You are not logged in.
เมื่อไรพวกเราจะมีการประท้วงท่านผู้นั้นสักทีละครับ
ผมทนมานานมากแล้ว เห็นการกระทำที่รุนแรงต่อเด็กขึ้นทุกวัน
มันไม่ถูกเลยนะ ที่ต้องมาทนแบบนี้
ตั้งกลุ่มแล้วไปขับไล่ท่านผู้นั้นเลยดีกว่านะครับ
"ขอร้อง"
Offline
Offline
กวนตีนเขาสนุกกว่าเยอะ 55555555555
Why So serious? ละคับ 555555
MEP#4 -----> 404,504 (Joker_Room)
Offline
เหอะๆ จขกท นำเล้ย
... ♪♫
Offline
ถ้าเราใช้ความรุนแรงบ้าง มันก็เป็นแบบที่เค้าทำนะครับ กลายเป็นเราก็จะกลายเป็นคนแบบเดียวกับเค้า
ช่วงนี้ ผมว่าเราควรจะรอ ให้กรรมมันพาไป... ถ้าใครจะสังเกตุ
ตอนนี้ทั้งกรรม ทั้งกฏหมาย ทั้งอดีต ทั้งอะไรต่อมิอะไรก็ย้อนกลับไปหาเค้าแบบอัตโนมัติแล้วเห็นมั้ย
ผู้อำนวยการอาจจะไม่ใส่ใจ อาจารย์บางคนอาจจะไม่เห็น นักเรียนบางคนอาจไม่รู้....
แต่ฟ้ามีตา ^^
หนุกหนาน นอบน้อม พร้อมรบ รักสงบ สยบดราม่า
follow me on twitter : @lemonoiz
Offline
เอาให้เรามีหลักฐานจริงๆ อะไรมัดตัวว่าเค้าผิดจริงๆ หลายๆเรื่อง เรื่องหนักๆ
แล้วค่อยคิดจะประท้วงนะน้องนะ เน้นว่ามีหลักฐานเพราะไม่งั้นเราจะกลายเป็น
เด็กงอแงไปนะน้องนะ
yocrab.exteen.com
facebook.com/yocrab
Offline
+10 เรปบนครับ
ถ้าไม่มีหลักฐน เราก็เด็กงอแงนี่เอง
Offline
สมัยนี้คนมีมือถือ มีกล้อง อยากเห็นคนบันทึกวิดิโอ เสียง ภาพ มาให้เห็นๆ กันเลยว่าเป็นยังไง
Offline
เอาแต่นั่งรอจับผิดเขา รอเขาล้ม แทนที่จะเอาเวลามานั่งคิดว่าจะทำยังไงให้อยู่ร่วมกันได้โดยไม่เกิดความบาดหมาง แทนที่จะคิดว่าซักวันหนึ่งโรงเรียนแห่งนี้จะกลับมามั่นคงเหมือนเดิม แทนที่จะคิดว่าถ้าประท้วงแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับโรงเรียนบ้าง พวกคุณประท้วงคนๆนั้นแค่คนเดียวแต่มันอาจกลายเป็นการทำร้ายโรงเรียนทั้งโรงเรียน คนข้างนอกเขาจะมองยังไง คุณต้องเข้าใจเขาก่อนแล้วค่อยให้เขามาเข้าใจคุณ นั้นหมายถึงถ้าคุณไม่อคติกับเขา น่าจะรู้น่าครับว่านิสัยท่านเป็นอย่างไร เป็นคนเจ้าระเบียบขนาดไหน แต่ก็ยังจะไปท้าทายเขา ก็ยิ่งเหมือนน้ำมันราดกองไฟ เขาก็ยิ่งหนักกว่าเดิม
ผมไม่ใช่คนมีอุดมการแรงกล้าแต่ผมก็ไม่อยากให้ทีที่ผมอยู่ต้องถูกลดระดับลง และผมเองจริงๆแล้วก็ไม่ชอบเขาเท่าไหร่หรอก แต่ก็ยังอยู่กันได้ เพราะผมก็ไม่ได้อคติอะไรกับเขา ผมไม่ได้ใส่ใจและไม่สนใจอะไรกับเขา และผมไม่ได้คิดจะไปยุ่งเกี่ยวกับเขาเลยซักนิด ทางคนก็ต่างทาง จะมีอยู่เรื่องเดียวก็แค่กฎของโรงเรียนที่ทำให้ผมกับเขาเกี่ยวกัน ก็แค่นั้น ผมเองก็เคยโดนเขาลงโทษเหมือนกันเพราะไม่ใส่เสื้อในกางเกง ก็แล้วยังไง ถ้าคิดว่ามันไม่โกรธใจเราก็ไม่โกรธ ถ้าถูกทำโทษแล้วไม่ใส่ใจอะไรกับมัน มันก็ไม่เกิดความรู้สึกอะไรขึ้น อยู่ที่ว่าจิตใจคุณมั่นคงและทนทานแค่ไหน
และเพื่อเป็นการเรียกร้องความสนใจสิ่งที่เล่าๆกันมาก็จะถูกแต่งเติมนิดๆหน่อยๆ ให้มีรสชาติมากขึ้น อย่าเชื่อในสิ่งที่ได้เห็น และได้ฟังจนกว่าคุณจะพิจารณาอย่างรอบคอบด้วยเหตุผลที่มันมีเหตุผลจริงๆ ส่วนคนที่มีเรื่องกับเขาก็อย่าไปใส่ใจเขาเลย นักเรียน 4000 คน คุณคงไม่โดนทุกครั้งหรอก ถ้าโดนตลอดนี้คงมีบัญชีเป็นการส่วนตัวแล้วแหละ เวลาเจอก็ยิ้มสู้ไว้ อย่าไปใส่ใจเรื่องเก่าๆ ปล่อยว่างมันไป ผมไม่ได้บังคับให้ท่านๆที่เป็นจำเลย ปล่อยว่างสิ่งเก่าๆทีเขาทำไว้ เพราะผมรู้ดีว่ามันยากแค่ไหนเวลาจะลืมเรื่องอัปยศซักเรื่อง แค่คุณใจเย็นและควบคุมตัวเองให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็พอแล้ว
ที่พูดอย่างนี้ผมไม่ได้หมายความว่าให้ก้มหัวรับชะตากรรม เป็นผู้แพ้ไปตลอดหรอกนะครับ ความหมายคนล่ะอย่างเลย
ผมแค่อยากจะพูดคำๆว่า "การยอมรับ เป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่รู้จักตัวเองแล้ว" ลึกไปนีดแต่คงจะเข้าใจความหมายกันน่ะครับ
Last edited by Ezio (2010-07-12 18:19:00)
Glasses Young
Offline
