You are not logged in.
ในการสอบแอดมิชชันระบบใหม่ปี 53 จะไม่มีการสอบวิชาภาษาต่างประเทศที่ 2 ทุกภาษาไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส,เยอรมัน,ญี่ปุ่นหรือจีน แต่อย่างใดเนื่องจากทางทปอ. เห็นว่าจะเกิดความได้เปรียบ-เสียเปรียบระหว่างเด็กเมืองกับชนบท อีกทั้งยังมองว่าไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับประเทศชาติ
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่ในบ้านนี้เมืองนี้เค้าไปเอาสมองปัญญาอ่อนแบบนี้มาคิดได้ยังไงหากจะมองว่าเป็นการได้เปรียบ-เสียเปรียบระหว่างเด็กเมืองกับชนบท ก็ไม่ให้เด็กดอยเข้ามาเรียนให้หมดเลยหละไม่ต้องสอบเลยแล้วกัน ซึงถ้าเป็นแบบนี้ใครทีต้องการเข้าคณะด้านภาษา อย่างอักษรศาสตร์,ศิลปศาสตร์,มนุษยศาสตร์ ก็คงต้องสอบวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์อย่างแน่นอนไม่มีทางเลือก และอีกไม่นานทุกโรงเรียนก็คงจะยุบแผนศิลป์-ภาษาไปและอาจารย์ที่สอนภาษาต่างประเทศที่ 2 ทุกภาษาก็จะตกงานอย่างแน่นอน
ก็ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย คิดแต่จะสร้างคนด้านวิศวะ แพทย์ บริหาร แต่ไม่คิดสร้างคนที่มีความสามารถด้านมนุษยศาสตร์เลยแม้แต่น้อย ทั้งๆที่เป็นส่วนที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศเช่นเดียวกัน ก็อยากแนะนำให้คนที่เก่งภาษาต่างประเทศที่ 2 เมื่อเรียนจบแล้วก็ไปทำงานกันในบริษัทต่างประเทศจะดีกว่า อย่ามาทำให้ประเทศไทยเลย เพราะระดับผู้ปกครองของบ้านเมืองไม่แม้แต่จะเห็นความสำคัญ
จากคุณ : bamboobaba - [ 19 ก.พ. 51 09:06:19 ]
ข่าวจากมติชน
สมาคมครูฝรั่งเศสฯค้านทปอ.
เลิกสอบภาษาตปท.ที่2ในแอดมิสชั่นส์"53 "มณฑล"ให้แสดงความเห็นผ่านเว็บสทศ.
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่มูลนิธิส่งเสริมภาษาฝรั่งเศสและฝรั่งเศสศึกษา ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (มสฝ.) คุณหญิงวงจันทร์ พินัยนิติศาสตร์ อุปนายกสมาคมครูภาษาฝรั่งเศสแห่งประเทศไทย (สคฝท.) แถลงข่าวคัดค้านที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กรณีที่ยกเลิกการสอบภาษาต่างประเทศที่ 2 ในระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา หรือแอดมิสชั่นส์ ประจำปีการศึกษา 2553 ว่า สคฝท.ไม่เห็นด้วยกับองค์ประกอบแอดมิสชั่นส์ ที่จะเริ่มใช้ในปีการศึกษา 2553 ที่ไม่มีการวัดความสามารถในการใช้ภาษาต่างประเทศที่ 2 ไว้ในวิชาวัดความถนัดทางวิชาชีพ หรือ Professional Aptitude Test (PAT) ทำให้ความสำคัญในการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศที่ 2 ในชั้น ม.