You are not logged in.
................ ใ จ ร่ ม ๆ .........................
พี่ไตร (ขอเรียกตามน้องแมม)
ดูจะเครียดกับเศรษฐกิจ เงินๆทองๆ มากไปไหม มันเป็นเรื่องจริงแหละที่พี่พูด แต่เหมือน พี่มองโลกในแง่ร้ายมากเกินไปนะ
ประเทศไทย ยังยึดอยู่กับคำว่า " ปริญญา " แล้วก็ " วุฒิ " อยู่
ตราบใดที่คนที่ไม่จบตรี ไม่สามารถเข้าทำงานเงินเดือนเท่าคนเรียนตรีได้ ด้วยเนื่องจากไม่มีวุฒิ แม้ว่าจะสะสมชั่วโมงบินมามากมายแล้วก็เหอะ
ปริญญา ก็เหมือนสัญลักษณ์ ของคนมีความรู้ ของประเทศไทย
ไม่มี ก็เหมือนไคนไม่มีความรู้
ใครจะจ้างละ
แง่ร้ายของบริษัท ในการจ้างคนมาทำงานคือ เลี้ยงไปด้วยเงินเดือนเล็กน้อยๆ เมื่อเทียบกับกำไร
พอแก่ เริ่มทำงานไม่ได้ดีเท่าเก่า ก็ถีบหัวส่ง
ทางที่ดีที่สุด ตอนทำงานบริษัท ควรสะสมประสบการณ์ชีวิตไปเรื่อยๆ แล้วมีธุรกิจเล็กๆเป็นของตัวเอง ตั้งแต่เริ่มตั้งตัวได้
คงไม่มีใครตั้งตัว ตั้งธุรกิจได้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำงาน (ถ้าทำได้ ก็ถือเป็นทุนพ่อแม่) (ไม่นับทำงานพิเศษตั้งแต่เด็ก ถือเป็นเรื่องดี)
หนูคงไม่กินเงินเดือนบริษัทตลอดไปแน่ เห็นตัวอย่างใกล้ตัวเนี่ยแหละ
ระบบอะไรหลายๆอย่างในไทย ยังไม่ดีอยู่อีกเยอะ
อย่างแพทย์ ถ้าใครอ่านกระทู้ในพันทิป คงรู้ว่า ระบบการจัดการทางด้านนี้แย่ขนาดไหน
หมอที่มีอุดมการณ์เต็มเปี่ยม ว่าจะรักษาชีวิตคน ไม่เกี่ยงงาน
แต่ต้องกลับคำ ย้ายไปเอกชน... เพราะอะไร?
ระบบการศึกษา แก้ไปแก้มาไม่ลงตัวซักที แต่คนเบื้องบน ยังสุขีปรีดีนัก
(นักเรียน 3 แสนคน สมัครปีละ 9 วิชา วิชาละ 200 ว้าววววว)
ครูทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อนักเรียน แต่ไม่ได้ทำผลงาน ผลคือ เงินเดือนไม่พอ ทำงานขยันไป เงินเดือนไม่กระดิก
พ่อแม่สั่งสอนลูกว่า โตแล้วอย่าเป็นครู เงินเดือนมันน้อย
ปล. คงไม่มีใครว่า เราพาลว่าทุกอย่างอีกใช่ไหม .... ก็มันแย่จริงๆนี่ ความคิดเห็นส่วนตัวน้อ ความคิดเห็นต่างกันได้
ปล2. พี่ไตร ไม่พอใจ โกธร หรือ อย่างไร ต้องขอโทษด้วยนะคะ ( _ /\ _ )
โลกของใคร โลกของมัน Tangmae's เอ็กตีน
ตัดให้ขาดเลยฉับๆ ตัดให้ขาดเลยฉับๆ อย่ามัวเสียดาย ร้องไห้อยู่เลย
SKN ,#28 Generation
Offline
โอเค ๆ เข้าใจและ พอดีพี่เป็นอาจารย์พิเศษอยู่ที่สวนนอะน๊ะ แล้วมีนักเรียนพี่บอกให้มาอ่านดูโอเคเข้าใจละ พี่ว่าน๊ะความคิดของหลาย ๆ คนไม่สิทุกคนดีกว่าที่คิดหนะไม่ผิดหรอก จริง ๆ มันขึ้นอยู่กับมุมมองของบุคคลมากกว่าว่าคำว่า ประสบความสำเร็จในชีวิตคืออะไร แต่ก่อนที่พี่จะพูดความเห็นของพี่ขอตอบคำถามเจ้าของกระทู้ก่อน ที่น้องถามว่า
ชีวิตมัธยมปลายไปถึงรั้วมหาลัยจะพบความสำเร็จที่ดีจำเป็นต้องมีการเรียนพิเศษเป็นส่วนประกอบไหมครับ??" คำตอบของพี่คือน้องต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าสิ่งที่น้องใฝ่ฝันหรือวาดภาพอะไรต่าง ๆ นานาไว้นั้นน้องฝันไว้ขนาดไหนและน้องอยากทำให้มันเป็นจริงได้แค่ไหน ในหนังสือสักเล่ม พ่อรวยสอนลูก หรืออะไรนี่แหละพี่จำไม่ได้โทษที เค้าบอกว่าเวลาคนทั่วไปวาดฝันอะไรไว้มักจะค่อย ๆ จางหายไปกับสิ่งรอบตัว เค้ายกตัวอย่างเช่นสมมติน้องวาดฝันว่าอยากได้บ้านสักหลังหนึ่งราคา 10 ล้าน แล้วน้องก็เริ่มเก็บเงิน เมื่อเวลาผ่านไป ผ่านไป ผ่านไป 3 ปีละน้องเก็บเงินได้ 50000 ละ น้องก็จะเริ่มท้อและเริ่มเปลี่ยนความฝันนั้น ๆ ให้ลดลงเอง จนเป็นคอนโดห้องละ 1 ล้านก็พอละ อันนี้คือคนทั่วไปคิด เค้าแนะนำว่าน้องควรเปลี่ยนความคิดใหม่ว่าน้องเก็นเงินได้ 