You are not logged in.
Pages: 1
Socialist หรือ สังคมนิยม : โลกใบใหม่หลังทุนนิยม
สาเหตุสำคัญที่นักมาร์คซิสต์ รวมถึงมาร์คซ์เอง ไม่ยอมลงรายละเอียดว่าสังคมนิยมจะมีหน้าตาอย่างไร ก็เพราะ
มองว่าสังคมหลังทุนนิยมหรือ"สังคมนิยม"ต้องออกแบบโดยคนธรรมดาร่วมกันมันต้องเป็นสังคมนิยมที่สร้าง
จากคนธรรมดาไม่ใช่สังคมนิยมที่ออกแบบโดยชนชั้นปกครอง เช่น พวกสังคมนิยม" ยูโทเปีย" หรือเพ้อฝัน
ในศตวรรษที่สิบเก้า หรือ " สังคมนิยม" แบบเผด็จการทุนนิยมโดยรัฐ ที่เคยมีในรัสเซียหรือจีน สังคมนิยม
สั่งจากข้างบนลงมาแบบนั้นไม่ใช่ระบบที่เป็นประชาธิปไตย และไม่สามารถตอบสนองคนส่วนใหญ่ได้ ดังนั้น
นอกจากสังคมใหม่หลังทุนนิยมนี้จะไม่ตรงกับแผนแม่แบบของใครคนใดคนหนึ่งแล้ว มันน่าจะมีลักษณะหลาก
หลายแตกต่างกันไปตามท้องถิ่นและวัฒนธรรมต่างๆ ของโลกอีกด้วย เพราะสังคมนิยมจะเป็นระบบแรกที่ปลด
แอกมนุษย์ให้เป็นตัวของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเราหลีกเลี่ยงที่จะออกแผนแม่แบบสำหรับสังคมใหม่ แต่เราก็ควรจะเริ่มถกเถียงกันตั้งแต่
วันนี้ว่าชีวิตหลังทุนนิยมจะเป็นอย่างไร และเราสามารถเสนอคร่าวๆ ได้ว่าสังคมนิยมจะต้องมีหลักการกว้างๆ แบบ
ไหนบ้าง เช่นต้องไม่มีการขูดรีด หรือขโมยมูลค่าส่วนเกินโดยคนกลุ่มน้อยจากการทำงานของคนส่วนใหญ่ จะต้อง
มีสิทธิเสรีภาพและความเท่าเทียมเต็มที่สำหรับหญิง ชาย เกย์ กะเทย ทอม ดี้ และต้องมีเสรีภาพความเท่าเทียม
สำหรับคนทั่วโลกโดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติภาษาถิ่นที่อยู่อาศัยหรือความเชื่อฯลฯนอกจากนี้มันต้องเป็นระบบที่มีประ
สิทธิภาพในการตอบสนองความต้องการของคนส่วนใหญ่ในโลกอีกด้วย ซึ่งแปลว่ามันต้องมีประชาธิปไตยแบบมี
ส่วนร่วมเต็มที่ เราต้องสามารถควบคุมผู้แทนได้ตลอดเวลา ต้องมีการลดความแตกต่างระหว่างคนในด้านที่นำไป
สู่การใช้อำนาจหรืออิทธิพล เช่นความแตกต่างระหว่างชนบทกับเมือง หรือระหว่างคนที่ทำงานในอาชีพต่างๆ ต้อง
ยกเลิกพรมแดนต่างๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อควบคุมคน ฯลฯ และที่สำคัญคือเครื่องไม้เครื่องมือในการใช้ความรุนแรงเพื่อ
สร้างอำนาจ อาวุธนั้นเอง จะต้องอยู่ในมือของประชาชนทุกคน ไม่ใช่ว่าอยู่ในมือของคนกลุ่มหนึ่งที่ใช้เพื่อผลประ
โยชน์ตนเอง ในขณะเดียวกันเราต้องเพิ่มเสรีภาพที่จะแตกต่างกันในด้านของวิถีชีวิต รสนิยม และความสร้างสรรค์
นักเขียนฝ่ายซ้ายจากสหรัฐคนหนึ่งชื่อ Michael Albert ได้ใช้เวลาร่วมกับคณะทำงานเพื่อพิจารณาเงื่อนไขต่างๆ ที่จะนำ
