You are not logged in.
Pages: 1
เตรียมตัวอย่างไรก่อน Ent ดี
จากวันนี้ไปก็คงเหลือเวลาเพียง 1 เดือน วันที่ทุกคนรอคอยหรือวันที่บางคนอยากหลีกหนีกำลังจะม าถึงแล้ว
มีคนเคยกล่าวว่า ถ้าพี่ Ent' ติด น้องก็มักจะ Ent' ติดด้วย คำพูดเช่นนี้ไม่ถูกซะทั้งหมด แต่ก็มีส่วนถูกซะ
มากกว่า 50% เพราะเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้สำคัญมาก เหมือนปรุงอาหารให้อร่อยมิได้อยู่ที่เครื่องปรุงอย่า งเดียว
หากแต่อยู่ที่เคล็ดลับที่แตกต่างกันไปต่างหากช่วงนี้ ใครที่สุขภาพดี จงสู้สุดชีวิต แต่อย่าหักโหมจนกลายเป็นหมดสภาพ
เอาในวันสอบ คุณครูขอแบ่งเวลาออกเป็น 4 ช่วง ช่วงละ 1 สัปดาห์
สัปดาห์ที่ 1-2 นักเรียนบางคนยังคงขะมักเขม้นอยู่กับการสอบปลายภาคที ่โรงเรียน แต่ถ้านักเรียน
โรงเรียนใดหยุดแล้ว ก็ขอให้ทุ่มเทสุดตัวแล้วค่อยเก็บเวลาไว้พักผ่อนหลัง Ent'
แต่ถ้าสุขภาพไม่ดีก็อย่าดันทุรังนะจ๊ะ
สัปดาห์ที่ 3 ให้ปรับสภาพเวลานอนกลับมาให้ปกติ อย่าติดนิสัยดูหนังถึงตี 3 แล้วตื่น 9 โมง
เพราะเมื่อใกล้วันสอบมากเกินไปร่างกายจะปรับตัวไม่ทั น จะเป็นการทำลายสุขภาพ
และทำให้ร่างกายไม่เคยชินที่จะต้องนอน 22.00 น. แล้วตื่น 5.00 น.
ฉะนั้นถึงจะเป็นเด็กเก่ง แต่ถ้าวันสอบพักผ่อนไม่เพียงพอ สมองล้า ก็ไม่อาจจะมีค่าเท่ากับเด็กที่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเล ย
สัปดาห์ที่ 4 ทำใจให้สบาย อ่านเท่าที่อ่านได้ คนบางคนเรียนเก่ง ขะมักเขม้น เคร่งเครียด
ทำข้อสอบทุกฉบับ นอนดึก ๆ ดื่น ๆ แต่ผลที่ได้กลับน้อยกว่าเพื่อนที่เรียน
แบบสบาย ๆ หรือนักเรียนเคยประสบปัญหานี้ไหมเอ่ย คาดหวังวิชาใด
วิชานั้นกลับได้คะแนนน้อย ในขณะที่วิชาที่ทำเล่น ๆ กลับได้คะแนนมาก
นั่นเป็นเพราะ "ทำอะไรด้วยความคาดหวัง จะเครียด และทุกข์ทรมานกังวลใจ
พลังของเราถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดเสียเยอะ และไม่เป็นประโยชน์เลย"
แล้วจะทำอย่างไรล่ะ??
