You are not logged in.
Pages: 1
เป็น FORWARD MAIL อ่า ไม่รู้เคยอ่านยัง
15 กันยายน 2551
เรียน เพื่อนนักเรียนร่วมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
เรื่อง ขอความร่วมมือเพื่อการเปลี่ยนแปลงการสอบเข้าเรียนต่อระดับอุดมศึกษาในปี 2553
ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทางสทศ. (สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ) ได้มีการออกประกาศเกี่ยวกับการจัดสอบแอดมิชชั่นระบบใหม่ที่ยกเลิกการสอบระบบเดิมเป็นการใช้ GAT-PAT แทนซึ่งในขณะนั้นยังไม่ได้มีการประกาศเป็นที่แน่ชัด ต่อมาในช่วงต้นเดือนเมษายน 2551 ทปอ. (ที่ประชุมอธิการบดี) ได้มีการจัดประชุมหารือเกี่ยวกับการสอบระบบนี้อีกครั้งหนึ่งและในการประชุมครั้งนั้นก็ได้มีข้อสรุปออกมาในหนังสือพิมพ์ (ถ้าสนใจสามารถลองหาดูได้จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐช่วงต้น ๆ ของเดือนเมษายน 2551) ว่าในการสอบระบบใหม่จะแบ่งการสอบออกเป็น 2 รายวิชาด้วยกันคือ
1. GAT (General Aptitude Test) วัดความรู้ทั่วไปในทางคำนวณ ประมวลผล แยกแยะวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงคณิตศาสตร์และการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ
2. PAT (Professional Aptitude Test) วัดความรู้เฉพาะทางในวิชาชีพที่ต้องการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย แบ่งออกเป็น 7 ประเภทได้แก่
2.1) PAT 1 ความถนัดทางคณิตศาสตร์
2.2) PAT 2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ (รวมฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยาเป็นตัวเดียวกัน)
2.3) PAT 3 ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
2.4) PAT 4 ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์
2.5) PAT 5 ความถนัดทางครู
2.6) PAT 6 ความถนัดทางศิลปะ
2.7) PAT 7 ความถนัดทางภาษาต่างประเทศ (ภาษาที่ 3) ประกอบด้วย 6 ภาษา
1. ภาษาฝรั่งเศส
2. ภาษาเยอรมัน
3. ภาษาญี่ปุ่น
4. ภาษาจีน
5. ภาษาบาลี
6. ภาษาอาหรับ
โดยจากการประกาศครั้งแรกของทาง ทปอ. ตามระยะเวลาดังกล่าวในการสอบเข้าบางคณะยังคงมีการแบ่งแยกสายตามปกติและสาเหตุที่ PAT มีทั้งสิ้น 7 ประเภทก็เพื่อให้นักเรียนสามารถเลือกว่าจะเข้าเรียนต่อในคณะใด ๆ และให้การสอบนั้นเป็นไปในวันเดียวกันเพื่อกันไม่ให้นักเรียนเลือกลงทีละมาก ๆ
ต่อมาประมาณช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทางโรงเรียนเทพศิรินทร์ได้เรียนเชิญ ศ.ดร. อุทุมพร จามรมาน ผอ.สทศ. มาบรรยายพิเศษให้นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เกี่ยวกับการสอบแอดมิชชั่นระบบใหม่ โดยที่ในการบรรยายครั้งได้มีนักเรียนบางคนสอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับการสอบ คำถามที่ถามคือ