เอาแต่นั่งรอจับผิดเขา รอเขาล้ม แทนที่จะเอาเวลามานั่งคิดว่าจะทำยังไงให้อยู่ร่วมกันได้โดยไม่เกิดความบาดหมาง แทนที่จะคิดว่าซักวันหนึ่งโรงเรียนแห่งนี้จะกลับมามั่นคงเหมือนเดิม แทนที่จะคิดว่าถ้าประท้วงแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับโรงเรียนลบ้าง พวกคุณประท้วงคนๆนั้นแค่คนเดียวแต่มันอาจกลายเป็นการทำร้ายโรงเรียนทั้งโรงเรียน คุณต้องเข้าใจเขาก่อนแล้วค่อยให้เขามาเข้าใจคุณ นั้นหมายถึงถ้าคุณไม่อคติกับเขา น่าจะรู้น่าครับว่านิสัยท่านเป็นอย่างไร เป็นคนเจ้าระเบียบขนาดไหน แต่ก็ยังจะไปท้าทายเขา ก็ยิ่งเหมือนน้ำมันราดกองไฟ เขาก็ยิ่งหนักกว่าเดิม
ผมไม่ใช่คนมีอุดมการแรงกล้าแต่ผมก็ไม่อยากให้ทีที่ผมอยู่ต้องถูกลดระดับลง และผมเองจริงๆแล้วก็ไม่ชอบเขาเท่าไหร่หรอก แต่ก็ยังอยู่กันได้ เพราะผมก็ไม่ได้อคติอะไรกับเขา ผมไม่ได้ใส่ใจและไม่สนใจอะไรกับเขา และผมไม่ได้คิดจะไปยุ่งเกี่ยวกับเขาเลยซักนิด ทางคนก็ต่างทาง จะมีอยู่เรื่องเดียวก็แค่กฎของโรงเรียนที่ทำให้ผมกับเขาเกี่ยวกัน ก็แค่นั้น
อืม นั่นเพราะคุณ Ezio ไม่มีอะไรไห้ไปอคติกับเขา
ตอนนี้หลายคนอคติักับเขาเพราะมีเหตุไห้เป็นอย่างนั้น
เด็กสวน นนไม่ใช่คนบ้า เขาเข้ามาก็อคติทันที
อีกอย่างเขา ไม่เคยชี้แจงไห้สาธารณะเข้าใจบ้าง แม้แต่ครั้งเดียว
(จะมีก็เพียงแต่เรียกไปคุยเป็นคนๆ หรือพูดเขาเข้าใจคนเดียว)
การถูกไครสักคนอคติมันก็ต้องชี้แจงบ้าง แม้ไม่เป็นการลบอคติ อย่างน้อยก็แสดงไห้เห็นว่า พยายามคุยแล้ว
การที่เขาไม่ชี้แจงเขาไม่รู้เหรอว่าเราไม่เข้าใจ?
ผมว่าเขารู้นะว่าเราไม่เข้าใจ(จนอาจจะมีคนมาว่าทางเนทต่างๆ เขารู้แน่นอน)
เขาก็ไม่เคยอธิบายเลยยยย
อย่างงี้ไครกันแน่ที่ ต้องการบาดหมาง ต้องการเพิ่มอุณภูมิความตึงเครียด หรือทำลายการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
ปล.ผมพูดแบบนี้ไม่ใช่ผมไม่เข้าใจ ผมน่ะเข้าใจ เพราะผมก็เคยได้รับการอบรมจากท่าน แต่หลายๆคนไม่เข้าใจครับ
Last edited by Fox (2010-07-12 18:22:16)
Offline
จะประท้วง.... ไม่เหมาะล่ะค่ะ
แค่นี้คนไทยก็ถูกมองว่า เอะอะไม่ชอบไรก็ประท้วง มากพอดูแล้ว
สำหรับเรื่องนี้คงเป็นเรื่องของมุมมองมากกว่าค่ะ
แต่ละคนเติบโตมาในสิ่งแวดล้อมที่ต่างกัน ความคิดก็ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น
บางคนมองว่าการตีเป็นเรื่องเล็กเพราะโดนเป็นประจำ ในขณะที่บางคนก็มองว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะแม้แต่พ่อแม่ยังไม่เคยตี
(เราจัดเป็นพวกแรกเพราะโดนประจำ 555+)
จะว่ามาจับผิดหรือรอให้ล้ม... คงไม่มีเวลาว่างขนาดนั้น แค่นี้หนังสือก็จะทับหัวตายแล้ว
ขอเครียดกับการเรียนดีกว่า ว่ามั้ย ม.6 555+
Offline
จะว่ามาจับผิดหรือรอให้ล้ม... คงไม่มีเวลาว่างขนาดนั้น แค่นี้หนังสือก็จะทับหัวตายแล้ว
ขอเครียดกับการเรียนดีกว่า ว่ามั้ย ม.6 555+
คนล่ะประเด็นเลยครับ ไม่เกี่ยวกับการอ่านหนังสือเลย
Glasses Young
Offline
ยังไงผมก็ค้านการประท้วงหัวชนฝา
ถ้ามีหลักฐานก็เอาเป็นยื่นหลายๆที่ที่เขารับดีกว่านะครับ 55555
ปล.ไม่ว่าจะล้อเล่นหรือเอาจริง ก็ไม่ควร
Offline
ผมก็ไม่เห็นด้วยกับการประท้วงเหมือนกันครับ
แต่ผมก็มีอคติกับเขาจริงๆ
เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นจากเขาหลายๆเรื่อง เป็นเรื่องที่เกิดกับทั้งผมและเพื่อนรอบข้างผมทั้งนั้น ดังนั้นหลายๆเรื่องผมรับรู้มาเองว่ามันแย่เกินจะรับไหวแล้ว
ถ้าเขาแค่เข้มงวดด้านระเบียบอย่างเดียว ผมจะไม่ยุ่งอะไรกับเขาเลย จะสนับสนุนด้วยซ้ำ
แต่ทุกวันที่ ภาพที่ผมเห็นคือการกระทำของเขามันสุดทนจริง มีเกือบครบทุกรูปแบบแล้ว
ทั้งทำรุนแรงเกินกว่าเหตุที่เพื่อนผมหลายๆคนโดนไป
ใส่ร้ายป้ายสี ที่วันนี้ผมเองเห็นจะๆกับตา ว่าเขาพยายามจะดึงเสื้อของนักเรียนชายคนหนึ่งออกนอกกางเกง แต่นักเรียนคนนั้นก็ดึงสู้จนเขาเลิกไปเอง