ปลายลดน้อยลง และอนาคตมีแนวโน้มว่าภาควิชาภาษาต่างประเทศที่ 2 อาจปิดตัวลง ส่วนที่ ทปอ.กำหนดให้วิชาภาษาต่างประเทศที่ 2 รวมอยู่ในผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร ม.ปลาย หรือจีพีเอเอ็กซ์ หรือให้มหาวิทยาลัยเปิดสอบเฉพาะวิชาดังกล่าวขึ้นเองนั้น ไม่พอ และทำให้ต้องวิ่งสอบหลายที่ ซึ่งเด็กยากจนจะเสียเปรียบ ดังนั้น สคฝท.ยืนยันว่า ทปอ.ควรทบทวนองค์ประกอบแอดมิสชั่นส์ ประจำปี 2553 โดยเพิ่มการวัดศักยภาพทางภาษาต่างประเทศที่ 2 เป็นกลุ่ม PAT กลุ่มที่ 7 อีกกลุ่มหนึ่ง ทั้งนี้ สคฝท.จะทำหนังสือถึง ทปอ., นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) รวมทั้งจะประสานกับภาควิชาภาษาต่างประเทศอื่นๆ เช่น ภาษาเยอรมัน เพื่อขอให้ ทปอ.ทบทวนเรื่องนี้
"เมื่อ ทปอ.บอกว่า จะเปิดให้ประชาพิจารณ์องค์ประกอบแอดมิสชั่นส์ปี 2553 ก็หวังว่าจะฟังเสียงของ สคฝท.ซึ่งเป็นครูผู้ปฏิบัติ ส่วนสาเหตุที่บอกว่าไม่จัดภาษาต่างประเทศที่ 2 อยู่ในวิชาวัดความถนัดทางวิชาชีพ เพราะมัธยมปลายสอนภาษาต่างประเทศถึง 17 ภาษา ซึ่งเป็นเรื่องยุ่งยากในการจัดสอบนั้น ความยุ่งยากเป็นเพียงเรื่องเอกสาร แต่เทียบไม่ได้กับการพัฒนาทรัพยากรบุคคล และประเทศ ซึ่งสังคมโลกต้องการผู้ที่รู้ภาษามากกว่า 2 ภาษา" คุณหญิงวงจันทร์กล่าว
นายมณฑล สงวนเสริมศรี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ในฐานะประธาน ทปอ.กล่าวว่า ที่ประชุม ทปอ.นัดที่ผ่านมา ได้หารือเรื่องนี้แล้ว อธิการบดีส่วนใหญ่เห็นว่าถ้าให้สอบภาษาต่างประเทศที่ 2 จะตั้องจัดสอบถึง 17 วิชา ทำให้ยุ่งยากในการประมวลผล
อีกทั้ง การวัดวิชาเหล่านี้รวมอยู่ในจีพีเอเอ็กซ์ และการสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ได้ประสานให้สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) นำข้อมูลลงเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องได้แสดงความคิดเห็น โดยเปิดให้แสดงความคิดเห็น 1 เดือน ดังนั้น หากใครต้องการเสนออะไร ก็ให้รีบเสนอเข้ามา
นางอุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการ สทศ.กล่าวว่า สทศ.ได้นำข้อมูลดังกล่าวลงในเว็บไซต์ www.niets.or.th แล้ว
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K6346254/K6346254.html
แสส จะให้ตรูสอบเลข ฟิสิก เคมี ชีวะ เข้าคณะอักษรรึไง
โกอินเตอร์กันดีกว่า อย่างที่เราเคยอ่านในFWเมลไม่มีผิด
ประเทศไทย ดีทุกอย่าง มีพร้อมทุกอย่าง แต่เสียเพราะ "คนไทย" ด้วยกันเองนี่แหละ