50000 ละตอนนี้น้องได้ละห้องน้ำห้องนึง คือเค้าอยากให้น้องฝันและมุ่งมั่นไปให้ถึงจุดที่ฝันไว้ห้ามเลือนหายหรือจางไปด้านความคิดทีนี้ที่พี่ถามน้องว่าน้องวาดฝันไว้ขนาดไหนและอยากให้มันเป็นจริงแค่ไหนถ้าน้องฝันไว้ว่าจะเข้ามหาลัยดี ๆ ดัง ๆ ถ้าน้องจะเรียนพิเศษก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะมันเป็นเพียงสิ่งที่เรียกว่า"ตัวช่วย"ที่ใช้ประกอบการทำให้สู่ฝันน้อง แต่ถ้าน้องไม่เรียนพิเศษน้องสามารถตอบตัวเองได้หรือไม่ว่าถ้าน้องไม่เรียนน้องจะสามารถหาอะไรมาเป็นตัวช่วยในการก้าวสู่ฝันของน้องหรือไม่ อย่างเช่นกลับมาทบทวนเอง อ่านหนังสือดึก ก็แล้วแต่วิธีการของน้องเอง พี่เป็นคนนึงที่ไม่เคยเรียนพิเศษเลย ก่อนสอบเอ็นพี่นั่งอ่าน ทำโจทย์ เพราะนั่นคือสิ่งที่พี่เรียกว่าตัวช่วยของพี่ เพราะฉะนั้นก่อนจะตั้งคำถามว่าเรียนพิเศษดีไหม น้องต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าเราจะทำอย่างไรเพื่อไปให้ถึงฝันนั้นและเรามุ่งมั่นแค่ไหนที่จะไปสู่ฝันนั้น แล้วค่อยตัดสินใจว่าสิ่งที่น้องกำลังจะทำมันดีไหม หลักการตั้งความฝันนี้อันนี้ใช้ได้กับทุกเรื่องที่น้องจะทำ ลองเอาไปใช้ดู อ้อแล้วแถมเจ้าของกระทู้นิดนึง การเข้ามหาลัยบางทีก็ไม่จำเป็นต้องใช้เกรดก็ได้น๊ะ ยกตัวอย่างมหาลัยที่พี่จบมา พระจอมเกล้าธนบุรี โครงการที่น้องสามารถเข้าเรียนได้โดยไม่สนใจเกรดคือ 2bkmutt เป็นโครงการที่น้องต้องเข้าไปร่วมค่าย แล้วเค้าจะให้น้องสร้างโครงงานมาหนึ่งโครงงาน หากเข้าตากรรมการ(ไม่ใช่ไปต่อยเค้าน๊ะ)น้องก็สามารถเข้าเรียนได้โดยไม่ต้องยื่นอะไรทั้งสิ้น ลองไปศึกษาดูครับ เกรดไม่ใช่คำตอบเดียวที่จะเข้ามหาลัยได้ ส่วนความเห็นที่ขัดแย้งกันเดี๋ยวเคลียร์ให้อันต่อไปเพราะกลัวพี่พิมพ์เยอะจะไม่ขึ้น
Offline
คิดว่าไม่จำเป็นเท่าไหร่
เพราะตัวเองก็ไม่ได้เรียน = =
แต่เห็นเพื่อนโทรมาบ่นเรื่องกาที่เรียนกวดวิชา ก็เริ่มหวั่นไหว
ถ้าซื้อหนังสือมาศึกษา แล้วลองให้พี่หรือพ่อแม่ ลองดูไห้ก็ได้นะ
เรียนในบ้าน ประหยัดค่ารถ 55555+
(ตอบถูกมั้ย = = )
แต่ถ้าตั้งใจเรียนในคาบจิง ๆ ก็คงไม่มีปัญหา
เมื่อไม่เคยแปลเจตนา .. ก็แล้วไป
Offline
เอาละทีนี้เรามาดูความเห็นของทุกคนที่ดูรุนแรง เร้าร้อน โอเคเริ่มจากขอต่อว่านิดนึงในส่วนของทุกกระทู้ที่ขัดแย้ง คือขอความกรุณาตอบให้ตรงคำถามเจ้าของกระทู้นิดนึง คือน้องเค้าถามซ้ายตอบซะซ้ายกว่า เรื่องถึงออกมาเป็นเช่นนี้ ครั้งนี้พี่จะขอสรุปประเด็นสำคัญ ๆ ของแต่ละคนกัน
The Ghost : คุณเป็นคนที่เข้าใจระบบในส่วนของธุรกิจเป็นอย่างมาก เข้าใจตื้นลึกหนาบาง รวมถึงชนชั้นระหว่างเจ้านายกับลูกจ้างเป็นอย่างดี ผมขอเดาว่าคุณคงเป็นหรือเคยเป็นลูกจ้างใช่ไหมครับ เจ้านายเค้าจะสั่ง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ โดยที่ไม่สนว่าวิธีการจะเป็นอย่างไร เราต้องทำอย่างไรถึงได้ในสิ่งที่เจ้านายสั่ง 555 ผมก็เป็น ถ้าไม่ใช่ก็ขออภัย ที่คุณบอกว่า "ประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาความรู้ทางการศึกษาเลย" อันนี้ผม50-50กับคำบอกของคุณ แต่ผมได้ตอบไปในครั้งที่แล้วว่าถ้าจะไปให้ถึงความฝันที่เราหวังไว้นั้น เราตั้งใจมากน้อยแค่ไหนมุ่งมั่นขนาดไหน การเรียนเป็นเพียงตัวช่วยที่ใช้ในการไปให้ถึงฝันนั้นครับ ที่คุณบอกมาผมเข้าใจครับเพราะผมเป็นลูกจ้างเหมือนกัน แล้วที่บอกว่ายุคนี้ไม่ใช่ยุคของคนเก่งวิชาที่มีความขยัน แต่เป็นยุคของเครื่องมือที่เลือกใช้ ผมว่าคุณต้องไปฟังพวกแอมเวย์มาแน่เลย 555 แซวเล่น