Suannon Board

You are not logged in.

#1 2008-08-26 19:29:01

Black Amethos
สมาชิก
From: H.E.A.V.E.N.
Registered: 2007-09-17
Posts: 284

ก า ร ศึ ก ษ า . . .

Look-Sky-Walker wrote:

ตลอดชีวิตการศึกษาคุณเคยถามตัวเองบ้างไหมว่ามีความสุขกับการเรียนหรือไม่? ถ้าไม่แล้วเป็นเพราะอะไร?



การที่ชีวิตช่วงก่อนหน้าของผมไม่เคยผ่านกับคำถามเหล่านี้อาจเป็นเพราะผมไม่เคยจริงจังกับการเรียนมาก่อนก็ได้

เมื่อก่อนตอนสมัยเรียนประถมและมัธยมต้นถ้าทำงานดึกดื่นจนเข้านอนหลังเที่ยงคืนจะถือเป็นเรื่องแปลก (และเป็นเรื่องแย่)
แต่ทุกวันนี้ถ้านอนก่อนเที่ยงคืนจะทำให้ผมรู้สึกผิดว่านอนเร็วเกินไปยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นอัน
ก่อนหน้านี้ผมนอนกลางวันไม่เคยหลับ แต่ทุกวันนี้กลับรู้สึกง่วงนอนตลอดเวลา
ก็จะไม่ให้ง่วงอย่างไรในเมื่อบางวันเข้านอนตีสี่และต้องตื่นไปโรงเรียนตอนเจ็ดโมงเช้า
ผมพยายามจดจำตัวเองเข้านอนเวลาประมาณเท่าใดในทุกๆวัน
ตัวเลขเฉลี่ยที่น่าตกใจคือเวลาตีสอง ถ้านำมาเทียบกับเวลาตื่นนอนแล้วจะพบว่าได้นอนเพียงวันละห้าชั่วโมง
ซึ่งตามหลักแล้วควรนอนประมาณแปดชั่วโมง พอนานวันเข้าจึงเกิดสะสมและทำให้รู้สึกง่วงนอนตลอดเวลา

ผมถามตัวถามตัวเองว่าทำไมจึงต้องนอนดึก คำตอบที่ได้คงจะเป็นเพราะไม่มีเวลา
แต่ถ้าถามว่าทำไมไม่มีเวลา มีคนตอบแทนให้ว่าผมบริหารเวลาไม่เป็น
เห็นดังนี้แล้ว ผมจึงลองวิเคราะห์ลึกลงไปว่าการบริหารเวลาไม่เป็นคืออะไร

หลังเลิกเรียน ส่วนใหญ่ผมจะเล่นฟุตบอลจนถึงประมาณหกโมงเย็นหรือไม่ก็กลับมาเปลี่ยนชุดไปเล่นบาสเกตบอลจนถึงประมาณทุ่มครึ่ง
หลังเสร็จจากการเล่นกีฬาแล้วผมจะอาบน้ำและไปทานข้าว
(ทานข้าวไม่ได้หมายถึงก้มหน้าก้มตากินคนเดียวจนหมดจานแต่รวมถึงการพบปะพูดคุยกับเพื่อนด้วย)
ถึงตรงนี้จะเป็นเวลาประมาณสามทุ่ม
ซึ่งถ้ารวมความเหนื่อยล้าจากการเล่นกีฬาและความเบื่อหน่ายจากการเรียนในโรงเรียนเข้าด้วยกันแล้ว
จะทำให้ไม่อยากทำการบ้านอ่านหนังสือในทันที
ผมจึงเลือกที่จะทำกิจกรรมอื่นๆที่ผ่อนคลายมากกว่า เช่น ดูโทรทัศน์ ดูภาพยนตร์ อ่านหนังสือ เล่นคอมพิวเตอร์ ฯลฯ
ซึ่งอาจกินเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงถึงสามชั่วโมง
พอเสร็จจากกิจกรรมเหล่านี้แล้วจะเริ่มทำให้รู้สึกตาลายและง่วงนอน
ผมอาจนอนพักผ่อนหนึ่งชั่วโมงก่อนตื่นขึ้นมาทำการบ้านและอ่านหนังสือ
ถึงจุดก็เป็นเวลาประมาณห้าทุ่มถึงเที่ยงคืนแล้ว
ในวันที่โชคดีมีภาระน้อยหน่อยผมจะได้นอนประมาณตีหนึ่ง
แต่ถ้าวันไหนโชคร้ายการบ้านเยอะอาจได้นอนประมาณตีสี่ตีห้าหรืออาจไม่ได้นอนเลยก็ได้