อะไรของมานเนี่ย ความรู้ทุกศาสตร์ ทุกแขนง ก็มีความหมายนะเฟ้ย ด๋อยยยยเอ๊ยยยยย
ถ้าแกไม่รู้ภาษาอื่นเลย แกก็ไม่มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความรู้ วัฒนธรรม กับคนที่เค้าดำรงชีวิตอยู่ในสังคมที่ต่างจากเรา
เปนหมอถ้าแกไม่รู้ภาษาต่างประเทศ ถ้าต่างประเทศเกิดการพัฒนาอะไร แกจะรู้เรื่องมั๊ย (ถ้าไม่มีคนเค้ามาแปลเป็นตำราให้อ่านให้เรียนกัน)
เป็นนักวิทยาศาสตร์ แกไม่รู้ภาษาฝรั่งเศส แกจะรู้มั๊ย ว่าประเทศฝรั่งเศส เค้าพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ไปถึงไหนแล้ว
เป็นนักการเมือง ก็เห็นใช้ภาษาปะกิดเสียดสีกันออกบ่อย (ป๋าหมัก & เฮียมาร์ก)
ถ้าไม่รู้ภาษาจีน จะมีโอกาสได้อ่าน นวนิยายกำลังภายในที่ได้รับการแปล และขัดเกลาสำนวนภาษา แฝงข้อคิดดีๆ
เช่น สามก๊ก ฤทธิ์มีดสั้น มั๊ยฮ๊ะ แกจะได้รู้วัฒนธรรมต่างถิ่นมั๊ย
นี่รึไม่สำคัญ
"อันชาติใดไร้ช่างชำนาญศีลป์ เหมือนนารินไร้โฉมบรรโลมสง่า"
มีอิทธิพล มีอำนาจ แทนที่จะใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมซะบ้าง กลับใช้เพื่อเพิ่มบริวาร (ทั้งด้านเงิน คน และทุกอย่าง) ให้ตัวเอง
คืนกำไรที่พวกคุณสูบกันยิ่งกว่าสูบน้ำบาดาล ให้สังคมบ้างสิคะ ด๋อยยยยมากกกกกค่ะ
ห้วย หนีไปอยู่เมืองแขกดีกว่า แขกขาวหล่อๆๆเยอะเลย แถวดูไบ ตุรกี โอ้ว กี๊ซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ
กรรม ต้องวิ่งหนีระเบิดอีก -*-
Last edited by • Musiclover • (2008-02-20 00:15:59)
♥♥♥♥♥♥♥♥♥
Offline
Offline
อธิการบดีส่วนใหญ่เห็นว่าถ้าให้สอบภาษาต่างประเทศที่ 2 จะตั้องจัดสอบถึง 17 วิชา ทำให้ยุ่งยากในการประมวลผล
เป็นถึงอธิการบดี คิดได้แค่นี้เองหรอ ?
Offline
ใช้อะไรคิด = =
จะเข้าอักษรฯ สอบวิทย์กับคณิตงั้นเหรอ ??
เฮ้อ . . . อนาคตประเทศของเรา
♥ Girls' Generation
Offline
รุ่นตรูนี่หว่า.........
เลว~!!!!
ทีงานบ้าน พละ ศิลปะ ยังสอบมาได้เลย
อันนั้นเอาอะไรคิดฟระ สอบไปก็ไม่มีใครเอาไปใช้ประมวลผล สอบทำไมกัน
แล้วไอ้ทีน่าจะสอบ ไม่น่าเอาออกสุดๆ อย่างภาษาต่างประเทศเนี่ย เจือกเอาออกซะอีก
เฮ้อ ผู้ใหญ่ในประเทศ งี่เง่าจริงๆ
ถอดถอนทั้งระบบเลยเหอะ(ว่ะ) เอาคนสมัยใหม่เข้ามาทำงานบ้าง จะได้มีมุมมองใหม่ๆ สำหรับการศึกษาไทย
เอาแก่ๆมา ประมวลผลยุ่งยาก เลยเอาออก?? อะไรงี่เง่าๆ ก็เอาเข้ามา โห...
สงสารคนที่เรียนศิลป์จริงๆ
โลกของใคร โลกของมัน Tangmae's เอ็กตีน
ตัดให้ขาดเลยฉับๆ ตัดให้ขาดเลยฉับๆ อย่ามัวเสียดาย ร้องไห้อยู่เลย
SKN ,#28 Generation
Offline
แย่ว่ะ เดี๋ยวนี้
เห้อ .. แล้วข้าพเจ้าจะทำเช่นไรเล่า ?