ถูกครับเครื่องมือที่เลือกใช้ก็เป็นส่วนหนึ่งของตัวช่วยในการประสบความสำเร็จในชีวิตครับ อย่างที่คุณบอกว่าถ้าจะประสบความสำเร็จอยู่ที่ประสบการณ์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าควรทิ้งการเรียนน๊ะครับเพราะการเรียนก็ให้ประสบการในการพูด อ่าน เขียนวิธีการต่าง ๆ สิ่งที่เรียนมาทั้งหมดตั้งแต่ อ.1 จน ม.6 เป็นเพียงการเรียนรู้ขั้นพื้นฐาน หรือตัวช่วย หรือเครื่องมือ ที่ใช้ในการก้าวสู่ฝันการเรียนทำให้เราทุกคนรู้จักกับเครื่องมือต่าง ๆ ว่าเรามีเครื่องมืออะไรบ้าง หนังสือ เพื่อน อาจารย์ พ่อแม่ ทุกสิ่งที่เราทำมาหรือประสบมาตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันนั้น นั่นคือประสบการณ์ ทำให้คุณรู้ได้ว่า นั่นดี นั่นไม่ดี
- T o r r e S - : คุณเป็นคนมองโลกแคบไปนิสนิงครับ อย่างที่ผมบอกว่าความฝันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน รวมไปถึงสิ่งที่สร้างมา การก้าวเดินแต่ละก้าวมันต่างกันครับ "คุณคิดว่าพวกที่เค้าประสบความสำเร็จทั้งหลายแหล่ เค้าไม่ผ่านการเรียนมาเลยหรือ ?" อันนี้คุณใช้คำผิดเต็ม ๆ ผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตคืออะไร ใครรู้ยกมือขึ้น เชื่อได้ว่าแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันละ ของผมเงินไม่ใช่ทุกอย่าง สิ่งที่ผมคิดว่าประสบความสำเร็จในชีวิต คือสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวครับ การที่เราเรียนมาดีบางทีผมก็อาจจะไม่ได้เจอครอบครัวดี ๆ ก็ได้ ด้วยเหตุนี้อยากให้ผู้อ่านทุกคนไปทำความเข้าใจใหม่ว่าคำว่าประสบความสำเร็จในชีวิตของตนเองนั้นคืออะไรแน่ เงิน อาชีพ ครอบครัว บ้าน ไม่ใช่ว่าคนที่เรียนดีจบเกียรตินิยมจะมีทั้งหมดเหล่านี้ หรือคนที่ไม่มีโอกาสเรียนก็อาจจะมีไม่ครบเช่นกัน สิ่งที่อยากให้ทุกคนเรียนคือ ชีวิต ไม่ใช่ว่าเรียนเฉย ๆ น๊ะครับ แต่ควรใช้คำว่าเรียนรู้ สร้างประสบการณ์ชีวิตไว้มาก ๆ ครับ แล้วเราจะตอบตัวเองได้ว่าเราประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วหรือยัง ส่วนถ้าเรื่องเรียน เรื่องวิชาการมันไม่สำคัญ คงไม่มีบุพการีท่านใด ส่งคุณเข้าโรงเรียนหรอก อย่างว่าครับระบบการศึกษาบุพการีอยากให้ลูกมีความรู้ด้วยปัจจัยเพียงอย่างเดียวครับ สังคม การเรียนทำให้เกิิดสิ่งตาม ๆ มาหลายอย่างอย่างที่ทุกคนพูดเลยครับ ลองกลับไปนึกถึงสมัยก่อน ร.5 สิครับ ตอนนั้นคนไทยเกือบทั้งหมดยังไรการศึกษา แต่เค้าก็ดำเนินชีวิตได้โดยการใช้คำว่าเรียนรู้ครับ สังคมเปลี่ยนสมัยเปลี่ยนการแข่งขันทางการศึกษามีสูงขึ้น ทางบุพการีของพวกเราก็เลยต้องส่งเราเข้าร่วมการแข่งขันนี้ เพราะเค้าห่วงเราเสมอว่าเราจะไม่สามารก้าวไปข้างหน้าได้ แต่เค้าเชื่อว่าการเรียนคือตัวช่วยที่จะทำให้ลูกของพวกเค้าก้าวไปในสังคมได้อย่างสุขสบาย อีกอย่างกระทู้นี้ไม่ควรเอาบุพการีมาเกี่ยวข้องน๊ะครับมันจะดูแรงไป
• Musiclover • :อันนี้ไม่รู้ผมมั่วป่าวน๊ะอ่านมาเยอะชักงง ผมว่าคุณเป็นคนที่คิดถึงแต่ตัวเองไปนิส ช่วยคิดนิสนึงในสิ่งที่จะพิมพ์เพราะคุณน่าจะเป็นคนที่เห็นความแตกต่างของการใช้ชีวิตเป็นอย่างดี (จากเรื่องโค๊ก ผมไม่รู้เรื่องเพราะกินแต่เป๊บซี่) แต่การที่คุณไปว่าทางคุณThe Ghost ว่าเค้ามองโลกเพียงแต่สิ่งที่เคยเจอ เลยอยากถามกลับว่าทำไมคุณไม่เอาโลกของเค้ามาคิดดูบ้างละ คุณบอกว่าอ่านแล้วก็ขึ้น แสดงว่าคุณไม่ได้ทบทวนความคิดเห็นของคนอื่นเลยครับ ผมเดาว่าคุณคงมีเป้าหมายที่จะประสบความสำเร็จคล้าย คล้ายน๊ะกับคุณ - T o r r e S - คุณลองใช้คำคิดเดียวกับผมสิ เอาใจเขามาใส่ใจเรา คุณจะเห็นอะไรอีกเยอะ ไม่ได้ว่าน๊ะครับ คืออยากให้คุณมองย้อนกลับไปนิสนึงครับว่า (เหมือนเดิม) การเรียนเป็นเพียงตัวช่วย หรือเครื่องมือ หรืออะไรก็ช่างที่ทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิตครับ "คนมีความคิด ก็ต้องฟังความคิดของคนอื่นบ้าง" แหมชอบคำนี้จัง ขอดูหน่อยครับว่าคุณจะฟังของผมได้ไหม