อีกทั้งพฤติกรรมสารพัดรูปแบบที่เกินกว่าเด็กนักเรียนหลายๆคนจะรับไหว
ย้ำเหมือนเดิมครับ ถ้าแค่เข้มงวดระเบียบอย่างเดียวผมนอกจากจะไม่ต่อต้านแล้วจะยังสนับสนุนเขาอีกด้วย
Offline
เอาแต่นั่งรอจับผิดเขา รอเขาล้ม แทนที่จะเอาเวลามานั่งคิดว่าจะทำยังไงให้อยู่ร่วมกันได้โดยไม่เกิดความบาดหมาง แทนที่จะคิดว่าซักวันหนึ่งโรงเรียนแห่งนี้จะกลับมามั่นคงเหมือนเดิม แทนที่จะคิดว่าถ้าประท้วงแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับโรงเรียนบ้าง พวกคุณประท้วงคนๆนั้นแค่คนเดียวแต่มันอาจกลายเป็นการทำร้ายโรงเรียนทั้งโรงเรียน คนข้างนอกเขาจะมองยังไง คุณต้องเข้าใจเขาก่อนแล้วค่อยให้เขามาเข้าใจคุณ นั้นหมายถึงถ้าคุณไม่อคติกับเขา น่าจะรู้น่าครับว่านิสัยท่านเป็นอย่างไร เป็นคนเจ้าระเบียบขนาดไหน แต่ก็ยังจะไปท้าทายเขา ก็ยิ่งเหมือนน้ำมันราดกองไฟ เขาก็ยิ่งหนักกว่าเดิม
ผมไม่ใช่คนมีอุดมการแรงกล้าแต่ผมก็ไม่อยากให้ทีที่ผมอยู่ต้องถูกลดระดับลง และผมเองจริงๆแล้วก็ไม่ชอบเขาเท่าไหร่หรอก แต่ก็ยังอยู่กันได้ เพราะผมก็ไม่ได้อคติอะไรกับเขา ผมไม่ได้ใส่ใจและไม่สนใจอะไรกับเขา และผมไม่ได้คิดจะไปยุ่งเกี่ยวกับเขาเลยซักนิด ทางคนก็ต่างทาง จะมีอยู่เรื่องเดียวก็แค่กฎของโรงเรียนที่ทำให้ผมกับเขาเกี่ยวกัน ก็แค่นั้น ผมเองก็เคยโดนเขาลงโทษเหมือนกันเพราะไม่ใส่เสื้อในกางเกง ก็แล้วยังไง ถ้าคิดว่ามันไม่โกรธใจเราก็ไม่โกรธ ถ้าถูกทำโทษแล้วไม่ใส่ใจอะไรกับมัน มันก็ไม่เกิดความรู้สึกอะไรขึ้น อยู่ที่ว่าจิตใจคุณมั่นคงและทนทานแค่ไหน
และเพื่อเป็นการเรียกร้องความสนใจสิ่งที่เล่าๆกันมาก็จะถูกแต่งเติมนิดๆหน่อยๆ ให้มีรสชาติมากขึ้น อย่าเชื่อในสิ่งที่ได้เห็น และได้ฟังจนกว่าคุณจะพิจารณาอย่างรอบคอบด้วยเหตุผลที่มันมีเหตุผลจริงๆ ส่วนคนที่มีเรื่องกับเขาก็อย่าไปใส่ใจเขาเลย นักเรียน 4000 คน คุณคงไม่โดนทุกครั้งหรอก ถ้าโดนตลอดนี้คงมีบัญชีเป็นการส่วนตัวแล้วแหละ เวลาเจอก็ยิ้มสู้ไว้ อย่าไปใส่ใจเรื่องเก่าๆ ปล่อยว่างมันไป ผมไม่ได้บังคับให้ท่านๆที่เป็นจำเลย ปล่อยว่างสิ่งเก่าๆทีเขาทำไว้ เพราะผมรู้ดีว่ามันยากแค่ไหนเวลาจะลืมเรื่องอัปยศซักเรื่อง แค่คุณใจเย็นและควบคุมตัวเองให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็พอแล้ว
ที่พูดอย่างนี้ผมไม่ได้หมายความว่าให้ก้มหัวรับชะตากรรม เป็นผู้แพ้ไปตลอดหรอกนะครับ ความหมายคนล่ะอย่างเลย
ผมแค่อยากจะพูดคำๆว่า "การยอมรับ เป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่รู้จักตัวเองแล้ว" ลึกไปนีดแต่คงจะเข้าใจความหมายกันน่ะครับ
แปลว่าถูกทำเกินเหดก็ต้องยิ้มรับเหรอ ถ่้าคนไทยเปนแบบนี้เยอะ คนไม่ดีก็สบายสิ
Offline
ผลกรรมจะตามไปทีหลัง ยิ่งเราตอบเขาก็ยิ่งแรงกลับ
"แปลว่าถูกทำเกินเหดก็ต้องยิ้มรับเหรอ"
ผมไม่ได้บอกอย่างนั้นน่ะ อ่านดีๆ
แต่ถ้าทำอย่างนั้นก็ดีเหมือนกัน คนทำจะได้ละอายใจ เข้าใจความหมายของคำว่ายิ้มในที่นี้น่ะ เคยดูละครน้ำเน่าไหม ที่นางเองโดนรังแกจากแม่ยาย แล้วยิ้มตอบ แม่ยายอายเลย
Last edited by Ezio (2010-07-13 17:10:24)
Glasses Young
Offline
ผลกรรมจะตามไปทีหลัง ยิ่งเราตอบเขาก็ยิ่งแรงกลับ
"แปลว่าถูกทำเกินเหดก็ต้องยิ้มรับเหรอ"
ผมไม่ได้บอกอย่างนั้นน่ะ อ่านดีๆ
แต่ถ้าทำอย่างนั้นก็ดีเหมือนกัน คนทำจะได้ละอายใจ เข้าใจความหมายของคำว่ายิ้มในที่นี้น่ะ เคยดูละครน้ำเน่าไหม ที่นางเองโดนรังแกจากแม่ยาย แล้วยิ้มตอบ แม่ยายอายเลย
อ่อ โทดทีครับ ตอนแรกผมอ่านจบแล้ว แต่นายอีดิทเพิ่มเข้าไป คิดว่าเนื้อหาเีดียวกัน
แต่หลังจากผมอ่านดูอีกรอบ สุดท้ายที่จะสื่อก็คือ "การปล่อยวาง" นะครับ
้
คือผมจะบอกว่า ถ้าปล่อยวางได้ก็ไม่ต้องเรียนหนังสือแล้วครับ (อนาคตไม่ต้องหางานดีๆไห้ได้เงินเยอะๆ)
ผมว่าถ้ามัวคิดว่า "4000 คน คงไม่โดนเราทุกครั้ง" หรือ "เวลาเจอก็ยิ้มสู้ไว้ อย่าไปใส่ใจเรื่องเก่าๆ ปล่อยว่างมันไป"
มันดูหนีจากความจริงไปรึเปล่าครับ?
