Suannon Board

You are not logged in.

#76 2006-08-22 20:56:13

godome
สมาชิก
From: ดาดฟ้า
Registered: 2006-03-03
Posts: 6,035

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

ขอชื่อฟิคด้วยค้าบ


SKN#28 NO.18428 17/05/2004 - 22/02/2010

Offline

#77 2006-08-22 21:01:03

จอมมายา
สมาชิก
From: skn 27>>SU
Registered: 2006-05-08
Posts: 225

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

ชื่อเรื่องมันลาวๆๆอะนะตอนนั้นรีบตั้งเกินไป

ชื่อว่า 8 มนตราแห่งโลก


นิทรา ใต้เงารัตติกาล  จันทราส่องแสง  เหนือเมฆา
เดือนตะวันค่ำคล้อยร้อยตาม  วันเวลา
แม้นรักนี้ไม่อาจคงนาน  แต่หัวใจรักที่มีให้เธอจะมีตราบจนดวงจันทร์ไร้แสงเดือน
sing01uc4.gif

Offline

#78 2006-08-22 21:09:02

Ld_sHiNji
สมาชิก
From: iN sOme ONe Hea|2t > <
Registered: 2005-07-12
Posts: 922

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

godome wrote:

น่าจะจริงนะ แต่ไม่รู้จะไปได้อีกนานเท่าไหร่

ป.ล. ลงฟิคที่กุแต่งดีมั้ยนอท 555

edit: กุกำลังทำสารบัญ หน้าแรกๆ

บอกได้คำเดียว ..

สองโม .. สองคม 555555555555555555555555555555+


มันทนไม่ได้ครับ .. น่ารักเกินไป 555+
จิงๆนะครับ .. *0*

Offline

#79 2006-08-22 21:11:19

godome
สมาชิก
From: ดาดฟ้า
Registered: 2006-03-03
Posts: 6,035

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ลงกับเขาบ้างซะที หลังจากคิดชื่อเรื่องนานมาก

ชื่อเรื่อง :: สองโม สองคม  (555+)
แนว      :: วัยเรียน  ไม่Yนะ (ไม่แน่)
By      :: godome

ตอนที่ 1


ฝนตกอีกแล้ว...

ชั้นอยู่โดดเดี่ยวในตรอกแคบๆท่ามกลางสายฝน
รอบข้างเต็มไปด้วยร่างคนนอนแผ่อยู่บนพื้น
ชั้นไม่รู้จักพวกมันเลยซักนิด แต่ทำไม.. ทำไมมันถึงจะต้องเล่นงานชั้นอยู่เรื่อยๆ

ชีวิตของชั้นเติบโตมากับการ ช่อฉล หลอกลวง..
พ่อของฉันเป็นหัวขโมยมือหนึ่งแห่งหนองบัวลำภู
จึงไม่น่าแปลกใจหรอกที่ทำไมชั้นถึงต้อง คอยระมัดระวังตัวอยู่เสมอ เพราะว่าเมื่อไหร่ที่งานของพ่อเสร็จสิ้น มักจะมีคนมาตามเก็บพวกเราเสมอ
บ้านเรา ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ จากศัตรู และตำรวจ มันเป็นชีวิตที่ลำบาก ไม่สามารถเชื่อใจใครได้ ถึงกระนั้นครอบครัวเราก็มีความสุข...
จนกระทั้งแม่ตาย
ชีวิตที่สงบสุขพังทลาย พ่อออกไปจากบ้านแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย
พ่อทิ้งจดหมายไว้ฉบับหนึ่งบอกว่าให้ชั้นกับน้องไปหาพี่สาวของแม่ ซึ่งอยู่ที่กรุงเทพ

ชั้นคิดว่า เค้าคงไม่ดีใจเท่าไหร่หรอก ที่ต้องมารับเลี้ยงหลานที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน แล้วยังเป็นลูกโจรอีก
แต่ก็ทำไงได้อ่ะนะ ในเมื่อชั้นไม่มีที่จะไปแล้ว..

ชั้นเดินออกมาจากซอยนั้น เดินตามหาน้องสาวที่วิ่งหนีออกมาจากซอยนั้น
"โม อยู่ไหน ออกมาได้แล้ว.."

ชั้นตะโกนอยู่อย่างนั้น ไร้เสียงตอบรับ ฝนก็ตกลงมาเรื่อยๆ
ชั้นนั่งลงกับพื้นถนน อย่างเหนื่อยอ่อน  อยู่ๆก็มีมือเล็กๆ มือหนึ่งมาจับที่ไหล่ พร้อมด้วยเสียงใสๆดังขึ้นว่า

"แปะได้แล้ว พี่เป็นเลย"

ชั้นหันไปหาเจ้าของเสียงด้วยความเซงสุดๆ แต่ก็โกรธไม่ลงเมื่อเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของน้องสาว ซึ่งถึงแม้ร่างกายจะเต็มไปด้วยคราบโคลนสกปรก แต่ก็ไม่ได้ลดความน่ารักลงไปเลยแม้แต่น้อย

"เก่งนี่นาเรา พี่หาไม่เจอเลยนะเนี่ย" เขาพูดอย่างเหนื่อยอ่อน
   
โมยิ้มแป้น

"คราวหน้ามาเล่นซ่อนหากันอีกนะพี่" โมพูด แต่ก็ไม่ได้คำตอบจากพี่ชาย

เขาล้มลงไปนอนเลือดไหลนองพื้นถนน

"พี่!!"

"น้องโมพี่ขอโทษ..."


--------
มาเม้นต์ด้วยเว้ย


SKN#28 NO.18428 17/05/2004 - 22/02/2010

Offline

#80 2006-08-22 21:14:49

Ld_sHiNji
สมาชิก
From: iN sOme ONe Hea|2t > <
Registered: 2005-07-12
Posts: 922

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

จอมมายา wrote:

เฮ้อมาแปะในเวปบอดก้อได้ครับๆๆๆๆ

บทนำ  คำอวยพร
   
                          ในวิหารสีขาวที่ถูกสร้างจากหินอ่อน  เสาค้ำที่มีตัวมังกรขดวนขึ้นไปบนเสาทั้ง  8 ต้นกำลังร้องคำรามออกมา  ก่อนจะมีนักบวช 8คนเดินเข้ามาพร้อมกับเด็กทารกทั้ง 8คนในอ้อมแขนของนักบวช ทั้ง8คนเดินแยกไปหาเสาทั้ง8 แล้วค่อยๆ บรรจงวางเด็กทารกลงไปในพานสีทองอาราม ที่ตั้งติดชิดกับเสา

                           "ถึงเวลาอัญเชิญเทพ แล้ว ฮ่าๆๆๆ"นักบวชคนที่ 9 ที่ปรากฏตัวมาจากทางเข้าทางวิหาร เสื้อคลุมสีดำสนิท ผ้าหลุมหน้าที่ปิดใบหน้าจนมิดชิด ร่างที่ค่อยๆเดินมาอยู่กลางวิหาร ก่อนเริ่มจะมีเสียงท้องฟ้าร้องขึ้น ทันทีที่นักบวชผู้นี้ถึงกลางวิหารวงแหวนเวทได้ส่องมาจากใต้เท้าของนักบวช

