You are not logged in.
Pages: 1
ความสุขของกะทิ สู่หนังไทยซีไรต์เรื่อง "ความสุขของกะทิ"
หนังสืออ่านนอกเวลาของเพื่อนๆม.5ในวิชาภาษาไทยของเทอม2นี้คือความสุขของกะทิ...บััดนี้มันได้ทำเป็นภาพยนตร์แล้ว!!
เครดิต : ขอบคุณเว็บเด็กหนังอย่างสูง http://www.deknang.com/index.php?option=content&task=view&id=643
กะทิ (รับบทโดย น้องพลอย-ภัสสร คงมีสุข) - เด็กหญิงวัย 9 ปี ที่ผูกพันกับแม่ แม้จะแยกกันอยู่ตั้งแต่ 5 ขวบ เป็นเด็กช่างคิดกว่าวัย เพราะโตมากับตายาย นิสัยร่าเริงตามประสาเด็ก แต่มีโลกทัศน์ในเชิงบวก และกล้าหาญเมื่อถึงวันต้องตัดสินใจ
พี่ทอง (รับบทโดย ณัฐพนธ์ โค้วสกุล) - เด็กวัด วัย ๑๔ ปี ทองกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวกะทิโดยไม่รู้ตัว เมื่อเขาได้ช่วยชีวิตกะทิไว้ในวันฝนตก ทองมีนิสัยชอบช่วยผู้อื่นโดยธรรมชาติและโดยการอบรมของหลวงลุง เขารับกะทิเป็นน้องเล็กตั้งแต่วันแรกที่ได้เห็นเมื่อมารับบิณฑบาตกับหลวงตา และความรู้สึกนี้ไม่เคยแปรเปลี่ยนตามกาลเวลาเลย
แม่-ณภัทร (รับบทโดย รัชนก แสงชูโต) - ทนายสาว วัย ๓๗ ปี ล้มป่วยเมื่ออายุ ๓๓ หลังจากหย่าขาดจากสามี เธอจึงเลี้ยงลูกตามลำพังท่ามกลางครอบครัวและเพื่อนที่คอยเป็นกำลังใจ เมื่อรู้ว่าไม่อาจดูแลลูก จึงฝากลูกไว้กับพ่อแม่ และใช้เวลาที่เหลือเตรียมทุกสิ่งไว้ให้ลูกก่อนก่อนตัวเองต้องจากไป ความรักเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ในชีวิตของณภัทร และลูกคือทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อชีวิตใกล้มอดดับ
ตา (รับบทโดย สะอาด เปี่ยมพงษ์สานต์) - พิทักษ์ อดีตทนายนักเรียนนอก วัย ๖๗ ปี ที่หันหลังให้กับชีวิตเมืองกรุง และย้ายกลับมาใช้ชีวิตเรียบง่ายในอยุธยา กับภรรยา และ "กะทิ" หลานสาว ที่ "ณภัทร" ลูกสาวคนเดียวฝากไว้ในความดูแล ชีวิตบั้นปลายของพิทักษ์จึงมีสีเข้มขึ้นกว่าที่เจ้าตัวคิดไว้ และทุกนาทีมีค่าเมื่อต้องประคับประคองชีวิตหนึ่งที่เพิ่งเริ่มต้นให้ออกก้าวเดิน
ยาย (รับบทโดย จารุวรรณ ปัญโญภาส) - ลัดดา อดีตเลขานายใหญ่โรงแรมห้าดาว วัย ๖๔ ปี ยายของ "กะทิ" ที่พอใจกับชีวิตเรียบง่าย รอยยิ้มของลัดดาหายไปเมื่อรับรู้ว่าลูกสาวคนเดียวมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน และภาระความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูหลานชวนให้ต้องใช้สติในการตัดสินใจ
ลุงตอง (รับบทโดย ไมเคิล เชาวนาศัย) - ลุงตอง ลุงของกะทิ วัย ๓๙ ปี เป็นลูกพี่ลูกน้องของ "ณภัทร" แม่ของกะทิ โดยนิสัยเป็นคนใจดี รักพี่น้องและพวกพ้องมาก ผูกพันกับณภัทรมาตั้งแต่เล็ก เป็นคนมีอารมณ์ขันหยิกแกมหยอก แต่ลุงตองมีสายตาแหลมคมและมองโลกในมุมปรัชญาเสมอ