คิดว่าคนที่ได้รับการลงความเห็นจากสังคมว่า ไม่ดี จะมีความอายมั้ย?(ไม่ได้ว่าไครนา แค่พูดไปตามอารม อาจจะเกิดกะไครก็ได้)
แ้ล้วยิ่งถ้าคนไม่ดีคนนั้น กำลังคิดว่าสิ่งที่ทำเป็นเรื่องที่ ถูกต้อง ยิ่งไปกันใหญ่
รับรอง ไม่อาย และไม่หยุด
ไงต่อครับ? ยอมรับ? ปล่อยวาง? ยิ้ม? ไม่ใช่เราไม่ใส่ใจ? ใจเย็นควบคุมตัวเองไห้นิ่ง?
แต่ละวิธี ล้วนเป็นการสนับสนุนคนที่ถูกเรียกว่าคนไม่ดี กระทำไปกันใหญ่มิใช่หรือ?
สุดท้ายนี้ฝากไว้ว่า คนดีที่ปล่อยวาง(พลังเงียบ?) คืออันตรายในสังคม เพราะมันเป็นการจะปล่อยไห้คนไม่ดีกระทำการตามใจ
ปล.ไม่ได้ว่าไครเจาะจงจริงๆครับ แค่แสดงความเห็นเรื่องคนดีหรือคนไม่ดี เท่านั้น
Offline
บก.ปอท. เป็นบก.ที่แยกภาระกิจออกมาจาก บก.ปศท.เดิม(อาชญากรรมทางเศษฐกิจและเทคโนโลยี) ในหน่วยงานสอบสวนกลางเพื่อปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับความผิดทางเทคโนโลยี่ โดยเฉพาะความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ Ex หมิ่นประมาททางคอมฯ, การเข้าถึงข้อมูลคอมฯโดยมิชอบ, การตัดต่อภาพเป็นต้น ที่ตั้งอยู่ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ไม่ไกลสวนนนเลย อยากให้ทุกคนลองคิดให้ดีว่าขณะที่ทุกคนโพสต์ข้อความอะไรเกี่ยวกับใครสักคนที่ให้ร้ายมันมีกฏหมายมารองรับนะเค้ามีหน่วยงานตามหาพวกคุณได้ต่อไปนี้ถ้าเกิดอะไรกะเขาพวกคุณจะลำบากจึงอยากให้คิดให้ดี ดูตัวอย่าง AFที่ต้องโดนแบนเพราะ FACEBOOK ซิ พ่อแม่เดือดร้อนไปทั่ว แค่เขาร้องขอไปคำเดียวคุณก็จบ เตือนให้คิดสะกิดให้รู้ ต่างคนต่างทำหน้าที่ดีกว่านะพี่น้อง ให้กาลเวลาพิสูจน์เขาและเราดีกว่าจิงป่ะ
Offline
ผมว่าถ้ามัวคิดว่า "4000 คน คงไม่โดนเราทุกครั้ง" หรือ "เวลาเจอก็ยิ้มสู้ไว้ อย่าไปใส่ใจเรื่องเก่าๆ ปล่อยว่างมันไป"
มันดูหนีจากความจริงไปรึเปล่าครับ?