นี่เป็นเพียงตัวอย่างของวันธรรมดาๆวันหนึ่งซึ่งถือว่าไม่ได้มีกิจกรรมอะไรมากมาย
แต่ลองนึกถึงวันอื่นๆดู เช่น วันที่โรงเรียนมีกิจกรรมต้องเลิกค่ำๆ
วันที่มีงานวันเกิดเพื่อน วันที่อาจารย์ขอให้ช่วยงานก่อนเลิกเรียน ฯลฯ
ยังไม่ได้พูดถึงเพื่อนบางคนที่เรียนพิเศษหลังเลิกเรียน
ผมนึกไม่ออกเลยว่าเขาเหล่านั้นบริหารเวลากันอย่างไร

หลายคนอาจมีคำถามว่าทำไมหลังเลิกเรียนผมไม่รีบกลับมาทำการบ้านอ่านหนังสือเสียเลยล่ะ
แล้วจากนั้นก็รีบเข้านอน จะได้ไม่ต้องมานั่งบ่นว่าง่วงนอนอีก

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงผมคงไม่คาดหวังให้ตัวเองมีชีวิตนานเกินหนึ่งเดือนหลังเปิดภาคเรียน
ผมอาจเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิตตั้งแต่สัปดาห์แรกด้วยซ้ำ

แล้วนี่ตกลงผมบริหารเวลาเป็น หรือไม่เป็นกันแน่?

ย้อนกลับไปที่ประเด็นหลักอีกครั้ง ผมลองถามตัวเองว่ามีความสุขกับการเรียนหรือไม่? ถ้าไม่แล้วเป็นเพราะอะไร?

แน่นอน คำตอบที่ได้คือไม่ ส่วนเหตุผลอาจวิเคราะห์ได้หลายทางดังนี้

1. รู้สึกง่วงนอนตลอดเวลาทำให้ไม่มีสมาธิในการเรียนอย่างที่กล่าวมาแล้วข้างต้น

2. ปริมาณการบ้านเยอะเกินกว่าที่ควรจะเป็น อย่างที่หลายคนเคยบอกว่า ไปเรียนได้แต่การบ้าน ไม่ได้ความรู้

และเหตุผลข้อสำคัญ

3. ได้เรียนในสิ่งที่ไม่อยากรู้ แต่สิ่งที่อยากรู้กลับไม่ได้เรียน

สิ่งที่อยากรู้ดังกล่าวไม่ได้หมายถึงอยากรู้ในเรื่องไร้สาระ ส่วนตัวผมเองสนใจฟิสิกส์ดาราศาสตร์และคณิตศาสตร์เชิงลึก
แต่ในขณะที่กำลังสนใจสิ่งเหล่านี้กลับต้องมาเรียน มาท่องจำ มาทำการบ้านในสิ่งอื่นๆที่ยังไม่อยากรู้
ในช่วงแรกถึงจะไม่มีความสุขนักก็ยังพอทนได้ แต่ช่วงหลังๆมาผมเริ่มรู้สึกว่าเนื้อหามันอัดแน่นและยัดเยียดให้กับนักเรียนจนเกินไป
ขณะที่กำลังทำความเข้าใจเรื่องนี้กลับมีเรื่องอื่นโผล่มาเรื่อยๆจนในที่สุดไม่ได้อะไรเลย
ที่สำคัญคือไม่ได้เรียนแค่วิชาเดียวแต่ต้องเรียนถึงสิบกว่าวิชา

ผมเคยสงสัยว่าผู้ที่วางหลักสูตรการศึกษาคิดว่านักเรียนเป็นทศกัณฑ์มีสิบหน้ายี่สิบมือหรืออย่างไร จึงจะจับทุกอย่างได้พร้อมกันหมด
ใช่ บางคนอาจเป็นทศกัณฑ์จริง แต่ส่วนใหญ่เป็นคนธรรมดามิใช่หรือ?

