Suannon Board

You are not logged in.

#1 2005-06-12 13:23:06

skylab
สมาชิก
Registered: 2005-05-27
Posts: 19

10 เรื่องลี้ลับในอวกาศ

เรื่องน่าขันเกี่ยวกับการค้นพบ คือว่ามันมักมีความลี้ลับใหม่ๆ ตามมาด้วย ปีนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น เมื่อการพบในวิทยาศาสตร์อวกาศที่เด่นมากมาย สร้างปัญหาให้นักดาราศาสตร์ที่มองหาความหมาย ต่อไปนี้เป็น 10 เรื่องลี้ลับที่นักดาราศาสตร์กำลังครุ่นคิดใน พ.ศ.2546

1)พลังงานมืด ไม่มีใครทราบว่ามันเป็นอะไรกันแน่ แต่มันเป็นการผลักดัน ขณะที่แรงโน้มถ่วงยึดสิ่งต่างๆ เข้าหากันในแต่ละแห่ง(ภายในดาราจักรและระหว่างดาราจักรในกระจุกดาราจักร) มีแรงที่ไม่รู้จักกำลังทำงานอยู่เบื้องหลังและทั่วเอกภพ เพื่อดึงให้ทุกสิ่งออกห่างจากกัน เพิ่งสังเกตกันได้ไม่นานมานี้ว่าเอกภพกำลังขยายตัวด้วยอัตราเร็วเพิ่มขึ้น เมื่อไม่พบร่องรอยว่ามันคืออะไร

ก็เรียกมันว่าพลังงานมืด ปีที่ผ่านมาพิสูจน์ได้ว่าพลังงานมืดกำลังทำงานอยู่ การคำนวณได้ทำให้ดีขึ้น แรงผลักมีอิทธิพลต่อเอกภพ มี 65% มวลมืดหรือมวลสารมืด(dark matter) ที่แปลกและไม่สามารถเห็นได้มี 30% ของเอกภพ ทำให้เอกภพมีแค่ 5% ของมวลและพลังงานตามปกติ การขยายตัวด้วยความเร่งให้แนวคิดว่า ดาราจักรทั้งหมดจะมีชะตากรรมแบบไม่มีที่สิ้นสุด หาจุดจบไม่ได้

2)น้ำบนดาวอังคาร ดาวอังคารยังปกปิดความลี้ลับไว้ได้ ไม่เปิดเผยกันง่ายๆ มีสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคารหรือไม่? ใครจะตอบได้ถูก ในเมื่อนี่ยังเป็นคำถามของนาซ่าและนักวิทยาศาสตร์ดาวอังคาร แต่ก่อนตอบคำถามนี้มีปัญหาเกี่ยวกับน้ำเหลวที่ชีวิตต้องการ

ทั้งๆ ที่มีการค้นพบสำคัญเกี่ยวกับน้ำแข็ง ในพ.ศ.2545 แต่ก็ไม่มีใครนึกภาพออกว่ามันอยู่ในสภาวะเหลวได้อย่างไร มีร่องรอยเมื่อเดือนธันวาคมเป็นริ้วรอยมืดบนผิวเป็นเกลือ และน้ำไหล แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายไม่มั่นใจหรอก ตอนนี้ยานอวกาศโอเดเซย์(Odyssey ของนาซ่า) กำลังโคจรรอบดาวอังคาร จะตามล่าหลักฐานมาให้

3)ใจกลางทางช้างเผือก บางสิ่งบางอย่างกำลังถูกกลืนที่หลุมดำใจกลางดาราจักรทางช้างเผือก การเฝ้าดูดวงดาวโคจรรอบหลุมดำของทางช้างเผือก ดำเนินไปแม้เป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นหลุมดำที่นั่น บริเวณรอบหลุมดำมีความกัมมันต์หรือความปั่นป่วนรุนแรง จากหอสังเกตการณ์จันทรา ที่แสดงแล้วเมื่อต้นพ.ศ.2545 แต่หลุมดำก็ไม่ได้สวาปามมวลมากพอจนคายรังสีเอกซ์พลังงานสูงอย่างที่เห็นในหลุมดำมวลมาก