"4000 คน คงไม่โดนเราทุกครั้ง" จุดประสงค์ที่ผมเขียนมีเจตนาแค่การแนะนำเท่านั้น คือการไม่คิดเล็กคิดน้อย
"เวลาเจอก็ยิ้มสู้ไว้ อย่าไปใส่ใจเรื่องเก่าๆ ปล่อยว่างมันไป" ไม่ได้หนีความจริงเพียงแค่ไม่ยึดติดกับเรื่องเก่าๆ ความเป็นจริงที่ว่าคืออะไรล่ะ คือ อาจารย์ไม่ดี แล้วต้องไม่ดีตอบหรือ หรือประมาณว่า "สัสเมิงทำกุครั้งที่แล้วไม่ไหว้เมิงหรอก" ที่ผมพูดเพราะไม่อยากให้มีเรื่องกันเท่านั้น
ที่จริงแล้วผมไม่ควรขยายความอย่างนี้เพราะมันจะออกนอกเรื่องไปนิด แต่ขอพูดหน่อย
โอเค ที่พูดมาไม่ได้หมายความว่ายอมให้คนไม่ดีกระทำต่อเราไปเรื่อยก้มหัวให้เขาต่อไป และไม่คิดจะออกมาสู้เพื่อสิทธิ์ของตัวเอง ขอเท็จจริงมันอยู่ตรงนี้คือ .......ขอพูดความเป็นจริงเลยนะ ตัวคนเดียวเราทำอะไรเขาได้ เราไม่มีอำนาจที่จะเอาไปใช้ในการต่อรองกับเขาเลย ถ้าจะบอกว่าถ้ามีหนึ่งคนทำไม่ได้แต่หลายๆคน ทำได้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการประท้วงที่เป็นประเด็น อะไรที่สู้แล้วไม่ได้ผลแถมเสียประโยชน์อย่าสู้ต่อเลยดีกว่า หลักพิชัยสงครามกล่าวว่า เมื่อศัตรูอยู่ในชัยภูมิที่ได้เปรียบกว่า ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะโรมรันทำศึก ให้ถอยร่นลงมา แล้วหาชัยภูมิที่ดีกว่าเพื่อตีโต้กลับ แม้แต่ตอนนี้เรายังหาจุดยืนที่มั่นของเราไม่ได้เลย จะไปต่อกรอะไรกับคนที่เขามีจุดยืนที่ดีกว่าแถมรู้ไต๋มากกว่าเรา แถมเก๋าเกมส์กว่าอีก ผมเขียนอย่างนี้มันอาจขัดกับข้อความด้านบนที่ให้ปรองดอง แต่ข้อความที่ผมเขียนตอนนี้ผมแค่แนะนำผู้ที่จะมีเรื่องเท่านั้น แต่จริงแล้วนี่คือหนึ่งในเหตุผลหนึ่งจากหลายๆเหตุผลที่ผมเขียน ประโยค "เวลาเจอก็ยิ้มสู้ไว้ อย่าไปใส่ใจเรื่องเก่าๆ ปล่อยว่างมันไป" ขึ้นมา นอกจากจะไม่ให้เก็บไปคิดเล็กคิดน้อยและผมยังหยิบข้อความของท่าน NaoMi มาสนับสนุนด้วย เพราะผมเห็นด้วยกันเขาอย่างยิ่ง นอกจากนี้แล้วควรจะรู้ความจริงไว้ด้วยว่า คนเดียวทำอะไรไม่ได้จริงๆ มันไม่เหมือนหนังที่ตัวเอกจะเฮงๆ ในทุกสิ่ง ถ้าพูดแบบเจ้าเล่ห์ ก็ประมาณว่า ทำดีต่อคนไม่ดี เพียงเพื่อเฝ้ารอโอกาศที่จะมาถึง ก็คือก้มหัวในตอนนี้เพื่อความยิ่งใหญ่ในวันหน้า ลึกๆๆๆๆๆ ไม่ตื้นๆ
หลายคนรูัจักวิธีแบกรับความกดดันต่างๆได้ดี แล้วพวกเขารู้ว่าควรจะทำอย่างไรเมื่อเจอเหตุการณ์นั้น นี่เป็นความหมายของ "เวลาเจอก็ยิ้มสู้ไว้"
"คิดว่าคนที่ได้รับการลงความเห็นจากสังคมว่า ไม่ดี จะมีความอายมั้ย?(ไม่ได้ว่าไครนา แค่พูดไปตามอารม อาจจะเกิดกะไครก็ได้)
แ้ล้วยิ่งถ้าคนไม่ดีคนนั้น กำลังคิดว่าสิ่งที่ทำเป็นเรื่องที่ ถูกต้อง ยิ่งไปกันใหญ่
รับรอง ไม่อาย และไม่หยุด"
ประโยคนี้ผมไม่ขอพูดแล้วกัน เพราะตัวคุณเป็นคนตอบให้กับประโยคด้านบนของคุณแล้ว
("แปลว่าถูกทำเกินเหดก็ต้องยิ้มรับเหรอ") ซึ่งประโยคนี้ผมก็ไม่ได้เป็นคนเขียนและไม่มีเจตนาจะให้เป็นอย่างนั้น ผมแค่ขยายมันออกมา แล้วคุณก็มาขยายตอบอีกทีหนึ่ง
สุดท้าย เชื่อไม่ครับว่าเขาในตอนนี้หากเขาล้มเพียงครั้งเดียวจะไม่มีวันยืนขึ้นมาได้อีกเลย แต่เขาในอนาคตจะต้องดูกันต่อไป
Glasses Young
Offline
ประมวลกฎหมายอาญาฐานหมิ่นประมาท
มาตรา 326 ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 328 ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฏด้วยวิธีใด แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียงอย่างอื่น กระทำโดยการกระจายเสียง หรือโดยการกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่นใด ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เหตุยกเว้นความผิดฐานหมิ่นประมาท มีตามกฎหมายอาญามาตรา 329 ผู้ใดแสดงความคิดเห็นหรือข้อความใดโดยสุจริต
1.เพื่อความชอบธรรมป้องกันตนเองหรือป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม หรือ
2.ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติตามหน้าที่ หรือ
3.ติชมด้วยความเป็นธรรมซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ หรือ
4.ในการแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรมเรื่องการดำเนินการอันเปิดเผยในศาลหรือในการประชุม
ผู้นั้นไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
กฎหมายอาญามาตรา 330 กำหนดว่า ในกรณีหมิ่นประมาท ถ้าผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด พิสูจน์ได้ว่าข้อหาที่ว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นความจริง
ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ แต่ห้ามไม่ให้พิสูจน์ ถ้าข้อหาที่ว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นการใส่ความในเรื่องส่วนตัว และการพิสูจน์จะไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน
ดังนั้น ถ้าผู้กระทำผิดพิสูจน์ได้ว่าเรื่องราวที่กล่าวมาแล้วเป็นความจริง ผู้นั้นมีความผิดแต่ไม่ต้องรับโทษ แต่ก็มีข้อห้ามอีกว่าห้ามพิสูจน์หากข้อความที่ถูกหาว่าเป็นการหมิ่นประมาทนั้น
เป็นการใส่ความเรื่องส่วนตัวและการพิสูจน์ไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เช่นนี้ไม่ต้องพิสูจน์ถึงแม้จะเป็นเรื่องจริงก็ตาม เพราะถึงมีการพิสูจน์ออกมาว่าเป็นเรื่องจริงก็เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทอยู่ดี
.......