1. ถ้าตั้งใจจะเข้าคณะที่ต่างกันก็จำเป็นต้องสอบใน PAT ที่ต่างกันแต่ตามประกาศบางวิชาสอบวันเดียวกัน จะควรทำอย่างไร
2. นักเรียนสายวิทย์-คณิต บางคนเรียนภาษาเพิ่มเติมนอกเหนือจากภายในโรงเรียน มีความต้องการสอบใน PAT 7 ซึ่งเป็นของนักเรียนสายศิลป์จะสามารถสอบได้หรือไม่
ซึ่งคำถามทั้งสองได้รับคำตอบที่บอกปัดความรับผิดชอบ จนกระทั่งนักเรียนหลายคนได้ขึ้นแสดงความเห็นจนกระทั่งผอ.สทศ. รับปากว่าจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมทปอ. ครั้งต่อไปจึงเกิดความสงบ
เมื่อประมาณปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านทางสทศ. ได้เปิดลิงค์ในเว็ปไซต์ (http://www.niets.or.th) เพื่อให้นักเรียนระดับชั้นม.5 หรือเทียบเท่าเข้าทำการสมัครสอบฯ โดยไม่กำหนดสายการเรียน แต่ทำการเก็บเงินค่าสมัครวิชาละ 200 บาท และยังให้ทำการสมัครได้ทางเวปไซต์เท่านั้น
ทางคณะกรรมการนักเรียนม.5 โรงเรียนเทพศิรินทร์เล็งเห็นว่าการกระทำของสทศ. ในครั้งนี้เป็นการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผลและยังเอารัดเอาเปรียบนักเรียนเป็นอย่างมาก จึงคิดหาทางออกด้วยการยื่นหนังสือร้องเรียนถึงกระทรวงศึกษาธิการและสทศ. โดยได้ชี้แจงเหตุผลเป็นข้อ ๆ จากปัญหาของระบบแอดมิชชั่นใหม่ดังนี้
1. ตามปกติในการเปลี่ยนแปลงระบบการสอบเช้ามหาวิทยาลัยจะต้องแจ้งให้นักเรียนทราบล่วงหน้า 3 ปีเพื่อให้สามารถเตรียมตัวได้ทัน แต่ในครั้งนี้มีการประกาศล่วงหน้าเพียง 1 ปีเท่านั้น ทำให้นักเรียนหลายคนยังสับสนและไม่พร้อมในการสอบ
2. เนื่องจากการเปลี่ยนระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยหลายครั้ง ทำให้หลาย ๆ มหาวิทยาลัยเริ่มเกิดความไม่ไว้ใจในคะแนนที่ได้จากการสอบส่วนกลาง จึงมีการเสนอนโยบายออกมาว่า อาจจะไม่รับพิจารณาคะแนนที่ได้จากการสอบส่วนกลางเพื่อสมัครเข้าเรียนระดับอุดมศึกษาอีกต่อไป
3. การสมัครสอบในครั้งนี้เป็นไปด้วยการขาดการประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รับทราบของนักเรียน หลายคนยังไม่ทราบถึงการสมัครสอบจนกระทั่งเพื่อนนักเรียนด้วยกันได้มาชี้แจง ทั้งยังกำหนดให้ทำการสมัครเฉพาะวันที่ 1 กันยายน – 31 ตุลาคม 2551 และต้องทำการสมัครครั้งเดียวลงสอบ 3 ครั้งทำให้นักเรียนหลาย ๆ คนไม่สามารถตั้งตัวได้ทัน
4. การสมัครสอบให้เป็นโดยทางอินเตอร์เน็ตเพียงทางเดียว ย่อมก่อให้เกิดปัญหาต่อนักเรียนหลายคนที่ไม่มีอินเตอร์เน็ตที่บ้านจำเป็นต้องใช้บริการคอมพิวเตอร์ตามร้านเพื่อให้สามารถสมัครสอบได้ ซึ่งเป็นการอยุติธรรมและสอนให้เยาวชนใช้เงินสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น