พฤติกรรมของหลุมดำแสดงความแตกต่างมากมายจนนักวิทยาศาสตร์ยังไม่เข้าใจการศึกษาเมื่อเดือนมกราคม 2545 บอกว่าหลุมดำ 2 หลุม รวมกันอาจทำตัวเหมือนเป็นสวิทช์ปิดเปิดของความเป็นกัมมันต์ มีประกาศการสังเกตการณ์เมื่อเดือนพฤศจิกายนแสดงหลุมดำ 2 หลุมกำลังรวมกัน จะต้องอธิบายความแตกต่างระหว่างหลุมดำแบบธรรมดาของเราและหลุมใหญ่ที่สว่างไสวรอบดาราจักรไกลๆ

4)กำเนิดของชีวิต มีข้อมูลเพียงเล็กน้อยที่จะทำงานด้วยได้ โลกไม่ได้มีการบันทึกว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อหลายพันล้านปีที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ขาดแคลนความคิดกว้างไกล ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์เห็นกันว่าชีวิตสามารถอยู่รอดได้ด้วยการเดินทางจากดาวอังคารมายังโลก มันอยู่ในชิ้นส่วนที่หลุดจากดาวอังคารหลังถูกดาวเคราะห์น้อยชนเข้าให้

เมื่อพฤศจิกายนนี้พบว่าหินจากดาวอังคารมายังโลกราวเดือนละก้อน มีแมลงเล็กๆ ภายในฝุ่นของดาวหาง รายงานที่ได้รับการสนับสนุนเมื่อเดือนธันวาคมพบว่า มีสัตว์เล็กๆ จากอวกาศเข้ามาในบรรยากาศโลก นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เห็นว่าชีวิตบนโลกอาจอยู่ในซุปร้อนของสารชีวะเคมี ส่วนที่เป็นน้ำและสารอินทรีย์อาจมาจากอวกาศ โลกคงไม่ต่างจากเครื่องฟักไข่หรือเครื่องเพาะเชื้อ ชีวิตที่นี่อาจเริ่มต้นในที่ไกลแห่งใดแห่งหนึ่ง อาจเคยอยู่บนดาวอังคารหรืออยู่รอบๆ ดาวดวงอื่นมาก่อน

5)ความลับของดวงจันทร์ไม่มีวัตถุท้องฟ้าในที่ใดที่จะศึกษาได้ดีกว่าดวงจันทร์ เราไปที่นั่น เลือกเฟ้น และนำหินกลับบ้าน แต่ดวงจันทร์ก็ยังคงเก็บความลี้ลับไว้มากมาย ที่ดูแปลกกว่าเก่า คือเรื่องหินบนดวงจันทร์ที่เคยเป็นของโลกมาก่อน มันหลุดออกจากโลกไปได้เมื่อหลายพันล้านปี เมื่อดาวเคราะห์น้อยชนโลกเข้าให้ ที่ๆ เก็บข้อมูลของโลกอยู่บนดวงจันทร์ ?!

ความพยายามเพื่อหาปริมาณ เมื่อเดือนกรกฎาคมพบ มวล 11,000 ปอนด์ จากโลกอยู่ห่างกันไม่กี่นิ้วตามพื้นผิวทุกตารางไมล์บนผิวดวงจันทร์ หินโลกบนดวงจันทร์น่าจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับองค์ประกอบของโลกได้ตอนโลกอายุยังน้อย บรรยากาศโลกและอาจเป็นกำเนิดของชีวิตด้วย ที่จะได้ข้อมูลนี้หาไม่ได้จากที่อื่นใดอีกนอกจากดวงจันทร์ เพราะโลกไม่เหมือนดวงจันทร์ ดวงจันทร์เงียบสงบไม่มีการเคลื่อนไหวภายใน

