You are not logged in.
Pages: 1
อ่านแล้วถูกใจมากเลยเอามาลง
ที่มา :: http://topicstock.pantip.com/lumpini/to … 96923.html
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในประเทศแห่งหนึ่งที่เหนือกาลเวลา ที่ซึ่งความรู้สึกอยู่เหนือเหตุผล คำพูดมีน้ำหนักกว่าความจริง
เกรียงชัยอยู่เวรประจำห้องฉุกเฉินคืนนี้ วันนี้เขาได้รับโทรศัพท์จากพยาบาลรายงานเคสผู้ป่วยมาด้วยอาการผื่นคันตามตัว หน้าบวมเล็กน้อย มีประวัติเคยแพ้ยาเพนนิซิลินมาก่อน
หลังจากรับโทรศัพท์ แพทย์หนุ่มก็เปลี่ยนเครื่องแต่งตัวแล้วเดินไปที่ห้องฉุกเฉินทันที
"ป้าเป็นอะไรมาครับ"เกรียงชัยถาม
"ไม่รู้เหมือนกัน จู่ๆก็มีผื่นขึ้นตามตัวแล้วก็คันๆ" ผุ้ป่วยตอบพลางเกาตามแขน เกรียงชัยตรวจดูตามลำตัวและใบหน้า ที่ใบหน้าและตามแขนขา มีผื่นสีแดงขึ้นเป็นวงนูนขนาด4-5ซม. ที่ตาเริ่มมีลักษณะแดงๆกระจกตาปกติ ปากก็ดูแดงเล็กน้อยแต่ไม่มีลักษณะลอกแต่อย่างใด
ฟังปอดก็ปกติ กดท้อง ทุบที่ชายโครงก็เจ็บเล็กน้อย แต่ป้าก็บอกว่าปวดหลังมาหลายวันแล้ว
"เมื่อก่อนป้าเคยแพ้ยา อาการเป็นยังไงครับ" แพทย์ถาม
ป้าทำหน้านึกสักครู่ก่อนที่จะตอบ "ตอนนั้นป้ามีไข้อยู่วันนึง ก็เลยไปซื้อยาจากร้านขายยามากิน หลังจากนั้นก็มีผื่นขึ้นคล้ายๆแบบวันนี้แหละ แต่ตอนนั้นขึ้นแค่ที่ปากกับหน้า ไม่มีขึ้นที่แขนขากับตัวแบบวันนี้"
เกรียงชัยจึงให้พยาบาลเจาะเลือด ตรวจปัสสาวะและวัดไข้
ผลที่ออกมา อุณหภูมิร่างกาย 36.9องศาเซลเซียส
ปัสสาวะ เม็ดเลือดขาว 5-10ตัว เม็ดเลือดแดง 3-5ตัว เซลล์เยื่อบุ 2-3ตัว
ผลเลือด เม็ดเลือดขาว 10000ตัว ชนิดNeutrophil 40% เลือด 40% เกร็ดเลือด 180,000ตัว
"ในสามสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ป้าได้ไปกินยาอะไรมาหรือเปล่าครับ" เกรียงชัยถาม "ไม่ว่าจะยาแผนปัจจุบันและยาแผนโบราณนะครับ"
ป้านึกอีกครั้ง "ไม่นะหมอ ป้าไม่ได้กินยาอะไรเลย ... ป้ากินยาครั้งสุดท้ายก็เมื่อปีที่แล้วเป็นยาพาราฯ ... หลังจากนั้นมาป้าไม่ได้กินยาอะไรอีกเลย" ป้านึกอีกนิดนึง " ยาบำรุงหรืออาหารเสริมป้าก็ไม่ได้กิน"
"แล้วช่วงนี้มีไม่สบายอะไรหรือเปล่าครับ" เกรียงชัยถาม เพราะรู้ว่าการเกิดปฏิกริยาแพ้รุนแรงนั้น มากถึง1ใน3 เกิดจากการติดเชื้อ ไม่ได้เกิดจากการให้ยาเพียงอย่างเดียวอย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดกัน
"ป้ามีไม่สบายมีไข้ครั้งสุดท้ายก็ต้นปีก่อนแหละหมอ ตอนที่กินพารานั่นแหละ ป้าไม่ได้ป่วยได้ไข้ไม่มีผื่นอะไรแบบนี้มาเกือบสองปีแล้ว" ป้าตอบอย่างมั่นใจเกรียงชัยครุ่นคิดอย่างหนักใจ สิ่งที่เขาต้องระวังมากในตอนนี้คือ ป้าเป็นอะไรกันแน่ เพราะการรักษานั้นไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกันเลย
1. ป้าเป็นโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ... เพราะมีการตรวจพบเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ และป้าก็ไม่มีประวัติการกินยาหรือเรื่องเสี่ยงต่อการเกิดการแพ้
แต่ข้อที่ต้องระวังคือ การแพ้ ก็ทำให้เกิดเม็ดเลือดในปัสสาวะได้เหมือนกัน และในป้าก็ไม่มีไข้และการตรวจเลือดก็ปกติ
2. ป้าเกิดอาการแพ้ ... เพราะตรวจร่างกายเหมือนแพ้
แต่ที่ต้องระวังคือ ป้าไม่มีประวัติใดที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแพ้เลยถ้าเป็นแต่ก่อนนี้ เกรียงชัยจะไม่หนักใจเลย เพราะว่าสามารถเฝ้าดูอาการได้ หากมีอาการหลังจากนอนรพ.ชี้นำไปในทิศใด ภายใน6-12ชม. ก็สามารถเริ่มการรักษาได้ แต่ภายหลังจากคดีสะเทือนขวัญคดีนึง มีแพทย์ได้มาบอกว่า ถ้าแพ้จะต้องให้ยาdexamethasoneทันที...เป็นการฉีกหน้าตำราการแพทย์ทั้งปวง
เพราะพูดนั้นพูดง่ายว่าแพ้แล้วต้องให้ ... แต่การจะแยกว่าแพ้จริงหรือเปล่านั้นทำได้ยากมาก... อีกทั้งหลักฐานทางการแพทย์จนถึงปัจจุบันก็ชี้ว่า การให้dexamethasoneควรให้เมื่อแน่ใจ ไม่ใช่ให้กราดไปก่อน... การให้กราดมีแต่จะทำให้อันตราย ...
แต่ตอนนี้กระแสสังคมกลับทิศกับความจริงทางวิทยาศาสตร์ไปแล้ว ซึ่งแพทย์ส่วนใหญ่ก็ต้องยอมรับถ้ารักษาการติดเชื้อ ไม่ได้รักษาแพ้ แล้วเป็นอาการแพ้ ... ผลที่ได้ อาจจะเกิดการแพ้อย่างหนักได้
ถ้ารักษาการแพ้ ไม่ได้รักษาการติดเชื้อ แล้วเป็นการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ... ผลที่ได้ อาจจะติดเชื้อรุนแรงได้
ถ้ารักษาทั้งสองอย่างควบคู่กันไป ก็ยังอันตรายอยู่ดี เพราะจะประเมินอะไรไม่ได้เลย บอกไม่ได้ว่าแพ้หรือไม่ และก็ไม่แน่ชัดว่าติดเชื้อหรือไม่
............
........
....
.
หลังจากตรึกตรองอยู่พักหนึ่ง เกรียงชัยจึงให้รักษาแบบเรื่องแพ้ เนื่องจากเหตุผลที่ว่า ป้าเคยแพ้มาก่อน สิ่งที่ตรวจพบ ไม่มีอะไรที่ชี้ชัดเลยว่าติดเชื้อ... ส่วนของปัสสาวะนั้นถึงจะผิดปกติและเกิดจากการมีเชื้อ ก็อาจจะเป็นการมีเชื้อโดยที่ไม่ได้ก่อโรคเพราะว่าไม่ได้มีไข้และตรวจเลือดก็ ปกติ
เกรียงชัยจึงให้ฉีดยาDexamethasoneทุก6ชั่วโมง และให้สังเกตอาการ
***ผ่านไป8ชั่วโมง***
หลังจากฉีดยาครั้งที่สองไปได้พักใหญ่ๆ จู่ๆป้าก็มีอาการหนาวสั่นสะท้าน แล้วก็เป็นลม วัดความดันโลหิตไม่ได้
แม้แพทย์จะพยายามรักษาอย่างเต็มที่ก็ไม่เป็นผล ป้าเสียชีวิตคาเตียงรพ.