น้าฎา-ชฎา (รับบทโดย เข็มอัปสร สิริสุขะ) - หญิงสาววัย ๒๗ ปี เป็นเลขาฯ ให้ณภัทรและกลายเป็นมือขวาในทุกเรื่องให้เธอจนถึงวาระสุดท้าย หัวใจเธอสลายเมื่อรู้ว่าณภัทรป่วยหนัก แต่ก็เป็นเวลาที่ทำให้เธอได้รู้จักความเข้มแข็ง ความเสียสละ และรักแท้ที่แม่มีให้ลูก เธอไม่อาจห้ามใจผูกพันกับเพื่อนรุ่นน้องของณภัทรได้ และรู้ว่ามีโอกาสน้อยเหลือเกินที่เขาจะมองมา แต่นั่นก็เป็นความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอที่ได้ใกล้ชิดเขาในช่วงเวลาหนึ่ง
เรื่องย่อ "ความสุขของกะทิ" (โดย งามพรรณ เวชชาชีวะ)
...เด็กหญิงกะทิ อายุ ๙ ปีอาศัยอยู่บ้านทรงไทยริมคลองที่อยุธยากับตาและยาย
...ทุกวันเธอตื่นแต่เช้า คดข้าวใส่ขันและไปใส่บาตรกับตาที่ท่าน้ำหน้าบ้าน หลวงลุงนั่งเรือมารับบาตรและมีเด็กวัดที่เป็นหลานชื่อ ทอง พายเรือมาให้ กะทิซ้อนท้ายจักรยานตาไปขึ้นรถสองแถวที่หน้าปากซอยเพื่อไปโรงเรียน เธอมีปิ่นโตใส่อาหารกลางวันที่ยายเตรียมให้ไปโรงเรียนด้วย
...กะทิมีความสุขดีในบ้านหลังน้อยที่ล้อมรอบด้วยไม้ไทย ในวันว่างตาชวนกะทิพายเรือไปเที่ยวเล่นในทุ่งและไปจนถึงศาลาริมน้ำใต้ต้นก้ามปู ตาเคยเป็นทนายมีชื่อเสียงในกรุงเทพฯ เมื่อเกษียณแล้วจึงย้ายกลับมาบ้านเกิด บูรณะบ้านไทยและใช้ชีวิตบั้นปลายช่วยเหลือผู้คนในท้องถิ่น ยายเคยทำงานเป็นเลขานุการนายใหญ่โรงแรมห้าดาวและเลือกที่จะใช้ชีวิตเรียบง่ายเช่นกัน กะทิมีพี่ทองเป็นเพื่อนเล่น ชีวิตดำเนินไปอย่างเรียบง่ายแม้ว่าไม่สมบูรณ์ครบถ้วนอย่างที่ควรจะเป็น
...กะทิจำแม่ได้เพียงลาง ๆ ตายายไม่พูดถึงแม่ ในบ้านไม่มีรูปถ่ายแม่ กะทิคิดถึงแม่ทุกวัน อยากพบหน้า อยากให้แม่มารับที่โรงเรียน กะทิอธิษฐานทุกวันให้ฝันเป็นจริง แล้ววันหนึ่งยายก็ถามกะทิว่า
"กะทิ อยากไปหาแม่ไหมลูก"
...เพียงเท่านี้การเดินทางของกะทิก็เริ่มขึ้น ตายายบอกกะทิว่าแม่ป่วยและพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านชายทะเล ชฏาหรือน้าฏา เลขาฯ ของแม่ ขับรถมารับ อาการของแม่หนักแล้วและตั้งใจให้กะทิมาใช้เวลาช่วงสุดท้ายด้วยกัน โรคของแม่คือเอแอลเอส กล้ามเนื้อจะอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ จนช่วยตัวเองไม่ได้และถึงขั้นหายใจเองไม่ได้ แม่ไม่ยอมใช้เครื่องช่วยหายใจเพราะจะทำให้พูดไม่ได้ แม่เลือกที่จะทอนเวลาชีวิตลงแต่อยู่อย่างมีคุณภาพ
...กะทิได้รู้ว่าแม่ตัดสินใจฝากกะทิไว้กับตายายเมื่อรู้ว่าไม่สามารถดูแลกะทิได้เอง เหตุการณ์ที่ทำให้แม่ตัดสินใจคือเมื่อกะทิอายุ ๒ ขวบ แม่พากะทิไปพายเรือเล่นจนถึงศาลาริมน้ำ แต่เกิดพายุและกลับบ้านไม่ทัน กะทินั่งอยู่ในเรือและเรือหลุดจากเสาที่ผูกไว้โดยที่แม่ช่วยอะไรไม่ได้เลย วันนั้นโชคดีที่ทองเด็กวัดตามมาหาเพื่อนเล่นจึงช่วยกะทิกับแม่ไว้ได้ กะทิอยู่กับตายายนับจากวันนั้นและเมื่อรู้เหตุผลจากปากของแม่ก็เข้าใจ