                            "ข้าในนามแห่งผู้ปกครองวิหารสุริยันแห่งนี้  ขอกล่าวอัญเชิญเทพผู้สร้าง"สิ้นเสียงของนักบวช วิญญาณสีขาวที่ค่อนพุ่งออกมาตรงหน้านักบวชทันที  วิญญาณสีขาวกำลังเริ่มปรากฏให้แลเห็นชัดเจนมากขึ้น  กลับเริ่มเห็นชายหนุ่มในชุดสูทสีขาวทั้งเสื้อและกางเกง  พร้อมหูกระต่ายสีแดงที่ชวนให้บาดตาเป็นอย่างมาก

                          "เรียกข้ามีอะไรหรอกเจ้านักบวชไม่เจียมตัว  ข้าอยู่สบายให้โลกของข้า  แต่เหตุใดที่เจ้าเรียกข้ามา หือ"คำพูดของเทพที่ได้รับการขนานนามว่าเทพผู้สร้างกล่าวออกมา น้ำเสียงที่ทรงพลังได้กระจายไปทั่ววิหารสุริยัน

                          "ข้าน้อยขออภัย  มิได้คิดบังอาจลบหลู่  ท่านเทพแต่อย่างใด เหตุที่ข้าเรียกท่านมานั้น มีเพียงอย่างเดียว  "คำตอบของนักบวช  ที่ยังไม่ยอมบอกให้ครบ  แต่ท่านเทพผู้สร้างได้ชิงตอบเองว่า

"ข้ารู้ว่าเจ้าเรียกข้ามาให้ประทานพรแกเด็กเหลือขอพวกนี้ใช่ไหม"จากผู้ถูกถามกลายมาเป็นผู้ถามในฉับพัน

"ใช่แล้วขอรับท่านเทพ  ขอเพียงท่านช่วยประทานพรให้แก่เด็กทารกพวกนี้"คำตอบที่ตอบออกมา
"จะให้ข้าประทานพรให้เด็กทั้งหมดเลยหรอก   ถ้าจะเหนื่อยมากเลย"
"อ้อเกือบลืมท่านเทพเพียงประทานพรให้เด็กเพียง 4คนเท่านั้นขอรับ

"ฮ่าๆๆ 4คนก็ดีข้าไม่ต้องเหนื่อยด้วย"ทันทีที่พูดจบ  ท่านเทพได้ค่อนๆมองเด็กทารกที่เหมาะสม  ก่อนจะเดินไปยังเสาต้นแรก  ทารกที่ยังหลับสนิทบนพานสีทอง  ฝ่ามือที่กำลังจับใบหน้าของเด็กน้อยได้ลูบไล้ไปบนแก้มนิ่มๆ  แล้วจึงได้เอ่ยออกมาว่า

                   "ข้าเทพผู้สร้าง จะขอมอบสิ่ง สิ่งหนึ่งให้แก่เด็กน้อยทารกผู้นี้"วงแหวนเวทได้ปรากฏใต้พานสีทองที่รองรับเด็กน้อย นักบวชที่ยืนประจำเสากำลังสวดบทคาถาที่จะทำให้เด็กน้อยได้รับพรทั้งถ้วนทุกประการ  แสงสีทองเริ่มส่องแสงไปทั่วร่างของเด็กน้อย  ละอองสีขาวซึ่งถูกโปรยมาจากฝ่ามือของเทพผู้สร้าง

                     "ข้าขอให้มีพรที่ประเสริฐคุ้มครองตัวของเจ้าเด็กน้อยผู้นี้  ท่านเทพ Mercury โปรดจงประทานความรวดเร็วของเจ้าเพียงเล็กน้อยให้แก่ เด็กน้อยผู้นี้ด้วย"ในบัดดล  ละอองแสงสีน้ำเงินได้รวมตัวกันก่อน  แล้วจึงพุ่งไปหาร่างเด็กทารกที่กำลังหลับใหลบนพานทอง

                                      "ข้าขอพูดให้เจ้าฟังละกันไอ้หนู  พรของข้านี้ไม่อาจไปเทียบเท่ากับพลังทำลายของเทพองค์อื่น  แต่สิ่งที่ข้าให้เจ้านี้ก็คือ  ความเร็ว  ความเร็วที่เทียบเท่ากับพระเจ้าแห่งโลกทั้งมวล  ความเร็วซึ่งสามารถปลิดชีพศัตรูได้เพียงชั่วพริบตานั้น  ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้วละ  ไอ้หนูความเร็ว   ว่าเจ้ามีพลังจะดึงความเร็วมาใช้ได้เต็มรูปแบบไหม"

                                    เมื่อท่านเทพพูดจบก็ได้เดินหันหน้าไปทางพานที่2  แต่ท่านกลับเหลียวหลังมองเด็กทารกในพานแรกแล้วพึมพำเบาๆ  ก่อนจะเดินไปยังพานที่2   ทันทีที่ท่านเทพเดินไปยังพานที่2   ลูกไฟสีดำและสีขาวได้มารวมตัวกัน  แล้วได้จางหายไปในร่างของเด็กน้อยแห่งความเร็ว

ไม่ค่อนจาดีสักเท่าไร

น่าสนใจดีคับ .. แต่แต่งเรื่องเหมือนขาดๆอะไรไปนะ .. ขาดพวกบรรยายล่ะมั้ง ..

ให้ผู้รู้ดีมาตอบดีกว่า big_smile


____________________


ของโมไม่ต้องเม้นท์ไรมาก ..

กรูอยากอ่านต่อโว้ย 55555+


มันทนไม่ได้ครับ .. น่ารักเกินไป 555+
จิงๆนะครับ .. *0*

Offline

#81 2006-08-22 21:15:06

Tangmae*
Suannonweb Team
From: จากเกาะ CJR
Registered: 2005-03-15
Posts: 5,327

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

ต่อสิ ต่อๆๆๆ ให้ไวๆ


Red-Airi.png
โลกของใคร โลกของมัน    Tangmae's เอ็กตีน
ตัดให้ขาดเลยฉับๆ ตัดให้ขาดเลยฉับๆ อย่ามัวเสียดาย ร้องไห้อยู่เลย
SKN ,#28  Generation

Offline

#82 2006-08-22 21:16:45

godome
สมาชิก
From: ดาดฟ้า
Registered: 2006-03-03
Posts: 6,035

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

เออ กุทำสารบัญเส็ดแล้ว นะ?? rep2 หน้าแรกเผื่อกระทู้นี้ไปไกล


SKN#28 NO.18428 17/05/2004 - 22/02/2010

Offline

#83 2006-08-22 21:22:05

Ld_sHiNji
สมาชิก
From: iN sOme ONe Hea|2t > <
Registered: 2005-07-12
Posts: 922

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

godome wrote:

เออ กุทำสารบัญเส็ดแล้ว นะ?? rep2 หน้าแรกเผื่อกระทู้นี้ไปไกล

เยี่ยมมากจอร์จ .. แบบนี้กระทู้ไปไกลแน่นอน ฟันธง โจ๊ะ !!


มันทนไม่ได้ครับ .. น่ารักเกินไป 555+
จิงๆนะครับ .. *0*

Offline

#84 2006-08-22 21:24:07

Tangmae*
Suannonweb Team
From: จากเกาะ CJR
Registered: 2005-03-15
Posts: 5,327

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

เจ้าของกระทู้หาย...