เมื่อก่อนจริงอยู่ ที่เคยเอาเรื่อง "เค้าเล่ามา" มาพูดบ่อยๆ แต่เดี๋ยวนี้ จากการมีที่ทำงานอยู่หน้าโรงเรียนเหมือนกัน ถ้าไม่เห็นกับตาก็ไม่เอามาเขียนหรอก
เข้มงวดกับกฏ ..โอเคดี มีการลงโทษ ..โอเคเข้าใจ แต่ลงโทษจนเขียวช้ำ ..อันนี้คืออะไร ยัดความผิดให้เด็ก ..อันนี้คืออะไร ? พยานมีมั้ย ..มี หลักฐานมีมั้ย ..มี
เห็นหลายข่าวก็นั่งเทียนเขียนกันมา เพราะพิสูจน์แล้วว่าไม่จริง บางคนก็ตัวเองทำผิดกฏจริงๆแต่ก็ลงมาแจมใส่ไฟด้วย ว่าไม่ตรงกับกฏ ฉะนั้น มองตัวเองก่อน
จะไปค้านใครเรื่องกฏ โดยที่ตัวเองเป็นคนทำผิดกฏ คิดว่าใครมีน้ำหนักกว่ากัน - -
ใครถูก ใครผิด ก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้า เขาผิดเราประหาร อันนี้โอเค แต่ถ้าเข้าบ่ผิดเรามล้าง ระวังดาบนั้นจะคืนสนอง
ปล.ลองหาดาบดีๆมาใช้ เช่นมือถือที่ถ่ายรูป/อัดเสียงได้ - -
หนุกหนาน นอบน้อม พร้อมรบ รักสงบ สยบดราม่า
follow me on twitter : @lemonoiz
Offline
ผมว่าถ้ามัวคิดว่า "4000 คน คงไม่โดนเราทุกครั้ง" หรือ "เวลาเจอก็ยิ้มสู้ไว้ อย่าไปใส่ใจเรื่องเก่าๆ ปล่อยว่างมันไป"
มันดูหนีจากความจริงไปรึเปล่าครับ?
"4000 คน คงไม่โดนเราทุกครั้ง" จุดประสงค์ที่ผมเขียนมีเจตนาแค่การแนะนำเท่านั้น คือการไม่คิดเล็กคิดน้อย
"เวลาเจอก็ยิ้มสู้ไว้ อย่าไปใส่ใจเรื่องเก่าๆ ปล่อยว่างมันไป" ไม่ได้หนีความจริงเพียงแค่ไม่ยึดติดกับเรื่องเก่าๆ ความเป็นจริงที่ว่าคืออะไรล่ะ คือ อาจารย์ไม่ดี แล้วต้องไม่ดีตอบหรือ หรือประมาณว่า "สัสเมิงทำกุครั้งที่แล้วไม่ไหว้เมิงหรอก" ที่ผมพูดเพราะไม่อยากให้มีเรื่องกันเท่านั้น
ที่จริงแล้วผมไม่ควรขยายความอย่างนี้เพราะมันจะออกนอกเรื่องไปนิด แต่ขอพูดหน่อยโอเค ที่พูดมาไม่ได้หมายความว่ายอมให้คนไม่ดีกระทำต่อเราไปเรื่อยก้มหัวให้เขาต่อไป และไม่คิดจะออกมาสู้เพื่อสิทธิ์ของตัวเอง ขอเท็จจริงมันอยู่ตรงนี้คือ .......ขอพูดความเป็นจริงเลยนะ ตัวคนเดียวเราทำอะไรเขาได้ เราไม่มีอำนาจที่จะเอาไปใช้ในการต่อรองกับเขาเลย ถ้าจะบอกว่าถ้ามีหนึ่งคนทำไม่ได้แต่หลายๆคน ทำได้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการประท้วงที่เป็นประเด็น อะไรที่สู้แล้วไม่ได้ผลแถมเสียประโยชน์อย่าสู้ต่อเลยดีกว่า หลักพิชัยสงครามกล่าวว่า เมื่อศัตรูอยู่ในชัยภูมิที่ได้เปรียบกว่า ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะโรมรันทำศึก ให้ถอยร่นลงมา แล้วหาชัยภูมิที่ดีกว่าเพื่อตีโต้กลับ แม้แต่ตอนนี้เรายังหาจุดยืนที่มั่นของเราไม่ได้เลย จะไปต่อกรอะไรกับคนที่เขามีจุดยืนที่ดีกว่าแถมรู้ไต๋มากกว่าเรา แถมเก๋าเกมส์กว่าอีก ผมเขียนอย่างนี้มันอาจขัดกับข้อความด้านบนที่ให้ปรองดอง แต่ข้อความที่ผมเขียนตอนนี้ผมแค่แนะนำผู้ที่จะมีเรื่องเท่านั้น แต่จริงแล้วนี่คือหนึ่งในเหตุผลหนึ่งจากหลายๆเหตุผลที่ผมเขียน ประโยค "เวลาเจอก็ยิ้มสู้ไว้ อย่าไปใส่ใจเรื่องเก่าๆ ปล่อยว่างมันไป" ขึ้นมา นอกจากจะไม่ให้เก็บไปคิดเล็กคิดน้อยและผมยังหยิบข้อความของท่าน NaoMi มาสนับสนุนด้วย เพราะผมเห็นด้วยกันเขาอย่างยิ่ง นอกจากนี้แล้วควรจะรู้ความจริงไว้ด้วยว่า คนเดียวทำอะไรไม่ได้จริงๆ มันไม่เหมือนหนังที่ตัวเอกจะเฮงๆ ในทุกสิ่ง ถ้าพูดแบบเจ้าเล่ห์ ก็ประมาณว่า ทำดีต่อคนไม่ดี เพียงเพื่อเฝ้ารอโอกาศที่จะมาถึง ก็คือก้มหัวในตอนนี้เพื่อความยิ่งใหญ่ในวันหน้า ลึกๆๆๆๆๆ ไม่ตื้นๆ