ไปสู่การมีส่วนร่วมเต็มที่ของคนชั้นล่างในสังคมหลังทุนนิยม( ดู Michael Albert, 2003, "Parecon", Verso)
ในขณะเดียวกัน นักมาร์คซิสต์จากพรรคสังคมนิยมกรรมาชีพในอังกฤษ ชื่อ Alex Callinicos ก็ได้นำเสนอรูปแบบคร่าวๆ
ของสังคมนิยมในหนังสือ " แถลงการณ์ต้านทุนนิยม " ( ดู Alex Callinicos,2003, "An Anti-Capitalist Manifesto",
Polity Press) และจากการถกเถียงในหนังสือดังกล่าวเราสามารถเสนอตุ๊กตาของสังคมหลังทุนนิยมมาให้ดูดังนี้
ต้องยกเลิกการถือครองปัจจัยการผลิตแบบเอกชน การที่มีคนบางคนที่ควบคุมปัจจัยการผลิต
( ชนชั้นนายทุนนั้นเอง )หมายความว่าผลผลิตจากการทำงานของมนุษย์ส่วนใหญ่ถูกขโมยไปในรูปแบบกำไร
ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น ทั้งในด้านเศรษฐกิจการเมือง และวัฒนธรรม ทำให้การผลิตไม่มีการวาง
แผนจากสังคม เพราะคิดแต่เรื่องของการแข่งขันกันผลิตเพื่อหากำไรสูงสุด โดยปฏิบัติกับมนุษย์ด้วยกันเหมือน
ไม่ใช่คน มนุษย์ในสังคมทุนนิยมจึงกลายเป็นมนุษย์ที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง ดำรงอยู่ในสภาพแปลกแยกจากมนุษย์
คนอื่นๆในสังคม ดังนั้นสังคมหลังทุนนิยมต้องไม่มีกรรมสิทธิ์เอกชน เพื่อไม่ให้เกิดชนชั้นและการขูดรีดกันเอง
ของมนุษย์อย่างในปัจจุบัน
ต้องยกเลิกตลาด เพราะการที่ตลาดกลายเป็นเครื่องมือชี้ขาดว่าจะผลิตอะไรเท่าไหร่ มันกลับไม่มีการวางแผน
มีแต่การผลิตเพื่อแข่งขันกันเองอย่างสิ้นเปลือง โดยไม่สนใจความต้องการแท้ของคนส่วนใหญ่ ดังนั้นแทนที่จะมี
การปล่อยให้ตลาดกำหนดอนาคตและชีวิตประจำวันของมวลมนุษย์อย่างป่าเถื่อน เราต้องมีการวางแผนในการผลิต
ในรูปแบบประชาธิปไตยแท้ที่ทุกคนในสังคมจะกำหนดร่วมกันว่า เราอยากได้อะไร และเราจะผลิตอะไรเท่าไหร่
ด้วยตัวเราเอง
แผนการผลิตที่เป็นประชาธิปไตยแท้จริงต้องมีหลายระดับ และทุกคนต้องมีส่วนร่วม
ในการวางแผน ถ้าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น เราต้องยกเลิกระบบ" แบ่งงานกันทำ " ที่มีอยู่ภายใต้ระบบทุนนิยม ประเด็น
คือในระบบแบ่งงานกันทำปัจจุบัน งานบางประเภทที่ใช้สมองมาก ใช้ฝีมือ หรือใช้แรงงานกายน้อย หรือเป็นงานที่
จำเป็นต้องใช้ข้อมูลเกี่ยวกับโลกจริงมาก งานเหล่านี้เป็นงานที่นำไปสู่อำนาจในการตัดสินใจ คนที่เกี่ยวข้องจะได้
เปรียบผู้อื่น ส่วนงานที่ซ้ำซากเนื่องจากเป็นงานที่ไม่อาศัยความคิดเท่าไร หรืองานที่ใช้แรงกายมาก เป็นงานที่ทำให้
ผู้ทำงานมองตัวเองว่าไร้ค่า และทำให้เขาเหนื่อยจนไม่อยากคิดอะไรอีกด้วยในที่สุดมันมักจะลดทอนความมั่นใจที่