Red-Airi.png
โลกของใคร โลกของมัน    Tangmae's เอ็กตีน
ตัดให้ขาดเลยฉับๆ ตัดให้ขาดเลยฉับๆ อย่ามัวเสียดาย ร้องไห้อยู่เลย
SKN ,#28  Generation

Offline

#85 2006-08-22 21:28:49

godome
สมาชิก
From: ดาดฟ้า
Registered: 2006-03-03
Posts: 6,035

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

เน็ตมันดีๆเน่าๆ ปล่อยมันเหอะ สองสองพรุ่งนี้ลงนะ เพราะตอน3ยังเขียนไม่เส็ด -*-


SKN#28 NO.18428 17/05/2004 - 22/02/2010

Offline

#86 2006-08-23 20:30:35

Tangmae*
Suannonweb Team
From: จากเกาะ CJR
Registered: 2005-03-15
Posts: 5,327

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

http://www.mythland.org/html/index.php

เว็บนี้เป็นพวกตำนานเทพเอย สัตว์ในตำนานต่างๆ จนถึงอัศวินโต๊ะกลม อาเธอร์ เมอร์ลิน อ่านแล้วสนุกมาก เหมาะที่จะเอามาใช้ในเรื่องแฟนตาซี

เขียนฟิคต้องรู้เรื่องพวกนี้หน่อย แล้วจะเขียนสนุกมากกกก

(มีเรื่องผี UFOs อีก เหอๆ)


Red-Airi.png
โลกของใคร โลกของมัน    Tangmae's เอ็กตีน
ตัดให้ขาดเลยฉับๆ ตัดให้ขาดเลยฉับๆ อย่ามัวเสียดาย ร้องไห้อยู่เลย
SKN ,#28  Generation

Offline

#87 2006-08-23 20:42:16

จอมมายา
สมาชิก
From: skn 27>>SU
Registered: 2006-05-08
Posts: 225

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

คุณมากคับ  แต่มันเทพๆๆมันก็น่าสนใจ

งั้นก้อขอลงบท2ต่อเลยละกัน

บทที่ 1 
                         15ปีที่ผ่านพ้นจากพิธีอัญเชิญ
          ภายใต้ห้องนอนของบ้านหลังเล็กๆ  มีร่างของเด็กหนุ่มที่กำลังหลับใหลในห้องนอนของตนเอง  ใบหน้าที่ยิ้มเล็กยิ้มน้อยจากฝันดีๆ  เสียงเคาะประตูดังขึ้นทันทีที่เวลา 7โมงเช้า ก่อนจะมีเสียงที่หน้าประตูว่า

"กัลตื่นได้แล้วลูก อาหารเช้าเสร็จแล้วนะ"เสียงของผู้เป็นแม่ปลุกเด็กหนุ่มกัลขึ้นมาจากฝันดี 

"ครับแม่  เดี่ยวตามไปครับ" กัลตอบกลับไป ก่อนจะลุกจากเตียงนอน  หนุ่มน้อยในวัย 15ปี  เส้นผมที่ยุ่งเหยิงจากการหลับ  ผมสีดำขลับที่ตัดกับ นันตาสีขาวโพลนราวกับหิมะ น่าตาที่ไม่อาจหล่อราวเทพบุตร แต่มีความหวานในรอยยิ้ม  รูปร่างที่ผอมเอาเรื่องถ้ามีคนมาชนคงจะกระเด็นไปทีเดียว  ความสูงของกัลนี้ไม่ถือว่าเตี้ยหรือว่าสูงกำลังสูงสมวัย หรือเรียกว่าตามเกณฑ์นั้นเอง  ร่างกายของเด็กหนุ่มเคลื่อนจากเตียงไปยังประตู  ก่อนจะลงไปห้องอาหารที่อยู่ชั้นล่างของบ้าน (บ้านของกัลนี้เป็นบ้าน 2ชั้น 2ห้องนอน-1ห้องน้ำ)
      ทันทีที่ลงมาถึงห้องอาหาร  แก้วน้ำที่มีน้ำเต็มแก้วได้ลอยมาตรงหน้ากัล  พร้อมเสียงเข้มๆของผู้เป็นพ่อดังขึ้นว่า

"ดื่มน้ำวันละ 1แก้วจิตแจ่มใสนะไอลูกชาย"ผู้ชายอายุ 30กว่ากำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ซึ่งรอลูกชายมารับประทานพร้อมกัน และแม่ซึ่งกำลังใช้มือขวาทำให้แก้วน้ำหยุดนิ่งตรงหน้ากัล

"เร็วซิลูก  ดื่มน้ำก่อนแล้วค่อนมากินข้าวเช้า"  สิ้นเสียงเด็กหนุ่มก็รีบจับแก้วมาดื่มในรวดเดียวพลางเดินไปนั่งบนเก้าอี้  ก่อนจะวางแก้วบนโต๊ะอาหาร 

"แม่  อาหารน่ากินจังเลยครับแม่"กัลพูด ก่อนจะเริ่มตักไข่ดาวมาเข้าปาก แล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย

"กินช้าๆก็ได้ลูกอาหารมีอีกเยอะ"ก่อนจะมีไข่ดาวลอยมาจากกระทะมายังจานอาหารของกัล

"ขอบคุณครับแม่"พูดจบไข่ดาวชิ้นที่2 ก็ถูกกินอย่างรวดเร็ว  สายตาของผู้เป็นพ่อกำลังจับจ้องลูกชายอย่างรักใคร่ แล้วพ่อค่อนๆลุกจากโต๊ะอาหารไป

"พ่อจะรีบไหนครับ"กัลถาม  เมื่อเห็นพ่อลุกจะไปโดยไม่ได้เลยทานอะไรเลย  เพียงแค่กาแฟถ้วยเดียว

"จะไปรับงานมาให้ลูกทำนะซิถามได้  ไม่เบื่อหรอกหมกอยู่แต่บ้านหัดทำงานทำการได้แล้ว  โตเป็นหนุ่มแล้วนะ"พ่อกล่าวออกมา  เพื่อไขความข้องใจของลูกชาย ก่อนจะเดินออกจากบ้านไป

"แม่  พ่อเค้าจะรับงานแบบไหนมาให้ผมทำละครับ"กัลเริ่มซักแม่  เพื่อจะได้รู้อะไรมากขึ้น  แต่ไม่ทันได้รู้แม่รีบเปลี่ยนประเด็นในทันที

"แม่จะสอนเวทให้  เอาแบบง่ายๆก่อนดีไหม" แต่ก็ได้สามารถเปลี่ยนใจของหนุ่มน้อยไฟแรงนี้ได้

"แม่ครับบอกผมหน่อยนะครับ....แม่   แม่อย่าใจร้ายซิครับ"คำอ้อน ชวนให้ผู้เป็นแม่เริ่มปริปากเล็กน้อย

"งานง่ายๆจ้าลูก  แค่ไปคุ้มครองคนเท่านั้นเอง"แม่ยอมเอ่ยปากในที่สุด  สีหน้าครุ่นคิดของกัลเริ่มปรากฏให้เห็น  ก่อนเริ่มซักไซ้ต่อไปว่า