...แม่จากไปอย่างสงบและฝากให้เพื่อนของแม่ชื่อ กันต์ และลูกพี่ลูกน้องชื่อ ตอง เป็นคนพากะทิกลับไปที่คอนโดกลางกรุงเพื่อพบกับส่วนหนึ่งของชีวิตแม่
...กะทิจึงเดินทางอีกครั้งและมาถึงคอนโดที่กะทิเคยอยู่กับแม่ก่อนจะพลัดพรากกัน ที่นี่มีห้องหนึ่งที่แม่จัดเก็บเอกสารเรื่องราวชีวิตของตัวเองไว้ ลุงตองเป็นคนพากะทิไปเปิดตู้เอกสารและทำให้กะทิพบว่าพ่อของกะทิชื่อ แอนโทนี ซัมเมอร์ ชาวพม่าที่ไปเติบโตที่อังกฤษ
...แม่พบพ่อเมื่อไปเรียนต่อและทำงานที่นั่น ทั้งสองรักและแต่งงานกัน แต่แม่ได้งานใหญ่ที่ฮ่องกงทำให้ต้องแยกกันอยู่ ไม่นานแม่ก็รู้ว่าคนรักเก่าของพ่อตามมาพบกันและแม่ตัดสินใจให้คนทั้งสองสมหวัง แม่เลือกเดินทางกลับมาอยู่กรุงเทพฯ และพบว่าตัวเองตั้งท้อง
...แม่เตรียมจดหมายไว้ให้กะทิส่งถึงพ่อและสั่งไว้ว่าให้กะทิตัดสินใจเองว่าจะส่งหรือไม่ บทสุดท้ายของหนังสือทำให้รู้ว่ากะทิเลือกและพอใจที่จะใช้ชีวิตเรียบง่ายกับตายายที่บ้านริมคลองสืบไป
ข้อมูลสังเขป หนัง-หนังสือ
"ความสุขของกะทิ"(หนังสือรางวัลซีไรต์ปี ๒๕๔๙ โดย งามพรรณ เวชชาชีวะ)
..."ความสุขของกะทิ" เป็นนวนิยายขนาดสั้น เล่าเรื่องราวของกะทิ เด็กหญิงวัย ๙ ขวบ ที่ต้องผ่านประสบการณ์การสูญเสียครั้งสำคัญที่สุด เมื่อแม่ต้องจากไปก่อนวัยอันควร กะทิได้ผ่านขั้นตอนความสุขและทุกข์ ความผูกพันและการพลัดพราก ความสมหวังและความสูญเสีย ถึงกระนั้นกะทิได้เรียนรู้ว่าความทุกข์จากการสูญเสียไม่อาจพรากความสุขจากความรักและความผูกพันของแม่กับเธอได้ เด็กน้อยเติบโตขึ้นจากประสบการณ์นี้ด้วยความเชื่อมั่นและกำลังใจในการดำรงชีวิตต่อไปจากบุคคลใกล้ชิด...ผู้ที่เธอรักและรักเธอ
"ความสุขของกะทิ เป็นงานศิลปะที่สร้างสรรค์องค์ประกอบอย่างหมดจดงดงาม สื่อแนวคิดซึ่งเป็นที่เข้าใจได้สำหรับคนอ่านหลากหลายไม่ว่าอยู่ในวัยและวัฒนธรรมใด เสน่ห์ของนวนิยายเรื่องนี้อยู่ที่กลวิธีการเล่าเรื่องที่ค่อย ๆ เผยปมปัญหาทีละน้อย ๆ ผ่านมุมมองของตัวละครเอก ด้วยภาษารื่นรมย์แฝงอารมณ์ขัน สอดแทรกความเข้าใจชีวิตที่ตัวละครได้เรียนรู้ไปตามประสบการณ์ ความสะเทือนอารมณ์จะค่อยๆ พัฒนาและดิ่งลึกในห้วงนึกคิดของผู้อ่าน นำพาให้ผู้อ่านอิ่มเอมกับรสแห่งความโศกอันเกษมที่ได้สัมผัสประสบการณ์ของชีวิตเล็ก ๆ ของเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง" (คำประกาศของคณะกรรมการตัดสินรางวัลซีไรต์ พ.ศ. ๒๕๔๙)
...ปัจจุบันหนังสือเรื่อง "ความสุขของกะทิ" อนุญาตลิขสิทธิ์เพื่อแปลและจำหน่ายใน ๙ ประเทศ คือ อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี เยอรมนี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สเปน อิตาลี และฝรั่งเศส
=====
สุดยอดมาก!! เราต้องคาบข่าวไปบอกท่านอ.ทัศนีย์ซะแล้ว!!