LagooNz : แหะ ๆ ดูรักเพื่อนจังเรยครับ แสดงว่าคุณคงมีเพื่อนที่ดีรอบกาย คุณเลือกคบคนได้ถูกต้องแล้วครับ แต่อย่างที่บอกเพื่อนเป็นเพียงสิ่งที่เรียกว่าตัวช่วยที่ทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิต หากคุณต้องการให้ช่วยอะไรจริง ๆ บางทีเพื่อนก็ช่วยไม่ได้น๊ะครับนั่นผมถึงได้เรียกว่าตัวช่วย ผมรู้จักคนเยอะครับตั้งแต่นักเลงหน้าซอยยันผู้ช่วยเลขาธิการกระทรวงศึกษา ทำไมผมถึงรู้จักคนเยอะแต่ผมไม่เสียไปตามเค้า เพราะผมเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตครับ ผมไม่มองว่าเค้าไม่ดี หรือดี แต่ผมมองว่าเค้ามีความเป็นมนุษย์ ผมยอมรับในตัวทุกคนที่สามารถใช้ชีวิตในยุคแห่งการแข่งขันนี้ได้ ผมอยากให้ทุกคนลองเปิดใจคุยกับทุกคนเถอะ เค้าคือเพื่อนมนุษย์ของเรา บางทีเพื่อนคนนี้อาจจะเป็นคนช่วยเราโดยที่เราไม่ได้ร้องขอเลยก็ได้ หรือเริ่มจาก เอาคุณ LagooNz ที่โชคดีเจอแต่เพื่อนที่ดี แต่อย่าลืมว่าเพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายอย่าลืมไปงานศพครับ
สุดท้ายเพราะหิว สั่งข้าวมาตั้งแต่ 6 โมงยังไม่ได้กินรอเสดก่อน ผมขอถามพวกคุณทุกคนว่าคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น เค้าทำกันยังไง คุณคงคิดไปต่าง ๆ นานา คนขานโอกาสการศึกษาประสบความสำเร็จในชีวิตได้อย่างไร คนมีการศึกษาทำไมเค้าถึงไม่ประสบความสำเร็จสักที่ ผมรู้และผมอยากให้ทุกคนคิดกับคำ ๆ นี้ พอ ถ้าคุณค้นพบคำนี้ได้ ผมว่าคุณต้องเป็นคนนึงที่สามารถใช้คำว่าประสบความสำเร็จในชีวิตแน่นอน
ปล.ขอโทษที่วิจารณ์ทุกท่านโดยไม่ขอก่อน พอดีมีนักเรียนให้อ่าน เลยอยากฝากแนวคิดในการก้าวเดินในชีวิต ถ้าอยากจะต่อว่าผมก็ได้น๊ะครับผมรับฟังแต่ผมไม่ตอบกลับและ ผมพอ
ก้าวแรกที่ผิดพลั้ง
ก้าวหลังที่พลาดไป
ก้าวใหม่อย่างมั่นใจ
เป็นก้าวใหม่ที่มั่นคง
Offline
^
ฟังค่ะ ยาวจัง แต่อ่านทุกตัวนะ
หนูขอโทษค่ะ เพราะหนูเอาประเด็นที่เคยคุยกันนอกกระทู้มารวมด้วย
ขอโทษจริงๆค่ะ
อาจารย์อะไรหว่า เราไม่เคยเรียนแน่เลย
♥♥♥♥♥♥♥♥♥
Offline
กะจะเข้ามาตอบซักหน่อย ออกทะเลไปไกลเลยแฮะ
----
เรียนพิเศษก็ต้องดีกว่าไม่เรียนอยู่แล้ว ก็ได้เรียนเพิ่มจะไม่ดีได้ไง มีเงินก็เรียนไปเหอะน้อง ถ้าคิดว่าเรียนไปแล้วคุ้มกับเงินที่เสียไปนะ ถ้าเรียนเพื่อจะหาข้ออ้างออกจากบ้านก็อย่าเลย มันเปลือง เศรษฐกิจยิ่งไม่ดีอยู่
เรียนพิเศษก็ได้ความรู้ ได้เพื่อนเพิ่ม ได้เจอสาวๆน่ารัก (เพื่อนมันโม้ไว้ อยากไปเรียนมั่งวะ)
พูดแล้วเซง
Last edited by godome (2009-04-22 21:51:50)
SKN#28 NO.18428 17/05/2004 - 22/02/2010
Offline
^
มีเยอะ เหล่ประจำ กร้าก
-----
คุณ zatarn ให้ความเห็นดีเหมือนกัน อยากให้เว้นบรรทัดหน่อยนึงก็น่าจะอ่านง่ายขึ้นนะคะ ^^
โลกของใคร โลกของมัน Tangmae's เอ็กตีน
ตัดให้ขาดเลยฉับๆ ตัดให้ขาดเลยฉับๆ อย่ามัวเสียดาย ร้องไห้อยู่เลย
SKN ,#28 Generation
Offline
น่านพี่น็อตมาตามคำเรียกร้อง
---------------------------------------------------------
กระทู้เริ่มกลับเข้าฝั่ง..........