Offline
F U C K YOU !!!!
เซ็นเซอร์อีก -*-
Last edited by Black Amethos (2008-02-20 11:55:18)
Offline
Offline
แม่งบ้า
เรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆ มีโวยแน่ๆ ซักพักก็จะประท้วง แล้วคนก็จะเยอะขึ้นๆ ลุกลามไปเรื่อยๆ แล้วก็จะยุบสภา เลือกตั้งใหม่ แล้วทหารก็จะมาปฏิวัติ 555+
จบ...อนาถจริงๆ
SKN#28 NO.18428 17/05/2004 - 22/02/2010
Offline
มันเละมาตั้งแต่ไอ้ตอนที่มีข่าวว่าจะใช้คะแนนคุณธรรมแล้ว
Offline
ได้ยินมาแล้วแหละ แต่มาอ่านเหตุผล แล้วรุ้สึก ขอด่าหน่อยเถอะครับว่าทำไมท่านคนคิดเรื่องนี้ถึงได้ เ้ย อย่างนี้
ใจร้าย คุณเป็นผู้ใหญ่ใจร้าย แย่ ต่ำ ใช้ หัวนิ้วโป้งเท้าของเด็ก 3 ขวบ คิดควได้ความคิดทืี่ดีกว่านี้ อ้างได้ไงวะว่า วุ่นวาย
อนาตต เด็กนะครับ แล้วทำไมคุณต้องเริ่มใช้ ปี 53 หละครับ ปีนั้น เด็กศิลภาษ ยังมีอยุ่แล้วพวกเขาจะทำไง ทำไมหรอครับคนเราควรจะรู้แต่วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์แค่นั้นหรอครับ เสียดาย ที่พ่อ ที่แม่ ผมเลือกพวก คนสันดานแบบนี้มา พูดจิงๆ นะมีเด็ก หลายหมื่นคน ที่ ฉิบหายเพราะ ความคิดที่แย่นี้ พูดจริง เด็กศิลป์ภาษา ประท้วงแน่ ผมคนนึงหละ ประท้วง แน่ๆ
Offline
Offline
อนาถ
Offline
เพราะมันมีแผนพัฒนาวิทยาศาสตร์ไทยให้ก้าวหน้าไงล่ะครับพี่น้อง
เขาอาจจาคิดว่าในยุโรปบางประเทศไม่เห็นต้องเรียนภาษาอื่นก็พัฒนาได้
จนลืมดูพื้นฐานทางเศรษฐกิจ สังคม และฯลฯ ของไทยไป
จาโทษเขาอย่างเดียวก็ไม่ได้มั้ง...
เพราะพวก ร.ร. ดังๆก็มีแต่คนเรียนแพทย์ เรียนวิศวฯ
ทั้งๆที่เขาเปิดขึ้นมา วัตถุประสงค์หลักจริงๆก็เพื่อพัฒนาวิทยาศาสตร์ไทยให้ก้าวหน้า...
สรุปแล้วก็ผิดทุกฝ่ายแหละ- -
Offline
ในยุโรป อเมริกา ไม่จำเป็นต้องเรียนภาษาอื่น เพราะเขาใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ไงคะ -*- แถมเป็นภาษาที่ใช้กันเป็นสากลด้วยแหละ
ภาษาไทยเราไม่ใช่ภาษาที่ใช้กันแพร่หลาย เราถึงต้องเรียนกันหลายภาษาไง
ว่าแต่ไม่เห็นจะมีทุนให้กับวิทยาศาสตร์ไทยเลยนิ - -* มีแต่จะซื้อเรือรบ เรือดำน้ำ เครื่องบินเงี้ย
นักวิทยาศาสตร์ก็ไม่มีใครอยากเป็นหรอก ไม่มีกะตังค์ แถมจะเรียน ผู้ปกครองก็ไม่อนุมัติด้วยแหละ เพราะเงินไง
ละจะมีแต่สายวิทย์ทำไมให้ประจานความโง่ ปัญญาอ่อน บ๊องตื้น เอ๋อเหรอเนี่ยยยยย
*She's Miyacatz :: ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ หัวใจก็ยังคงเหมือนวันเก่าๆ ที่เคยอยู่เสมอ XD
สถานะ :: ❤ หนุ่มแว่นค่ะ.....