แต่โลกนำมวลจากภายในขึ้นมาที่ผิวใหม่ มีการพับหินดินที่เปลือกโลกเข้าไปข้างในและหลอมละลายเกินกว่าจะรับรู้ได้ ไม่มีใครแน่ใจว่าควรให้มวลของโลกอยู่ที่ดวงจันทร์นั่นต่อไป หรือควรเอามันกลับคืนมา การวิจัยครั้งใหม่นี้จะบังคับให้มนุษย์กลับไปยังดวงจันทร์ครั้งใหม่ จอห์น อาร์มสตรอง จากมหาวิทยาลัยวอชิงตันบอกว่า นี่จะเป็นวิธีเร็วและถูกที่สุดที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับกำเนิดดาวเคราะห์และการเกิดระบบสุริยะทั้งหมด

6)เราโดดเดี่ยวหรือไม่เราค้นพบดาวเคราะห์ของระบบดาวอื่นที่ใหญ่กว่าดาวพฤหัสบดี และดาวเคราะห์ทั้งหลายโคจรใกล้ดาวของมันมากกว่าของระบบสุริยะของเรา ซึ่งเห็นว่าแปลก เราชักสงสัยว่าระบบสุริยะของเรามาตรฐานจริงหรือ? อย่างไรก็ตาม เมื่อมิถุนายนพบดาวเคราะห์ขนาดเท่าดาวพฤหัสบดีในวงโคจรรอบดาวอื่น

ตอนนี้มีความพยายามที่จะค้นหาดาวเคราะห์ขนาดเล็กกว่านั้น การศึกษาพ.ศ.2545 คาดว่ามีดาวเคราะห์เล็กๆ หลายพันล้านดวงโคจรรอบดาวทั้งหลาย สงสัยกันว่าจะมีดาวเคราะห์หินในวงโคจรคล้ายโลกของไหม? ความลี้ลับนี้คงพิสูจน์กันไม่ได้จนกว่าจะมียุคใหม่ของกล้องโทรทรรศน์อวกาศขึ้นโคจร การศึกษาพ.ศ. 2545 พบว่ามีโอกาสของสิ่งมีชีวิตนอกโลกบนดาวเคราะห์คล้ายโลก และ 1 ใน 3 นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่กำลังพูดถึงอีที ก็จะตื่นเต้นกันมากที่มีโอกาสจะพบจุลชีพ

7)ดวงอาทิตย์ปริศนา ถ้าอยากค้นหาอาชีพที่อนาคตสดใส น่าจะเลือกเป็นนักฟิสิกส์ดวงอาทิตย์ น่าประหลาดที่เรายังไม่เข้าใจไดนามิกส์ของดาวที่เราโคจรรอบ ตอนนี้ ภาพใหม่ของดวงอาทิตย์ใน พ.ศ.2545 มีรายละเอียดมากที่สุด เปิดเผยโครงสร้างที่คล้ายคลองจากบริเวณสว่างไปยังใจกลางจุดมืดของดวงอาทิตย์ โครงสร้างแปลกนี้ได้รับเชื้อเพลิงจากความร้อนมหาศาลและพลังงานสนามแม่เหล็ก แต่ถ้าจะไปให้ไกลกว่านั้น เช่นการกำเนิดยังเป็นความลี้ลับอยู่ ปรากฏการณ์พลศาสตร์และโครงสร้างบนดวงอาทิตย์ทั่วไปยังไม่เข้าใจ แม้สังเกตการณ์กันมานานมากแล้วก็ตาม

8)อายุของเอกภพ นักวิทยาศาสตร์เห็นด้วยกับวิธีการทั่วไป ว่าเอกภพเริ่มแรกวิวัฒนาการแบบใด แต่เขาเริ่มโต้เถียงกันเมื่อเห็นหัวข้อของอายุเอกภพ อายุของเอกภพราว 12-15 พันล้านปี แต่มีการทบทวนหรือการทำให้ละเอียดยิ่งขึ้นที่ประกาศเป็นระยะๆ ช่วงห่างกันไม่กี่เดือน