5. เนื่องจากการสมัครสอบผ่านทางอินเตอร์เน็ตเท่านั้น ทำให้นักเรียนหลายคนที่อยู่ในชนบทห่างไกลจากตัวเมืองต้องเสียทรัพย์โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้าเมืองเพื่อให้ตนสามารถสมัครสอบได้
6. ค่าสมัครสอบวิชาละ 200 บาทต่อรายวิชาซึ่งสำหรับบางคนที่ยังไม่แน่ใจว่าอยากเรียนต่อในคณะไหน ย่อมเลือกที่จะสอบหมดทุกวิชาทำให้เสียค่าใช้จ่ายสูงสุดถึง 4,800 บาทและต่ำสุดเป็นเงิน 300 บาท (ในกรณีไม่รวม PAT แต่ถ้ารวมแล้วจะเป็นต่ำสุด 600 บาท) ซึ่งเมื่อลองคำนวณกับจำนวนนักเรียนที่ทำการสมัครนับแสนคนแล้วจะได้เงินจำนวนมาก จนก่อให้เกิดความสงสัยว่าจะนำเงินจำนวนไปใช้ในทางทุจริตหรือไม่
7. สืบเนื่องจากข้อ 6 ในฐานที่เป็นนักเรียนอยู่ย่อมมีความจำกัดในเรื่องของกำลังทรัพย์แม้ว่าจะเป็นเพื่อการศึกษาก็ตามเงินจำนวนเกือบ 5000 บาทสำหรับเด็กนักเรียนก็นับว่ามีมูลค่ามากแล้ว แต่ถ้าคิดไปถึงนักเรียนที่ทางบ้านมีฐานะยากจนการใช้จ่ายเงินจำนวนมากโดยไม่จำเป็นย่อมก่อให้เกิดความยากลำบากขึ้นอย่างแน่นอน
8. ในประกาศบนเว็ปของสทศ. ได้แจ้งไว้ว่า เมื่อได้ทำการสมัครแล้ว ไม่ว่าจะเกิดกรณีใด ๆ ขึ้นก็ตามจะไม่มีการคืนเงินค่าสมัครเป็นอันขาด แม้จะเป็นการสมัครใหม่เพื่อแก้ไขที่ลงวิชาผิดไปก็ต้องจ่ายค่าสมัครใหม่โดยไม่คืนเงินค่าสมัครที่ผิดไป
9. อัตราส่วนของการสอบที่กำหนดมาว่าแต่ละคณะใช้ GAT-PAT ปริมาณเท่าไรนั้น เป็นเพียงการคาดคะเนของทางสทศ. เท่านั้น ยังไม่มีมหาวิทยาลัยใดที่กำหนดออกมาอย่างแน่นอนว่าแต่ละคณะจะใช้อัตราส่วนปริมาณเท่าใด
10. สทศ. กล่าวว่า การที่ให้นักเรียนม.ปลาย สอบระบบแอดมิชชั่นใหม่นี้เพื่อเป็นการสอนให้เด็กไทยรู้จักการคิดและวางแผนการศึกษาต่ออย่างเป็นระบบและแน่วแน่ ไม่ใช่ให้เป็นคนที่หวังเหวี่ยงแหในการสอบเหมือนที่แล้วมา
จากเหตุผลดังกล่าวมาทั้งหมดนี้ทางคณะกรรมการนักเรียนชั้นม.5 ปีการศึกษา 2551 โรงเรียนเทพศิรินทร์จึงไม่อาจทนนิ่งเฉยให้สิทธิและเสรีภาพในการเลือกศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาต้องพังทลายลง จึงได้ร่างหนังสือเพื่อทำการร้องเรียนและขอให้มีการทบทวนใหม่
และด้วยเล็งเห็นว่านักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 ทุกคนคือผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงนับจึงได้ส่งจดหมายฉบับนี้มาให้ เพื่อขอความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจกันระหว่างเพื่อนนักเรียนด้วยกัน ผนึกเป็นกำลังเสียงของเยาวชนเพื่อผลักดันให้การศึกษาไทยไม่ถอยหลังลงคลองไปมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และเพื่อเป็นการแสดงให้ผู้ใหญ่ในสังคมไทยได้ตาสว่างขึ้นมาบ้างว่า "เยาวชนไทย ไม่ได้นิ่งดูดายต่อเหตุการณ์ความเป็นไปต่าง