เกรียงศักดิ์ส่งศพชันสูตรท่ามกลางการคัดค้านของญาติๆที่ต้องการให้จ่ายเงินช ดเชยและไม่ต้องการให้ส่งผ่าพิสูจน์เพราะเชื่อว่าแพทย์ผิดแน่นอน ... ผลออกมา ป้าเสียชีวิตจากกรวยไตอักเสบและติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรงวันรุ่งขึ้น รายการทีวีช่องหนึ่ง มีแพทย์มาแสดงความเห็น
"รายนี้เห็นได้ชัดครับว่าแพทย์ผิดพลาด เพราะเราก็เห็นๆอยู่ว่าปัสสาวะผิดปกติตั้งแต่แรก อีกทั้งผู้ป่วยอายุมาก การที่เม็ดเลือดขาวจะปกติและไม่มีไข้ก็เป็นเรื่องธรรมดา" แพทย์คนนั้นกล่าว "การให้ยาDexamethasoneจึงถือเป็นความผิดอย่างร้ายแรงที่แก้ตัวไม่ได้ ไปสู้ศาลไหนก็ผิดครับ"เกรียงชัยเสียใจมาก เพราะเรื่องพวกนี้แพทย์ที่ทำงานจริงๆก็รู้ว่าไม่มีอะไร100%ในการตรวจรักษา การรักษานั้นก็ทำอย่างระมัดระวัง ที่สำคัญ การให้dexaไปแค่6ชั่วโมง ยายังไม่ทันออกฤทธิ์ที่จะไปกดภูมิคุ้มกันอย่างที่หมอคนนั้นกล่าวอ้าง
เกรียงชัยจึงเสียใจ เพราะถ้าโดนว่าโดยแพทย์ที่ทำงานจริงเขาจะไม่คิดอะไรมากเลย แต่นี่โดนกล่าวหาจากแพทย์ที่ไม่ได้รักษาคนไข้และกล่าวหาหลุดจากความจริง
..ฉับพลันนั้นเอง นางฟ้าก็มาปรากฎกาย
"เราเห็นแก่เจ้าที่ทำดีมาตลอด จะให้พรเจ้าย้อนเวลาไปแก้ไขเหตุการณ์ได้ เจ้าจะกลับไปแก้อะไรล่ะ" นางฟ้ากล่าว
"ผมขอกลับไปให้ยาปฏิชีวนะครับ จะไม่ให้dexaแล้ว" เกรียงชัยร้องอย่างดีใจ สายตาเปี่ยมด้วยความหวัง พลันแสงสว่างก็เจิดจ้าไปทั่วห้องของแพทย์หนุ่ม
เกรียงชัยลืมตามาอีกครั้ง ป้าคนนั้นนอนอยู่ตรงหน้า ในมือเกรียงชัยมีใบคำสั่งการรักษาที่ยังไม่ได้เขียนอยู่
แพทย์ผู้ได้รับโอกาสครั้งที่สองในชีวิตรีบเขียนสั่งการรักษาให้ยาปฏิชีวนะ ให้ยาแก้แพ้แบบฉีดCPM และไม่ลืมที่จะเก็บปัสสาวะส่งเพาะเชื้อและเฝ้าระวังอาการแพ้ที่อาจจะเกิดขึ้ น ... หลังจากเขียนดักไว้ทุกทางแล้วเกรียงชัยก็ลองนึกว่าตนเองหลุดอะไรอีกหรือไม่ ... เมื่อไม่มีอะไรเพิ่มเติม เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก***ผ่านไป8ชั่วโมง***
พยาบาลรายงานว่าจู่ๆใบหน้าคนไข้ก็ขึ้นผื่นเต็มไปหมด การอักเสบลุกลามไปทั่ว ตอนนี้มองอย่างไรก็เหมือนอาการแพ้ที่เรียกว่า "สตีเวนจอห์นสัน"