"แล้วผมไม่คุ้มครองใครกันละครับ แม่"  แต่เสียงหน้าของผู้เป็นแม่ก็ คือ คำตอบดีๆนี้ นั้นก็คือ

"แม่ไม่รู้จริงๆ"  แม่ตอบออกมา  แล้วเริ่มเก็บจานโดยใช้เวทรับใช้

"ภูตลมเอ๋ย  ขอเพียงสายลมจงมาบั่นทอนภาระของข้า  "สิ้นเสียง  ก็แลเห็นภูตสีขาวที่ได้รวมตัวจากสายลมมารวมกัน ก่อนเริ่มเก็บจาน  เวทรับใช้ที่สามารถดึงความสนใจของลูกชายจอมซัก  ชักเริ่มสนใจเวทรับใช้  แต่ไม่ทันได้พูด  เสียงแม่ก็มากลบ

"เสียใจนะกัล  แม่ไม่สอนเวทให้ลูกหรอก  เพราะแม่ให้ข้อเสนอเมื่อกี้ไปแล้ว  แต่ลูกปฏิเสธงั้นลูกก็อดไป  ได้อย่างเสียอย่างจำไว้ให้ดี  แล้วอีกอย่างแม่ไม่อยากสอนให้พวกฝึกวิชาปราณด้วย"แม่กำลังประชด  เลยทำให้เด็กหนุ่มถอนหายใจยาว

"แม่คร้าบๆ.... ผมฝึกวิชาปราณไปป้องกันตัวเองเท่านั้นนะครับ"คำอ้อนรอบ2ที่พยายามให้แม่ยอมสอนให้จงได้

"ไม่สนหรอก"แม่ตอบกลับอย่างมีชัยมาเหนือลูกชาย  ลูกชายที่จนปัญญาอ้อนก็เลยระเหยเดินล่องลอยออกจากบ้านไปยังสวนหลังบ้านอันเป็น สถานที่ฝึกวิชาปราณกับพ่อ

    ไว้แค่นี้ก่อนอะนะครับเด๋วจามาลงให้ครบบทที่1

           แต่ถ้าจาจบให้รวดเดียวก้อ
http://my.dek-d.com/Writer/story/view.php?id=148966


นิทรา ใต้เงารัตติกาล  จันทราส่องแสง  เหนือเมฆา
เดือนตะวันค่ำคล้อยร้อยตาม  วันเวลา
แม้นรักนี้ไม่อาจคงนาน  แต่หัวใจรักที่มีให้เธอจะมีตราบจนดวงจันทร์ไร้แสงเดือน
sing01uc4.gif

Offline

#88 2006-08-23 20:52:14

godome
สมาชิก
From: ดาดฟ้า
Registered: 2006-03-03
Posts: 6,035

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

^
^
ซิกพี่ท่านใหญ่มากมายครับ

----

เรื่องน่าติดตามดีคับ ค่อยๆทยอยลงไปเดี๋ยวก็เส็ดเองคับ


-----------
มาลงด้วยดีกว่า

ตอน 2

เจ็บ...

เจ็บไปหมดทั้งตัว

มาหลบอยู่ใต้สะพานสองวัน ถ้าไม่ได้น้องโมช่วยไว้ ก็คงไม่รอด เด็กขนาดนี้ยังฉลาดไม่พาไปโรงพยาบาล
ถ้าเกิดพาไป เราคงตายไปแล้ว  ชั้นคิดพลางมองไปที่แม่น้ำ อย่างเลื่อนลอย
น้องสาวออกไปหาของกินยังไม่กลับมาซักที โมค่อยๆลุกขึ้นยืน พลางมองหาน้องสาว
"ทำไมไปนานจังน้า.."

"มองหาอะไรอยู่เหรอพี่" เสียงหนึ่งดังจากด้านหลัง

เฮ้อ ปลอดภัยสินะ   

โมหันหลังไปหาน้องสาวของเขา เธอถือ กล่องข้าวสองกล่องมา
"มีคุณลุงใจดีให้มาคะ พี่" เธอพูด 

"ดีจริงนะ" เขาพูดแต่ทว่า

มีอะไรบางอย่างผิดปกติ..

โมมองไปที่พุ่มไม้รอบๆ ก่อนจะพบอะไรบางอย่าง
"โม วิ่ง!!"

"ปังๆๆๆๆๆๆ"
กระสุนพุ่งออกจากพุ่มไม้  แล้วร่างชายฉกรรจ์ห้าหกคน ก็โผล่ตามออกมา
ทั้งสองวิ่งหนีไปเรื่อยๆ วิ่งขึ้นจากริมแม่น้ำ  กลุ่มชายฉกรรจ์ก็วิ่งไล่ตามมาเรื่อยๆ พร้อมสาดกระสุนใส่ไม่ยั้ง
ทั้งสองวิ่งหนีขึ้นมาบนถนน แต่ทว่ากลับไม่มีรถซักคัน พวกมันก็ยังค่อยๆปีนขึ้นมาอย่างช้าๆ
"เห้ยไมไม่มีรถซักคันเลยวะ" โมบ่นอย่างหัวเสีย พวกมันใกล้ขึ้นมาได้แล้ว เขาจะต้องจบชีวิตในที่นี้หรือนี่
แล้วจู่ๆ ประกายแห่งความหวังก็ปรากฏเมื่อน้องโมเห็นอะไรบางอย่าง อยู่ลิบๆ
"พี่มีรถมาแล้ว!!"

โม เดินไปกลางถนนโบกมือเรียกให้รถคันนั้นจอด แต่รถคันนั้นดันไม่ยอมหยุด ขับเฉี่ยวเขากระเด็นเกือบตกถนน
"ไอ้บ้าเอ้ยย"

โมบ่นอย่างหัวเสีย แต่ซักพักรถคันนั้นก็ขับกลับมา จอดหน้าเขากับน้อง คนขับเปิดกระจกรถออกมาพูดว่า
"ยืนกลางถนนอย่างนี้ไม่กลัวตายหรือไง"
โมหันไปมองคนขับ เป็นชายอายุราวๆ 50 ปี หัวล้าน
"เอ่อ ขอโทษครับ ขอผมติดรถไปด้วยได้ไหมครับ "

คนขับฟังแล้วก็มองหน้าเขา
"คือผมมีความจำเป็นจริงๆครับ นี่น้องสาวผมเธอไม่สบายมาก ช่วยพาเธอไปโรงพยาบาลที่ครับ" เขาพูดต่อพลางชี้ไปที่โมซึ่งทำท่าเป็นลมนอนอยู่บนถนน
คนขับหันกลับเข้าไปพูดกับคนข้างในรถอยู่พักนึง ก่อนจะมีเสียงออกมาว่า
"ให้ขึ้นมาได้"

"ขอบคุณมากครับ!" โมรีบเปิดประตูรถ แล้วก็อุ้มน้องสาวเขาไว้ที่เบาะหลัง เมื่อเปิดประตูรถเข้าไปมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ เธอมองเขาด้วยสายตาเหยียดนิดๆ
โมรีบวางน้องสาวแล้วก็เข้าไปนั่งข้างคนขับ อย่างรวดเร็ว

"รีบไปกันเหอะครับ"