อ้าว ก็ทำด้วย ปัญญาไงล่ะ ก่อนปัญญาจะมา ต้องมีสติรู้ตัวก่อนว่า เหตุแห่งการสอบได้คะแนนดี
คือ การเตรียมพร้อมมาโดยตลอด ถึงวินาทีนี้ไม่ต้องนำตนเองไปเปรียบเทียบกับใครแล้ว อย่าประเมินค่าตนเองต่ำงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า ถ้าเราคิดอย่างไร เราจะเป็นเช่นนั้น คุณครูขอยกตัวอย่างสมัยนาซีจับชาวยิวมาฆ่า เยอรมันพยายามหาวิธีฆ่าชาวยิวที่โหดเหี้ยมน้อยที่สุด ท้ายที่สุดจึงหาวิธีฆ่าคนโดยใช้จิตวิทยา พวกเยอรมัน
มันจับชาวยิวนั่งบนเก้าอี้ แล้วมัดตัวชาวยิวติดกับเก้าอี้จนแน่น ผูกตามืดสนิด แล้วทำทีแกล้งคุยกันว่า
"เฮ้ย ... แกเอาเข็มแทงนิ้วมันเข้าไป แล้วเดี๋ยวปล่อยให้เลือดมันไหลทีละหยด ๆ ลองเลือดไหลไม่หยุด
เดี๋ยวมันก็ตายไปเองแต่ในความเป็นจริงแกล้งปักเข็มไว ้เฉย ๆ และใช้หยดน้ำไหลผ่านไปตามเข็มประหนึ่งว่าเลือดของชาว ยิวไหล แล้วนำขันมารอง ชาวยิวได้ยินเสียงน้ำหยดนึกว่าเป็นเลือด เสียงดังติ๋ง ๆ ๆ ๆ ๆ
"เฮ้ย ... พวกเอ็งดูเลือดมันจะเข้มข้นแล้ว"
ครั้นแล้วเยอรมันก็แกล้งทำน้ำไหลไปโดนขาชาวยิว ประหนึ่งว่าเลือดไหลท่วมท้นออกมาจากขัน
เหตุการณืนี้เกิดขึ้นและจบลงในราว 20 นาทีแต่ประกฎว่า ชาวยิวหน้าซีด หัวใจสั่นรัว ครั้นแล้วลมหายใจค่อย ๆ แผ่วเบา
พร้อมพูดว่า "ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว ไม่มีแรงแล้ว ตายแน่ ๆ ตายแน่ ๆ"
ท้ายที่สุดชาวยิวคนนี้ ก็ตายไปด้วยจิตที่อ่อนแอ ไม่มีใครฆ่าเขา แต่ความคิดของเขาสะกดจิตให้เขาตายไปเอง
นักเรียนที่รักของคุณพ่อ คุณแม่ และที่ห่วงใยของคุณครูสมศรี เกิดเป็นมนุษย์ ต้องอดทน ยอมรับในทุกสภาพ
ไร้มีดดาบ แต่ยามออกศึกก็ต้องสู้ยิบตา บ่อยครั้งที่คนซึ่งเราไม่ได้หวังไว้กลับเป็นผู้กำชัย เมื่อลู่กรีฑาส่งตัวนักกีฬาลงวิ่งสู่สนาม ทันทีที่เสียงปืนลั่น น่าแปลกที่ว่าคนที่วิ่งออกจากลู่กรีฑาคนแรกกลับมิใช่ เป็นผู้มีชัย
หากกลับกลายเป็นคนท้าย ๆ 2 คน ที่ฮึดวิ่งคู่คี่ขึ้นมาเคียงกัน แต่ก็แปลกอีกที่ ว่า แม้เหลือเพียง 2 คน แต่คนที่ตามห่างมาทีหลัง กลับเร่งฝีเท้าสุดแรงแซงโค้งไปได้ในที่สุด
ที่เขียนมามิได้ต้องการให้เด็กรุ่นน้องที่ยังมิได้ Ent' ปีนี้กระหยิ่มยิ้มย่องลำพองใจ เหตุแห่งความสำเร็จคือ ฉันทะ
ความรักในการกระทำที่ดีงาม และลงมือกระทำ อ่านหนังสือด้วย ความเพียร อดทน หากแต่หยดหมึกที่ร้อยเรียงนี้เป็นไปเพื่อต้องการส่งก ำลังใจให้กับนักเรียนผู้ขาดกำลังใจ เมื่อถึงเวลาขึ้นสังเวียนเมื่อสวมนวมขึ้นชก
มิต้องกลัวคู่ต่อสู้ สู้ยิบตาด้วยกำลังใจและสติปัญญา อย่าท้อแท้นะจ๊ะเด็ก ๆ
เก่งแต่ไม่ทัน!