วันนี้เพิ่งไปเอาบัตรเรียนพิเศษมา........
Offline
ต้องขอขอบคุณ คุณ zatarn มาก ๆ อย่างยิ่งครับ
หนึ่งเลย คือผมใช้คำพูดผิด "คุณคิดว่าพวกที่เค้าประสบความสำเร็จทั้งหลายแหล่ เค้าไม่ผ่านการเรียนมาเลยหรือ ?" ผมตกคำว่า ส่วนใหญ่ ไปครับ
แต่คุณอาจจะมองว่าผมแก้ตัวก็ได้ไม่ว่ากัน
ผมยอมรับที่คุณบอกว่าผมมองโลกแคบ
ถูกครับ
ผมยังอายุไม่ถึงเลข 2 นำหน้า
ทรรศนะ หรือวิสัยทัศน์ อาจจะแคบไปบ้างก็เลย พูดตามคนยังไม่มีประสบการณ์มาก
อาจจะเป็นคนพูด หรือเรียบเรียงคำพูดได้ไม่เก่ง ไม่ค่อยดีนัก
แค่อยากจะบอกทุกคนเฉย ๆ ว่า "การเรียนมันสำคัญ" สำหรับคนส่วนใหญ่นะครับ
ผมเข้าใจ ตรรกะ หรือ ปรัชญาของคุณ zatarn นะ เพราะผมเองก็คิดแบบนั้น
(ผมเดาว่าคุณต้องศรัทธาในศาสนาพุทธแน่ ๆ เลย )
ทีนี้ผมอยากจะมาพูดในแบบของคนมองโลกแคบ ๆ บ้างนะครับว่าการเรียนมันสำคัญอย่างไร
การเรียนทำให้เรามีความรู้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้มีความสุขถูกไหมครับ
แต่ว่า เมื่อเรามีความรู้ เราก็สามารถพัฒนาอะไรหลาย ๆ อย่างได้ถูกไหมครับ
" ไอน์ไสตน์ไม่มีทางคิดทฤษฎีสัมพันธภาพได้ ถ้าไม่ได้อ่านบทความของแม็กซ์เวลล์ "
" สองพี่น้องตระกูลไรท์ คงไม่สามารถบินได้ ถ้าไม่เห็นแบบแปลนของดาวินชี "
ทุกอย่างมันมีการต่อยอดถูกไหมครับ
ความสำคัญของการเรียน ก็คือการที่จะนำไปต่อยอด สิ่งใหม่ ๆ แปลก ๆ ต่าง ๆ ที่เป็น วิทยาศาสตร์ ทุกวันนี้
แต่ว่า คนที่สามารถทำเช่นนั้นได้ มีจำนวนน้อยมาก เปรียบกับจำนวนเม็ดทรายก็คงน้อยพอ ๆ กับเม็ดทรายที่อยู่บนชายหาด
มันดูเยอะใช่ไหมครับ แต่คนที่ทำเช่นนั้นไม่ได้ มีมากพอ ๆ กับเม็ดทรายที่อยู่ใต้ทะเลเลยครับ
คนเราจึงจำเป็นต้องเรียน ไม่ใช่เพื่อหาความสุข ไม่ใช่เพื่อหาความสำเร็จของชีวิต หากแต่เราถูกค่านิยมของตะวันตกกำหนดมาให้เรียน
หากไม่เรียนจะถูกมองว่าไม่มีความรู้ ต่าง ๆ นา ๆ
มองในมุมมองแคบ ๆ อีกครั้ง
เราถูกกำหนดให้เข้าโรงเรียน อ่านหนังสือ เพื่อที่จะเฟ้นหาทรัพยากรมนุษย์ที่มีพลังสมอง สามารถที่จะนำความรู้เก่า ๆ ไปต่อยอดเป็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ ต่าง ๆ
เพื่อความสะดวกสบาย เพื่อความสุข ของมนุษยชาติ
การที่เราคิดแต่จะทำธุรกิจ หาเงินกับคนระดับล่างลงมา
ทำยอดให้ได้ตามเป้า หวังผลกำไร
สุดท้ายมันก็เท่านั้นครับ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นใหม่ โลกเราก็ย่ำอยู่กับที่ไม่มีอะไรพัฒนา
ปล.