รถค่อยๆ ขับเข้าใกล้ตัวเมืองขึ้นเรื่อยๆ ชั้นนั่งเงียบอยู่ในรถ ด้านหลังโมก็คุยกับหญิงสาวคนนั้นอย่างสนุกสนาน
ชั้นแอบมองไปด้านหลัง พบว่าผู้หญิงคนนั้นอายุน่าจะไล่เลี่ยกับชั้น แต่ก็เห็นหน้าไม่ชัดเพราะ ตอนนี้ก็ใกล้ค่ำแล้ว
ดูท่าทางจะเป็นลูกผู้ดีเพราะพูดแต่ละคำมี"ค่ะ"หมด ชั้นแอบหัวเราะในความแตกต่างของคนเรา ถึงแม้อายุจะใกล้กันแต่ชีวิตความเป็นอยู่แตกต่างกันลิบลับ

ในที่สุดรถก็ขับถึงตัวเมืองชั้นขอลงรถหน้าโรงพยาบาล ก่อนไปเธอถามว่า
"จะให้ชั้นออกค่ารักษาให้มั้ย"

ชั้นบอกว่าไม่เป็นไร ในชีวิตชั้นไม่เคยเจอการให้ที่ไม่คิดจะได้สิ่งตอบแทน ชั้นจึงไม่เสี่ยงที่จะรับมัน
แต่ว่า น้ำเสียงที่เปล่งออกมาจากปากของหญิงคนนั้นมันแปลกไปจากที่ชั้นเคยได้ยินจากคนอื่นที่เคยรู้จัก
ชั้นเดินจูงมือน้องสาวพลางคิดถึงเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น

"พี่คะ หนูว่าพี่สาวคนนั้นเป็นคนดีมากเลยคะ "

"งั้นเหรอ.."

"ใช่คะ พี่เค้าบอกว่า หนูน่ารักมากเลยละ " เด็กน้อยพูดอย่างดีใจ

อองี้นี่เอง ชั้นยิ้มกับความคิดบ้าๆบอๆ ของน้องสาว แค่ชมว่าน่ารักก็เป็นคนดีแล้ว
แต่แค่ความสุขเล็กๆน้อยๆ ก็มีค่านะ สำหรับเด็กคนหนึ่ง
ชั้นฉอนหายใจเบาๆ ความคิดต่างๆเริ่มสวนทางกันเอง ชั้นหวังว่าซักวันหนึ่งชั้นจะได้คำตอบว่า..

ในโลกนี้มันจะมีคนดีอยู่ด้วยหรือ?

-----
เม้นต์กันด้วยเว้ย เดี๋ยว ต่อไม่ถูก
ป.ล. ตอน3 ไว้วันเสาร์-อาทิตย์ละกันไม่ว่าง

Last edited by godome (2006-08-23 20:58:57)


SKN#28 NO.18428 17/05/2004 - 22/02/2010

Offline

#89 2006-08-23 21:08:45

Tangmae*
Suannonweb Team
From: จากเกาะ CJR
Registered: 2005-03-15
Posts: 5,327

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

โม เป็น ช. อย่าแทนตัวเองว่า "ชั้น" จะดีกว่า


Red-Airi.png
โลกของใคร โลกของมัน    Tangmae's เอ็กตีน
ตัดให้ขาดเลยฉับๆ ตัดให้ขาดเลยฉับๆ อย่ามัวเสียดาย ร้องไห้อยู่เลย
SKN ,#28  Generation

Offline

#90 2006-08-23 21:13:45

Sovo
สมาชิก
Registered: 2006-04-28
Posts: 428

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

อะแฮ่ม ยังไม่มีคอมเม้นท์เป็นคนๆ แต่แวะมาบอกหน่อย

ไม่อยากให้ใช้ "ชั้น" ไม่ว่ากรณีไหนๆก็ตาม อยากให้ใช้"ฉัน"มากกว่า สำหรับเรามันดูขัดหูขัดตามากเลยล่ะ - -

และพวก "อ่ะ" ไม่อยากให้ใช้เช่นกัน...


เดี๋ยวมีเวลาแล้วจะมาคอมเม้นท์เป็นเรื่องเป็นราว แว่บไปก่อนล่ะ

Offline

#91 2006-08-23 21:33:10

godome
สมาชิก
From: ดาดฟ้า
Registered: 2006-03-03
Posts: 6,035

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

ตามหลักภาษา แล้วมันต้องใช้"ฉัน"แหละ

แต่"ชั้น"นี่เป็นความชอบส่วนตัว 5555+
ชักติดแล้ว อะไรๆก็ใช้ชั้นหมด -*-

(ชักกลัวตัวเองขึ้นทุกวัน)

ความจริงต้องการให้อ่านออกมาเป็น"ชั้น"อ่ะ "ฉัน"มันอ่านแล้วไม่ลงยังไงไม่รู้เลยไม่ได้เขียน"ฉัน" 

ขี้เกียจแก้แล้ว ตอนหน้าจะเปลี่ยนให้ละกัน

Last edited by godome (2006-08-23 21:44:06)


SKN#28 NO.18428 17/05/2004 - 22/02/2010

Offline

#92 2006-08-24 21:48:01

[Mask]-Zolomaster
สมาชิก
Registered: 2006-07-24
Posts: 153

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

เจ้าของกระทู้ไม่ว่างฟะ


miyabiinbluerw4.jpg    berryzbankusaiqx4.gif

Offline

#93 2006-08-28 20:37:23

จอมมายา
สมาชิก
From: skn 27>>SU
Registered: 2006-05-08
Posts: 225

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

เอามาลงจากที่ต่อกานไว้

ทำไมมันเงียบจังเนอะ  มาลงต่อนะ

                      ในประเทศที่กัลอยู่นี้  มีชื่อว่า  Magic Land   เป็นประเทศที่เต็มไปด้วย เวทมนต์คาถาอาคม และ สิ่งเหลือเชื่อต่างๆ ประชาชนในประเทศนี้ส่วนใหญ่ได้รับการศึกษาเกี่ยวกับเวทมนต์  ถึงอย่างไรก็ตามก็มีส่วนน้อยที่ไม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเวทมนต์  แต่หันไปทำเกี่ยวการสร้าง,การผลิต  อุปกรณ์เวทมนต์  หรือ ไอเทมต่างๆ  ส่วนเมืองที่กัลอาศัยอยู่นี้มี ชื่อว่า Create Of Town  (เมืองแห่งการสร้าง)  เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางการผลิตไอเทม และ อุปกรณ์เวทมนต์ที่ขึ้นชื่อที่สุดในประเทศ   
                   ดังนั้นเด็กในเมืองนี้ส่วนใหญ่จึงไม่ได้เรียนเวทมนต์  เพราะได้ให้ความสนใจกับการผลิตไอเทมต่างเสียมากกว่า  แต่ถึงอย่างงั้น  กัลคนนี้ก็ไม่ได้เรียนเวทและไม่ได้สนใจทำไอเทม  นั้นก็เพราะพ่อและแม่ของกัลที่ไม่เงินเพียงพอจะส่งบุตรของตนไปเล่าเรียน  หนำซ้ำยังไม่มีกิจการหรือการผลิตใดๆๆเลย  นอกจากผู้เป็นพ่อที่ทำงานเป็น  นักปราบ(ให้เงินดีนักปราบก็ทำ  รับงานทุกชนิดถ้าเงินดีจริง)  ซึ่งกว่าจะมีงานมาซักชิ้นนั้นต้องรอเสียอย่างน้อย 1ปีเต็ม จึงจะมีงานเข้ามาซักชิ้น  เพราะฉะนั้น ท่านนักปราบจึงได้สอนวิชาปราณให้ลูกชายเพื่อที่อนาคตลูกชายจะได้มีวิชาหาเลี้ยงชีพตามรอยผู้เป็นพ่อ  (เอาเถอะร่ายมายาวแล้วนักเขียนซักเหนื่อยงั้นขอตัดไปยังบุรุษผู้เป็น พ่อ)