จะใช้อำนาจในการตัดสินใจ ดังนั้นในสังคมใหม่เราต้องสร้างลักษณะการทำงานใหม่ที่ผสมงานซ้ำซากกับงานสมอง
ในอัตราส่วนเท่าๆ กัน หรือต้องมีการเวียนกันทำหน้าที่ที่แตกต่างกันไป เช่นในมหาวิทยาลัยคนที่สอนหนังสือควรถู
พื้นห้องเรียนหรือเป็นยามด้วย ไม่ใช่แบ่งงานกันตลอดชีวิตอย่างที่เห็น ทุกคนจะได้มีส่วนร่วมพอๆ กัน ซึ่งเป็นไปได้
เพราะมนุษย์ทุกคนมีความฉลาดและความสามารถทั้งนั้น เพียงแต่สังคมทุนนิยมไม่เปิดโอกาสให้เราเลือกว่าเราอยาก
ทำอะไรเพื่อตอบสนองความต้องการของเราจริง
ต้องมีการเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับระบบการศึกษาและการฝึกฝีมือ เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเท่ากัน ไม่ใช่ว่าต้อง
มานั่งสอบกันเพื่อ " คัดเลือกคนออก " อย่างที่พบทุกวันนี้ นอกจากนี้การเข้าถึงข้อมูลทุกอย่างต้องเป็นสิทธิพื้นฐาน
อีกด้วยซึ่งแปลว่าสื่อต่างๆ ต้องอยู่ในมือของชุมชนและสังคมโดยรวม ไม่ใช่ถูกนำมาเป็นทรัพย์สินของกลุ่มทุนหรือ
ชนชั้นปกครอง
ในช่วงแรกๆ ก่อนที่จะมีระบบคอมมิวนิสต์สมบูรณ์ น่าจะมีระบบการคำนวณ
" ค่าตอบแทน " หรือค่าจ้างเงินเดือน แต่มันต้องมาจากการคำนวณ " ความกระตือรือร้น " มากกว่าการดูฝีมือ
หรือลักษณะงานดังนั้นการเก็บขยะที่เป็นงานเหนื่อยและสกปรกน่าจะจ่ายค่าตอบแทนพอๆกับการเป็นหมอและ
อย่าลืมว่าทั้งสองหน้าที่เป็นหน้าที่ที่มีความสำคัญและจำเป็นสำหรับสังคม ในช่วงนี้ที่มีการจ่ายค่าตอบแทนความ
กระตือรือร้น พลเมืองอาจเลือกระหว่างปริมาณเวลาว่างที่ตนเองอยากได้ กับ การกระตือรือร้นในการทำงานเพื่อ
เงินก็ได้
ต้องค่อยๆ ลดความจำเป็นในการใช้เงินลงให้สูญหายไปในที่สุด ในระยะยาวเป้าหมายของการผลิตและการ
จัดงานในสังคมน่าจะเป็นไปเพื่อลดสิ่งของหรือปัจจัยที่เราต้องซื้อ ปัจจัยพื้นฐานทุกอย่างควรจะได้รับโดยไม่ต้อง
ซื้อ ไม่ว่าเราทำงานประเภทใด พลเมืองทุกคนควรมีสิทธิเท่ากัน แค่เป็นมนุษย์ก็พอก็ควรได้รับอาหาร ที่อยู่อาศัย
เครื่องใช้เสื้อผ้าการขนส่ง การศึกษาและการรักษาพยาบาล
การผลิตควรจะได้รับการควบคุมและวางแผนจากสภาที่มีทั้งผู้แทนของผู้ผลิตกับผู้บริโภค
เพื่อคานผลประโยชน์ที่อาจขัดแย้งกัน และทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากการผลิต ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตหรือผู้บริโภค ก็
ต้องมีตัวแทนในสภาอีกด้วย เช่นถ้าเราพิจารณาการผลิตไฟฟ้า ต้องมีการวางแผนโดยผู้ผลิตไฟเอง ผู้ใช้ไฟ และ