Offline
เฮ้ย พี่ทอง...........
อ่านในหนังสือ นึกว่าอายุซักประมาณ 18-19 = =''
โลกของใคร โลกของมัน Tangmae's เอ็กตีน
ตัดให้ขาดเลยฉับๆ ตัดให้ขาดเลยฉับๆ อย่ามัวเสียดาย ร้องไห้อยู่เลย
SKN ,#28 Generation
Offline
น้องกะที้~~~ น่ารักกกก *0*
ทำไมพี่ทองหน้าเด็ก ??
KOY.
Offline
ทำไมเราไม่รู้เรื่องง !! เรื่องอะไรกันน - -'' !!
เราอยากรู้ .. !!
Offline
น้องกะทิน่ารัก
ได้ยินชื่อพี่ทอง นึกถึงเรื่องหนูหิ่น ซะงั้น = =
M y H ! 5 5 + >> http://puzzaa.hi5.com
Offline
เรื่องนี้ คือ หนังสืออ่านนอกเวลาของ ม.5 เทอม 2
ว่าแต่ ... ทำไม ลุงตอง แก่จัง ... นึกว่าจะหล่อกว่านี้ซะอีก
แล้วหายไปไหนคนอะ ... คนที่น้าฎา ชอบอะ
ปล. คงยังยืนยันคำตอบเดิม " ความสุขของปาลิ "
PLFC .." 311 Up To ... 602
ขอบคุณ .. 311 สำหรับ บทเริ่มต้น ... & 602 .. สำหรับ บทส่งท้าย .. 18111 .. !?!
Offline
ก๊อปไปส่งอาจารย์ได้ไหมเนี้ย...มีสังเขปเรื่องพร้อม... ^^
NomkoN...
Offline
อ่านหนังสือไปหลังจากดูเรื่องย่อหนัง
อยากดูมากๆๆเลย ^^
*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....
Offline
ไม่ทันม.5 แค่ม.2 อ.สิริ_ _ล ก็บอกแล้วว่าถ้าว่างมีไปขอยืมอ่านได้
Offline
ชอบมากเลยยย .
อ่านแล๊วซึ้ง
suannonweb.com
DNG XD
Offline
ขอขุดสักนิด กับ "น้อย วงพรู"ในบทของ"น้ากันต์"
ที่มา : http://www.deknang.com/index.php?option=content&task=view&id=677
"ครับ ก็รู้สึกดีใจมากนะครับที่ได้เข้ามาร่วมงานในหนังเรื่องนี้ และที่รู้สึกดีมาก ๆ เลยก็คือ
ผมได้รับการเชื้อเชิญโดยตรงจากผู้เขียนเรื่องคือ พี่เจน งามพรรณ ให้มาแสดงในบทนี้เองเลย
ก็รู้สึกตื่นเต้น และไม่สามารถตอบปฏิเสธได้ เพราะถึงขนาดที่เจ้าของเรื่องเป็นผู้เลือกเราเข้ามา
แถมส่งหนังสือมาให้อ่านเองด้วย ก็แสดงว่าพี่เค้าต้องไว้ใจว่าเราสามารถรับบทตรงนี้ได้นะครับ
ก็รู้สึกยินดีมากครับ
ในเรื่องนี้ผมก็มารับบทเป็น "น้ากันต์" นะครับ เป็นเพื่อนรุ่นน้องของแม่กะทิ
ซึ่งเป็นผู้หญิงที่เราปลาบปลื้มมานาน พอเธอล้มป่วยลง
ตัวน้ากันต์เองก็พร้อมที่จะเสียสละทุกอย่างที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยดูแล "กะทิ"
เพื่อให้แม่กะทิเบาใจลงได้บ้างนะครับ
ก็เป็นบทบาทที่แตกต่างไปจากเรื่องอื่น ๆ นะครับ แต่จริง ๆ
จะว่าไปแล้วตัวละครตัวนี้ก็มีคาแร็คเตอร์ที่ตรงกับผมอยู่ด้วยนะครับ ก็เลยรู้สึกเขิน ๆ
อยู่บ้างในการที่จะเล่นเป็นตัวเองมากกว่าที่จะรับบทอื่นที่แตกต่างจากตัวเองไปเลย แต่ก็สนุกครับ
สนุกที่ได้มาร่วมงานกับนักแสดงเก่ง ๆ ทั้งนั้นเลย และตัวน้องพลอยที่เล่นเป็นกะทิเองก็น่ารักครับ
แล้วก็เล่นได้อย่างน่าประทับใจด้วยครับ"
อยากดูแล้วอ่ะ...ชวนอ.ทัศนีย์ไปดูกัน 555
Offline
Pages: 1