ๆ" ตามอย่างที่ผู้ใหญ่หลายคนได้คิดและเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้ใหญ่ในสังคมตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของตนที่มีต่อสังคมมากขึ้น และกระตุ้นให้นักวิชาการได้ตื่นจากภวังค์และหันมาใส่ใจการศึกษามากกว่านี้ก่อนที่จะทำให้ระบบการศึกษาของไทยต้องถึงคราววิบัติอย่างแท้จริงจากความมืดบอดทางความคิดของตน
หากเพื่อนนักเรียนม.5 คนใดที่ได้รับจดหมายนี้โปรดเผยแพร่ต่อ ๆ กันในโรงเรียนของตนเพื่อรวบรวมเสียงเยาวชนให้มาร่วมกันแสดงความเห็น โดยที่ทางคณะกรรมการนักเรียนม.5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ จะจัดให้มีการประชุมร่วมกันระหว่างทุกโรงเรียนที่เห็นด้วยกับการเรียกร้องนี้ในวันเสาร์ที่ 27 กันยายน 2551 ทั้งนี้เวลาและสถานที่จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง เพราะเท่าที่ทราบมาช่วง 2 สัปดาห์นี้จะเป็นการสอบปลายภาคเรียนที่ 1 ของทุกโรงเรียนดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนเพื่อน ๆ มากนักจึงขอให้ช่วยกระจายข่าวนี้โดยเร็วที่สุด
ด้วยความรักและความห่วงใย
คณะกรรมการนักเรียนม.5
ปีการศึกษา 2551 โรงเรียนเทพศิรินทร์
*หมายเหตุ* หากเห็นด้วยกับการร้องเรียนนี้หรือมีข้อสงสัยใด ๆ ติดต่อได้ที่ คณะกรรมการนักเรียนม.5 เทพศิรินทร์
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ระดับ. 5 : โจนัส (โจ) 081-4452726 eldar123@hotmail.com
(ทุกข้อสงสัยถ้าผู้ใหญ่ จะช่วยตอบจะขอบคุณมาก. . .เพราะมีความรู้สึกว่าระบบการสอบเข้าระดับอุดมศึกษา เด็กไม่ได้มีส่วน
ร่วมในการตัดสินใจว่าจะสอบบระบบไหนเลย ... คนเลือกระบบไม่ได้สอบ คนสอบไม่มีสิทธิ์เลือก!!)
Offline
เมื่อกี้เชคเมล ป้าโบก็พึ่งฟอเวิดเมลมาให้
ก็ว่างั้นมันเเพงไปอะสอบเเต่ละตัว - -*
เวลาก็น้อย
เพื่อนบางคนก็สมัครเเกทเเพทไม่ทัน -*-
มอบ
yocrab.exteen.com
facebook.com/yocrab
Offline
เพื่อนบางคนก็สมัครเเกทเเพทไม่ทัน -*-
มอบ
มันยังไม่ปิดรับสมัครนิโอม (?)
เราเห็นว่าค่าสอบมันแพงเกินไปมากๆ
แล้วก็ต้องสมัครทีเดียวสามครั้งเพื่ออะไร
Offline
●!! [YoCRãß]™ wrote:เพื่อนบางคนก็สมัครเเกทเเพทไม่ทัน -*-
มอบมันยังไม่ปิดรับสมัครนิโอม (?)
เราเห็นว่าค่าสอบมันแพงเกินไปมากๆ
แล้วก็ต้องสมัครทีเดียวสามครั้งเพื่ออะไร
เพื่อสนองความต้องการของผู้ใหญ่หน้าเลือด ที่มีพฤติกรรม ที่เรียกได้่ว่า "เลว" หากินกับเด็ก
แล้วมีหน้ามาออกสื่อ ว่า จะพัฒนา การศึกษาไทยให้ดีขึ้น แต่กับทำตัวถ่วงความเจริญของการศึกษา
ไม่รู้ จะบอกพูดอะไร กับพวกคุณดี สักวัน กรรม มันจะตามไปลงที่ลูกคุณ
Offline
ถึงผมจะอยู่แค่ ม.3 แต่ผมก็ไม่รู้เรื่อง= =
พูดเพื่ออะไรเนี่ย
ชมพู-ฟ้า Suannon#30