ผู้ที่มีบ้านที่อยู่อาศัยใกล้ๆ โรงไฟฟ้าหรือเขื่อนเป็นต้น ยิ่งกว่านั้นเราต้องลดทอนปัญหาการเบี่ยงเบนประชาธิปไตย
ที่มาจากการครอบงำของเสียงข้างมาก ในบางกรณีการวางแผนและตัดสินใจเราทำได้ในหน่วยเล็กๆ ไม่ต้องเป็นทั้ง
เมืองหรือทั้งทวีป ซึ่งการกระจายอำนาจในการตัดสินใจลงไปเป็นหน่วยเล็กๆ จะช่วยตอบสนองความคิดหรือความ
ต้องการที่หลากหลายแตกต่างกันไป แต่แน่นอนบางเรื่องต้องตัดสินใจร่วมกันทั้งทวีปหรือทั้งโลก พูดง่ายๆ เราต้อง
หาระบบการตัดสินใจที่ถ่วงดุลระหว่างการรวมศูนย์มากไป หรือการกระจายมากไป
ยกเลิกการกดขี่ทางเพศ และกรอบแคบๆ ของสถาบันครอบครัวปัจจุบัน เพื่อให้ " งานบ้าน " เช่น การทำ
ความสะอาดการซักผ้า การประกอบอาหาร และการเลี้ยงดูเด็ก และคนชรากลายเป็นภาระร่วมของสังคมข้อเสนอนี้
ไม่ได้หมายความว่าเราจะจับเด็กทุกคนมาขังไว้ในคุกของโรงเลี้ยงเด็ก หรือบังคับไม่ให้คนอยู่กันเป็นครอบครัว
หรือตัดสิทธิเสรีภาพในการทำอาหารเองฯลฯ แต่มันหมายความว่าเราต้องเพิ่มทางเลือกให้คนในวิถีชีวิตมากขึ้นไม่
ใช่บังคับให้อยู่กันแบบพ่อ-แม่-ลูกในครอบครัวเดี่ยวและไม่ใช่บังคับให้ต้องแบกภาระในการดูแลเลี้ยงเด็กและงาน
บ้านในลักษณะปัจเจกอย่างทุกวันนี้ ทัศนะคติของเราน่าจะเปลี่ยนไปด้วย นอกจากการกำจัดอคติต่อหญิงหรือเกย์
กะเทย ทอม ดี้ แล้ว เราน่าจะมองว่าเด็กทุกคนเป็นลูกหลานของเราที่สมควรจะได้รับความรักและความอบอุ่นจาก
ทุกคน ไม่ใช่มองว่าเด็กเป็นสมบัติส่วนตัวของพ่อแม่
ทั้งหมดนี้เป็นแค่หลักการคร่าวๆ หรือตุ๊กตา มันไม่ใช่แบบแผนที่จะมาบังคับใช้ มันเป็นข้อเสนอเพื่อกระตุ้นการถกเถียงและ
การฝันไปข้างหน้า เพื่อให้กำลังใจกับเราในการต่อสู้เพื่อสังคมใหม่ การมีแผนคร่าวๆ ว่าสังคมใหม่จะมีหน้าตาอย่างไรจะไร้
ความหมายถ้าเราไม่พิจารณาเส้นทางและพลังที่จะใช้ในการล้มระบบปัจจุบันเพื่อสร้างสังคมนิยม นี่คือบทเรียนสำคัญจากข้อ
ผิดพลาดอีกประการหนึ่งของนักสังคมนิยมยูโทเปียในอดีต ดังนั้นในประการแรกเราต้องเชื่อมั่นในพลังการเปลี่ยนแปลงที่อยู่
ในมือของเราเอง นั้นหมายความว่าเราทุกคนต้องร่วมกันต่อสู้ ไม่ใช่รออัศวินม้าขาวจากเบื้องบนมาสร้างประชาธิปไตยในฝัน
หรือ สังคมนิยมให้เรา
เครดิต http://www.pcpthai.org/TL0206-01.htm
Last edited by Ferrari Lamborghini (2006-04-11 23:05:02)
Offline
Offline
ยาวมาก -*-
สังคมนิยม มันคือ คอมมิวนิส หรือเปล่า ??
SKN#28 NO.18428 17/05/2004 - 22/02/2010
Offline
ยาวมาก -*-
สังคมนิยม มันคือ คอมมิวนิส หรือเปล่า ??