เอาล่ะทีนี้ถึงทำข้สอบโดยหัดจับเวลา หรือฝึกคำนวณดูว่าเราต้องจัดสรร
เวลาเช่นใดอย่างภาษาอังกฤษ ในรอบปีที่ผ่านมาพบว่า
ข้อสอบสนทนา เติมคำ เนื้อเรื่อง จดหมาย การ์ตูน ข้อสอบวัดความเร็ว อื่น ๆ
ต.ค. 2545 25 30 25 - 5 10 5
มี.ค. 2546 25 30 35 - - 10 0
ต.ค. 2546 25 30 35 - - 10 0
มี.ค. 2547 25 30 30 - - 15 0
ต.ค. 2547 25 10 35 - 5 15 10
***** อื่น ๆ หมายถึงประกาศ แผ่นพับ โฆษณา กราฟ สถิติ *****
นักเรียนต้องฝึกทำข้อสอบในเวลาจำกัด เนื้อเรื่องที่มีคำถามประมาณ 10 คำถาม ควรใช้เวลาประมาณ 10+5 นาที
เนื้อเรื่องที่มีคำถาม 5 ข้อ ควรใช้เวลาไม่เกิน 7-8 นาที ก็พอ ข้อสอบหรือเติมคำขอให้ทำเช่นเดียวกับข้อสอบเนื้อเรื่ อง
เห็นไหมคะ บางคนทุ่มเทเวลาไปกับข้อที่ตนหาคำตอบไม่ได้จนเสียโอก าสให้เวลากับข้ออื่น จงกลับไปบวกลบ
คูณหารเวลา หรือขอคำแนะนำจากอาจารย์ผู้คร่ำหวอดในการถ่ายทอดวิทย ายุทธในการน Ent' โดยด่วน
อย่าให้พลากโอกาสนะเด็ก ๆ
นอนไม่หลับก่อน Ent
ใช่ คนเรานี่ก็แปลกเวลาอยากอ่านหนังสือกลับง่วง เวลาอยากหลับกลับกระสับกระส่ายนอนไม่หลับ
แล้วจะทำไงดีล่ะ
1. ปรับเวลานอนตามเวลาสมควรเป็น เช่น นอน 4 ทุ่ม ตื่นตี 5 ก่อนการสอบ 1 อาทิตย์ อันนี้คุณครูทำเอง
เพราะเห็นพี่ชายที่เป็นหมอ ก่อน Ent' นอนไม่หลับ จะได้หลับอีกทีตี 2 พอวันสอบจริงถึงกลับสะบักสบอม
หัวไม่แล่นเพราะนอนน้อย ฉะนั้นคุณครูจึงฝึกพฤติกรรมการนอนจนคุ้นเคยภายในวันส อบจริงจึงไม่มีปัญหา
เพราะนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ระวังดี ๆ นะจ๊ะเด็ก ๆ โดยเฉพาะวันที่ต้องสอบหลายวิชา
"สุขภาพดีมีชัยไปกว่าครึ่ง"
2. อย่ากังวลมากไปจนทำให้เครียด ดื่มน้ำผลไม้ หรือนมอุ่น ๆ สวดมนต์ ยังไง ๆ สิ่งศักดิ์สิทธฺ และคุณพ่อ คุณแม่
หรือคนที่รักเราเป็นกำลังใจให้เราอยู่แล้ว
3. ไม่ต้องคิดเรื่องสอบแล้ว อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดไหน ๆ ก็ล่วงเลยมาจนถึงตอนนี้แล้ว
กังวลใจไปก็เท่านั้นสู้ทำใจให้สบาย ๆ ไว้ดีกว่า