                    ฝีเท้าที่เร่งรีบเดินมากำลังจะหมดแรง  เนื่องจากใช้เวลาเดินมาไกลพอสมเหมาะ  ผู้คนที่มากมายตามย่านการค้าซึ่งเป็นอุปสรรคชั้นดีในการถ่วงเวลากว่าจะถึงจุดหมาย  เสียงที่เซ็งแซ่ไปทั่ว  การค้าที่กำลังเริ่มตัดราคากันและไม่มีทีถ้าว่าจะหยุดตัดราคากันเลย  ฝีเท้าที่ต้องจำใจเร่งต่อไป  เพราะกลัวกิเลศในใจมันจะกำเริบ  เวลาที่กำลังเดินไปยัง11.00 น.และตามมาด้วยเสียงระฆังที่ได้ดังขึ้น  ก่อนที่ฝีเท้าคู่นี้จะชะลอฝีเท้าลงแล้วค่อนๆหยุดลง 

                        จุดหมายของบุรุษคนนี้ คือ คฤหาสน์ หลังใหญ่  มีสวนดอกไม้ล้อมรอบ  ทิวทัศน์ของดอกไม้ในเป็นที่จุดสะดุดตาของผู้คนที่ได้ผ่านมาแน่นอน  คฤหาสน์นี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากย่านการค้า  ข้างหลังคฤหาสน์ที่ติดกับภูเขา และข้างหน้าที่ขุดบ่อน้ำไว้  เพื่อให้ได้เลิศแก่การค้าขาย  รั้วที่สูงกว่า3เมตรกระง่านล้อมบริเวณบ้าน  และประตูรั้วที่กว้างพอๆให้รถบรรทุก10ล้อ 2 คันเข้าพร้อมกันได้  แถมยังมียามค่อยเฝ้าหน้าประตูราวกับสุนัขเฝ้าบ้านก็ไม่ปาน

     สีหน้าของยามที่จับจ้องบุรุษแปลก  พลางสังเกตจากหัวจรดเท้า ว่าคนตรงหน้านี้จะเป็นแขก  หรือ ว่าพวกมาส่อนแนบ  หรือว่าจะเป็นพวกโรคจิต  ความคิดฟุ้งซ่านพวกนี้มาจาก  การแต่งตัวของบุรุษคนนี้  เสื้อคลุมสีน้ำตาลที่ยาวถึงหัวเข่า  แถมเสื้อคลุมนี้ก็ขาดเป็นทางยาว  และยังสีซีดจนดูว่าเป็นพวกขอทานหลุดมา  ถึงทำให้ยามรักษาการณ์ต้องออกทำงาน  ยามที่ก้าวไปยังชายที่ถูกหาว่าเป็นขอทาน  ได้เอ๋ยปากไล่ในทันใด

"นี่ๆ  ไอ้พวกขอทานนะอย่ามาเกะกะ แถวนี่รู้ไหม  ที่นี้คือบ้านของพวกผู้ดีเค้า  ขอทานอย่าแกไปไกลๆเลย  เดี่ยวรัศมีของท่านข้าจะเสื่อมหมด  ไปได้แล้วไอ้ขอทาน"  แต่คำบ่นปนคำด่าก็ไม่สามารถเปลี่ยนทีท่าของชายขอทาน(ถูกคิดว่า)  สีหน้าเบื่อหน่ายของยามถึงปรากฏ 

"ไล่ดีๆ  ไม่ชอบชอบไปด้วยกำลัง  พวกลองดีเจอมาหลายคนแล้วรู้ไว้ซะ"ยามพูดจบ  หมัดที่ปล่อยไปเต็มแรงมุ่งสู่ใบหน้าของเป้าหมาย  ควับ   เหลือแต่เพียงหมัดที่หวดลม ขอทานซึ่งหลบหมัดได้นั้นไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดไป  การขยับตัวเพียงเล็กน้อยก็สามารถถึงตัวยามได้  ฝ่ามือของบุรุษเสื้อคลุมสีน้ำตาลได้จับคอยามที่น่าสงสารอย่างรวดเร็ว  ยามที่มีจากกำลังใจเหลือร้อย  ตอนนี้เหลือแค่-100    หน้าตาเริ่มขึ้นสี  จากการขาดอากาศหายใจ  คำร้องขอได้ดังขึ้น

"นี่ๆ...แค็กๆ ...ใจจจเย็นนน  ก่อน  พี่....."ฝ่าที่ปล่อยจากคอยาม  ก่อนจะเริ่มมาเจรจากัน

"ฉันได้รับคำสั่งจากนายของพวกนายว่าให้มาคุยเรื่องงานที่จะให้รับนะ"

"อ้อ  นายคือ นักปราบที่นายท่านจะจ้างนี้เอง"คำพูดจากยามคนเดิม  พลางหันไปตะโกนให้ยามอีกคนเปิดประตูต้อนรับนักปราบผู้มาเยือน

"เอ่อผมขอโทษนะครับที่เสียมารทายไป  ไม่คิดว่า......เอ่อ"

"ไม่คิดว่าฉันจะเป็นนักปราบ ใช่ไหม"คำถามที่แทงใจ  ชวนให้ผู้ฟังสีหน้าเสียไปเลย  ก่อนจะเริ่มร่ายต่อ

"มันก็จริงนะ  เสื้อคลุมที่เก่านี้  มันชวนให้ใครๆมองว่าฉันเป็นขอทาน  5555555+"เสียงหัวเราะที่มาจากนักปราบกำลังกดดันผู้ฟัง  จนเริ่มหาข้อแก้ตัวไม่ทัน  แต่ระฆังหมดยกก็ได้ดังขึ้น  เมื่อยามได้นำแขกผู้นี้มาถึงทางเข้าคฤหาสน์ 

"ผมเอ่อ  ขออนุญาตลากลับ  แค่..นี้ นะครับ"สิ้นเสียง  ยามก็ได้ตะลีตะเลือกกระเสือกกระสนวิ่งไปยังป้อมรักษาการณ์การที่เก่า

คฤหาสน์ที่ตะงานสูงอยู่เบื้องหน้าของชายนักปราบผู้นี้  "ปัง" เสียงประตูของคฤหาสน์ได้เปิดขึ้นเอง พร้อมการปรากฏกายของชายวัยกลางคนผู้หนึ่งในชุดสูทสีขาว ใบหน้าที่บ่งบอกอายุ ราว30ต้นๆ  กำลังยิ้มรับแขกที่อยู่ตรงหน้า  แววตาแห่งมิตรภาพที่ทั้งคู่มีให้กัน  เสมือนวันวานเมื่อเคยรวมทุกข์  รวมสุขกันมา  เวลาแค่ชั่วครู่ได้ทำให้ชาย2คนนึกทวนถึงความหลัง  ก่อนจะเริ่มรู้สึกว่ายืนกันมานานแล้ว  จึงทำให้เจ้าของบ้านรีบเอ่ยปากบอกว่า