Offline
มันแพงไปจริงๆ
ข้ออ้างหลายๆอันมันไม่ใช่เหตุผลเลย
เช่น
10. สทศ. กล่าวว่า การที่ให้นักเรียนม.ปลาย สอบระบบแอดมิชชั่นใหม่นี้เพื่อเป็นการสอนให้เด็กไทยรู้จักการคิดและวางแผน การศึกษาต่ออย่างเป็นระบบและแน่วแน่ ไม่ใช่ให้เป็นคนที่หวังเหวี่ยงแหในการสอบเหมือนที่แล้วมา
แล้วมาเก็บแพงๆเนี่ยนะ... ท่าจะประสาท
Offline
Offline
6. ค่าสมัครสอบวิชาละ 200 บาทต่อรายวิชาซึ่งสำหรับบางคนที่ยังไม่แน่ใจว่าอยากเรียนต่อในคณะไหน ย่อมเลือกที่จะสอบหมดทุกวิชาทำให้เสียค่าใช้จ่ายสูงสุดถึง 4,800 บาทและต่ำสุดเป็นเงิน 300 บาท (ในกรณีไม่รวม PAT แต่ถ้ารวมแล้วจะเป็นต่ำสุด 600 บาท) ซึ่งเมื่อลองคำนวณกับจำนวนนักเรียนที่ทำการสมัครนับแสนคนแล้วจะได้เงินจำนวนมาก จนก่อให้เกิดความสงสัยว่าจะนำเงินจำนวนไปใช้ในทางทุจริตหรือไม่
4,800 บาท!! อย่าลืม ว่าคนจนฐานะระดับรากหญ้า มีเปอร์เซ็นมากที่สุดในประเทศ
7. สืบเนื่องจากข้อ 6 ในฐานที่เป็นนักเรียนอยู่ย่อมมีความจำกัดในเรื่องของกำลังทรัพย์แม้ว่าจะเป็นเพื่อการศึกษาก็ตามเงินจำนวนเกือบ 5000 บาทสำหรับเด็กนักเรียนก็นับว่ามีมูลค่ามากแล้ว แต่ถ้าคิดไปถึงนักเรียนที่ทางบ้านมีฐานะยากจนการใช้จ่ายเงินจำนวนมากโดยไม่จำเป็นย่อมก่อให้เกิดความยากลำบากขึ้นอย่างแน่นอน
เห็นด้วยอย่างยิ่ง ประเทศไทยก็แปลกนะ กว่าจะทำงาน หาเงินได้ ต้องรอ 18
ทั้งๆที่เด็กฝรั่ง ทำงานได้เมื่อไหร่ก็เริ่มเมื่อนั้น (งานส่งนม ส่งหนังสือพิมพ์ กวาดขยะ เก็บขี้หมา ฯลฯ)
เด็กส่วนใหญ่ก็เลยดีแต่ขอเงิน การสอบนี่ก็เหมือนกัน บางคนอาจจะไม่คิดอะไรเรื่องเงิน
แต่ถ้าท่านหาเงินจ่ายเองจะรู้ว่ามันยากลำบากขนาดไหน (ข้าพเจ้ารู้ซึ้งแล้ว)
10. สทศ. กล่าวว่า การที่ให้นักเรียนม.ปลาย สอบระบบแอดมิชชั่นใหม่นี้เพื่อเป็นการสอนให้เด็กไทยรู้จักการคิดและวางแผนการศึกษาต่ออย่างเป็นระบบและแน่วแน่ ไม่ใช่ให้เป็นคนที่หวังเหวี่ยงแหในการสอบเหมือนที่แล้วมา
ถ้าต้องการอย่างงี้จริงๆ คงต้องกลับไปใช้ระบบเอนทรานซ์ (ก่อน o-net ,a-net) เก่า
ท่านผู้ใหญ่ใน สทศ. คงเคยผ่านระบบนี้มาแล้ว ท่านไม่คิดว่ามันขลังบ้างหรือคะ
ประสงค์จะเข้าคณะอะไร ก็มุ่งไปคณะนั้นเลย แม้จะสอบได้ครั้งเดียวก็เถอะ
(อย่างน้อยเด็กต้องมีความมุ่งมั่น และมีข้อมูลเกี่ยวกับคณะนั้นๆมาดีแล้ว)
ถ้าจะให้เด็กไทยรู้จักวางแผนอนาคต ข้าพเจ้าคิดว่า ไม่เกี่ยวกับระบบการสอบเข้าเลย
มันเกี่ยวที่ตัวคน และทางโรงเรียนมัธยม ว่าจะปลูกฝังแบบไหนมากกว่า
ตอนนี้การเลือกคณะ เหมือนกับเป็นกระแสนิยม เด็กบางคนยังไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำ ว่าตัวเองอยากเป็นอะไร ชอบอะไร
เรียนได้ก็เอา (แล้วมันก็จะไปเจ๊งกันตอนทำงาน อยู่กับสิ่งที่ตนไม่ได้ชอบทั้งวัน ทุกวัน ท่านทำได้หรือ?)