ช่วงหลังๆมานี้ผมเชื่อว่าสมองของผมได้สร้างกำแพงกันความรู้ที่ตัวเองไม่ต้องการไปเสียแล้ว
ทำให้ไม่ว่าจะพยายามเรียนในห้องเรียนเท่าไหร่ก็ไม่รู้เรื่องอย่างที่เคยเป็น
วิธีการแก้ปัญหาของบางคนคือการลงเรียนพิเศษเพิ่มเติมในวิชาที่ไม่เข้าใจ
ส่วนวิธีของผมคือกลับไปอ่านทำความเข้าใจเอาเองหลังเลิกเรียนซึ่งยิ่งทำให้เวลาว่างในชีวิตน้อยลงไปทุกที
(แต่ทุกวันนี้ก็ยังรู้ทุกอย่างด้วยการอ่านอยู่)

มีคำถามว่า ที่จริงแล้วระบบการศึกษาเป็นสะพานสู่การเรียนรู้หรือเป็นกำแพงกั้นสิ่งที่อยากรู้แน่?

ผมเข้าใจดีว่าในการเล่าเรียนเราจะรู้เฉพาะสิ่งที่ตัวเองอยากรู้ไม่ได้
อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เราไม่รู้ว่าโตขึ้นจะต้องเจอกับอะไรอีก การมีความรู้รอบด้านไว้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
แต่จะดีกว่าไหมถ้าเรามีโอกาสเลือกเรียนรู้ในเวลาที่เราพร้อม

ถึงจะมีความรู้น้อย แต่อย่างน้อยก็รู้จริง

ถ้าระบบการศึกษาเป็นเช่นนี้แล้วจงอย่าได้เอาแต่โทษนักเรียนที่เรียนพิเศษอยู่เลย
เพราะอย่างน้อยเขาเหล่านั้นก็ได้มีโอกาสที่จะเลือกว่าตัวเองอยากเรียนอยากรู้อะไรในเวลาที่ตัวเองพร้อมที่สุด
(ถึงจะมีบางคนเรียนตามแฟชั่นก็ตาม)


ปล. คุณอาจจะคิดว่าถ้าผมว่างมากทำไมไม่ไปทำการบ้าน มานั่งตั้งกระทู้ยาวเหยียด

เรียงความนี้ก็เป็นการบ้านชิ้นนึงครับ *-*

เอามาจาก VGB อีกที

Offline

#2 2008-08-26 19:45:41

Tangmae*
Suannonweb Team
From: จากเกาะ CJR
Registered: 2005-03-15
Posts: 5,327

Re: ก า ร ศึ ก ษ า . . .

ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เพิ่งอ่านในพันทิปเลย 'w'

ลองไปดูว่าคนในบอร์ดนั้นแสดงความเห็นว่าอย่างไร

http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic … 21708.html

ชอบความเห็นนี้

ผมไม่เห็นด้วยกับคุณ จขกท และเห็นว่าปฏิทินในแต่ละวันของคุณ จขกท เต็มไปด้วยกิจกรรมที่ไม่จำเป็น
เป็นจำนวนมาก มีหลายกิจกรรมมากที่สามารถตัดออกไปได้แต่คุณไม่กระทำ หากคุณคิดว่าการบริหาร
เวลาในระดับมัธยมนั้นเป็นสิ่งที่ยังทำไม่ได้ และจากเจตนาดูเหมือนจะไม่กระทำ โดยอ้างว่ามีกิจกรรมมาก
ทั้งๆ ที่มีแต่กิจกรรมที่ไม่จำเป็น คุณจะเรียนในระดับอุดมศึกษาได้อย่างไร คุณมีความพร้อมแค่ไหน

ตารางคุณสามารถปรับให้ดีกว่านี้ อย่าพยายามหาข้ออ้างเพื่อให้ตนเองบริสุทธิ์


ปล. กราบขออภัยที่พูดตรง

แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 51 00:25:42

จากคุณ : axquest

คุณ axquest เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยด้วยน้อ


ยาวมากครับ อ่านได้ไม่ครบทุกคห. แต่ยืนยันว่าอ่านคห.ของน้องจขกท.ทุกคห.นะ


สิ่งที่จขกท.เผชิญ ถือว่าเป็นสิ่งอันเล็กน้อยมากในโลกอันไร้แก่นสารนี้


การที่จขกท.จัดการกับ "เวลา" ในชีวิตตนเองไม่ได้ บอกว่ามันมากเกินไปสำหรับวัยอย่างจขกท.