เกรียงชัยรีบสั่งการรักษาแบบอาการแพ้ ตรวจและบันทึกสภาพดวงตาที่ยังปกติ ตรวจดูปากที่ลอกไปทั่วแต่ยังไม่บวม ... เมื่อควบคุมทุกอย่างได้ก็ส่งไปรพ.จังหวัดในทันที
หลังจากนั้นเกรียงชัยก็ได้ข่าวว่าผู้ป่วยรายนี้มีการอักเสบจนตาบอด จากนั้นก็เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนทางผิวหนังจนกระทั่งเสียชีวิตวันรุ่งขึ้น รายการทีวีช่องหนึ่ง มีแพทย์มาแสดงความเห็น
"รายนี้เห็นได้ชัดครับว่าแพทย์ผิดพลาด เพราะว่ารายนี้แค่มีปัสสาวะผิดปกติอย่างเดียวโดยที่ไม่มีไข้หรือผลเลือดปกติ แถมมีการแพ้ในอดีต เราก็ต้องนึกถึงเรื่องการแพ้ซ้ำอีก" แพทย์คนนั้นบอก "การให้ยาปฏิชีวนะหรือให้แค่ยาแก้แพ้โดยไม่ให้ยาdexamethasoneจึงเป็นข้อผิดพลาดร้ายแรงมากอย่า งไม่น่าให้อภัย ไปสู้ศาลไหนก็แพ้หมดตูด"ระหว่างที่เกรียงชัยนั่งหมดอาลัยตายอยากนั้นเอง นางฟ้าก็มาปรากฎกายอีกครั้ง
"สวัสดีจ๊ะ คุณหมอ...." นางฟ้าทักทาย "เห็นแก่ความดีที่เจ้าสั่งสมมาในอดีต เราจะให้โอกาสเจ้าขอพรครั้งสุดท้าย .... เจ้าจะขอแก้ไขอดีตอย่างไรดีจ๊ะ"
เกรียงชัยคิดอย่างเคร่งเครียด จากนั้นก็กล่าวคำขอขึ้น......
แล้วแสงสว่างก็บังเกิดขึ้นทั่วทั้งห้อง............
........
....
.
"สวัสดีค่ะคุณหมอ" หญิงสาวทักทายเกรียงชัย "จะมาดูเรื่องสิวค่ะ"
แพทย์หนุ่มเพ่งพิศก่อนจะบอกแก่หญิงสาว "เป็นสิวน่ะครับ เดี๋ยวผมจัดยาให้นะครับ"
ว่าแล้วก็บันทึกลงไปในสมุดจด ผู้ป่วยเป็นสิวชนิด 1A ใช้ยาชุด#12 และเข้าทรีทเมนท์แบบ#2
............................ขณะบันทึก เกรียงชัยก็นั่งคิดว่าตนเองมาถูกทางไหม ที่เลือกว่าเมื่อเรียนจบก็จ่ายเงินไปเลยโดยไม่ทำงานชดใช้ทุนสามปี......... แต่อย่าคิดมากน่า มาถูกทางแล้ว เชื่อเถอะและแล้ว นายแพทย์ก็ใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขตลอดไป
The End
จบแบบ Happy Endingลอกเค้ามาอีกทีครับ เห็นว่าคล้ายชวิตแพทย์ปัจจุบันดี
จากคุณ : ก๊อปต่อมาอีกปี้ - [ 10 พ.ค. 50 23:46:05 A:222.123.232.166 X: TicketID:130361 ]
กับความเห็นนี้
ความคิดเห็นที่ 7
ในฐานะที่เป็นหมอนะครับ
อยากบอกว่าที่เจ้าของกระทู้โพสมา
เป็นเรื่องจริงที่เจ็บปวดครับ....