ตามความเข้าใจของผม คิดว่าคล้ายๆ กัน
ส่วนคอมมิวนิสต์ในจีนและอดีตสหภาพโซเวียตนั้นไม่ใช่ คอมมิวนิสต์ ที่แท้จริง เพราะยังมีชนชั้นปกครอง กลายเป็นระบบเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จ แต่ชอบอ้างว่าเป็นระบอบคอมมิวนิสต์เพื่อประชาชนเพื่อความชอบธรรมในการปกครอง ไม่มีรัฐไหนในโลกนี้ ในประวัติศาสตร์ ที่ปกครองด้วยระบบคอมมิวนิสต์อย่างแท้จริง เป็นเพียงระบบในอุดมคติเท่านั้น
แล้วสังคมนิยมประชาธิปไตย ในแบบรัฐสวัสดิการ จะพบได้ส่วนมากในประเทศแถบยุโรป จะให้บริการของรัฐฟรี เช่นเรียนฟรีจนจบมหาวิทยาลัย การรักษาโรคภัยไข้เจ็บฟรี และ ระบบขนส่งมวลชน เป็นต้น
ระบบทุนนิยมแบบโลกาภิวัฒน์ในปัจจุบันเป็นระบบที่สิ้นเปลืองทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมหาศาล และจะนำพาสู่หายนะทางสิ่งแวดล้อม ถ้าไม่มาร่วมมือกัน ปลดตัวเองจากวัฏจักรการพึ่งน้ำมัน และใช้ชีวิตแบบยั่งยืน โดยเริ่มจากรากหญ้ามวลชน ถ้าราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเรื่อยๆ ระบบทุนนิยมในปัจจุบันอาจไม่สามารถปรับตัวกับภาวะใหม่ทัน แล้วล่มสลายไป จากการขาดแคลนพลังงาน แล้วพวกเราก็จะกลับมาใช้ชีวิตแบบพื้นบ้านกัน (แล้วเกี่ยวไรกับกระทู้เนี่ย!? )
Offline
เห็นตัวอักษรแล้วท้อ ...
Offline
godome wrote:ยาวมาก -*-
สังคมนิยม มันคือ คอมมิวนิส หรือเปล่า ??ตามความเข้าใจของผม คิดว่าคล้ายๆ กัน
ส่วนคอมมิวนิสต์ในจีนและอดีตสหภาพโซเวียตนั้นไม่ใช่ คอมมิวนิสต์ ที่แท้จริง เพราะยังมีชนชั้นปกครอง กลายเป็นระบบเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จ แต่ชอบอ้างว่าเป็นระบอบคอมมิวนิสต์เพื่อประชาชนเพื่อความชอบธรรมในการปกครอง ไม่มีรัฐไหนในโลกนี้ ในประวัติศาสตร์ ที่ปกครองด้วยระบบคอมมิวนิสต์อย่างแท้จริง เป็นเพียงระบบในอุดมคติเท่านั้น
แล้วสังคมนิยมประชาธิปไตย ในแบบรัฐสวัสดิการ จะพบได้ส่วนมากในประเทศแถบยุโรป จะให้บริการของรัฐฟรี เช่นเรียนฟรีจนจบมหาวิทยาลัย การรักษาโรคภัยไข้เจ็บฟรี และ ระบบขนส่งมวลชน เป็นต้น
ระบบทุนนิยมแบบโลกาภิวัฒน์ในปัจจุบันเป็นระบบที่สิ้นเปลืองทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมหาศาล และจะนำพาสู่หายนะทางสิ่งแวดล้อม ถ้าไม่มาร่วมมือกัน ปลดตัวเองจากวัฏจักรการพึ่งน้ำมัน และใช้ชีวิตแบบยั่งยืน โดยเริ่มจากรากหญ้ามวลชน ถ้าราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเรื่อยๆ ระบบทุนนิยมในปัจจุบันอาจไม่สามารถปรับตัวกับภาวะใหม่ทัน แล้วล่มสลายไป จากการขาดแคลนพลังงาน แล้วพวกเราก็จะกลับมาใช้ชีวิตแบบพื้นบ้านกัน (แล้วเกี่ยวไรกับกระทู้เนี่ย!?
)
ขอบคุณพี่โอมค่ะ ที่ช่วยอธิบาย อีกหน่อยทรัพยากรจะหมดโลกแน่ๆค่ะ
เกี่ยวกับกระทู้สิคะกระทู้นี้เป็นเรื่องของการปกครองอ่ะค่ะเหอๆ:P
Offline
ลึกล้ำๆ
ประมาณว่า ต้องเศรษฐกิจพอเพียงสินะ
(ไปกันใหญ่แล้ว..)