เด็กบางคนต้องทำงานพิเศษไปด้วยเรียนไปด้วย เด็กบางคนต้องนั่งกลุ้มใจว่าเทอมจะมีเงินมาจ่ายค่าเทอมไหม...ไม่ต้องพูดถึงการเรียนพิเศษ เด็กบางคนที่บ้านมีปัญหาครอบครัวแต่ก็ต้องฝ่าฟันเรียนให้จบ ฯลฯ



ดังนั้น ปัญหาของจขกท.เล็กน้อยเสียนี่กระไร



หากจขกท.จะเลิกเคร่งเครียดกับปัญหาอันเล็กน้อยเช่นนี้ แล้วเอาเวลาที่เหลือมามุ่งพัฒนาตนเองให้ดีกว่านี้ คงจะดีกว่า




จขกท.เอาเวลาในแต่ละวันไปใช้ทำอะไร ไม่มีใครว่า เพราะนั่นคือสิ่งที่เราเลือกเอง เราเลือกเองที่จะขอสบาย ขอพักหน่อยเถอะ เครียดเกินไปแล้ว แต่เราต้องรับผลการกระทำนั้นนะ หากเราไม่ได้ไปถึงจุดสูงสุดตามที่ตั้งเป้าหมายไว้



โลกนี้ไม่ได้เป็นที่อยู่ของคนสบาย ทุกอย่างได้มาอย่างยากลำบาก ได้มาด้วยความเพียรพยายาม


ขออภัย หากพูดในมุมมองของผู้ใหญ่ที่ผ่านอะไรๆมาแล้ว ไม่ได้กำลังประสบปัญหาเหมือนดั่งจขกท.

จากคุณ : Cryptomnesia

ครั้งที่เรียนม.ปลายอยู่
roommate ผม ดูหนังสือตั้งแต่สองทุ่ม ถึงหลังเที่ยงคืนทุกวันไม่ได้ขาด
หลายครั้งเขาดูถึงสว่าง
ใน 7 วัน เขาฟุบโต๊ะ 4 วัน อีก 3 วันนอนเตียง

เวลานั้น ผมถึงได้รู้ว่า คำว่า "ขยัน" เขียนอย่างไร

สมัยนั้นสอบเอ็นท์เลือกได้ 6 อันดับ
เขาเลือก หมอ 6 อันดับ แล้วก็ได้ อันดับ 1 ตามที่เขาอยากเรียน

ไม่เคยเห็นเขาบ่น ว่า เรียนไปทำไม
ไม่เคยเห็นเขาบ่นว่า ดูหนังสือหนัก ชีวิตไม่มีค่า

เขามีเป้าชัดเจน และวิธีที่เดินทางไปสู่เป้านั้น ก็เด็ดเดี่ยว ชัดเจน
เขามุ่งมั่น ทำอย่างจริงจัง แล้วสุดท้าย เขาก็ได้ในส่งที่เขาคิดหวัง
และมุ่งมั่น


ชีวิตจริง เป็นแบบนี้ ไม่ใช่คิดอย่างเดียว
แต่ต้องทำด้วย ที่สำคัญ ต้องทำอย่างหนักกกกก มากๆๆๆๆๆ ด้วย
จึงจะประสบผลสำเร็จ

น้องๆ หนูๆ มีโอกาสได้เรียน ถือว่าโชคดีกว่าเด็กอีก เก้าแสนคน
ที่ไม่มีโอกาส ไม่มีแม้แต่ จะคิดสวมชุดนักเรียน

รู้ไหม เด็กที่อายุเท่ากับ จขกท ในไทยมี หนึ่งล้านคน
มีเพียง หนึ่งในสิบเท่านั้น ที่ยืนยงมาถึง เวลาสอบ เอ็นท์ได้
โอกาสเป็นของคุณแล้ว จงใช้ให้คุ้มค่า

จากคุณ : น้าพร - [ 25 ส.ค. 51 00:33:21 ]


Red-Airi.png
โลกของใคร โลกของมัน    Tangmae's เอ็กตีน
ตัดให้ขาดเลยฉับๆ ตัดให้ขาดเลยฉับๆ อย่ามัวเสียดาย ร้องไห้อยู่เลย
SKN ,#28  Generation

Offline

#3 2008-08-26 19:52:56

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: ก า ร ศึ ก ษ า . . .