สังคมอยากให้หมอทำงานดูคนไข้
แต่ไม่เคยลงมาช่วยเวลาทีมีปัญหา
งานพวกนี้เป็นศาสตร์และศิลป์ครับ
ไม่มีอะไร 100 เปอร์เซนต์ในวงการแพทย์
ปวดท้องขวาล่าง มีไข้ เม็ดเลือดขาวขึ้น
ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ไส้ติ่งเสมอไป
แต่จะให้ผ่าคนไข้ทุกคน คนไข้ก้ไม่ยอม
แต่ถ้าหากหลุดมากลายเป็นไส้ติ่งซักคน
สมัยนี้ก็จะฟ้องหมอถึงขั้นหมดตัวได้ครับ
ต้องเข้าใจว่าคนอยากถุกหวยก็มีเยอะ
คราวก่อนคุณยายอายุ 90 มารพ.ด้วยช๊อคจากติดเชื้อ
หมอก็พยายามช่วยเลยจะใส่ท่อช่วยหายใจ
สุดท้ายไปโดนฟันปลอมหลุด คุณยายเสียชิวิต
ญาติฟ้องหมอแค่ 20 ล้านเอง บอกทำให้ยายเสียชีวิตจากฟันปลอมหลุด
ทั้งที่คุณยายมีไข้อยูบ้านมา 1 อาทิตย์แต่ญาติไม่เคยพาไปหาหมอที่ไหนปล่อยปละละเลย
แล้วสภาพที่มารพ.
ก็มีอาการบอกว่าติดเชื้อในกระแสเลือดแล้ว
แต่ฟ้องหมอ 20 ล้าน
ขอบคุณครับเมืองพุทธโดยเฉพาะสื่อต่าง ๆ ที่ชอบลงข่าวเกินจริง
แล้วฟันธงว่าหมอผิด ทั้งที่เมื่อพิสูจนืได้แล้วว่าไม่ผิด
ก็ไม่เคยลงข่าวขอโทษ
ทำให้สังคมเข้าใจวงการสาธารณสุขผิดว่าปกป้องกันเองกินข้าวมันไก่อร่อย ๆ 100 ครั้ง ก็ต้องมีซักครั้งที่มือตกทำไม่อร่อย หรือเจอเศษผม แล้วเราก็บ่น ผ่าน ๆ กันไป
แต่ถ้าหมอพลาดหนึงครั้ง ฟ้องแต่ละทีกันเป็น 4 - 5ล้าน
แล้วเงินเดือนหมอ 3 หมื่น ทำ 1 ปี 3 แสน ทำ 5 ปียังไม่พอซื้อรถดี ๆ มาขับเลย
ทำให้หลัง ๆ หมอที่จบมาใหม่ ๆ พร้อมที่จะลาออกไปนั่งตรวจสิวดีกว่า
งานเบา เงินดี ไม่มีปัญหาคนไข้หลายคนคิดว่าเมื่อถึงมือหมอแล้ว ห้ามตาย ห้ามพลาด ห้ามพิการ ห้ามเลี้ยงไข้ และห้ามแพง ซึ่งทุกอย่างฟังแล้วดูขัดกันเองไหม
ยาที่ดีหลายตัว เราต้องสั่งซื้อจากเมืองนอกเพราะผลิตเองไม่ได้ ยาแก้อักเสบมีตั้งแต่เม็ดละ 50 ตังค์จนถึงเข็มละแสน ๆ เหมือนที่เคยฉีดบิ๊ก ดี2บี
แต่คนไข้ต้องการยาถูกที่สุด หายเร็วที่สุดแล้วก็กดดันหมอ แต่ผู้บริหารที่ดูแลงบก็ต้องการให้หมอให้ยาถูกที่สุด ให้น้อยที่สุดจะได้ประหยัดงบ แต่หากมีปัญหาพลาดขึ้นมาผู้บริหารกลับมาลงที่หมอและก็ไปให้สัมภาษณ์ออกทีวีเอาหน้าโทษหมอ ตั้งกรรมการสอบ
แล้วใครจะอยากทำงานให้หลวงครับ ทำดีเสมอตัว พลาดทีหมดตัวแทบต้องขายตัวกินเลยแล้วสังคมก็กลับมาเรียกร้อง ทำไมหมอไม่ช่วยเหลือประชาชน