"จะยืนไปถึงไหน  สหายเก่าของข้า  ไปนั่งในสวนดีกว่าพลางจิบน้ำชาไปคงไม่เสียเวลาของเจ้าใช่ไหม เกเรีย "  ใบหน้าของผู้ฟังยิ้มตอบมา จึงเดินไปตามเจ้าของบ้านไปในสวนดอกไม้ที่ได้มีโต๊ะ เก้าอี้รอรับแขกที่มาเยือน

"เป็นไงบ้างสหายข้า  สบายดีไหม  ข้าเองก็มิได้ติดต่อใครมาเป็นเวลานานแล้ว  หลังพิธีอัญเชิญ"เจ้าของบ้านเปิดประเด็นทันทีเมื่อ แขกได้นั่งลง 

"เราเองก็สบายดี  มีความสุขกับครอบครัว  ไม่มีปัญหามากวนใจ"คำตอบจากเกเรีย  ทำให้เจ้าบ้านโต้กลับไปทันควัน

"เจ้าเองก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยนะ 15ปีที่แล้วเป็นเช่นไรก็เป็นเช่นนั้นอยู่ดี"

"เราเองไม่อยากมีปัญหา ถ้าหลีกได้ก็หลีก ไม่อยากไปรบราฟาดฟันกับใครเค้าหรอก เพราะเราไม่มีปัญญารับผิดชอบ"    คำตอบจากคนไม่มีความรับผิดชอบดังขึ้น  เล่นเอาเจ้าบ้านยิ้มเล็กน้อยกับคำตอบ

"ข้าเองไม่ได้เอาปัญหามาให้จ้านะเกเรีย  แต่ปัญหาจริงๆมันเกิดจากลูกชายของเจ้าต่างหาก หรือ จะเรียกให้ถูกว่าเด็กที่ถูกคัดสรรดีละ"น้ำเสียงที่เปลี่ยนไปทันทีแถมยังเน้นคำตอนท้าย  ทำให้ผู้ฟังเส้นกระตุกไปชั่ววูบ  ฝ่ามือได้หยุดก่อนถึงลำคอเพียงเล็กน้อย  แต่มิอาจเข้าถึงตัวผู้พูดได้

"ยังเร็วไม่เปลี่ยนเลย  ความไวของเจ้ายังคงเหมือนไวเดิม  แต่ยังไม่พอที่จะฆ่าข้าได้  ข้าได้ร่ายคาถาคุ้มกันไว้ก่อนแล้ว เอาเถอะเรามิได้ถือสาหาความใดๆ  แต่เจ้าโปรดจงรู้ไว้ว่าข้าก็ไม่ต่างไปจากแกหรอก  เกเรีย"คำพูดซึ่งได้ทำให้สีหน้าของเกเรียเริ่มเข้าใจบางสิ่งในตัวสหายเก่าคนนี้  ก่อนจะกล่าวไปต่อว่า

"เราขอโทษ  บังเอิญเส้นกระตุกไปหน่อย  เราว่ากลับเข้าเรื่องดีกว่านะ คาริม  เรื่องภารกิจที่จะให้ลูกชายของเราทำนะเกี่ยวกับโครงสร้างของเด็กทั้ง8 ใช่หรือไม่ใช่"  คาริมทำหน้าครุ่นคิดเพียงสักครู่  คำตอบก็ได้ถูกบอกมาจากปากคาริม

"มันไม่เชิงว่าจะเกี่ยวนะ  แต่มันเกี่ยวกับลูกสาวของข้าเอง ผู้ซึ่งเป็นเหมือนกับลูกชายของเจ้า ไงเกเรีย  เราว่าจะจ้างลูกชายของเจ้า  มาดูแลลูกสาวของ เราเท่านั้น  ส่วนเรื่องโครงสร้างของเด็กทั้ง8  ต้องให้พระเจ้าเท่านั้นที่ตัดสิน"

"ลูกสาวของเจ้า อย่าบอกนะว่า คือ เด็กสาวที่ได้รับพรข้อนั้น"เกเรียสีหน้าซีดลงเล็กน้อย  คาริมเองหันมองมาที่  เกเรีย ก่อนจะหัวเราะขึ้น

"ฮ่าๆๆๆ......เกเรียเจ้ากลัวอะไรกับลูกสาวเรานักหนา  ลูกชายของเจ้าต่างหากที่น่าห่วงกว่าดีไหม  ลูกสาวเรานั้นออกจะน่ารักใคร่ น่าดูแล  ใครๆพากันมาสมัครมาเป็นลูกเขยข้าทั้งนั้น 55+"คาริมหัวเราะน่าตาเฉย  เกเรียที่ชักไม่มั่นใจเลยที่ได้ลูกชายมาเข้าปากจระเข้ที่พร้อมจะกินลูกแกะอย่างลูกชายเค้า  เกเรียนึกแล้วเริ่มใจหาย 

"เจ้านี่จริงๆเลยไม่เปลี่ยนเชื่อคนง่ายจริงๆ ลูกชายเจ้านั้นจะไม่หลงในเสน่ห์ของลูกสาวเราแน่นอน ข้ารับประกันเลย"คาริมตอบอย่างมั่นใจ  ทั้งที่ในใจคาริมเองก็ไม่รู้เลยว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร 

"เอาเถอะเดี๋ยวข้ารับงานนี้ก็ได้นะ คาริม  แต่สงสัยเราคงต้องมีเรื่องคุยกันอีกยาวแน่ๆ"เกเรียตอบ  พร้อมที่จะเริ่มซักคาริมที่รอเป็นหมูขึ้นเขียง

"ไงเราขอพูดกันแบบเปิดอกคุยกันเลยนะคาริม"เกเรียพูดขึ้น  พลางมองบุรุษซึ่งนั่งจิบน้ำชาอย่างสบายใจ  คาริมจิบน้ำชาไปเล็กน้อยพร้อมรอคำถามจาก  เกเรีย

"ลูกสาวเรา กับลูกชายนาย กำลังจะเดินไปตามจังหวะแห่งโชคชะตา   ซึ่งมันเป็นพรมลิขิตของเด็กที่ถูกคัดสรร  เด็กทั้ง4คนที่ได้รับพรจากเทพผู้สร้าง  และอีก4คนที่ได้รับพรจากธรรมชาติ เพื่อทำให้โลกนี้สมดุลกัน"คาริมชิงพูดตัดหน้าเกเรียก่อนจะได้ถาม   เกเรีย ยังคงนิ่งซึ่งรอฟังข่าวสารจากคาริมอยู่

"ในขาวก็มีดำ  มีแสงก็ต้องมีความมืด  มีดีก็มีชั่วเป็นของธรรมดา  นี้ คือสมดุลของโลกเรานี้  และเด็กทั้ง8นี้มาเพื่อรักษาสมดุล"คาริมเอ่ยทวนเป็นรอบที่2  ได้สร้างสิ่งที่เรียกว่า หงุดหงิดขึ้นมาในใจของเกเรีย  จนต้องพั้งปากตวาดกลับไป