จริงเนอะ =__=

ในต่างประเทศไม่เลิกเรียนช้าเท่าไทยนะ เขามีเวลาให้นักเรียนทำกิจกรรมนอกจากการเรียน เหอๆ

แต่ประเทศเราเน้นเรียนๆ เง้อออ~


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#4 2008-08-26 20:16:05

เจ้หวี
สมาชิก
From: พระตำหนักห
Registered: 2006-01-02
Posts: 748

Re: ก า ร ศึ ก ษ า . . .

เจ้าของกระทู้ไม่รู้จักการแบ่งเวลาจริงๆนะ

ไม่รู้สิ ตัวผมเองห้กลับบ้าย 5-6 โมงเยน ยังมีเววลาอ่านหนังสือ ทำการบ้านเลย ลองมาเจออาจารย์สวนนนท์ก่อนอล้วจะร้องไม่ออก

Offline

#5 2008-08-26 20:16:21

LagooNz
สมาชิก
Registered: 2006-08-08
Posts: 3,631

Re: ก า ร ศึ ก ษ า . . .

อารมณ์เดียวก่ะบอร์ดเกรียนที่ทำอยู่เล้ยยย - -" (4405 ถ้าเกิดอยากชม)

ของผม

จันทร์ - พฤหัส
4 โมง กว่ารถเมล์มา+เดิน 4โมงครึ่ง ถึงบ้าน 5โมง ก่าๆ กินข้าว
5โมงครึ่ง ขึ้นมายังห้องเพื่อการบ้าน+เล่นคอมสัดส่วนไม่เท่ากัน+อาบน้ำสระผม(สระทุกวัน- -")
5ทุมครึ่ง นอนนั่นแล บางที นอนไม่หลับ นั่งเปิดการบ้านแบบไม่รีบ
        ไม่ก็เอาพวกบัญชีรายรับไม่ก็อีพวกบัญทึกความดีมา F A K E ! เล่น สนุกมือ+สะใจดี
         (สมน้ามหน้า อยู่ดีไม่ว่าดี โดนเดกหลอก /me:เผ่น)

ศุกร์
ถ้าโรงเรียนปล่อยตามเวลาบ่าย2ก็ถึงบ้านบ่าย3 เพราะรถเมล์มันทิ้งช่วง
แต่ถ้ามันมีความคิดสักนิด ปล่อยเด็กม.3ที่เลิกไวก่อนก็จาถึง ประมาณบ่ายสองครึ่ง - 2:40pm.
นั่งเริงร่าจน4โมง ไม่เรียนพิเสดดด (ถ้าขี้เกียจก็ไม่ไป)ก็กลับมา6โมง แล้วต่อจากนั้นดูอันบนเอาเสาร์ ก็แค่เรียนเสริมวันเสาร์    อาทิตย์ นั่งเริงร่าได้ทั้งวัน
เวลาสอบ.....ถ้าเป็นสอบย่อย ลืมไปซะ จำทำไมรกสมอง55+
เช้ามาเห็นเพื่อนมันอ่านอันไหนคือจะสอบในวันนั้นแหละ นั่งเปิดแบบสแกนพอ ไม่ก็ช่างมัน
สอบใหญ่ แสกนโลด แล้วรีบนอนเพราะเปิดคอมไม่ได้อยู่แล้ว
ใครบอก...ต้องตั้งคำถาม ไม่เคยทำอ่ะ ทำแบบนี้ก็รอดมาได้ตลอด 55+
--------------------------------------------------------------------------

ถ้าช่วงงานหนักๆ มันก็หนักจิงๆนะ แต่ช่วงไม่มีงานก็ว่างซะ

Offline

#6 2008-08-26 20:46:27

dadawizard
สมาชิก
From: Thailand
Registered: 2006-12-27
Posts: 583

Re: ก า ร ศึ ก ษ า . . .