Offline
พูดไม่ออก
yocrab.exteen.com
facebook.com/yocrab
Offline
ถ้าเป็นตามข่าวที่คุณ • Musiclover • ยกมาเป็นจริง เรื่องนี้เราก็สามารถมองได้ 2 แง่ครับ
ประการแรกคือ ถ้าการตัดการสอบภาษาที่ 2 จนเป็นเหตุให้ต้องยกเลิกการเรียนการสอนไป ถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้า
ในวงการศึกษาไทย เพราะประโยชน์จากการศึกษาภาษาอื่น นอกจากจะใช้ในการประกอบอาชีพแล้ว ยังใช้สามารถใช้ในการ
ศึกษาวรรณกรรม หรือความคิด ซึ่งต้องยอมรับตรงๆว่าของเขาค่อนข้างศิวิไลซ์มากกว่าของเรามาก(โดยเฉพาะฝรั่งเศส) ซึ่ง
การอ่านสิ่งเหล่านี้ จะช่วยเพิ่มมิติทางความคิดของเราให้กว้างยิ่งขึ้น แล้วถ้ายกเลิกไปกลายเป็นว่าถ้าคุณอยากศึกษาสิ่งเหล่านี้
คุณต้องเข้าคณะอักษรเท่านั้นหรือ? แล้วอนาคตวิสัยทัศน์ของเด็กไทยจะเป็นอย่างไร?
แต่มันก็เหมือนกับเหรียญที่มีสองด้าน...
บางทีการเริ่มต้นเรียนภาษาที่ 2 ในระดับมหาวิทยาลัย อาจเป็นผลดีสำหรับนักเรียนในโรงเรียนที่มี อ.สอนที่ไม่เก่ง(ไม่ใช่ร.ร.เราแน่นอน)
เพราะ อ.เหล่านั้น อาจสอนสิ่งที่ผิดโดยมิได้ตั้งใจ หรือมีปัญหาด้านการออกเสียง เป็นต้น ซึ่งทำให้นักเรียนเหล่านั้นจะมีปัญหาในการเรียน
ภาษาแน่นอน(ไม้แก่ดัดยาก) การเริ่มปูพื้นใหม่โดย อ.มหาวิทยาลัย จึงน่าจะช่วยส่งเสริมให้คนที่จบออกมา มีคุณภาพยิ่งขึ้น
แต่ถ้าว่ากันจริงๆแล้ว ถ้าการสอนภาษาที่ 2 ต้องยกเลิกไปเพียงเพราะ ไม่ใช้สอบเข้ามหาวิทยาลัย ถือเป็นจุดที่แสดงบางสิ่งบางอย่าง
ในระบบการศึกษาของไทย... หรือ ชีวิตของคนไทยต้องเรียนรู้ เพื่อสอบ ?!?
Offline
ข้าพเจ้าเห็นด้วยกับความคิดของคุณ vhp#27 นะครับ แต่ข้าพเจ้าเห็นว่าเรื่องการสอบแบบนี้ไม่ทำให้เกิดข้อดีขึ้นเลยครับ เพราะหากเราเอาแต่คิดห่วงผู้ที่ไม่มีโอกาสจนเราตัดโอกาสของคนที่มีไปด้วยเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันอย่างนี้ ข้าพเจ้าเห็นว่ามันไม่ใช่การพัฒนาเลยนะครับ หากแต่เป็นการ "ก้าวถอยหลัง" เพื่ออะไรล่ะครับ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันน่ะหรือ? ดังนั้นข้าพเจ้าจึงเห็นว่า แทนที่รัฐบาลจะทำเช่นนี้สู้ไปพัฒนาการเรียนการสอนของนักเรียนทางแถบชนบทให้ดีขึ้นไม่ดีกว่าหรือ?