"ขอเนื้อๆ  ไม่เอาน้ำ รู้ว่าลูกชายเรา กับ ลูกสาวนายเป็นตัวแปรในการสร้างสมดุลนะรู้แล้ว  แต่ทำไมนายต้องดึงลูกชายเราเข้ามาเกี่ยวด้วย  ถ้าเรื่องนี้เข้าถึงหู  เซลีน่า  เราไม่ตายหรอก  เวลีน่าเองก็รักลูกชายเธอเสียเหลือเกิน"คำบ่นอุบอิบของเกเรียที่บ่นถึงภรรยาสุดที่รัก แต่คำบ่นนั้นที่จริงคงจะกลัวภรรยาเองมากกว่าห่วงลูกชายมั้ง  คาริมยังคงยิ้มเล็กน้อยเช่นเดิม

"เอาเถอะแต่เรื่องนี้มันถูกกำหนดมาแล้ว  ตัวเวลีน่าเองคงรู้ถึงเรื่องนี้แล้วไม่ต้องห่วงเกเรีย"คำปลอบใจเล็กน้อย  คงไม่สามารถดับความกลัวศรีภรรยาของเกเรียได้   จากคนถามแปรสภาพมาเป็นผู้ฟังที่ง่าย  คนที่ควรจะโดนถามกำลังมองเกเรียอย่างมิได้ละสายตา 

อึดอัดชะมัดเลย  เกเรียเริ่มบ่นในใจ  ทำไมมันต้องจ้องอย่างนั้นด้วยฟะ (เริ่มบ่นในใจรอบ2) คุยแบบเปิดอกภาษาอะไรวะ  มานั่งมองหน้าอยู่  จะถามก็ไม่กล้า  กลัวมันจะวกมาเรื่องของเวลีน่าอีก  เฮ้อ  เอาไงเอากันว่ะ  ความคิดที่จะถามส่อแว่วออกมา ปากของเกเรียขยับปากถามไป

"คาริม  เรื่องนี้เซลีน่าเองจะรู้ไม่รู้อันนี้ ฉันไม่สนแต่ที่ฉันสนจริงๆนะ  คือ เรื่องความปลอดภัยของกัลจากพวกคนในวิหารสุริยัน  มีหลักประกันไหม  ว่าพวกนั้นจะไม่ทำร้ายกัลหรือคนอื่นๆ"ความเป็นพ่อเข้าสิงทันที  ห่วงใยลูกบ้างเล็กน้อย  แล้วค่อยยิงเข้าประเด็น  แจ๋ว   (ความคิดที่จะสู้เข้ามาเล็กน้อย  จริงๆคงห่วงว่าลูกไม่ปลอดภัย ตนเองจะโดนลูกหลงจาก  คุณแม่ประจำบ้าน) 

"ก็เพราะเรื่องนี้ฉันถึงต้องจ้างลูกนายมาคุ้มกันลูกสาวฉันไงละ  เกเรีย"คำตอบซึ่งเล่นเอาความอึดอัดกลับมายังตัวเกเรียอีกครั้ง  ชายนักปราบเงียบไปสักพัก  และแล้วสวรรค์ก็มิได้ทอดทิ้งคนดีไป
    "คุณพ่อค่ะ........."เสียงนั้นดังมาจากหญิงสาวผู้หนึ่ง
   
               "เกเรียฝากบอกลูกชายนายด้วยว่า ถ้าลูกสาวฉันมีแม้แต่รอยขีดข่วนคงรู้นะว่าจะเป็นอย่างงั้น"คาริมบอกด้วยน้ำเสียงเหี้ยม  ก่อนจะหันไปยิ้มให้ลูกสาวที่กำลังโบกมือให้


นิทรา ใต้เงารัตติกาล  จันทราส่องแสง  เหนือเมฆา
เดือนตะวันค่ำคล้อยร้อยตาม  วันเวลา
แม้นรักนี้ไม่อาจคงนาน  แต่หัวใจรักที่มีให้เธอจะมีตราบจนดวงจันทร์ไร้แสงเดือน
sing01uc4.gif

Offline

#94 2006-09-07 19:20:03

Sovo
สมาชิก
Registered: 2006-04-28
Posts: 428

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

กระทู้นี้ตายแล้ว?




(ว่าแต่ทำไมแกไม่คอมเม้นท์ซะทีล่ะฮึ)

Offline

#95 2006-09-07 19:27:55

จอมมายา
สมาชิก
From: skn 27>>SU
Registered: 2006-05-08
Posts: 225

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

ช่ายๆๆครับ   ป๋มเห็นมันไม่มีใครมาเม้นเลย เกือบจาร้าง(ร้างไปแล้วนิ)


นิทรา ใต้เงารัตติกาล  จันทราส่องแสง  เหนือเมฆา
เดือนตะวันค่ำคล้อยร้อยตาม  วันเวลา
แม้นรักนี้ไม่อาจคงนาน  แต่หัวใจรักที่มีให้เธอจะมีตราบจนดวงจันทร์ไร้แสงเดือน
sing01uc4.gif

Offline

#96 2006-09-07 19:38:01

godome
สมาชิก
From: ดาดฟ้า
Registered: 2006-03-03
Posts: 6,035

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

สาเหตุหนึ่งคือไอ้เจ้าของกระทู้มันหายไปไหนไม่รู้

อีกอย่าง ใกล้สอบแล้วไม่มีเวลาแต่ง+เม้นต์เล้ย


SKN#28 NO.18428 17/05/2004 - 22/02/2010

Offline

#97 2006-09-07 20:00:28

จอมมายา
สมาชิก
From: skn 27>>SU
Registered: 2006-05-08
Posts: 225

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

เห็นด้วยอย่างยิ่งๆๆๆๆๆๆๆ   แต่ทำไมเรายังมาเล่นว่ะเนี่ย      ชีวะตายแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


นิทรา ใต้เงารัตติกาล  จันทราส่องแสง  เหนือเมฆา
เดือนตะวันค่ำคล้อยร้อยตาม  วันเวลา
แม้นรักนี้ไม่อาจคงนาน  แต่หัวใจรักที่มีให้เธอจะมีตราบจนดวงจันทร์ไร้แสงเดือน
sing01uc4.gif

Offline

#98 2006-09-07 21:52:35

[Mask]-Zolomaster
สมาชิก
Registered: 2006-07-24
Posts: 153

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

โทดทีที่ไม่ว่าง


miyabiinbluerw4.jpg    berryzbankusaiqx4.gif

Offline

#99 2006-09-24 16:36:25

[Mask]-Zolomaster
สมาชิก
Registered: 2006-07-24
Posts: 153

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

ปั๊ม เด๋วตกไปหน้า 3


miyabiinbluerw4.jpg    berryzbankusaiqx4.gif

Offline

#100 2006-09-24 17:08:22

godome
สมาชิก
From: ดาดฟ้า
Registered: 2006-03-03
Posts: 6,035

Re: -=ฟิคเรื่องสั้น เรื่องยาว มาโพสดู=-

ปิดเทอม!!

เวลาแต่งฟิค!!!

ไมมันไม่จบซักทีวะ ตอน3เริ่มยาว

Last edited by godome (2006-09-24 19:59:12)


SKN#28 NO.18428 17/05/2004 - 22/02/2010

Offline

Board footer

Powered by FluxBB