กล้องโทรทรรศน์ฮับเบิลให้อายุเอกภพเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2545 มีค่า 13-14 พันล้านปี เราบอกไม่ได้ว่าคำตอบสุดท้ายจะมีได้เมื่อไร แต่ก็หวังจะได้ใน พ.ศ. 2546 คำถามที่อยากให้ตอบมีว่า อะไรเกิดขึ้นตอนเริ่มต้นเอกภพ? อะไรเกิดก่อนขณะนั้น? นี่เป็นคำถามที่นักเอกภพศาสตร์จะโต้แย้งกันตลอดไป เพราะไม่มีการสังเกตการณ์ได้โดยตรง และไม่มีการพิสูจน์ใดๆ

9)ดาวเคราะห์หายไป 2 ดวง มีภาพน่าประหลาดใจเมื่อนักวิทยาศาสตร์เก่งสร้างภาพจำลองคอมพิวเตอร์ครั้งล่าสุด ใส่ทฤษฎีเก่าแก่ที่ยอมรับกันมาหลายทศวรรษ ที่บอกว่าระบบสุริยะของเราเกิดได้อย่างไร แต่แล้วคอมพิวเตอร์กลับให้แผนภาพที่มีแค่ดาวเคราะห์ 7 ดวง?! ดาวเคราะห์ที่หายไปคือยูเรนัสและดาวเนปจูน ปัญหาเกิดขึ้นเพราะแบบจำลองมาตรฐานของการเกิดดาวเคราะห์ต้องการมวลมาชนกันและยึดติดกันแน่นหลายล้านปี เมื่อแกนใหญ่เกิดขึ้น ก๊าซถูกดึงเพื่อสร้างดาวเคราะห์ใหญ่อย่างดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ แต่ไกลกว่านั้นตรงที่เนปจูนและยูเรนัสอยู่

กลับไม่มีมวลมากพอจะสร้างดาวเคราะห์ใดได้ นักทฤษฎีอลัน บอสส์ จากสถาบันคาร์เนจีที่วอชิงตันให้ความคิดใหม่เรื่องกลไกที่สร้างดาวเคราะห์ยักษ์น้ำแข็ง บอสส์นึกภาพดาวเคราะห์ใหญ่ทั้งสี่ในระบบสุริยะของเรา ที่ไม่ได้มีวิวัฒนาการมาจากแกนหิน เมื่อใช้แบบจำลองมาตรฐาน แต่มันยุบตัวจากก้อนก๊าซใหญ่และก้อนฝุ่น การแก้ปัญหา บอสส์จำต้องให้ระบบสุริยะเริ่มแรกของเราอยู่ในส่วนอื่นของอวกาศ เขาเลือกบริเวณที่ดาวเกิดกันหนาแน่น บริเวณแบบนี้รังสีเหนือม่วงจากดาวดวงใกล้ๆ

แผ่ออกไปผลักมวลออกจากยูเรนัสและเนปจูนจนมีน้ำหนักน้อยลงเหลือเท่าที่เห็น ต่อมาระบบสุริยะได้เดินทางจากที่วุ่นวายนั้นมายังบริเวณในปัจจุบัน อันเป็นที่น่ารื่นรมย์ในดาราจักร ความคิดทั้งหมดดูดี แต่นักดาราศาสตร์อื่นสงสัย เรามีทฤษฎีเก่าแก่ที่ทำงานได้ไม่ดีนัก และมีทฤษฎีใหม่จากความคิดที่รุนแรงและกว้างไกล ในพ.ศ. 2546 ในขณะที่นักดาราศาสตร์บางคนกำลังยุ่งคอยมองหาดาวเคราะห์รอบดาวอื่นๆ บางคนก็พยายามหาว่าดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเราเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาได้อย่างไร