+ นี่เกี่ยวกับการเรียน เฉย ๆ นะครับ ไม่ได้เกี่ยวกับความสำเร็จในชีวิต อันนั้นมันอีกประเด็น กรุณาอย่านำมาปนกันครับ
+ ลองนึกกลับไปสมัย ร.5 สิครับ ว่าทำไมท่านถึงได้ส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ
+ การเรียน กับ การทำงาน เพื่อ ตัวเงิน ต่างกันครับ กรุณาแยกประเด็นกันด้วย
+ และการเรียน กับ เรียนรู้ คนละประเด็นกันครับ กรุณาแยกประเด็นอีกครั้ง
+ ขอโทษด้วยครับ ไม่ได้ตั้งใจใช้คำว่าบุพการี ในทางที่ไม่ดี
+ ขอโทษอีกครั้งที่ทำให้กระทู้ดูเครียด แต่ผมรับฟังทุกความคิดเห็น
' ' Bring us to the glory ,
Fernando Torres ~* •
Offline
= = ขอโทษด้วยครับ ถ้าตั้งกระทู้เครียดๆ = =
แหะๆ ขำขำ ครับ ขำขำ มาขำคลายร้อนดีกว่าครับ
ปล.อีกรอบ ขอบคุณทุกๆความเห็นน้าคร้าบ
ว่าแต่ถึง อ.zatarn อาจารย์สอนวิชาไรอ่ะครับ หรือถ้าไม่ลำบาก อาจารย์ชื่อไรครับ T/\T กราบขอโทษงามๆถ้าล่วงเกินนะคร้าบ
ชมพู-ฟ้า Suannon#30
Offline
เพราะในห้องไม่ตั้งใจเรียน เพราะไม่ชอบอ่านหนังสือ เลยต้องมาเรียน เพราะไม่อยากติด0
จริงๆแล้ว มันไม่จำเป็น ถ้าเราตั้งใจเรียนในห้อง ตั้งใจอ่านหนังสือ เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องจ่ายเงินแพงๆเพื่อไปนั่งเรียนที่ไกลๆ
ถ้าเรียนเพราะตามเพื่อน หรือ เพราะตามแฟชั่น นั่นก็อีกเรื่อง
Offline
เรียนพิเศษ ... ให้ ความรู้ ความสนุก มิตรภาพ
บางทีเราเข้าไปเรียนพิเศษ ... ก็เหมือนเป็นการเปิดโลกให้เราได้เช่นกัน
ปล. แต่ต้อง เรียนแบบ พอดีๆ
PLFC .." 311 Up To ... 602
ขอบคุณ .. 311 สำหรับ บทเริ่มต้น ... & 602 .. สำหรับ บทส่งท้าย .. 18111 .. !?!
Offline
เรียนพิเศษ ม.ปลาย....อืม....
พี่ไม่มีตังค์ไปเรียน เลยไม่ได้เรียน ก็ไม่เป็นไร
ถามหน่อย ถามตัวเองด้วย เอาไปทำอะไร
คิดถึงว่าจะได้อะไรกับมาด้วย
พี่พูดตรงๆ พี่ไม่ได้เรียน พี่ก็ถามเอากับคนที่เรียน พี่ยอมรับว่าพี่ไม่มีทางจะได้เรียนเลย แต่ก็ขอบคุณเพื่อนที่เรียนที่คอยช่วยพี่
แต่....สำหรับคนที่เรียน ต้องการมั้ย เราเรียนในห้องรู้เรื่องมั้ย รึว่าลงเรียนเพื่อโดดแล้วเที่ยว เห็นเพื่อนรอบข้างเรียน ดูด้วยเค้าเรียนเพื่ออะไร ถ้าเราเรียนเพื่ออะไร
ไม่ใช่เสียเงินไปหลายพันหลายหมื่นให้มันเสียเปล่า เพื่อมาคุยทับถมคนไม่ได้เรียนว่าคนไม่เรียนพิเศษต้องโง่ เพื่อเอาเวลาที่ตอแหลพ่อแม่ทุกวินาทีว่าไปเรียนพิเศษเอาแต่เที่ยวมั่วสุมทุกครั้ง(แต่โดดบางครั้งเพื่อหาความสุขนั้นคนละกรณี) หรือไปเรียนพิเศษเป็นนกแก้วนกขุนทอง ไม่ได้เอามาใช้อะไรเลยแม้กระทั่งในห้อง
ถ้าเป็นกรณีที่ว่า อย่าไปเสียเงินเล้ยยยย
และขอแย้งหน่อย ก็จริงที่ว่าบางด้านไม่ได้เอากฏนิวตันไปวาดรูป ไม่ได้ตรีโกณไปคำนวณบัญชี
แต่ในแง่กลับกัน หมอไม่ได้เอารูปไปรักษาคนไข้ นักวิทยาศาสตร์ไม่ได้เอาหลักบาลีไปใช้
เข้าใจที่สื่อมั้ย?
ก็นั่นมัน"ตัวเรา"ที่ไม่ได้ใช้ ถูกมั้ย คนอื่นเค้าใช้นี่
ที่พูด พี่ก็คือหนึ่งในนั้น มารู้ตัวเองทีหลังว่าที่จะใช้ไม่ต้องเข้าวิทย์ แต่ดันปากปีจอพูดว่าชีวะไม่ใช้ เรียนทำไม?
แล้วที่เราเรียน ทำให้รู้อะไรที่ไม่เคยรู้ใช่มั้ย และเพื่อนคนอื่นในห้องเค้าคิดแบบนี้รึเปล่าล่ะ คนที่เข้าหมอ เค้าคงพูดนะว่า"ชีวะเรียนไปทำไม?"