Offline
แต่ถ้าว่ากันจริงๆแล้ว ถ้าการสอนภาษาที่ 2 ต้องยกเลิกไปเพียงเพราะ ไม่ใช้สอบเข้ามหาวิทยาลัย ถือเป็นจุดที่แสดงบางสิ่งบางอย่าง
ในระบบการศึกษาของไทย... หรือ ชีวิตของคนไทยต้องเรียนรู้ เพื่อสอบ ?!?
ชอบประโยคนนี้จังค่ะ หรือ ชีวิตของคนไทยต้องเรียนรู้ เพื่อสอบ ?!?
คนไทยยึดติดกับเรื่องพวกนี้มากเกินไปนะ ไม่ต้องสอบเอนทรานซ์หรอก แค่สอบในห้องก็เห็นได้ชัดแล้ว
ไม่มีสอบก็ไม่อ่าน ไม่ออกสอบ ก็ไม่อยากรู้ (คือให้ความสนใจกับเรื่องอื่นมากกว่า)
แต่ถ้าในกรณีนี้ คือการสอบเพื่อเข้าเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น
คือยังไงดีล่ะ คือมันเป็นการวัดตัวเองมากกว่าน่ะค่ะ แข่งขันกับตัวเองมากกว่า
ใครมีความรู้มากกว่า ก็ได้เข้ามหาลัยดีๆ ดังๆไป (สังคมไทยเป็นแบบนี้จริงๆ)
แล้วการที่จะเพิ่มพูนความรู้ให้ตัวเอง (เพื่อทำข้อสอบนั้น) ก็ต้องมีการศึกษา เพิ่มเติม
บางทีเรียนไปเรื่อยๆ มันเจอสิ่งที่แปลกใหม่เข้ามา ก็ยิ่งทำให้ความรู้ของเราต่อยอดขึ้นไปเรื่อยๆ
(คือเหมือนกับ รู้อย่างนึง แล้วก็อยากรู้ต่อไปเรื่อยๆ)
คือคนเหล่านี้ ไม่ต้องมีข้อสอบ เค้าก็ต้องการต่อยอดความรู้ตัวเองอ่ะค่ะ
บางทีข้อสอบ มันเป็นแค่ตัวกระตุ้น ไม่ได้สำคัญอะไรนักหรอก
ก็ไม่ใช่ทุกคนเนาะ ที่เรียนรู้เพื่อสอบอย่างเดียว *-* (แต่ส่วนใหญ่เป็นอย่างนั้น แย่จัง)
กลายเป็นว่าถ้าคุณอยากศึกษาสิ่งเหล่านี้
คุณต้องเข้าคณะอักษรเท่านั้นหรือ? แล้วอนาคตวิสัยทัศน์ของเด็กไทยจะเป็นอย่างไร?