4. นับลูกแกะกระโดดข้ามรั้วทีละตัว ถ้าไม่หลับก็เริ่มต้นจินตนาการ แกะผัวเมียกระโดดพร้อม ๆ กัน ถ้าไม่หลับอีกก็เพิ่ม
แพะ ลิง ชนี อีเห็นเข้าไปมาก ๆ เป็นซาฟารีไปเลย ไหน ๆ ก็นอนไม่หลับ แต่ใจสบายก็พอแล้ว
อ้อ! อย่าลืมไปดูสนามสอบ
วันสอบควรออกจากบ้านก่อนเวลาแล้วก่อนวันสอบจริง กรุณาเดินทางไปดูสนามสอบด้วย อย่าเชยไปที่ผิดหล่ะ
ถึงเวลานั้นใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ได้ข้อสอบมาก็ลนเข้าไปอีก
ก่อนวันสอบ
เตรียม
1. บัตรสอบ
2. อุปกรณ์เครื่องเขียนหลาย ๆ ชุด เผื่อยามโชคไม่ดีดินสอตกลงมาหักหมด ก็หัดพกกบเหลาดินสอไปด้วย เวลาเหลาดินสอก็อย่าล่กอย่าลน อ้อ! อย่าลืมสวมนาฬิกาไปด้วย (ห้ามลืมเด็ดขาด)
3. นอนเยอะ ๆ ก่อนวันที่ต้องสอบหลายวิชา
4. ใครจะติวอะไรก่อนสอบไม่ต้องเงี่ยหูฟัง เพราะจะมีพวกรับจ้างทำลายขวัญเพื่อนร่วมชะตากรรม "ช่างหัว potato!"
5. เตรียมพี่เลี้ยงไว้คอยป้อนข้าวป้อนน้ำตอนกลางวัน กรุณาอย่าทานมากและจงหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ประเภทเหนี ยว ๆ
เพราะพลังงานจะถูกนำไปย่อยสลายอาหารมากว่าเลี้ยงสมอง ฉะนั้นเด็ก ๆ ควรทานอาหารที่ย่อยง่าย ๆ หรือน้ำผลไม้
แต่อย่าดื่มมากจนเกินไปเพราะจะปวดปัสสาวะระหว่างทำข้ อสอบ อาจจะทำให้สมาธิแตกได้นะ ข้อบอก!!!
ในขณะสอบ
1. ยิ้มแย้ม ไหว้คณะกรรมการคุมสอบด้วยความเคารพ
2. ได้ข้อสอบ ฝนเลขรหัสประจำตัวสอบก่อน เขียนชื่อ ทุกอย่างให้ชัดเจน เขียนตัวบรรจง ฝนอย่างมีสติ
เพราะเป็นขั้นประคองสติมิให้กระเจิง
3. เช็คจำนวนข้อ ทุกหน้า เพื่อจะได้ประเมินได้ถูกว่าจะบริหารเวลามากน้อยเพียง ไร
4. ข้อไหนทำได้ ให้รีบทำก่อน "สิบเบี้ยใกล้มือ" ข้อไหนอ่านแล้ว คิดแล้ว คำนวณแล้ว ไม่มีคำตอบ
ให้เดาข้อที่เป็นไปได้ที่สุด พร้อมทำเครื่องหมายไว้หน้าข้อ เพื่อเตือนตนเองว่าจะกลับมาทบทวนอีกครั้ง
เมื่อมีเวลาเหลือ
5. เตรียมลูกอม ยาหอม ยาลม ยาดม ยาหม่อง ไว้ในตัว ถ้าเครียดหายใจยาว ๆ พร้อมหยิบลูกอมมาอม
จะได้กลูโคส (ฉีกกระดาษลูกอมเบา ๆ ถ้าคุณครูคุมสอบเดินมา ให้ยกมือไหว้แล้วบอกว่า หนู/ผม จะเป็นลม ขอความเมตตาอาจารย์อนุญาตด้วย ไม่มีใครใจร้ายให้คายออกมาหรอก ฉะนั้นอย่าลืมปฏิบัติข้อ 1 ให้ดี ๆ