มันน่าจะเป็น "ทำไมตัวเองกระแดะไม่อยู่ถูกที่เองล่ะ" นั่นคือสิ่งที่พี่คิด ก็ในเมื่อเราไม่ได้ใช้มัน ก็รู้เป็นประดับกบาลก็ไม่ตายนี่ จริงมั้ย? ไหนๆเราก็หลงเดินผิดแล้ว พ้นรั้วมัธยมไป เราก็ได้ใช้สิ่งที่เราต้องการจริงๆแล้ว
เรียนพิเศษก็เหมือนกัน เรียนเพื่อเพิ่มเกรด พี่ไม่ว่า เค้าทำแบบนั้นก็อยากได้คะแนนนี่ ช่วยไม่ได้ แต่เค้าก็เอาเวลาที่เสียไปกับเรียนพิเศษแลกกับคะแนน เค้าถือว่าอย่างน้อยได้ใช้ประโยชน์ เพื่อก้าวและคว้าสิ่งที่ตัวเองต้องการ
แต่ที่พี่เน้นตัวหนาๆนั่น น้องลองอ่านแล้วคิดว่า มันควรเสียเวลาไปเรียนพิเศษไปมั้ย กับการกระทำจ๊าดง่าวแบบนั้น
ในฐานะที่พี่ไม่ได้เรียนพิเศษคนนึง สรุปว่า"ไม่เรียนแต่ก็ไม่ตาย ดีกว่าชิบหายเพราะเรียนไปแล้วโง่กว่าเดิม..."
Last edited by aerick (2009-04-23 21:45:14)
Offline
^
^
คาราวะ พี่ปาลิ สิบห้าจอก แว วู~
♥♥♥♥♥♥♥♥♥
Offline
"ไม่เรียนแต่ก็ไม่ตาย ดีกว่าชิบหายเพราะเรียนไปแล้วโง่กว่าเดิม..."
คาราวะด้วย= =
ชมพู-ฟ้า Suannon#30
Offline
ถึง ghost เเละทุกๆคน
พี่ก็จบมานานเเล้ว เเละคิดว่า น้อง กำลังถามถึงความเหมาะสมว่าจะเรียน เพิ่มนอกเวลา ดีหรือไม่ คำตอบ คือ ความพร้อมของน้องเอง ต้องการอะไรถึงไปเรียน อย่าตอบว่า ความรู้นะ เเล้วอีกอย่าง คนจะมีเพื่อนไม่จำเป็น ต้องไปหาที่ดรงเรียนพิเศษหรอก ไม่ต้องไปหาที่มหาลัยด้วย ถ้าถามพี่สิ่งที่พี่ต้องการ คือ ความเเน่นอนของอนาคต กลัวว่าจะสู้คนอื่นไม่ได้เลยไปเรียนพิเศษ เรียน สองปี สี่โรงเรียน เปลี่ยนไปเรื่อย เพราะบางที่ เราไม่ชอบ เค้าสอนได้ไม่มากเพราะเจอเด็กพื้นฐานต่ำ มาเรียนเยอะ พอเจอเด็กเก่งมาก ก็ตามไม่ทัน เพราะเราโง่กว่าเค้า หรืเอาเเบบเรียนตัวต่อตัว หรือ เรียนเฉพาะวิชาที่เราเลือก หรือเรียน เเบบติวเข้มสุดๆสามเดือน เจอมาหมดเเล้ว เหนื่อย ............................................โคตรๆ
.... ............................
คนจนที่ประสบความสำเร็จ เเละ มีเงินทองชื่อเสียง ส่วนมากเค้ามาจากสังคมที่เเก่งเเย่งน้อยกว่าคนเมือง ใช้ชีวิตง่ายๆ คิดเเบบง่ายๆไม่ซับซ้อน ถ้าเขามีความทะเยอทะยาน เเละอดทน ก็พอได้ เเต่ไม่ใช่เขาไม่เรียน เขาเรียน จากที่อื่นที่ไม่ใช่โรงเรียน จาก พ่อ แม่ เเละความผิดพลาด เรียนทุกวันไม่มีเสาร์อาทิตย์ ไม่เรียกว่าธรรมดา หรือพิเศษ เพราะถ้าหยุดเมื่อไหร่ ลำบากกันทั้งครอบครัว
อย่าไปซีเรียส งานที่ทำมันเป็นผลพวงที่ได้มาจากเกรดการเรีนยนหรือ ถ้าพอใจงานที่ทำ หรือรู้สึกรักมัน ghost คงไม่รู้สึกอย่างนี้หรอก เเบบนี้คนก็เลือกวิศวะกันหมดสิ กว่าพี่จะได้ สองหมื่น เเล้วมาเป็น ห้าหมื่น นี่พี่คิดว่าไม่ลำบากนะ เเต่เพื่อนๆที่ทำงานด้วยกันบอกว่าลำบาก เเล้วก็เห้นมันบอกว่ามันไม่มีความสุขกับการทำงาน ทั้งที่ก็ทำมานานเเล้ว
พี่คอดว่าพี่ไม่ได้เป็นทาศของบริษัท ที่พี่ทำ มันก็มีความสุขดี บางทีก็เซ็ง
ฉลาดเรียน....... เต็มที่ก็เก่งที่สุด ในคณะที่เรียน หรือเก่งที่สุกในโรงเรียน
ฉลาดคิด ................มันมีความสุขได้ ในทุกๆที่ เเละเมื่อไหร่ก็ได้
ตั้งใจเรียนนะครับ
Offline
เรียนพิเศษก็เหมือนกัน เรียนเพื่อเพิ่มเกรด พี่ไม่ว่า เค้าทำแบบนั้นก็อยากได้คะแนนนี่ ช่วยไม่ได้ แต่เค้าก็เอาเวลาที่เสียไปกับเรียนพิเศษแลกกับคะแนน เค้าถือว่าอย่างน้อยได้ใช้ประโยชน์ เพื่อก้าวและคว้าสิ่งที่ตัวเองต้องการ
ชอบประโยคนี้
(แต่เราไม่เคยเรียนพิเศษเพราะเพื่อทำคะแนนนะ 555)
Offline
ขอเข้ามาสนับสนุน ปาลิดา กับ อาร์ท
ที่หายไป ไปซื้อ popcorn มานั่งกินระหว่างชม:lol::lol:
แค่อยากจะบอก
"เลือกเรียนสายที่ตรงกับความฝันตัวเอง มันก็แค่นั้น
ถ้าเลือกผิดเอง ก็อย่าบ่น ช่วยไม่ได้ ที่ต้องทนเรียนวิชาที่ไม่ได้ใช้"
"ความฝันของทุกคนไม่เหมือนกัน นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า
ชีวิตที่แสนสั้น จะมีความสุขกับการทำอะไร ?
