแปร่งๆ
- การตัดฉากบางตอนเหมือนจะเร็วเกินไป น่าจะมีบทบรรยายขั้นสักหน่อย อย่างตรงนี้
หลังจากเลิกแถวแล้ว ทุกคนก็พากันเดินขึ้นห้องอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ...
"นี่นาย ไม่เห็นรึไงว่าที่ตรงนี้มีคนจองแล้วน่ะ"
ตรงนี้จู่ๆตัวเอกก็โพล่งออกมา น่าจะมีอะไรขั้นสักหน่อย ประมาณว่า "ทุกคนก็พากันเดินขึ้นห้อง - - - ฉันเดินไปยังโต๊ะที่เทปเปจองเอาไว้ให้เพื่อนของเขา แต่กลับพบเด็กผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่..." อะไรทำนองนี้
- เหตุการณ์บางอย่างไม่สมจริง ขอยกเหตุการณ์เมื่อครู่มาอีกครั้ง
หลังจากเลิกแถวแล้ว ทุกคนก็พากันเดินขึ้นห้องอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ...
"นี่นาย ไม่เห็นรึไงว่าที่ตรงนี้มีคนจองแล้วน่ะ"
ตามปกติตัวเอกน่าจะถามคนที่มานั่งก่อนว่าใช่นายเตยังหรือเปล่า เพราะตัวเอกก็ยังไม่รู้จักหน้าตาเตยังแต่ดันตะแบงใส่คนแปลกหน้าที่มานั่งโต๊ะที่มีกระเป๋าวางไว้มันออกจะแปลกไปหน่อย ผิดสามัญสำนึกของมนุษย์...
- ตอนจบงง... รู้สึกว่าไม่ค่อยเข้ากับพล็อตของเรื่องไหร่ ตกลงว่าไม่ใช่แนวรักๆแต่เป็นแนวมิตรภาพหรือกาลเทศะทำนองนั้น? จบแบบนี้ทำให้เหตุการณ์ที่ผ่านมาดูไร้แก่นสารไปเลย เพราะหลายคนน่าจะเชื่อว่าตัวเอกกับนายเตยังต้องมาชอบกันแน่ๆ - -
ตอนจบก็ตัดเร็วไปเหมือนที่บางคนว่า
- ยังมีภาษาวิบัติอยู่ (อย่าง "ป่าว" ต้องเป็น "เปล่า" "มั่ง" ต้องเป็น "บ้าง")
- วงเล็บเยอะไปหน่อย น่าจะเปลี่ยนให้เป็นบทบรรยายไปเลย
- ควรจัดระเบียบหน้ากระดาษหน่อย อ่านไม่ค่อยสบายตา
ที่อยากชมคือใช้คำเรียบๆ สื่อง่าย ไม่พยายามให้หรูเกินความสามารถ อ่านแล้วเข้าใจง่ายดีครับ
สรุปคือยังมีหลายจุดที่ควรแก้ไข แต่ยังไงก็พยายามต่อไปแล้วกันเน้อ
Last edited by Sovo (2006-08-17 14:43:36)
Offline