จะได้คะแนนเมตตามหานิยมจากคุณครูคุมสอบ)
6. ข้อไหนไม่ได้ติด ๆ กันหลาย ๆ ข้อ อย่าใจแกว่งให้คิดว่าคนอื่นก็ทำไม่ได้เหมือนกัน แล้วจงก้มหน้าทำต่อไป
8. คอยเหลือบดูเวลาเป็นระยะ ๆ อย่าให้เวลากับข้อหนึ่งข้อใดมากเกินไป
9. ช่วงที่สอบเป็นหน้าร้อน ถ้าพกผ้าเย็น ชนิดไม่มีกลิ่นไปเช็ดหน้าด้วยก็ดี
ขอโทษด้วยนะจ๊ะ ถ้าคุณครูเตือนหนู ๆ กระชั้นชิดไปนิด แต่ก็ดีกว่าไม่ได้เตือน โชคดีนะคะเด็ก ๆ
ทีห่วงใยทุกคน อย่าท้อแท้หมดหวัง สุดปลายทางของอุโมงย่อมมีแสงลอดผ่านมาเสมอ
" กูคือตัวกู ถ้ากูไม่อ่าน แล้วใครจะอ่านให้กู"
( ขออภัยสำหรับสรรพนาม "กู" ต้องการใช้เพื่อกระตุ้นความรู้สึกให้ฮึกเหิม)
จุดหมายของการ Ent' คือ การค้นหาผู้ที่มีความรับผิดชอบ และมีวุฒิภาวะในการบริหารเวลาตลอด 3 ปีเต็ม
หากผลจะเป็นเช่นไร เราจะยอมรับกติกาเสมอ ทำให้ดีที่สุดในช่วงเวลาที่เหลือ ดีกว่าไม่ทำอะไรเสียเลย
อย่าให้เสียชาติที่เกิดมาเป็น "มนุษย์" หรือ "ผู้มีใจสูง"
อย่าลืมนะจ๊ะเด็ก ๆ ที่รัก
อย่ากลัววันพรุ่งนี้ เพราะวันนี้ก็คือวันพรุ่งนี้ของเมื่อวานนี้ เมื่อมันมาถึงจงโอบรับด้วยแขนซ้ายแห่งสติ
และแขนขวาแห่งปัญญา เผชิญแต่ละขณะ ด้วยเหตุและผลมิใช่ด้วยอารมณ์หรือความรู้สึก
เด็ก ๆ ที่ทำคะแนนเทอมก่อนได้ไม่ดี อย่ามัวนั่งเสียใจหมดหวัง อย่าปล่อยให้ 2-3 วัน เมื่อวานนี้
ทำลายหมื่นพรุ่งนี้ที่รออยู่ คุณครูมิได้สอนให้เด็ก ๆ เคร่งเครียดวิ่งไขว่คว้าและเกี้ยวมาแนบอก ธรรมจักรมาแนบกาย
สูงกว่าปริญญาบัตรของบัณฑิต คือ เกียรติบัติแห่งมนุษย์ ที่สะท้อนให้เห็นว่า เราคือ ผู้มีใจสูง ผู้เป็นกตัญญูชน
ของบิดร มารดา และครูบาอาจารย์ผู้มีคุณ
ด้วยความปรารถนาดีจากใจจริง
โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ "คุณครูสมศรี"
คุณครูสมศรี ธรรมสารโสภณ
http://www.kru-somsri.ac.th
Good Luck
การจะเอนท์ติดหรือไม่อยู่ที่
1.อ่านจนกระจ่าง
2.ประเมินผลโดยฝึกทำข้อสอบให้มากๆ