วอนท่านผู้ใหญ่ อย่าคิดระบบอะไรที่มันยุ่งยาก และไม่ประสบผลสำเร็จมาเลย
ท่านเห็นเด็กเป็นแค่หนูทดลองหรือ? รุ่นที่ถูกทดลอง บางคนอาจโดนทำลายความฝันได้เลยนะ
สงสารลูกหลานและอนาคตของชาติหน่อยเถิด
ปล. รุ่นข้าพเจ้า ปี พ.ศ.2554 ระบบจะเป็นเช่นใดหนอ? คิดแล้วเครียด สอบตรงให้ติดดีกว่า สู้ๆ
♥♥♥♥♥♥♥♥♥
Offline
กระแส..สินะ
SKN#28 NO.18428 17/05/2004 - 22/02/2010
Offline
อยากบอกว่า จ่ายไปแว้ว
T T
โลกของใคร โลกของมัน Tangmae's เอ็กตีน
ตัดให้ขาดเลยฉับๆ ตัดให้ขาดเลยฉับๆ อย่ามัวเสียดาย ร้องไห้อยู่เลย
SKN ,#28 Generation
Offline
เรื่องอื่นขออนุญาตไม่วิจารณ์ครับ นานาจิตตัง
ตัวผมเองก็แค่เบื่อครับ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แต่ตราบใดที่มันยังใช้เกณฑ์เดียวกันทั่วประเทศ ก็ยังพอรับไหวครับ
แต่เรื่องที่ข้อมูลในกระทู้ผิดแล้วแน่ๆ คือ
9. อัตราส่วนของการสอบที่กำหนดมาว่าแต่ละคณะใช้ GAT-PAT ปริมาณเท่าไรนั้น เป็นเพียงการคาดคะเนของทางสทศ. เท่านั้น ยังไม่มีมหาวิทยาลัยใดที่กำหนดออกมาอย่างแน่นอนว่าแต่ละคณะจะใช้อัตราส่วน ปริมาณเท่าใด
ขอบอกเลยครับว่า สัดส่วนน้ำหนักของ GAT-PAT-ONET-GPAX ที่ออกมาไม่ได้เป็นการคาดคะเน แต่เป็นการกำหนดที่แน่นอน และผู้กำหนดก็ไม่ใช่ สทศ. แต่เป็นที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ซึ่งมีหน้าที่กำหนดนโยบายการรับนักศึกษาทุกปีอยู่แล้ว
ดังนั้น สัดส่วนนี้ถือเป็นแน่นอน และจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แล้วนะครับ
ป.ล.เขียนมาเพื่อให้หลายๆคนอย่าเพิ่งตื่นตระหนกแค่นั้นนะครับ
24 ก.ย. 51 / 21:15 PaSK
เครดิต : http://www.suanboard.net/view.php?p=view&kid=52472
ที่เหลือเห็นด้วย แพงเว่อร์!
Offline
พระเจ้าไม่เปลี่ยนแล้วนี่แย่สุด เอาเงิน ฉันคืนมา
Offline
เอาน่ะ ทำใจ
รุ่นต่อไปจงโชคดี
Offline
Offline
ยังไม่ได้สมัครเลย
Last edited by godome (2008-10-02 20:31:12)
SKN#28 NO.18428 17/05/2004 - 22/02/2010
Offline
Offline
ยังไม่สมัคร แม่งแพงเวอร์ ว่าจะสมัคร พอเหนค่าสมัครแล้วปิดเวปเลย
Offline
เมื่อไหร่จะลดดดด
ขอวิชาละ20พอ
SKN#28 NO.18428 17/05/2004 - 22/02/2010
Offline
Pages: 1