"ส่วนใหญ่ผมจะเล่นฟุตบอลจนถึงประมาณหกโมงเย็นหรือไม่ก็กลับมาเปลี่ยนชุดไปเล่นบาสเกตบอลจนถึงประมาณทุ่มครึ่ง"

(สิ้นเปลืองว่ะเฮ้ย)

"ประมาณทุ่มครึ่งหลังเสร็จจากการเล่นกีฬาแล้วผมจะอาบน้ำและไปทานข้าว แต่รวมถึงการพบปะพูดคุยกับเพื่อนด้วย"

(เรียนนี่เจอเพื่อนไม่พอเหรอวะ - -)

"เช่น ดูโทรทัศน์ ดูภาพยนตร์ อ่านหนังสือ เล่นคอมพิวเตอร์ ฯลฯซึ่งอาจกินเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงถึงสามชั่วโมง"

(เรียกไม่มีเวลาเหรอวะเนี่ย)

"ถึงจุดก็เป็นเวลาประมาณห้าทุ่มถึงเที่ยงคืนแล้วในวันที่โชคดีมีภาระน้อยหน่อยผมจะได้นอนประมาณตีหนึ่ง"

(คิดหน่อยเว้ย เอ็งทำการบ้าน 1 ชม.เองนะเว้ย ทำตอน 5 โมงก็เสร็จ 6 โมง เป็นบ้าอะไรวะ - -)

"นอนประมาณตีสี่ตีห้าหรืออาจไม่ได้นอนเลยก็ได้"

(ทำบ้าอะไร 4-5 ชม.วะ - - งานเยอะก็ทำซะ 5 โมงสิว้อย 4ชม. ก็เสร็จ 3 ทุ่มแล้วไปนอนซะไป๊)

"หลายคนอาจมีคำถามว่าทำไมหลังเลิกเรียนผมไม่รีบกลับมาทำการบ้านอ่านหนังสือเสียเลยล่ะ
แล้วจากนั้นก็รีบเข้านอน จะได้ไม่ต้องมานั่งบ่นว่าง่วงนอนอีก
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงผมคงไม่คาดหวังให้ตัวเองมีชีวิตนานเกินหนึ่งเดือนหลังเปิดภาคเรียน
ผมอาจเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิตตั้งแต่สัปดาห์แรกด้วยซ้ำ"

(ใช้ชีวิตโคตรเพลย์บอยเลยเอ็งเอ้ย - - ตอนประถมแกก็กลับบ้านมาทำการบ้านแล้วก็นอน มัธยม-อุดมแกก็ทำเหมือนเดิม มันตายหรอ)

ใช่ ช่วงหลังผมเห็นด้วย ขี้เกียจก๊อปมาวางแล้ว

แต่.. ถ้าคุณต้องการเรียนสิ่งที่อยากเรียน ก็แน่นอน คุณศึกษาเองได้อยู่แล้ว

คิดเสียว่าคุณเรียนไปเพื่อเอาวุฒิ ไม่ได้เอาความรู้ก็ย่อมได้

สิ่งที่ทุกคนควรมีคือ "การศึกษาขั้นพื้นฐาน" ไม่ใช่ "การศึกษาเฉพาะผู้ที่สนใจ"

"การศึกษาขั้นพื้นฐาน" เป็นสิ่งที่ทุกคนควรมีติดตัว

ใช่ มันอาจจะบ้าไปหน่อย ชีวิตประจำวันได้ใช้เหรอวะ sin cos tan Covelent Parabola

แต่ รู้ไว้ใช่ว่าจะตาย อย่างน้อยๆ คุณก็ใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุขไม่ใช่เรอะไง

คนบางคน รู้ว่าตัวเองอยากเรียนอะไร แล้วไม่ได้เรียน แต่คนบางคน ไม่รู้ว่าตัวเองอยากเรียนอะไร

ภูมิใจซะเหอะ นะ


จะอยู่ไหนหนใดให้รู้ค่า                          พระคุณที่ได้รับมาอย่าลืมได้
ถิ่นกุหลาบนนท์งามล้วนชวนยวนใจ           หรือพระเกี้ยวอันยิ่งใหญ่บนอกเรา
สุวิชา โนภวังโหติมั่น                           ความรู้นั้นจงเชิดชูอย่าขลาดเขลา
กตัญญูกตเวทิตาเอา                           เป็นหลักเสายึดมั่นในแนวทาง

Offline

#7 2008-08-26 21:25:32

Junno
สมาชิก
From: skn.27 - - GE20 E65 KU69 *
Registered: 2005-03-12
Posts: 5,119
Website

Re: ก า ร ศึ ก ษ า . . .