10)เราจะรอดใน พ.ศ. 2546 หรือไม่? ไม่มีข่าวดาราศาสตร์อวกาศไหนใน พ.ศ. 2545 ที่ตื่นเต้นมากไปกว่าโลกมีโอกาสชนดาวเคราะห์น้อยครั้งแล้วครั้งเล่า ดาวเคราะห์น้อยที่มีข่าวจะชนโลกใน ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) เป็นการสร้างข่าวของสื่อมวลชนเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2545

ซึ่งนักดาราศาสตร์คนสำคัญก็ได้ประกาศปฏิเสธกันไปแล้ว เท่าที่ทราบมาตอนนี้ยังไม่เห็นมีหินอวกาศก้อนไหนจะชนโลกได้ แต่มีดาวเคราะห์น้อยจำนวนมากมายที่ยังไม่ได้ค้นพบ วัตถุเล็กๆ เหล่านี้นับล้านแห่งอาจจะทำลายดาวเคราะห์ของเราได้ และจะไม่มีรายชื่อของพวกมันอีกนานหลายทศวรรษอีกด้วย น่าฉงนและยากที่จะนึกภาพออกว่า ผลจะออกมาอย่างไร เมื่อดาวเคราะห์น้อยพุ่งมายังโลก บางดวงอาจแข็งเหมือนหินหรือโลหะ

ดวงอื่นๆ คงคล้ายยางเมื่อเป็นมวลที่ยึดกันไว้หลวมๆ การระเบิดมันจะมีผลที่ตามมาต่างๆ กันขึ้นกับส่วนประกอบของแต่ละดวง ดาวเคราะห์น้อยคู่หรือที่มีดาวบริวารค้นพบแล้วมากกว่า 30 แห่ง มีคู่อื่นอีกมากมายที่รอคอยการค้นพบ การหักเหให้มันเบนจากเส้นทางที่พุ่งมายังโลกหรือการทำลายดาวเคราะห์น้อยคู่เป็นเรื่องน่ากลัวและน่าท้าทายยิ่งนัก สำหรับวิศวกรที่ยังไม่รู้เลยว่าจะจัดการอย่างไรดีกับดาวเคราะห์น้อยที่ไร้คู่

เรื่องลี้ลับของเราใน พ.ศ. 2546 นี้บางเรื่องคล้ายเป็นเรื่องง่ายๆ ที่น่าจะทราบแล้วเพราะศึกษามานาน แต่มันก็ยังคงลี้ลับต่อไปและดูจะลี้ลับยิ่งขึ้นเสียอีก

Offline

#2 2005-06-15 19:50:18

<BeaR>
สมาชิก
From: 4405 / 2547
Registered: 2005-03-12
Posts: 3,635
Website

Re: 10 เรื่องลี้ลับในอวกาศ

เปนเรื่องที่ไม่ค่อยมีใครรู้

ข้อ 10 อะ อาจารย์เคยบอกเหมือนกันอ่ะ


PLFC  .."  311 Up To  ...  602

ขอบคุณ ..      311  สำหรับ  บทเริ่มต้น ...    &    602 .. สำหรับ  บทส่งท้าย  .. 18111   .. !?!

Offline

#3 2005-06-15 19:58:24

~nARAl< JuNG~
สมาชิก
Registered: 2005-03-16
Posts: 1,287

Re: 10 เรื่องลี้ลับในอวกาศ

โอยยย ---- วิทยาศาสตร์มักพิสูจน์ได้แค่บางเรื่อง บางเรื่องก้อพิสูจน์ไม่ได้เหมือนกาน---


*|| เลือดจะหลั่งโชลมดินจนสิ้นใจ สวนกุหลาบฯไม่ถอยใครแม้ก้าวเดียว ||*

Offline

Board footer

Powered by FluxBB