หลายคนรูัจักวิธีแบกรับความกดดันต่างๆได้ดี แล้วพวกเขารู้ว่าควรจะทำอย่างไรเมื่อเจอเหตุการณ์นั้น นี่เป็นความหมายของ "เวลาเจอก็ยิ้มสู้ไว้""คิดว่าคนที่ได้รับการลงความเห็นจากสังคมว่า ไม่ดี จะมีความอายมั้ย?(ไม่ได้ว่าไครนา แค่พูดไปตามอารม อาจจะเกิดกะไครก็ได้)
แ้ล้วยิ่งถ้าคนไม่ดีคนนั้น กำลังคิดว่าสิ่งที่ทำเป็นเรื่องที่ ถูกต้อง ยิ่งไปกันใหญ่
รับรอง ไม่อาย และไม่หยุด"ประโยคนี้ผมไม่ขอพูดแล้วกัน เพราะตัวคุณเป็นคนตอบให้กับประโยคด้านบนของคุณแล้ว
("แปลว่าถูกทำเกินเหดก็ต้องยิ้มรับเหรอ") ซึ่งประโยคนี้ผมก็ไม่ได้เป็นคนเขียนและไม่มีเจตนาจะให้เป็นอย่างนั้น ผมแค่ขยายมันออกมา แล้วคุณก็มาขยายตอบอีกทีหนึ่งสุดท้าย เชื่อไม่ครับว่าเขาในตอนนี้หากเขาล้มเพียงครั้งเดียวจะไม่มีวันยืนขึ้นมาได้อีกเลย แต่เขาในอนาคตจะต้องดูกันต่อไป
ครับ เข้าใจว่าทำอะไรเค้าไม่ได้หรอก
แต่ที่ผมจะสื่อคือ
"ไห้ผมนั่งเงียบๆก็คงไม่ได้เหมือนกัน เดี๋ยวเขาจะคิดว่าสิ่งที่ทำมันถูกและมีแต่คนยอมรับ"
รอเขาล้มน่ะใช่ครับ แต่ระหว่างรอ ถ้ามัวนั่งยิ้มไม่แสดงความเห็นบ้างเขาก็ไม่ล้มหรอกครับ
เหมือนนักมวย ถ้าเข้าปะทะตรงๆไม่ได้เพราะเขาเก่งกว่าใหญ่กว่า
ก็แย๊บๆ เตะพับในพับนอกไปเรื่อยๆ(ตอด) ก็มีสิทธิ์ทำไห้คู่ต่อสู้ล้มเหมือนกันไรแบบนี้
ถ้าเรายืนไห้เขาต่อย ผมก็ไม่เข้าใจว่าเขาจะล้มยังไง
ปล.ในเรื่องนักมวย การประท้วงคือการเดินลุยเข้าปะทะด้วยกำลังต่อกำลัง ซึ่งผลก็คือถูกเขาน๊อคครับ
แต่การแย๊บหรือเตะพับมันคนละอย่าง ไม่เหมือนกันครับ อย่าลืมว่าในสงครามแค่ข่าวลือก็ล่มเมืองได้
ปล2.ผมไม่ได้ว่าไครโดยเจาะจง เขาในที่นี้คือไครก็ได้55555
Offline
มะนาวมันเปรี้ยวก็เข้าใจ เปรี้ยวมากไปก็เข็ดฟัน มันอันตรายต่อสุขภาพนะ ถ้ายังไม่จบกกหมาย ยังไม่เรียนนิติศาสตร์ ยังไม่จบเน คุณย่อมไม่รู้จริงในแง่กำหมาย มาตราใน ม.อาญามันเป็นแค่แนวทางปกิบัติ เวลาใช้งานมันมากกว่าคุณคิด ถ้างั้นก็ไม่ต้องมีกระบวนนี้หรอก มีหนังสือคนละเล่มพอ ที่เตือนมาเพราะหลักการใช้มันไม่ใช่แค่ท่อง เตือนไว้ทำอะไรให้ใช้วิจารณญาณ เพราะมันคือหลักฐานมัดตัวได้นะ คุณแน่ใจหรือว่าคุณรู้จริง
Offline
^
^
ก็ยังไม่ได้จบ และก็ไม่ได้รู้จริงหรือเข้าใจลึกซึ้ง ไอ้นั่นน่ะก๊อปมาทั้งนั้นแหละ
แต่คำหยาบก็ไม่ได้ใช้ ไม่ได้ว่าเรื่องส่วนตัว ไม่ได้ขุดคุ้ย ไม่ได้ด่าเสียๆหายๆ
เรื่องที่พูดมันก็เรื่องจริง เกิดขึ้นจริง เห็นจริงๆทั้งนั้น ใส่ร้ายป้ายสีซะที่ไหน
บ้านเมืองมีขื่อมีแปนะ
ปล. ผมเกลียดมะนาว
ปล.2. 8.49.21 ไม่เข้าเรียนเหรอครับ ??
หนุกหนาน นอบน้อม พร้อมรบ รักสงบ สยบดราม่า
follow me on twitter : @lemonoiz
Offline
คือสงสัย ตั้งแต่ตอนที่ คุณ maina มาโพสใหม่ๆแล้วว่า ใช่เด็กเหรอ ดูจากสำนวนการพิมพ์
และพี่นาวก็มาค้นพบเวลาโพส....
Offline
Ezio wrote:ผมว่าถ้ามัวคิดว่า "4000 คน คงไม่โดนเราทุกครั้ง" หรือ "เวลาเจอก็ยิ้มสู้ไว้ อย่าไปใส่ใจเรื่องเก่าๆ ปล่อยว่างมันไป"
มันดูหนีจากความจริงไปรึเปล่าครับ?