คนตั้ง (จากกระทู้ที่อ้างอิงมาอะ) เหมือนขี้บ่นๆจัง
ไม่เหนจะเปนเรื่องใหญ่โตอะไรตรงไหน ?


ที่แน่ๆ
ขีเกียจจำว่า การบ้านอันไหน ส่งเมื่อไร ?
สรุปแล้ว . . กูมาเรียนหนังสือ เพื่อจำว่า การบ้านอันไหน ส่งเมื่อไร รึไง ?

เมืองไทย สอนเด็กไปให้พบจุดสูงสุด คือ โอลิมปิกวิชาการ
แต่ไม่เคยสอนให้คว้า โนเบล ทางด้านวิชาการ


sikd1.gif bbchan3.gif
»»» พีจุนโนะ 우영               :: I AM HOTTEST VIP. !
. ♥i want you  . .   Why do you HESITATE ? *

Offline

#8 2008-08-26 22:10:32

idOlez
สมาชิก
From: HUM-ENG , KASET :)
Registered: 2005-03-12
Posts: 1,562
Website

Re: ก า ร ศึ ก ษ า . . .

ไม่เห็นด้วยกับ จขกท. เพราะเรื่องเล่นบอลกับดูทีวีไรเนี่ยแหละ
มันดูชิวๆไปอะ hmm


http://lifeplus.hi5.com
cenozel@hotmail.com

am a big big girl in the big big world

Offline

#9 2008-08-26 23:16:32

MiyaCatZ
ผู้ดูแลบอร์ด
From: OSKN 605#27
Registered: 2006-05-09
Posts: 3,856
Website

Re: ก า ร ศึ ก ษ า . . .

ชิวเกินจริงด้วย - -"

แต่ก็ยอมรับว่าตัวเองขี้เกียจ 55+ คืองานบางงานมันก็ลืมไปจากสาระบบอ่ะ >.<

เพราะมันเยอะเกินไปแล้ว - - โฮกกก พอๆกะม.5 แล้วมั้งเนี่ย

เราควรจะมีเวลาอ่านหนังสือมากกว่านี้นะ ไม่ใช่มาปั่นงานยิกๆ


*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
  สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....

Offline

#10 2008-08-27 14:01:42

- T o r r e S -
สมาชิก
Registered: 2007-09-14
Posts: 147

Re: ก า ร ศึ ก ษ า . . .

แต่ก็มิได้นำพา ...


เลิกเถอะ


torres20zo3.jpg

' ' Bring us to the glory ,
Fernando Torres ~*   •

Offline

#11 2008-08-27 18:38:34

wunMapraw
สมาชิก
Registered: 2005-03-14
Posts: 8,005

Re: ก า ร ศึ ก ษ า . . .

ความจริงแล้ว เวลามีมากนะ

Offline

#12 2008-08-27 21:04:02

godome
สมาชิก
From: ดาดฟ้า
Registered: 2006-03-03
Posts: 6,035

Re: ก า ร ศึ ก ษ า . . .

เอ่อ...หวี

"ตัวผมเอง" -*-


SKN#28 NO.18428 17/05/2004 - 22/02/2010

Offline

#13 2008-08-27 21:53:52

Tangmae*
Suannonweb Team
From: จากเกาะ CJR
Registered: 2005-03-15
Posts: 5,327

Re: ก า ร ศึ ก ษ า . . .

"ตัวดิฉัน?" "ตัวเดี๊ยน"

พอ เสื่อม

ปัญหาการศึกษาปัจจุบันอยู่ที่คนสอนด้วยค้า T[]t)o


Red-Airi.png
โลกของใคร โลกของมัน    Tangmae's เอ็กตีน
ตัดให้ขาดเลยฉับๆ ตัดให้ขาดเลยฉับๆ อย่ามัวเสียดาย ร้องไห้อยู่เลย
SKN ,#28  Generation

Offline

Board footer

Powered by FluxBB