มีเงินใช้มากๆ หรือ แสวงหาสิ่งใหม่ๆ จนกว่าจะตาย ?
นั่นมันแล้วแต่คน แล้วแต่มุมมองหว่ะ"
มีความสุข กับ สิ่งที่ตัวเองคิดว่า ทำแล้วจะมีความสุข เถอะ
ชีวิตมันสั้นๆ แปบๆก็ตายแล้วนะ อย่าเสียเวลากับอะไรไม่เป็นเรื่อง
Offline
อย่าทะเลาะกันเด้อ
ทุกคนมีสิทธิ์คิดได้ไม่ว่าจะนอกกรอบยังไง
ใครชอบแบบไหนก็ทำไปเถอะครับ ถ้าคิดว่ามันคือทางที่ถูกต้องสำหรับเราแล้วก็ทำไปเลย
"ลางเนื้อชอบลางยา"
Offline
รับสอนพิเศษ วิทย์ เคมี ชีวะ แบบตัวต่อตัว หรือจับกลุ่มมาเรียนค่ะ
โดยพี่นิสิตเภสัช และผ่านการเข้าค่ายสอวน.ชีววิทยา
สนใจแอดเอ็มคุยได้นะคะ msn : saoprungya@hotmail.com
เบอร์ติดต่อ พี่กิ๊ฟท์ : 087-7080123
Offline
"ลางเนื้อชอบลางยา"
เพิ่งเรียนมาพอดีเลยพี่ป๊อป และก็จะสอบแล้วด้วย TToTT
จะถามว่าจำเป็นไหม จริงมันก็ขึ้นอยู่แต่ล่ะบุคคลน้า
อย่างพี่อ่ะ พี่เอาเวลาที่เพื่อนๆพี่เรียนพิเศษไปทำกิจกรรมข้างนอกอ่ะ
เพราะตัวพี่เองและก็ทางบ้านไม่ค่อยเครียดเรื่องเกรด
เค้าอยากให้พี่มีประสบการณ์มากกว่า ^^
แต่ถ้าน้องจะเข้าคณะยากๆ แพทย์ อะไรเทือกๆนั้นก็เรียนไปเถอะจ้า
วิชาไหนที่ไม่ถนัดก็เรียนโลด ^^
oO 我 爱 吳吉尊 Oo
>> i WaNt To DiE WiTh U <<
Offline
ตอนที่ตอบไปล่าสุดยังปิดเทอมไม่ขึ้นม.4
ตอนนี้ผ่านมาเทอมครึ่ง
มาบอกว่า ถ้าเรียนในห้องแล้วรู้เรื่อง ฉันไม่ถ่อสังขารไปเรียนพิเศษให้เหนื่อยร้อกก T T
Offline
ในห้องก็เรียนไม่รู้เรื่องนะ แต่ไปเรียนมันเปลืองตัง - - (บจ.= บ้านจน)
- ปกติอะไรที่ไม่เข้าใจจะซื้อหนังสือเอา พวกของ hi-ed อะไรเนี่ย พอจะทำให้เข้าใจ
ถ้าหนังสือคนไทยยังเกรียนอยู่ ยืม textbook พี่มานั่งแปลเองแม่ม
- อันนี้นาวเรียนศิลป์ด้วยเลยไม่หนักใจ เน้นแค่ภาษา วรรณคดี ประวัติศาสตร์
เอาง่ายๆว่า ตูไม่ชอบตูก็ไม่อ่าน มันจะสำคัญยังไงก็เถอะ - - ก็อ่านแค่เอาสอบ
ที่เหลือก็ ความรู้รอบตัว สำคัญกว่าวิชาการใดๆทั้งปวง ไม่งั้นก็ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด
ปล.คณิต-วิทย์ ไม่อ่านเด็ดๆ เกลียดตัวเลข
หนุกหนาน นอบน้อม พร้อมรบ รักสงบ สยบดราม่า
follow me on twitter : @lemonoiz
Offline
เรียนไปให้มันได้เรื่องก็ดีแล้วอะคะ ไม่ใช่ลงไปแล้วโดด เปลืองตังค์พ่อแม่
Offline
การเรียนพิเศษสำหรับเราอะ
ไม่ได้แค่เจอเพื่อน แรดๆไปวันวัน
แต่ที่เรียนนะ
เพราะว่า เรียนที่โรงเรียนอย่างเดียวมันไม่พอหรอก
อีกอย่าง รู้ตัวว่าเป็นคนที่อ่านหนังสือไม่ได้เลย
เลยไปหาความรู้เอาดีกว่า
เอนทรานซ์ ไม่ได้ออกจากหนังสือเล่มเดียวนะ
เผลอๆเล่มที่เราเีีรียน อาจจะไม่ได้ออกเลยด้วย =]
Offline