ทั้งที่สังคมเป็นคนบังคับให้หมอเลือกทางเดินนี้เองเฮ้อ บ่นไปงั้นแหละครับ ตอนนี้ผมก็เป็นหมอทำงานรพ.รัฐอยู่ตจว. งานหนักกว่าเอกชน 100 เท่า รายได้น้อยกว่าเอกชน 10 เท่า
แต่ที่ยังทำงานอยู่เพราะสงสารคนไข้ดี ๆ ที่ยังอยู่ข้างหมอแล้วเข้าใจหมอนี่แหละครับอยากให้ทุกคนที่ทนอ่านมาเข้าใจวงการหมอมากขึ้นครับ
ไม่มีหมอคนไหนอยากทำพลาด หรืออยากให้คนไข้ตาย
แต่ปัจจัยหลายอย่างในร่างกายเราก็คุมไม่ได้
บางคนไม่สูบบุหรี่กลับเป็นมะเร็งปอด แต่คนสูบบางคนวันละ 2 ซองอยูได้ถึง 80 ปี
ไม่มีอะไร 100 เปอร์เซนต์ในวงการแพทย์ครับ
และอีกอย่างนะครับ
ของถูกและดีไม่มีในโลกครับ มีแต่ของดีและมีราคาที่เหมาะสมครับจากคุณ : สาลิกาโบยบิน - [ 11 พ.ค. 50 11:14:47 ]
โลกของใคร โลกของมัน Tangmae's เอ็กตีน
ตัดให้ขาดเลยฉับๆ ตัดให้ขาดเลยฉับๆ อย่ามัวเสียดาย ร้องไห้อยู่เลย
SKN ,#28 Generation
Offline
เป็นความจริงอันโหดร้ายจริงๆครับ
Offline
โหดร้ายจริงๆด้วยครับ น่าสงสารคุณหมอ
ชมพู-ฟ้า Suannon#30
Offline
สงสารคุณหมอ =w=
yocrab.exteen.com
facebook.com/yocrab
Offline
่ว่าจะ มา ตอบเมื่อวาน ตอบไม่ถูกไปเลยย หมอก็น่าสงสารเหมือนกันนะเนี่ย
ไว้ต้องเรียกเพื่อนให้ห้องหลายๆคนมาอ่าน
Offline
คนเราก็อยากเข้าหมอนะ
แต่พอเข้าไปแล้วก็เบื่ออยากออกซะงั้น
นี่แหละ....ชีวิต
จิตใจโลเล
ต้องทำใจให้ได้ไว้ตั้งแต่ก่อนสอบแล้ว
Offline
Offline
อนาคตตู ...
ละครเรื่องนี้ ถือว่าถูกกกก
กุ(หมอ) ผิดไม่ด้ายย..
Last edited by **Bow** (2008-08-22 16:34:15)
Offline
ไม่มีหมอคนไหนอยากให้คนไข้ตายหรอก -*-
แต่ยังไงหมอก็ต้องรับผิดชอบชีวิตคนไข้ หมอต้องเสียสละ คิดจะรวยอย่างเดียวไม่ได้หรอกนะ
SKN#28 NO.18428 17/05/2004 - 22/02/2010
Offline
หมอน่าสงสาร
บางครั้งคนไข้ก็ไม่รู้นะ คนไข้ก็น่าสงสาร
แต่หมอก็น่าสงสารอยู่ดี -0-
Offline
อนิจจังสังขารไม่เที่ยงแท้
เนื้อหนังมังสานั้นเป็นของที่ไม่เที่ยง
เพราะฉะนั้น ปรับนาฬิกาให้เที่ยงซะ:d (ไม่ฮาก็อย่าเครียด)
จะอยู่ไหนหนใดให้รู้ค่า พระคุณที่ได้รับมาอย่าลืมได้
ถิ่นกุหลาบนนท์งามล้วนชวนยวนใจ หรือพระเกี้ยวอันยิ่งใหญ่บนอกเรา
สุวิชา โนภวังโหติมั่น ความรู้นั้นจงเชิดชูอย่าขลาดเขลา
กตัญญูกตเวทิตาเอา เป็นหลักเสายึดมั่นในแนวทาง
Offline
อ่านแล้วสงสารหมอ
จะไหวมั๊ยเรา = w =
♥ Girls' Generation
Offline
Pages: 1