3.หมั่นประยุกต์ความรู้ไปใช้กับโจทย์แนวต่างๆ
ความรู้แบ่งเป็น
1.ต้องรู้
2.ควรรู้
3.น่าจะรู้
ต้องรู้ : คือสิ่งที่ออกข้อสอบในรอบ 5-10 ปีที่ผ่านมา เราต้องอ่านจนเราจับจุดได้(ยิ่งอ่านหลายปี หนูก็จะยิ่งจับจุดได้)
ควรรู้ +น่าจะ : เกิดจากการอ่านตั้งแต่รอบสองรอบสามขึ้นไปจนตกผลึกทางความคิดเป็นของตัวเอง
ซึ่งเมื่อคุณครูเข้าไปเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมฯ
จึงได้รู้ว่าเขาอ่านกันหลายรอบจริงๆ
ไม่ใช่หลายรอบเพราะอยากได้จำนวนรอบ
แต่ยิ่งอ่านแต่ละครั้ง ก็จะได้ความกระจ่างมากขึ้น
มองความสัมพันธ์ระหว่างบทได้มากขึ้น
มองทะลุมากขึ้นว่า ถ้าเราเป็นผู้ออกข้อสอบเราควรจะวัดผลปรเด็นไหนดี
คนบางคนอายุสี่ห้าสิบแต่ยังไม่มีความรับผิดชอบ
แต่เด้กบางคนยังไม่ย่างยี่สิบเลย กลับดูเป็นผู้ใหญ่แล้ว
เพราะการอบรมเลี้ยงดูและประสบการณ์ที่พรั่งพรูเข้ามาในชีวิตที่แตกต่างกัน
เช่นเดียวกัน นักเรียนที่ผ่านหนังสือ
ผ่านโจทย์มามากก็มองและทำข้อสอบแตกฉานต่างกับคนที่ไม่ค่อยได้จับหนังสือ
วันนี้คนโง่อังกฤษอย่างคุณครูในวัยเด็ก
สามารถเป็นเครื่องพิสูจน์ให้พวกหนูเห็นว่า
การพบและสะสมความรู้ไว้มากๆทำให้เรากลายเป็นปราชญ์ได้
อ่านเถอะลูก
อ่านมากๆ
ทำแบบฝึกหัดเยอะ
เชื่อคุณครูนะ
ถ้าอยากเอนท์ติดและเลี้ยงผู้มีพระคุณยามท่านแก่เฒ่าได้
อย่าเอาไว้เลยนะ
ความเกียจคร้านน่ะ
มันเป็นตัวถ่วงความเจริญนะคะ
เชื่อคุณครูนะลูก
พวกเรามีหน้าที่ที่จะนำสังคมในวันนี้ไปสู่ความเจริญ
เป็นเด็กที่ดี มีความรับผิดชอบในวันนี้
เพื่ออนาคตหนูก็จะได้เป็นผู้ใหญ่ที่ดี
แล้วใช้ web นี้ เป็นที่รวมคำสอนของคนเคยท้อนะคะ
ช่วยๆกันนะเด็กๆ
คุณครูจะเป็นแกนนำให้นะลูก
สู้สู้นะ
..........................................................................................................
ฝูงวัวมากมายที่ผอมโซเดินมาหาครูสมศรีด้วยสภาพที่หมดแรง
"มอ มอ มอ หิวเหลือเกินๆๆๆ ช่วยพวกฉันทีครูสมศรี"
"ได้สิ ฉันจะพาพวกเธอไปบ่อน้านะ"
และแล้วครูสมศรีก็วิ่งนำหน้าฝูงวัวที่หิวโซในระยะที่แสนไกล จนกระทั่ง.....