คือเข้าใจตามที่พี่ VHP#27 กล่าวมาทั้งหมดเลยนะคะ คือเห็นด้วยหมดเลย
คนเราไม่จำเป็นว่า ต้องเรียนในคณะที่สอนโดยตรงเท่านั้น ถึงจะรู้เรื่องนั้นๆได้
แต่ถ้าเรียน มันน่าจะเป็นการเรียนรู้ที่ลึกซึ้งกว่า และนำไปใช้ได้จริงมากกว่านะคะ คือถ้าเราหาความรู้ด้วยตัวเองแล้ว กอปรกับ มีคนอื่นป้อนมาให้เราอีก
ความรู้ที่เราได้รับแบบ เนื้อๆเน้นๆนั้น ก็คงทำประโยชน์ได้มากกว่า เรียนแบบไร้หลักนะคะ
แต่ก็ดีไป ถ้าคนที่ศึกษาศาสตร์นั้นๆ หาหลักของตัวเองได้
เป็นหมอ ก็ศึกษาวรรณคดีได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องเข้าอักษรฯ หรือ มนุษย์ฯ หรอก
แต่มันมีน้อยคนน่ะสิ ที่จะตักข้าวกินด้วยตัวเอง เดี๋ยวนี้เจอแต่คนชอบให้คนอื่นป้อนข้าวเข้าปาก -*-
Last edited by • Musiclover • (2008-02-21 23:07:08)
♥♥♥♥♥♥♥♥♥
Offline
แล้วผมสอบตรงได้ไหม ? ,,
มนุษยศาสตร์ เอกภาษาเยอรมัน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ,,
http://disaccharide.hi5.com
Offline
แย่อะๆ แย่จริง อย่างที่มาดามพูด เพราะอย่างนี้การศึกษาไทยถึงไม่พัฒนา ถ้าดูจากเหตุการณ์นี้แล้ว มันก้าวถอยหลังด้วยซ้ำไป
เห้อสมอง(ไม่รู้ว่าทำไมผู้ใหญ่ในกระทรวงใจร้ายกับเด็ก)ไร้ซึ่งความยุติธรรม ประเทศคงไม่มีศิวิไลขาดอารยธรรม
Offline
แล้วผมสอบตรงได้ไหม ? ,,
มนุษยศาสตร์ เอกภาษาเยอรมัน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ,,
จะไปจีบสาวววเจียงงงใหม่อ่ะดิ
หวังว่าจะยังมีสอบตรงนะคะ พี่โมสอีก 2 ปี มันคงยังไม่เปลี่ยนแปลงไรมาก
แต่แมมอีก 4 ปี มันคงเปลี่ยนอะไรไปเยอะ T^T
อยากเข้าศิลปากรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร อ่ะหึ๊กกก อ่ะหึ้กกกกกกกก
♥♥♥♥♥♥♥♥♥
Offline
ในการสอบแอดมิชชันระบบใหม่ปี 53 จะไม่มีการสอบวิชาภาษาต่างประเทศที่ 2 ทุกภาษาไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส,เยอรมัน,ญี่ปุ่นหรือจีน แต่อย่างใดเนื่องจากทางทปอ. เห็นว่าจะเกิดความได้เปรียบ-เสียเปรียบระหว่างเด็กเมืองกับชนบท อีกทั้งยังมองว่าไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับประเทศชาติ
เหมือนเขาจะคิดเอง เออเอง ... !!
PLFC .." 311 Up To ... 602
ขอบคุณ .. 311 สำหรับ บทเริ่มต้น ... & 602 .. สำหรับ บทส่งท้าย .. 18111 .. !?!
Offline
ทุเรศจัง เอาจริงๆ นะ จริงๆๆๆๆๆ เลยอะ
ถ้าเค้าอยากจะเปลี่ยน ไม่ใช้ภาษาสอบจริงๆๆๆๆๆ อะ
ทำไมถึงเปลี่ยน ปี ที่มีการเลือกสายแล้วละ ?
ถ้าเปลี่ยน ควรจะเปลี่ยน ปีหลังๆๆๆ จากนั้นสิ ?
เพราะ เด็กนัเรียน ที่เลือกสาย วิทย์ ศิลป์
ก็มีจุดมุ่งหมายอยู่แล้ว ว่าจะใช้อะไรสอบ
ถ้าเป็นอย่างนี้ เด็กที่เรียนศิลป์มาจะทำยังไงละคะ ?
จะให้ใช้วิทย์ คณิต สอบ แข่งกับเด็กวิทย์ หรอคะ ?
ทั้งๆที่เรียน มาไม่เท่ากันเนี่ยนะคะ ?
ใช้อะไรคิดคะคุณคนเป็นผู้ใหญ่
Offline
ไร้สาระ ประเทศไทย
เมื่อไรจะพัฒนา ?
เมื่อไรจะคิดได้ ?
ห่วยแตกจริงๆ
Offline