SKN#28 NO.18428 17/05/2004 - 22/02/2010
Offline
จำได้ว่าเคยเรียนที่สวนนนท์แหละว่า ประเทศไทยเป็นระบบผสมระหว่างสังคมนิยมกับทุนนิยม ทางเศรษฐกิจ บางอย่างรัฐผูกขาดผ่านรัฐวิสาหกิจ แต่พักหลังก็เริ่มเปิดเสรี แปรรูปรัฐวิสาหกิจเป็นบริษัทเอกชน
และก็สมัยที่คุณพ่อคุณแม่เป็นวีรชน 6 ตุลา 14 ตุลา เพื่อนๆ ของท่าน บางคนหนีเข้าป่าไปเป็นพวกพรรคคอมมิวนิสต์แถวๆ จ.เพชรบูรณ์ แต่ท่านไม่เชื่อในระบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์
จากหนังสือ "คอมมิวนิสต์มานิเฟสโต" ของมาร์กซ์และเองเกล เขาเชื่อว่า ชนชั้นคนงาน (คนกลุ่มมาก) ที่ถูกเอาเปรียบจากชนชั้นนายทุน (คนกลุ่มน้อย) จะไม่ยอมรับกับความกดขี่อีกต่อไป แล้วจะเกิดการปฏิวัติของมวลชนเพื่อล้มล้างระบบทุนนิยม แล้วสร้างสังคมที่ไร้ชนชั้น ไร้รัฐ
Offline
จำได้ว่าเคยเรียนที่สวนนนท์แหละว่า ประเทศไทยเป็นระบบผสมระหว่างสังคมนิยมกับทุนนิยม ทางเศรษฐกิจ บางอย่างรัฐผูกขาดผ่านรัฐวิสาหกิจ แต่พักหลังก็เริ่มเปิดเสรี แปรรูปรัฐวิสาหกิจเป็นบริษัทเอกชน
ใช่เลย ตอนเรียนแรกๆ ก็ไม่คิดไร
เรียนไปเรียนมา . .. มันผสมยังไงฟะ - -
ดูยังไง ก้อ ทุนนิยม จะตาย (เด่วนี้ยิ่งเข้าไปใหญ่)
ก้อจริงนะ ระบบสังคมนิยมที่ว่าใช้กันจริงๆแล้ว มันไม่ได้เป็นสังคมนิยม
จากที่ศึกษาอันน้อยนิด - - แม้จะไม่ค่อยรู้เรื่อง
แต่ก็ได้ใจความว่า ดูแล้วมันก็น่าจะส่งผลดี แถมยังพัฒนาอะไรได้เร็ว
ในประเทศที่ยังไม่พัฒนา เป็นระบบที่ปกครองได้เร็ว
ที่เหนๆว่าเปนคอมมิวนิส มันดูโหดร้ายอำมหิตซะเว่อเลย = =
เหมือนประชากรไม่ได้มีสิทธิเรียกร้องใดใดทั้งสิ้น
ทำงานไปๆ เด่วจะออกค่าอาหารให้ ไรปะมานนั้น - -
Offline
พลังมวลชนเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
โลกนี้มันช่างเสื่อมทรามจริงๆ
Offline
ที่เหนๆว่าเปนคอมมิวนิส มันดูโหดร้ายอำมหิตซะเว่อเลย = =
เหมือนประชากรไม่ได้มีสิทธิเรียกร้องใดใดทั้งสิ้น
ทำงานไปๆ เด่วจะออกค่าอาหารให้ ไรปะมานนั้น - -
เพราะเป็นระบบเผด็จในคราบของคอมมิวนิสต์ครับ พูดง่ายๆ อย่างนั้นไม่เรียกว่าคอมมิวนิสต์ ในระบอบคอมมิวนิสต์ไม่มีชนชั้น บุคคลหนึ่งไม่มีทรัพย์สินส่วนตัว ทุกคนเป็นเจ้าของทุนร่วมกัน ทำข้าวนาก็เอามาแบ่งปันกัน จะผลิตอะไรก็ผลิต ไม่มีนายทุนมาบอกให้ทำเพื่อค้ากำไร
ย้ำอีกทีครับ ไม่มีที่ไหนในโลกนี้ที่เป็นคอมมิวนิสต์ตามที่ Marx เคยเขียนทฤษฎีไว้ ก็ยังเป็นเพียงระบบในอุดมคติเท่านั้น
คอมมิวนิสต์มีอยู่สองขั้น
ขั้น 1. เผด็จการของชนชั้นล่าง (Dictatorship of the Proletariat) หลังจากล้มล้างระบบทุนนิยม เพื่อจุดประกายการปฏิวัติสังคมไปสู่สังคมที่ไร้ชนชั้น ตามนโยบายแนวทางของสังคมนิยม เพราะ Marx เชื่อว่ามนุษย์เกิดมาสมองและจิตใจเปรียบดั่งผ้าขาวบริสุทธิ์จะปลูกฝังแนวคิดแบบสังคมนิยมแทนแนวคิดแบบทุนนิยม นั่นคือสามัคคีทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาส่วนรวม ไม่ใช่ปัจเจกบุคคลที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและชอบแข่งขันเอาเปรียบผู้อื่น