"4000 คน คงไม่โดนเราทุกครั้ง" จุดประสงค์ที่ผมเขียนมีเจตนาแค่การแนะนำเท่านั้น คือการไม่คิดเล็กคิดน้อย
"เวลาเจอก็ยิ้มสู้ไว้ อย่าไปใส่ใจเรื่องเก่าๆ ปล่อยว่างมันไป" ไม่ได้หนีความจริงเพียงแค่ไม่ยึดติดกับเรื่องเก่าๆ ความเป็นจริงที่ว่าคืออะไรล่ะ คือ อาจารย์ไม่ดี แล้วต้องไม่ดีตอบหรือ หรือประมาณว่า "สัสเมิงทำกุครั้งที่แล้วไม่ไหว้เมิงหรอก" ที่ผมพูดเพราะไม่อยากให้มีเรื่องกันเท่านั้น
ที่จริงแล้วผมไม่ควรขยายความอย่างนี้เพราะมันจะออกนอกเรื่องไปนิด แต่ขอพูดหน่อยโอเค ที่พูดมาไม่ได้หมายความว่ายอมให้คนไม่ดีกระทำต่อเราไปเรื่อยก้มหัวให้เขาต่อไป และไม่คิดจะออกมาสู้เพื่อสิทธิ์ของตัวเอง ขอเท็จจริงมันอยู่ตรงนี้คือ .......ขอพูดความเป็นจริงเลยนะ ตัวคนเดียวเราทำอะไรเขาได้ เราไม่มีอำนาจที่จะเอาไปใช้ในการต่อรองกับเขาเลย ถ้าจะบอกว่าถ้ามีหนึ่งคนทำไม่ได้แต่หลายๆคน ทำได้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการประท้วงที่เป็นประเด็น อะไรที่สู้แล้วไม่ได้ผลแถมเสียประโยชน์อย่าสู้ต่อเลยดีกว่า หลักพิชัยสงครามกล่าวว่า เมื่อศัตรูอยู่ในชัยภูมิที่ได้เปรียบกว่า ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะโรมรันทำศึก ให้ถอยร่นลงมา แล้วหาชัยภูมิที่ดีกว่าเพื่อตีโต้กลับ แม้แต่ตอนนี้เรายังหาจุดยืนที่มั่นของเราไม่ได้เลย จะไปต่อกรอะไรกับคนที่เขามีจุดยืนที่ดีกว่าแถมรู้ไต๋มากกว่าเรา แถมเก๋าเกมส์กว่าอีก ผมเขียนอย่างนี้มันอาจขัดกับข้อความด้านบนที่ให้ปรองดอง แต่ข้อความที่ผมเขียนตอนนี้ผมแค่แนะนำผู้ที่จะมีเรื่องเท่านั้น แต่จริงแล้วนี่คือหนึ่งในเหตุผลหนึ่งจากหลายๆเหตุผลที่ผมเขียน ประโยค "เวลาเจอก็ยิ้มสู้ไว้ อย่าไปใส่ใจเรื่องเก่าๆ ปล่อยว่างมันไป" ขึ้นมา นอกจากจะไม่ให้เก็บไปคิดเล็กคิดน้อยและผมยังหยิบข้อความของท่าน NaoMi มาสนับสนุนด้วย เพราะผมเห็นด้วยกันเขาอย่างยิ่ง นอกจากนี้แล้วควรจะรู้ความจริงไว้ด้วยว่า คนเดียวทำอะไรไม่ได้จริงๆ มันไม่เหมือนหนังที่ตัวเอกจะเฮงๆ ในทุกสิ่ง ถ้าพูดแบบเจ้าเล่ห์ ก็ประมาณว่า ทำดีต่อคนไม่ดี เพียงเพื่อเฝ้ารอโอกาศที่จะมาถึง ก็คือก้มหัวในตอนนี้เพื่อความยิ่งใหญ่ในวันหน้า ลึกๆๆๆๆๆ ไม่ตื้นๆ
หลายคนรูัจักวิธีแบกรับความกดดันต่างๆได้ดี แล้วพวกเขารู้ว่าควรจะทำอย่างไรเมื่อเจอเหตุการณ์นั้น นี่เป็นความหมายของ "เวลาเจอก็ยิ้มสู้ไว้""คิดว่าคนที่ได้รับการลงความเห็นจากสังคมว่า ไม่ดี จะมีความอายมั้ย?(ไม่ได้ว่าไครนา แค่พูดไปตามอารม อาจจะเกิดกะไครก็ได้)
แ้ล้วยิ่งถ้าคนไม่ดีคนนั้น กำลังคิดว่าสิ่งที่ทำเป็นเรื่องที่ ถูกต้อง ยิ่งไปกันใหญ่
รับรอง ไม่อาย และไม่หยุด"ประโยคนี้ผมไม่ขอพูดแล้วกัน เพราะตัวคุณเป็นคนตอบให้กับประโยคด้านบนของคุณแล้ว
("แปลว่าถูกทำเกินเหดก็ต้องยิ้มรับเหรอ") ซึ่งประโยคนี้ผมก็ไม่ได้เป็นคนเขียนและไม่มีเจตนาจะให้เป็นอย่างนั้น ผมแค่ขยายมันออกมา แล้วคุณก็มาขยายตอบอีกทีหนึ่งสุดท้าย เชื่อไม่ครับว่าเขาในตอนนี้หากเขาล้มเพียงครั้งเดียวจะไม่มีวันยืนขึ้นมาได้อีกเลย แต่เขาในอนาคตจะต้องดูกันต่อไป
ครับ เข้าใจว่าทำอะไรเค้าไม่ได้หรอก
แต่ที่ผมจะสื่อคือ
"ไห้ผมนั่งเงียบๆก็คงไม่ได้เหมือนกัน เดี๋ยวเขาจะคิดว่าสิ่งที่ทำมันถูกและมีแต่คนยอมรับ"
รอเขาล้มน่ะใช่ครับ แต่ระหว่างรอ ถ้ามัวนั่งยิ้มไม่แสดงความเห็นบ้างเขาก็ไม่ล้มหรอกครับ
เหมือนนักมวย ถ้าเข้าปะทะตรงๆไม่ได้เพราะเขาเก่งกว่าใหญ่กว่า
ก็แย๊บๆ เตะพับในพับนอกไปเรื่อยๆ(ตอด) ก็มีสิทธิ์ทำไห้คู่ต่อสู้ล้มเหมือนกันไรแบบนี้
ถ้าเรายืนไห้เขาต่อย ผมก็ไม่เข้าใจว่าเขาจะล้มยังไง
ปล.ในเรื่องนักมวย การประท้วงคือการเดินลุยเข้าปะทะด้วยกำลังต่อกำลัง ซึ่งผลก็คือถูกเขาน๊อคครับ
แต่การแย๊บหรือเตะพับมันคนละอย่าง ไม่เหมือนกันครับ อย่าลืมว่าในสงครามแค่ข่าวลือก็ล่มเมืองได้ปล2.ผมไม่ได้ว่าไครโดยเจาะจง เขาในที่นี้คือไครก็ได้55555
ขอประโยคอ้างอิงด้วยครับตอบไม่ถูก
Glasses Young
Offline