"เย้.... เอ้าพวกเรา นีไงหนองน้ำ ดื่มน้ำเลยนะ"
วัวทุกตัวมาถึงหนองน้ำ
หลายตัววิ่งลงไปในบ่อและ เลียน้ำอย่างเบิกบานสำราญใจ
แต่เจ้าลูกวัวกลุ่มหนึ่งยังคงเล่นกันอยู่ต่อไป
"เจ้าลูกวัว กินสิ กินน้ำสิ เดี๋ยวพวกเจ้าต้องเดินทางไปอีกแสนไกลกว่าจะเจอทุงหญ้าที่เขียวขจีนะ"
"ไม่ พวกเราไม่อยากกิน เราไม่หิวน้ำ เรายังอยากเล่นอยู่ ปล่อยพวกเราเถอะครู"
"จะทำไงได้ล่ะ ครูทำได้ก้แค่บอกว่านี่น้ำนะ กินนะเดี๋ยวหิว แต่ถ้าพวกเจ้าห่วงแต่เล่น
จะให้ครูกรอกปากพวกเธอ พวกเธอก็คงไม่ยอมกลืนลงไปอยู่ดีอ่ะ.........เฮ้อเหนื่อยใจ"
จบ
การที่หนูจะขยันหรือไม่
หนูก็คงรู้ถึงข้อดีของการขยันอยู่แล้ว
รู้ทั้งรู้ว่าต้องขยันแต่ไม่ยอมลงมือปฏิบัติ
คุณครูก็ได้แต่ทอดถอนใจ
หนูคงรู้อยู่แล้วว่าหนูต้องอ่านให้ทันเวลาการสอบคัดเลือกที่กำลังจะมาถึงเร็วๆนี้
ก็แค่หยิบหนังสือขึ้นมา
กวาดสายตาซ้ายไปขวา ขวากลับมาซ้ายใหม่
อ่านทีละคำกลายเป็นหนึ่งวลี
หลายวลีเป็นหนึ่งประโยค
หลายประโยคเป็นหนึ่งย่อหน้า
หลายหน้าเป็นหนึ่งบท
หลายบทเป็นหนึ่งเล่ม
หลายเล่มเป็นหนึ่งวิชา
หลายวิชา.....
หนูก็เอนท์ติดแล้ว
แถมยังกำหนดอาชีพได้ตามใจปรารถนา
เหมือนนักเรียนหลายคนที่สอบอะไรก็ติดหมด
แล้วทำไมหนูจะไม่ยอมขยันล่ะลูก
ลำบากยามเด็ก
ก็จะสบายเมื่อกลาง และปลายทาง
ขยันนะลูกนะ
หนึ่งควา
Offline
ตอนเรียนครูสมศรีมักจะมีข้อสะกิดใจแบบนี้เหมือนกัน โดยเฉพาะเราเหล่าเด็กม.ปลาย ผู้ต้องผจญAdmission - -"
Offline
....ต่อจากข้างบนนะมันเปงไรไม่รุ.........>>>>>
หนึ่งความเพียรของหนู
คือสองรอยยิ้มแห่งความภูมิใจของพ่อแม่
ขยันนะลูก คุณครูขอนะ
เชื่อคุณครูนะเด็กๆ
เตรียมตัวคว้าหนังสือมาอ่านเลยนะ
คุณครูสมศรี ธรรมสารโสภณ
ที่มาจาก WWW.kru-somsri.ac.th
ผมเอามาอยากให้หลายๆคนได้อ่านนะผมคิดว่ามันดีมากๆๆๆยิ่งบนๆแนะนำพี่ๆม.6น้า
Offline
ยาวจัง หลับดีก่า -0-
yocrab.exteen.com
facebook.com/yocrab
Offline
ยาวอ่ะ
คิเกียจอ่านน
Offline
ยาวมาก
แต่อ่านหมดแล้ว
ไม่รู้เรื่องเว่ย
Offline
ซะงั้นอะ pop
yocrab.exteen.com
facebook.com/yocrab
Offline
Pages: 1