ขั้น 2. สังคมไร้ชนชั้น (classless society) เมื่อสังคมได้เปลี่ยนแปลงไปเรียบร้อยแล้ว การไม่ให้บุคคลถือทุนส่วนตัวและไม่แบ่งงานกันทำ (division of labor) ก็จะสร้างความเท่าเทียมทางสังคม ความเท่าเทียมทางสังคมจะนำพาสู่สังคมที่ไร้ชนชั้น Marx เชื่อว่า "ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ตลอดมาเป็นประวัติของความขัดแย้งระหว่างชนชั้น" เท่านี้ก็จะไม่มีความขัดแย้ง ก็ไม่จำเป็นต้องมีรัฐเพื่อความปลอดภัย รัฐบาลก็จะสลายหายไปโดยปริยาย เพราะไม่จำเป็นอีกต่อไป
แล้วกลับไปอ่านบทความเดิมข้างบน เพราะใกล้เคียงกับที่ผมจะพูดต่อ
Marx และ Engels วาดภาพโลกในอนาคตตามอุดมคติแบบคอมมิวนิสต์ (แปลอย่างลวกๆ อีกแล้ว)
อาชญากรรมจะหมดสิ้นไป ช่วงชีวิตของคนจะยาวขึ้น ความเป็นพวกพ้องเดียวกันและความร่วมมือจะสร้างหลักศีลธรรมใหม่ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์จะเป็นแบบก้าวกระโดด เหนือสิ่งอื่นใด ด้วยระบบสังคมนิยมที่กระจายไปทั่วโลก ต้นแห่งความเสื่อมของมนุษยชาติ นั่นคือ สงคราม และ ลัทธิชาตินิยม จะหาที่อยู่ในโลกใหม่นี้ไม่ได้ มวลมนุษย์ของโลกจะรวมตัวเป็นพวกเดียวกัน ด้วยการปฏิวัตแบบสังคมนิยมมนุษยชาติจะก้าวออกจากยุค "ก่อนประวัติศาสตร์" เข้าสู่ยุคใหม่ที่เป็นประวัติศาสตร์ของมนุษยชาตินั่นเอง ... หลังจากการปฏิวัติ สังคมไร้ชนชั้น ที่รวมตัวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จะสามารถตัดสินใจได้เป็นครั้งแรก ว่าจะจัดการกับทรัพยากรและความสามารถของตน เป็นครั้งแรกที่พวกเราจะสร้างประวัติศาสตร์ของตนเอง มันเป็นก้าวจากความเป็นทาสสู่ความเป็นไท จากความมืดสู่ความสว่าง
สุดท้าย Marx เชื่อว่าสังคมไร้ชนชั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
Offline
เห็นตัวอักษรแล้วท้อ ...
กระทู้เอ็งยาวยิ่งกว่านี้อีก ของเอ็งอ่านหมดป่าวเหอะ
BBoy Kelvin Soul of Sins Crew
Offline
แล้วที่ตั้งกระทู้ถามว่าใครเป็น Socialist บ้าง แสดงว่าผู้ถามเป็นหรือเปล่าครับ
Offline
i'm a guitarist wrote:เห็นตัวอักษรแล้วท้อ ...
กระทู้เอ็งยาวยิ่งกว่านี้อีก ของเอ็งอ่านหมดป่าวเหอะ
กระทู้ผม ๆ อ่านหมดครับคุณคิน เด๋วจะลองอ่านอันนี้ก้ได้ครับ ๆ (กรุผิด ๆ )
Offline
ยาวจัง(เลย)มึน
... ♪♫
Offline
กระืู้ทู้นี้เรากลายเป็นเลคเชอร์เรื่อง สังคมนิยมและคอมมิวนิสต์ ไปซะงั้น
คงพูดได้เพราะเราได้ A- วิชา Political Science (รัฐศาสตร์) เป็นวิชาที่สนุกมากๆ ผู้สอนก็เท่ห์ ฮาด้วย
Offline
Pages: 1